ฮาเร็มวุ่นวายของนายทราเวียร์ - ตอนที่ 13: ตอนที่ 10 น่ารักจัง
ตอนที่ 10 น่ารักจัง
…‘เป็นผู้ชายที่แปลกจริง ๆ นั่นแหละ’
“…” ดวงตาคู่งามกระพริบตาน่ารักมีประกายบางสิ่งอย่างแฝงเข้ามาในจิตใจ
ยังไม่ทันได้ให้คำตอบกับทราเวียร์ ณัชชาเกิดรู้สึกมึนงงสับสนวุ่นวายแน่นอนว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับชายหนุ่มเบื้องหน้าเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นแสงอาทิตย์เคลื่อนตัวรวดเร็วผิดปรกติต่างหากที่กระตุ้นให้เธอสนใจ เท่าที่เธอจำได้เงาตรงทางเดินมันไม่ได้เยอะแยะมากมายขนาดนี้นิระหว่างกำลังใช้หัวสมองสติปัญญายอดเยี่ยมครุ่นคิดเรื่องราวไร้สาระ
ทราเวียร์ผู้เหลือบมองอยู่นานพอสมควรเผยรอยยิ้มเล็กน้อย
…‘ดูก็รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ดูออกง่ายเกินไปรึเปล่าเนี่ย?’
“…” พร้อมหัวเราะเบาบาง
“อะ!” ณัชชาสะดุ้งขมวดคิ้วแน่น
ก่อนจะมารู้สึกตัวภายหลังว่าไม่ใช่ดวงอาทิตย์ที่เคลื่อนรวดเร็วผิดปรกติ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าแม้แต่นิดเดียว ไม่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรอบกาย แต่เป็นตัวเธอเองต่างหากที่จมจ่อมอยู่กับห้วงความคิดตัวเองนานเกินไป
ใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับความคิดตัวเอง
…‘บ้าเกินไปแล้ว ฉันใช้เวลาคิดไปนานขนาดไหนกัน?!’
“…”
พอคิดมาถึงจุดนี้รอยยิ้มแห้งปรากฏบนใบหน้างดงามทันที ดวงตากลอกไปมาไม่กล้าสบสายตาอีกฝ่าย สิ่งที่แสดงออกมาให้เห็นล้วนเป็นตัวบ่งบอกว่าหล่อนรู้สึกแย่นิดหน่อยไปจนถึงปานกลางที่ปล่อยให้ทราเวียร์ยืนรอคอยเปล่าประโยชน์ ต้องรอคอยหน้าห้องน้ำไปไหนไม่ได้ ต้องกลายเป็นเป้าสายตาผู้หญิงนับสิบ
ถึงอย่างนั้นทราเวียร์ยังคงยืนอ่านหนังสือต่อไม่คิดสนใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น
“คิดเพิ่มได้นะครับ ผมมีเวลาเหลือเฟือ”
“คือ ขอโทษค่ะ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วคุณไม่จำเป็นต้องเพิ่มเวลาให้ฉันหรอกค่ะ” ณัชชาเปิดเผยรอยยิ้มแห้งกล่าวตอบกลับไป “เหมือนว่าฉันจะใช้เวลาอยู่พอสมควร รบกวนเวลาของคุณรึเปล่าคะ?”
“ถ้ารบกวน—”
“ไม่เป็นไรครับ” ทราเวียร์ส่ายหน้า
“เชิญใช้เวลาได้เต็มที่ ยังไงผมก็ไม่มีจุดหมายปลายทางอยู่แล้ว ยืนอยู่ตรงนี้สัก 10 หรือ 20 นาทีก็ได้” เขาหยุดนิ่งเว้นวรรคนิดหน่อยก่อนกล่าวต่อ “เพียงแต่ว่าให้มายืนอยู่หน้าห้องน้ำหญิงแบบนี้ นาน ๆ มันก็มีอายอยู่เหมือนกัน”
“ขะ ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ตั้งแต่แรกเริ่มนี่เป็นความตั้งใจเดิมของผมอยู่แล้ว คุณไม่ต้องใส่ใจหรอก เพียงแค่มอบคำตอบให้กับผมก็พอ ผมต้องการแค่นั้นแหละ” พูดจบชายหนุ่มสวมแว่นก็กลับไปอ่านหนังสือเหมือนเดิม
เฝ้ารอคอยให้ณัชชามอบคำตอบสุดท้าย
“งั้นเราเปลี่ยนสถานที่กันไหมคะ?”
“ที่ไหนก็เหมือนกันหมดครับ”
“แต่ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้จบที่นี่มากกว่า ไม่ต้องยื้อเวลาเพิ่มเติม ไม่ต้องเปลืองเวลาใครคนอื่น ไม่ต้องสร้างปัญหายืดยาวจนส่งผลกระทบต่ออีกฝ่าย เพราะฉะนั้น” ทราเวียร์ยังคงยืนยันคำเดิม
“ที่นี่แหละดีแล้ว”
“ที่นี่ก็ได้ค่ะ” ไม่รู้ว่าภายในจิตใจของหล่อนเกิดแปรเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ดันบังเกิดห้วงความรู้สึกแปลกใหม่คล้ายต้องการหยุดเวลาต้องการให้สถานการณ์ดำเนินต่อ
ไม่อยากให้จบสิ้นมันเป็นอะไรที่หล่อนไม่เคยพานพบเจอหรือสัมผัสมาก่อน
“…ขอโทษค่ะ คือฉันค่อนข้าง—”
“ครับ ผมเข้าใจ”
“ผมเข้าใจทั้งหมด คุณไม่ต้องกังวลหรอก” เข้าใจเหตุผลที่หล่อนต้องการถามโน้นนี่ไปเรื่อยเปื่อย เข้าใจแต่อยากจะตอบสนองตามความต้องการอีกฝ่ายรึเปล่า
ก็ต้องดูกันอีกที
…‘จะกลายเป็นเรื่องยุ่งวุ่นวายอีกรึเปล่า ให้ตายสิ รู้งี้ไม่น่าเข้ามายุ่งวุ่นวายเลย’
“…” ดวงตามองหน้าชายหนุ่มหวังมองทะลุเข้าไปในจิตใจอีกฝ่าย ทำเอาททราเวียร์หวาดระแวงอยู่พอสมควรถ้าเกิดสถานการณ์มันเกินกว่าจะควบคุม จนนำไปสู่ปัญหาใหญ่โตในอนาคต ปัญหาที่อาจส่งผลกระทบโดยรวมต่อตนไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง
เขาพร้อมถอนตัวล้มเลิกทุกสิ่งอย่างตรงหน้าแน่นอน
“หวังว่าจะไม่เกิดปัญหานะ ไม่งั้นฉันคง—” ทราเวียร์พึมพำออกมาให้ได้ยินคนเดียว
“มีอะไรรึเปล่าคะ?”
“เปล่าครับ เปล่าไม่มีอะไร”
“…เหรอ” ณัชชาละสายตากลับมาจ้องมองช่อดอกไม้ในมืออีกครั้ง แววตาหล่อนกระพริบตาหนึ่งครั้งเปลี่ยนหนึ่งห้วงความคิด ไม่รู้ว่าภายในหัวสมองหญิงสาวกำลังครุ่นคิดสิ่งใด
ก่อนเปิดปากถามเสียงหวานกลับ ถามไปยังชายหนุ่มผู้ต้องการช่อดอกไม้ในมือหล่อน
“แค่อยากได้ช่อดอกไม้ในมือฉัน คุณต้องลงทุนขนาดนี้?”
“…”
“มายืนรอคอยหลายนาที มาหยุดหน้าห้องน้ำเพศตรงข้าม มาพูดคุยกับคนหัวดื้อพึ่งผ่านประสบการณ์อกหัก ยังไม่รวมโอกาสโดนขับไล่ไสส่งด้วยถ้อยคำหยาบคายอีก อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณต้องทุ่มเทมากมายขนาดนั้นละคะ?” คำถามอยากรู้อยากเห็นเริ่มหลุดจากปากณัชชา หากเป็นคนปรกติธรรมดาเธอเชื่อว่าคงไม่มีใครยินยอมทำแบบเดียวกับทราเวียร์แน่นอนถ้าไม่มีเจตนาแอบแฝง
แต่หลังจากเฝ้ามองใช้สายตาจับผิดสังเกตตลอดทุกขั้นตอน เธอไม่คิดว่าทราเวียร์อยากได้ตัวเธอหรือว่าต้องการอะไรตอบแทนเป็นบางสิ่งอย่าง มันค่อนข้างให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าอยากทำก็ทำอยากคิดก็คิด
เน้นตามใจตัวเองเป็นหลักมากกว่า
“…”
“ถ้าคุณไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรค่ะ” เธอพอเข้าใจเหตุผลเบื้องต้นแต่เบื้องลึกเบื้องหนา แต่จุดประสงค์แท้จริงของเขาหล่อนยังมองไม่ออก ทราเวียร์เหม่อลอยนิดหน่อยก่อนตอบกลับให้หญิงสาวฟัง
“ถือว่ากรณีศึกษาครับ จะเรียกว่าอยากรู้อยากเห็นก็ได้ ผมแค่อยากรู้ว่าหากผมยื่นมือเข้าช่วยเหลือคนที่พบเจอประสบการณ์เดียวกัน ทำแบบเดียวกับที่เธอเคยทำกับผม มันจะช่วยเหลือคนอื่นได้รึเปล่า?” ทราเวียร์ยิ้มแฝงไปด้วยอารมณ์ซุกซ่อนเอาไว้มากมาย “ผมอยากรู้แค่นั้นแหละครับ”
ดวงตาคู่งามเปล่งประกายเล็กน้อย
“…” ก่อนจากหายลับไม่มีเปิดเผยให้ชายหนุ่มเห็น
ณัชชาก้าวเท้าผิงกำแพงขณะเงยหน้ามองท้องฟ้า ไม่ว่าอีกฝ่ายจะหลอกลวงหรือว่าเข้ามายุ่งวุ่นวายด้วยจุดประสงค์อะไรคาดหวังสิ่งใด แต่ต้องบอกเอาไว้ตรงนี้เลยว่าคำพูดของชายหนุ่มสวมแว่น
แทงทะลวงเข้าไปในจิตใจของหล่อนได้ไม่น้อยเลย
“เป็นแนวคิดที่วิเศษมากค่ะ”
“ช่อดอกไม้ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกไม่สมควรต้องมีความผิด ไม่สมควรต้องลงถังขยะ สมควรให้มันได้ทำหน้าที่ ให้มันได้ทำตามจุดมุ่งหมายของมัน แม้ว่าตัวฉันจะไม่สมหวังในความรัก แต่ก็ยังพอมีส่วนร่วมได้ส่งต่อความหวังความรู้สึกให้คนอื่น เป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมไปเลยค่ะ” ณัชชากล่าวมากไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก
“แล้วคำตอบละครับ?” ทราเวียร์ถามย้ำกลับไปอีกครั้ง
“บางทีคำพูดของคุณอาจจะถูกก็ได้ ช่อดอกไม้เต็มไปด้วยความรู้สึกของฉันไม่ควรจบลงที่ถังขยะ มันควรได้ทำหน้าที่ตัวเอง อีกอย่างหากพี่สาวร้านดอกไม้รู้ว่าดอกไม้ของเธอต้องลงถังขยะ ต้องหมดค่าไปโดยเปล่าประโยชน์” ณัชชาถอนหายใจจ้องมองช่อดอกไม้ในมือ ยิ่งหวนนึกถึงช่วงเวลาพี่สาวร้านค้าดอกไม้คอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับดอกไม้ไม่มีหยุดปากต้องการจัดช่อดอกไม้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกหนักหน่วงหนักแน่น
เกิดผิดพลาดหรือรับรู้ว่าดอกไม้ที่พวกหล่อนทุ่มเทพยายามต้องโดนโยนทิ้งถังขยะ
“ฉันคงไปเจอหน้าเธออีกไม่ได้แน่นอน”
“…งั้นคำตอบของคุณก็”
“ค่ะ ฉันยินดีมอบช่อดอกไม้ให้กับคุณ” ณัชชาเผยรอยยิ้มเล็กน้อยพร้อมยื่นช่อดอกไม้ให้กับทราเวียร์ กลุ่มคนพวกเดียวกันเมื่ออยู่ตรงหน้า ยืนอยู่ห่างเพียงแค่เอื้อม คำพูดคุยล้วนเป็นเพียงของไร้จำเป็น เพียงมองตาเท่านั้นก็สัมผัสได้ถึงเจตนาความคิดอีกฝ่าย ห้วงความคิดด้านลบทั้งหมดในหัวสมองณัชชาได้จางหายไปหมดเรียบร้อย
คล้ายหล่อนได้เกิดใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ
“…” ช่อดอกไม้ยื่นให้กับทราเวียร์ได้สัมผัสระยะประชิด
“ขอบคุณ–”
“คุณมีเจ้าของช่อดอกไม้ในใจรึยังคะ?” ณัชชาดึงช่อดอกไม้ไม่ปล่อยให้ทราเวียร์ได้จับแตะต้อง ท่วงท่าเศร้าหมองได้จางหายไปหมดสิ้นแปรเปลี่ยนกลายเป็นหญิงสาวเจ้าเสน่ห์ชอบหยอกล้อผู้อื่นไปเสียแล้ว
รอยยิ้มงดงามไร้เดียงสาช่างอันตรายเหลือเกินสำหรับผู้ชายคนอื่นที่พบเห็นโดยเฉพาะคนโสดไร้คู่
“…” ทราเวียร์กระพริบตาเรียกสติตัวเองกลับมา
“…ยังไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าจะออกเดินเล่นแถวนี้เผื่อเจอคนอยากได้ดอกไม้สารภาพรัก”
“ฉันเชื่อว่าต่อให้คุณเจอ คงยากจะมีคนอยากได้ช่อดอกไม้จากผู้หญิงอกหักคนหนึ่ง เว้นแต่ว่าคุณจะเก็บช่อดอกไม้เอาไว้ใช้เอง ใช้สารภาพรักกับผู้หญิงที่คุณรัก” ณัชชาปิดปากหัวเราะ
“ขอเถอะครับ แค่สารภาพครั้งนั้นครั้งเดียวก็แทบทำชีวิตผมทั้งหมดพังทลายแล้ว” ทราเวียร์ถอนหายใจเลือกได้สมควรห่างไปให้ไกลหลายก้าวเลยเรื่องความรักเนี่ย “ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ผมจะเก็บช่อดอกไม้เอาไว้ใช้เอง”
“เป็นไปได้ยาก แทบจะเข้าใกล้คำว่าเป็นไปไม่ได้เลย”
“แต่ก็ยังมีโอกาสใช่ไหมคะ?”
“แล้ว—” ทราเวียร์คิ้วกระตุกพยายามปิดฉากดึงช่อดอกไม้ในมือหญิงสาว แน่นอนว่าอิสตรีผู้ซึ่งมากไปด้วยความเด็ดเดี่ยวย่อมต้องมองออกว่าชายหนุ่มกำลังคิดลงมือทำอะไร
หล่อนเบี่ยงช่อดอกไม้หลบง่ายดายก่อนกล่าวยืนยันให้อีกฝ่ายทำตาม
“ฉันอยากเจอเจ้าของช่อดอกไม้คนต่อไป อยากรู้ว่าความรู้สึกของฉันได้ส่งผ่านไปถึงคนที่อีกฝ่ายรักรึเปล่า ถ้าคุณทำได้ฉันอยากพูดคุยกับเขาหรือไม่ก็หล่อน สองต่อสอง”
“คุณพอจะทำได้ไหมคะ?”
“เล็กน้อยครับ”
“ช่อดอกไม้ของคุณค่ะ” ครั้งนี้ไม่หลอกลวงไม่มีหยอกล้อเหมือนเด็กเล่นกัน ทราเวียร์ยื่นมือรับช่อดอกไม้มาไว้ในครอบครองเมื่อสังเกตระยะใกล้ชิด เขาเห็นร่องรอยความพยายามที่สลักอยู่ท่ามกลางดอกไม้นับสิบดอก
ดอกไม้ทุกดอกล้วนได้รับการดูแลดีเยี่ยมเกินกว่าจะหาพบเจอในร้านค้าทั่วไป
“เป็นช่อดอกไม้ที่วิเศษมากครับ”
“ค่ะ มันเป็นช่อดอกไม้ที่ฉันเลือกด้วยมือตัวเองทุกดอก เป็นช่อดอกไม้ที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกของฉัน แม้ว่าสุดท้ายปลายทางมันจะไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ได้ทำให้ฉันสมหวังกับความรัก” ณัชชายิ้มให้กับโชคชะตาเหนือความคาดหมายที่ทำให้หล่อนมาเจอเข้ากับเหตุการณ์ผิดแปลก “แต่จุดจบแบบนี้ใช่ว่าเลวร้ายเสียทีเดียว”
“อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอคนแปลกประหลาดแบบคุณ”
“ผมคือคนแปลกประหลาด?”
“ค่ะ คนปรกติที่ไหนมาดักรอผู้หญิงหน้าห้องน้ำ เข้ามาหาหญิงสาวอกหักเพราะอยากได้ช่อดอกไม้ในมือหล่อน แถมเหตุผลยังเป็นเหตุผลที่ค่อนข้างแปลกประหลาดอีกต่างหาก” เกรงว่าเทียบคนทั่วทั้งชีวิตที่หล่อนพานพบเจอหน้ามาตลอด ผู้ชายตรงหน้าดูจะเป็นอะไรที่พิเศษจัดอยู่ในหมวดหมู่พิเศษเหนือล้ำคนทั่วไป ทั้งยังมีน้อยยิ่งกว่าน้อยในโลกปรกติธรรมดา
อาจจะบอกว่าเป็นของหายากมากไปด้วยคุณค่าก็ไม่เกินเลย
“…”
“หน้าผมมีอะไรรึเปล่า?”
“ขอบคุณค่ะ ที่รับช่อดอกไม้ของฉันไป” ณัชชาเผยรอยยิ้มจริงใจ รอยยิ้มมากไปด้วยพลังทำลายล้างเหนือจินตนาการกระทั่งผู้ชายที่เดินเล่นบังเอิญพบเห็นยังมองตาค้างจนชนเข้ากับต้นไม้
เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นสับสนวุ่นวายไปหมด
“…คือ”
“หน้าแดงแล้วนะคะ” คนอะไรแปลกประหลาดเหลือเกิน หญิงสาวยิ้มหัวเราะเมื่อเห็นทราเวียร์มองตาค้างลืมตัวทั้งที่ปรกติตอนพูดคุยยังหนักแน่นเหมือนกับว่าไม่มีอะไรมาสั่นคลอน เหมือนหินผาไม่มีวันพังทลาย
แต่ตอนนี้ดันเขินอายหน้าแดงซะได้
“น่ารักจัง”
“…” ทราเวียร์นิ่งค้างไปเลย