ฮาเดสผู้สังหารพระเจ้า [冥王杀神陈纵横任] - ตอนที่ 24 ชื่อที่พวกแกจะต้องจดจำไปจนวันตาย
ตอนที่ 24 ชื่อที่พวกแกจะต้องจดจำไปจนวันตาย.
ทั้งงานเงียบ… เงียบจนได้ยินเสียงของลมหายใจ
ดวงตานับร้อยคู่เบิกกว้างด้วยความตกใจ
เพียงแค่สะบัดมือ เขาก็สามารถฆ่าคนได้อย่างนั้นเหรอ?
เขากล้าหักคอบอดี้การ์ดของตระกูลหวงต่อหน้าผู้นำตระกูลหวงเลยงั้นเหรอ..?
ในสายตาของผู้ชายคนนี้ไม่มีตระกูลหวงอยู่เลยงั้นเหรอ?
มองไปทั่วทั้งเซี่ยงไฮ้คงไม่มีใครที่มีความกล้าเท่าเขาอีกแล้ว
ใบหน้าของหวงฮงฮุยกลายเป็นซีดเซียว เขาก้าวถอยหลังจนสะดุดกับบางอย่างจนร่างของเขาล้มลงกับพื้นอย่างน่าเวทนา
ความเงียบเข้าครอบงำอีกครั้ง
ฉากนี้ราวกับเป็นการตบหน้าคนของตระกูลหวงทั้งหมด
เฉินซ้งเหิงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ เขาหยิบผ้าขนหนูสี่เหลี่ยมสีขาวออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทแล้วเช็ดมือขวาที่เปื้อนเลือดช้าๆ
เมื่อมองไปที่มือขวาที่เปื้อนเลือดของเขา มันก็ทำให้ผู้คนต้องหนาวสั่นไปจนถึงปลายเส้นผม
สิ่งที่เขาทำราวกับว่าเป็นเพียงแค่การเช็ดคราบสกปรกที่เปื้อนมือเท่านั้น
เขาสง่างามแต่กลับโหดเหี้ยม ในขณะนี้สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงไวน์สักแก้วเท่านั้น การดื่มไวน์แดงสักแก้วหลังจากการฆ่ามันช่างเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขา
“แกจะไม่ทางหนีออกจากเซี่ยงไฮ้ไปได้”
ทันใดนั้นหวงเจิ้งหมิงที่เงียบมาตลอด ในที่สุดก็เปิดปากกล่าวคำขู่ออกมา
“ตระกูลของแกทั้งหมด พวกมันจะต้องถูกสังหารเก้าชั่วโคตร” หวงเจิ้งหมิงพูดอย่างใจเย็นโดยไม่มีการคุกคามใดๆ แต่หลังจากพูดจบออร่าของเขาก็กลายเป็นน่ากลัว
เฉินซ้งเหิงเช็ดมือที่เปื้อนเลือดแล้วยิ้มออกมา “ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้คิดที่จะไปไหนอยู่แล้ว”
ตอนนี้ทุกคนรู้สึกกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก
ภายในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นเลือดฟุ้งไปทั่ว
“ก็ดี ฉันอวยพรให้แกมีชีวิตอยู่ต่อให้ได้ก็แล้วกัน ครอบครัวของแกเองก็ด้วย” หวงเจิ้งหมิงค่อยๆถอดแว่นกันแดดออก ดวงตาของเขานิ่งสงบจนทำให้ผู้คนที่ได้เห็นรู้สึกเหมือนตกอยู่ในห้องน้ำแข็งใต้ดิน เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่แฝงไปด้วยภัยคุกคามที่น่ากลัว
หลังจากงานศพของหวงซู่หยางเรียบร้อยแล้ว ตระกูลหวงก็จะประกาศสงครามเลือด!
“ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่ฉันจะมีอายุยืนยาวกว่าแกกับลูกชายของแกอย่างแน่นอน”
เฉินซ้งเหิงพ่นควันบุหรี่ออกมาช้าๆ พร้อมกับเดินตรงไปที่โลงศพมังกร
อากาศอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก
ในโลงศพมังกรเก้าตัว ร่างของหวงซู่หยางนอนนิ่งอย่างเงียบๆ เขาสวมเสื้อคลุมมังกรทองและมีไข่มุกราตรีสีมรกตอยู่ในปาก
แม้ว่าเขาจะตายไปแล้วแต่เขาก็ยังต้องเหนือกว่าคนอื่นๆ เพราะสมาชิกของตระกูลหวงนั้นถือว่าเป็นผู้ที่ได้สืบทอดสายเลือดอันสูงส่ง
“จะมีสักกี่คนที่จะยอมสละชีวิตตนเองเพื่อคนอื่น… คุณมันก็เป็นแค่เพียงชายหนุ่มไร้สมองคนหนึ่ง เป็นเพียงแค่ลูกชายของอันธพาลข้างถนน ชุดคลุมมังกรและงานศพระดับนี้มันไม่เหมาะสมกับคุณเลย”
เฉินซ้งเหิงพึมพำขณะที่จ้องมองศพด้วยสายตาที่เย็นชา
เสียงพึมพำของเขานั้นไม่ได้เบา มันจึงทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ยินทั้งหมด
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอีกครั้ง!
ชายคนนี้กล้าที่จะท้าทายตระกูลหวงครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่เกรงกลัวใดๆเลย!
เขากล้าใช้คำพูดที่ดูหมิ่นต่อศพแบบนี้ได้อย่างไร? ไม่อยากจะเชื่อเลย!
ในที่สุดใบหน้าของหวงเจิ้งหมิงก็กลายเป็นเย็นชา เพื่อที่จะจัดพิธีศพของลูกชายให้ดีที่สุด เขาจึงพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองไว้ตลอดทั้งวัน แต่ในตอนนี้เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว!
“นี่แกพยายามจะยั่วยุตระกูลหวงของฉันจริงๆสินะ!” ด้วยสายตาเย็นชาอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน หวงเจิ้งหมิงค่อยๆเดินออกมาที่ละก้าว
“ตระกูลหวงของเราอยู่ในเซี่ยงไฮ้มานานกว่าร้อยปี กลุ่มอิทธิพลฉิงก็เป็นที่รู้จักกันดีมาหลายชั่วอายุคน ทั่วทั้งเจียงหนานนี้ ตระกูลหวงของเราเปรียบดั่งท้องฟ้าที่ปลกคลุมทั้งมณฑล ในเมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วมันจะแปลกอะไรที่ลูกชายของฉันจะมีความสุขกับหญิงสาวและเสื้อคลุมมังกรในโลกหลังความตาย” น้ำเสียงของหวงเจิ้งหมิงเยือกเย็น เขาพูดต่อว่า “แล้วเศษผงธุลีที่ไร้ชื่อเสียงอย่างแก มีสิทธิอะไรถึงได้มายืนเสนอหน้าอยู่ตรงนี้?”
เมื่อสิ้นสุดคำนี้ เฉินซ้งเหิงก็ยิ้มอย่างมีความหมาย “ไร้ชื่อเสียงงั้นเหรอ? ดี! ในเมื่อแกยังไม่รู้จักฉัน วันนี้เป็นโอกาศดีที่ฉันจะทิ้งชื่อของฉันไว้ที่นี่เพื่อที่แกจะได้จดจำไปจนวันตาย”
หวงเจิ้งหมิงก้าวไปข้างหน้าด้วยออร่าที่เยือกเย็น
“ออกไปจากที่นี่ เดี๋ยวนี้!!” หวงเจิ้งหมิงพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน
เฉินซ้งเหิงไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เขาทำเพียงแค่จ้องมองลงไปในโลงศพ
“ทหารของฉันที่ต้องสละชีวิตตัวเองให้กับประเทศชาติ มีเพียงผ้าขาวผืนเดียวเท่านั้นที่ห่อพวกเขายามตาย แม้แต่กระดูกของพวกเขาก็ยังเอากลับมาบ้านเกิดไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ไอ้เศษสวะคนนี้แม้แต่ตายไปแล้วยังได้เสวยสุขอยู่ในโลงมังกร!”
เขายื่นมืออกมาแล้วลูบไปที่โลงศพมังกรสีทองราคาแพงอย่างช้าๆ
ดวงตาของเขาหรี่ลง
ทันใดนั้นเขาก็ยกมือขึ้น!
“ตู้มมม!” เขากระแทกมือลงบนโลงศพมังกรที่ทำมาจากทองบริสุทธิ์น้ำหนักหลายสิบตันด้วยแรงมหาศาล!
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที!
นั่นเขาทำอะไรน่ะ?!
“ไอ้สาระเลว! แกทำอะไรกับพี่ชายของฉัน!” หวงฮงฮุยลูกชายคนรองแห่งตระกูลหวงคำรามออกมาด้วยความโกรธ!
เฉินซ้งเหิงยกโลงศพสีทองขนาดใหญ่ด้วยมือข้างเดียวและมองไปที่ฝูงชน
ในตอนนี้เขาดูราวกับเทพเจ้าแห่งสงครามที่เขย่าแผ่นฟ้าได้ด้วยตัวคนเดียว
เขายิ้มออกมา
วินาทีต่อมา มือขวาของเขาทุ่มโลงศพขนาดใหญ่ลงพื้นอย่างแรง!!
“ไม่นะ!” ทั้งพ่อและลูกตระกูลหวงโกรธอย่างมาก!
“หยุดเดี๋ยวนี้!” ในที่สุดหวงเจิ้งหมิงก็อดไม่ได้ที่จะพุ่งออกมาข้างหน้า!
แต่มันก็สายเกินไปแล้วที่จะหยุดเขา!
“ตู้มมม!”
เสียงอึกทึกไปทั่ว! โลงศพทองคำระเบิดออก!
พื้นดินทรุดแตกร้าว!
เศษทองจากโลงศพกระจายเต็มท้องฟ้า
ศพของหวงซู่หยางกระเด็นล่วงลงที่พื้น
หัวใจของแขกทุกคนสั่นสะท้าน!
เชี่ยไรเนี่ย!!
แค่ทุบโลงยังไม่พองั้นเหรอ?!
เขากล้าดียังไงถึงได้กล้าทำลายโลงศพของนายน้อยหวงจนป่นปี้
“คนเลวๆอย่างนี้คู่ควรกับการมีความสุขหลังความตายด้วยงั้นเหรอ?” เฉินซ้งเหิงจ้องไปที่ศพของหวงซู่หยาง
“คนที่จะต้องไปอยู่ในยมโลก ไม่สมควรที่จะสวมเสื้อคลุมมังกร!”
จู่ๆเฉินซ้งเหิงก็หมุนมือขวาของเขา
ชิ้ง!
แสงสีเงินวาดผ่านอากาศ
ในพริบตา ชุดคลุมมังกรทองเก้าตัวบนร่างของหวงซู่หยางก็ถูกตัดออกเป็นชิ้นๆ
เงียบกริบ
นี่มัน….
นี่มันอุกอาจเกินไปแล้ว
ความกล้าของเขามีมากมายถึงเพียงไหน!
เรื่องนี้มาถึงจุดที่ถอยกลับไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
แขกที่มาร่วมงานทุกคนตะลึง
“ไม่! พี่ใหญ่!”
ดวงตาของหวงฮงฮุยทั้งสองข้างเต็มไปด้วยความโกรธและดุร้าย “ไอ้สาระเลว! แกกล้าดียังไงถึงได้มาดูถูกพี่ชายของฉัน? ชีวิตแกจะไม่มีทางได้อยู่อย่างสงบสุข ฉันจะฆ่าแก!”
ในเวลานี้หวงฮงฮุยพุ่งออกไปอย่างบ้าคลัง ตอนนี้เขาต้องการที่จะฉีกร่างของเฉินซ้งเหิงออกเป็นพันๆชิ้น!
บอดี้การ์ดที่อยู่รอบๆวิ่งเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศ
ท่ามกลางบอดี้การ์ดของตระกูลหวงมากมาย เฉินซ้งเหิงทำเพียงแค่เอามือไพล่หลังและมองออกไป
“ฆ่ามัน!”
หวงฮงฮุยโกรธมาก เขาคำรามพร้อมกับควักปืนพกออกมา!
วันนี้เขาจะต้องฆ่าชายคนนี้ให้ได้!
งานศพของพี่ชายของเขาต้องพังลง แม้แต่เสื้อผ้าของพี่ชายของเขาก็ถูกฟันจนขาดกระจุย!
นี่เป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่ง! พวกเขาที่เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกันและเขาเองก็ยกให้พี่ใหญ่เป็นต้นแบบมาเป็นสิบๆปี!
เขาทำอะไรไม่ได้เลย เขาทำได้เพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆ มองร่างกายของพี่ชายถูกทำให้อับอาย!
ในชีวิตนี้ไม่มีใครที่กล้าหยามหน้าเขาขนาดนี้มากก่อน
มันช่างน่าอับอายยิ่งนัก!
ตระกูลหวงไม่เคยต้องตกต่ำถึงเพียงนี้!
“กลับมา!!”
ในตอนนี้เอง หวงเจิ้งหมิงผู้เป็นพ่อตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว!
ความเงียบถูกทำลาย
เสียงที่ดั่งสนั่นของเขาทำให้แขกทุกคนถึงกับสะดุ้ง!
ไม่เพียงแค่หวงเจิ้งหมิงจะไม่ทำอะไรแล้ว เขายังตะโกนบอกให้ลูกชายหยุดการกระทำอีกด้วย
“พ่อบอกให้หยุด! แล้วถอยกลับมาเดี๋ยวนี้!” หวงเจิ้งหมิงคำรามอีกครั้ง!
ใบหน้าของหวงฮงฮุยโกรธมากจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่
ชายคนนี้ทำถึงขั้นนี้แล้ว!
แต่ทำไมพ่อของเขาถึงไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง?
แถมยังมาตระโกนสั่งห้ามเขาอีก!
พ่อแก่จนเลอะเลือนไปแล้วงั้นเหรอ?!
ความเงียบปลกคลุมอีกครั้ง
หวงฮงฮุยไม่สามารถขัดคำสั่งของผู้เป็นพ่อได้
หวงฮงฮุยจ้องมองเฉินซ้งเหิงด้วยดวงตาสีแดง ถ้าดวงตาสามารถฆ่าคนได้ ตอนนี้เขาคงจะฉีกร่างของเฉินซ้งเหิงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปแล้ว!
ในที่สุดหวงฮงฮุยก็กัดฟันและถอยกลับหลังอย่างไม่เต็มใจ กลับไปยืนอยู่ข้างหลังพ่อของเขาและจ้องมองไปที่เฉินซ้งเหิงด้วยสายตาเคียดแค้น
“เด็กน้อย แกนี่ช่างบ้าบิ่นเสียจริง ฉันไม่เคยเจอคนที่มีความกล้าหาญแบบแกมาก่อน แกไม่ได้มีความเกรงกลัวต่อตระกูลหวงของเราเลยอย่างงั้นเหรอ?”
หวงเจิ้งหมิงจ้องไปที่เฉินซ้งเหิงอย่างเย็นชา
บอดี้การ์ดนับร้อยสแตนบายรอจากทุกทิศทางด้วยสายตาที่ดุร้าย พวกเขาพร้อมที่จะจู่โจมทุกเมื่อ!
“ทำไมฉันต้องกลัวพวกแกด้วย?” เฉินซ้งเหิงพูดอย่างไม่แยแสพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากของเขา
ทันใดนั้น ความเงียบก็ปกคลุมไปทั่ว
ด้วยใบหน้าที่เย็นชา หวงเจิ้งหมิงเดินมาหาเขาทีละก้าว
ทั้งสองคนมองหน้ากัน
เฉินซ้งเหิงดูนิ่งสงบราวกับสุภาพบุรุษที่สง่างาม
แต่ทางหวงเจิ้งหมิงกลับต้องพยายามบังคับตัวเองไม่ให้ระเบิดออกมา
“แกทำสำเร็จ แกทำให้ฉันจำชื่อของแกได้” น้ำเสียงของหวงเจิ้งหมิงเยือกเย็นราวกับสัตว์ร้ายที่ทำให้คนที่ได้ยินต้องตัวสั่น
“โอ้! จริงเหรอ?” เฉินซ้งเหิงมองเขาด้วยรอยยิ้มที่มีความหมาย
“ฉันจำได้ ชื่อของแกคือ… เฉิน… ซ้ง… เหิง…!” น้ำเสียงของหวงเจิ้งหมิงน่ากลัวมาก ดวงตาของเขามีเจตนาฆ่านับพันซ่อนอยู่
เฉินซ้งเหิงยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ดี! ผมหวังว่าไม่เพียงแค่คุณเท่านั้นที่สามารถจดจำชื่อของผมได้ แต่คนในตระกูลหวงทั้งหมดจะต้องจำชื่อของผมไปจนวันตาย…!”