ฮาเดสผู้สังหารพระเจ้า [冥王杀神陈纵横任] - ตอนที่ 10 คืนนี้พาฉันไปที่บ้านของเธอด้วย
ตอนที่ 10 คืนนี้พาฉันไปที่บ้านของเธอด้วย.
ในห้องทำงานของประธาน ชิวอี้เหลินกำลังนั่งจัดการกับอีเมลต่างๆหน้าคอมพิวเตอร์
จู่ๆประตูห้องก็ถูกเปิดเปิดออก…
ดวงตาที่สวยงามของชิวอี้เหลินแสดงถึงความไม่พอใจ เธอกำลังจะตะโกนตำหนิ
แต่เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเปิดประตูเข้ามา ความไม่พอใจในดวงตาของเธอก็ได้จางหายไปทันที “อ้าว คุณเฉิน มีอะไรหรือเปล่าคะ?…”
“ทำไมคุณถึงเป็นเป้าหมายขององค์กรพระคัมภีร์?” เฉินซ้งเหิงถามและจ้องมองไปที่ชิวอี้เหลิน
องค์กรพระคัมภีร์ไม่ใช่องค์กรนักฆ่าทั่วไป การที่พวกมันต้องการตัวชิวอี้เหลิน นั่นแสดงว่าเธอต้องมีอะไรบางอย่างที่พวกมันต้องการ หรือเธออาจจะมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่!
“องค์กรพระคัมภีร์คืออะไร?” ชิวอี้เหลินถามกลับด้วยความสงสัย “ถ้าคุณกำลังหมายถึง พวกคนที่ตามล่าฉันเมื่อคืนก่อน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพวกเขาถึงตามตัวฉัน บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ก็ได้”
“คุณเองก็ไม่รู้อย่างงั้นเหรอ?” เฉินซ้งเหิงมองไปที่ชิวอี้เหลินอย่างสงสัย
สายตานี้ทำให้หัวใจของชิวอี้เหลินสั่นสะท้าน ราวกับกำลังถูกดวงตาของปีศาจจ้องมอง!
อย่างไรก็ตามเฉินซ้งเหิงไม่ได้คาดคั้นคำตอบ เพราะเขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องของเธอมากเท่าไหร่นัก
เฉินซ้งเหิงพูดขึ้นอีกครั้ง “คืนนี้พาผมไปที่บ้านของคุณด้วย ผมต้องการจะตรวจสอบอะไรบางอย่าง”
ให้ฉันพาเขาไปที่บ้าน? ให้พาผู้ชายเข้าบ้านงั้นเหรอ?!
เธอไม่เคยพาผู้ชายคนไหนไปที่บ้านเลยสักครั้ง แม้แต่หุ้นส่วนรายใหญ่ก็ตาม
หลังจากลังเลอยู่นาน เธอก็กัดฟันพยักหน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้
เวลาหกโมงเย็น
เฉินซ้งเหิงและชิวอี้เหลินเดินออกจากลิฟต์มาพร้อมกัน
หน้าบริษัทมีรถ Mercedes-Benz S600 สีดำสามคันจอดรออยู่อย่างเป็นระเบียบ
ทีมบอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำยืนรอชิวอี้เหลินอยู่ที่บริเวณรถ
เมื่อเห็นชิวอี้เหลินเดินมา หนึ่งในบอดี้การ์ดก็เปิดประตูรถต้อนรับเธอทันที
ในขณะที่เอนตัวเข้าไปในรถ เธอก็พูดกับเฉินซ้งเหิงที่ยืนอยู่ด้านนอก “คุณเฉิน คุณไปพร้อมกับฉันเลยก็ได้ค่ะ”
เฉินซ้งเหิงเดินเข้าไปนั่งในรถเบนซ์ด้วยสีหน้านิ่งเฉย
ฉากนี้ช็อกหัวใจคนในบริษัทนับไม่ถ้วน! ชายลึกลับคนนี้คือใคร? วันนี้เขาทำผิดกฎของบริษัทตั้งหลายข้อ แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมตอนนี้เขายังได้นั่งรถส่วนตัวไปกับประธานอีก? ชายคนนี้เป็นอะไรกับท่านประธานกันแน่?!
……
ครึ่งชั่วโมงต่อมา… รถ Mercedes-Benz ขับเข้ามาในพื้นที่ของคฤหาสน์บนถนนสายหนึ่งอย่างช้าๆ
เฉินซ้งเหิงเหลือบมองไปนอกหน้าต่างโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาเผลออ่านคำที่สลักอยู่บนแผ่นหินที่ทางเข้าของคฤหาสน์
‘ฮู่ไห่ซือหยวน‘ หนึ่งในคฤหาสน์หรูอันดับต้นๆของเมืองเซี่ยงไฮ้
รถ Mercedes-Benz ทั้งสามคันหยุดอยู่หน้าคฤหาสน์สไตล์ยุโรปหลังหนึ่ง
เฉินซ้งเหิงก้าวออกจากรถพร้อมกับจุดบุหรี่
ด้านหน้าของเขาคือคฤหาสน์สไตล์ยุโรปหลังใหญ่ พื้นที่คฤหาสน์ใหญ่พอที่จะรองรับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่และสนามเทนนิสอีกสองสนาม อีกทั้งยังมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์อยู่ด้านข้างอีกด้วย ทั้งหมดนี้อธิบายคำว่าฟุ่มเฟือยได้อย่างดี
รอบๆคฤหาสน์เต็มไปด้วยทีมบอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำ จะเห็นได้ว่าการรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์หลังนี้แน่นหนาอย่างมาก
ในขณะที่ชิวอี้เหลินพาเฉินซ้งเหิงเข้าไปที่ยังคฤหาสน์ ใบหน้าของเธอก็แสดงออกถึงความประหม่า
ทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามาในคฤหาสน์ เสียงผู้หญิงหวานๆก็ดังขึ้นมาจากโซฟาในห้องโถงใหญ่ “เย้! พี่สาวกลับมาแล้ว กำลังรอทานอาหารเย็นอยู่เลย~”
เด็กสาวไร้เดียงสาในชุดเสื้อยืดลายการ์ตูน นอนอยู่บนโซฟาขณะเล่นเกมโทศัพท์
แต่เมื่อเธอมองมาที่ชิวอี้เหลินเธอก็ตะลึง พี่สาวฉันพาผู้ชายเข้าบ้านงั้นเหรอ!?
เด็กสาวลุกขึ้นจากโซฟาตรงไปหาชิวอี้เหลินทันที เธอมองพี่สาวของเธอด้วยดวงตาที่สวยงาม จากนั้นก็เหลือบมองไปที่ชายผิวขาวที่อยู่ข้างๆ
“คุณเป็นใคร?” เด็กสาวถามชายตรงหน้าเธอ
เฉินซ้งเหิงมองไปที่เด็กสาว แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร
“เด็กคนนี้คือน้องสาวของฉันเอง เธอชื่อว่าชิวชวงเซี่ย” ชิวอี้เหลินพูดแนะนำเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า
น้องสาวของเธอมีใบหน้าอ่อนหวาน ผมสีบลอนด์และดวงตากลมโตที่สดใส
“อือ” เฉินซ้งเหิงตอบอย่างไม่แยแส เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับคำพูดของชิวอี้เหลินเลยสักนิด
ไม่มีใครในแวดวงธุรกิจรู้ว่าตระกูลชิวมีลูกสาวอยู่อีกคนหนึ่ง
ชิวชวงเซี่ยเป็นน้องสาวของชิวอี้เหลิน
ชิวอี้เหลินซึ่งโตกว่าจึงดูมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า ส่วนชิวชวงเซี่ยน้องสาวของเธอนั้นยังคงอยู่ในวัยเรียน เธอยังคงดื้อรั้น ซุกซนและไร้เดียงสา ทั้งสองเป็นพี่น้องที่มีนิสัยต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือ ทั้งสองเป็นผู้หญิงที่สวยและมีสเน่ห์อย่างมาก
“พี่สาว… ผู้ชายคนนี้เป็นแฟนของพี่เหรอ ว้าววว! หล่อมากๆเลย~” ชิวชวงเซี่ยม้วนผมสีบลอนด์ด้วยนิ้วของเธอและมองไปที่ชายผิวขาวตรงหน้าด้วยแววตาขี้เล่น
ชิวอี้เหลินรีบแย้งขึ้นมาทันที “ไม่ใช่นะ! อย่าหยาบคายสิ เขาชื่อว่าคุณเฉิน เป็นผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงภายในของบริษัทของเราที่พี่จ้างมาเป็นพิเศษ”
“โถ่ววว~ นึกว่าแฟนซะอีก” ดวงตากลมโตของเธอเป็นประกายอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม
“พี่เชิญให้คุณเฉินมาตรวจสอบความปลอดภัยของบ้านเรา” ชิวอี้เหลินอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง จากนั้นก็เธอผายมือออก เชิญให้เฉินซ้งเหิงเข้าไปด้านในคฤหาสน์
ห้องโถงของคฤหาสน์ทั้งหมดถูกตกแต่งอย่างหรูหราราวกับพระราชวัง
แต่เฉินซ้งเหิงนั้นไม่ได้สนใจ เขาเดินขึ้นไปชั้นสองและมองดูรอบๆอย่างถี่ถ้วน
เขาสามารถจับสัญญาณความถี่ต่ำได้จากการฟังเสียง
“คุณเฉิน… คุณกำลังหาอะไร?” ชิวอี้เหลินถามอย่างสงสัยขณะที่เดินตามมาข้างหลัง
“เงียบหน่อย” เฉินซ้งเหิงตอบอย่างเฉยเมย เขาขี้เกียจเกินไปที่จะอธิบาย การฟังของเขาสามารถตรวจจับเครื่องดักฟังได้ ไม่ว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใดๆก็ไม่สามารถหลุดรอดไปจากสายตาของเขาได้
เฉินซ้งเหิงได้ทำการสำรวจทั่วทุกมุมของทางเดิน
ไม่มีใครรู้วิธีการขององค์กรพระคัมภีร์ได้ดีไปกว่าเขา มันเป็นองค์กรที่สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ นักฆ่าในองค์กรนั้นทั้งโหดเหี้ยมและมีฝีมือ!
จริงๆแล้วจุดประสงค์หลักของเขาไม่ใช่ความปลอดภัยของชิวอี้เหลิน แต่การที่เขามาที่นี่ก็เพื่อหาเบาะแสขององค์กรพระคัมภีร์
ในขณะที่เขาเดินสำรวจไปตามทางเดินบนชั้นสอง เขาก็เริ่มเปิดประตูเข้าไปทีละห้องโดยไม่ลังเล
เมื่อเขาเดินมาถึงหน้าประตูห้องหนึ่ง จู่ๆชิวอี้เหลินก็พุ่งเข้ามาขวางทางเขาไว้
“เอ่อ… นี่ห้องนอนของฉันเอง คือว่ามัน… ไม่ค่อยสะดวก” ชิวอี้เหลินพูดอย่างตะกุกตะกัก
“มันก็แค่การตรวจสอบ คุณคิดมากเกินไปหรือเปล่า?” ดวงตาของเฉินซ้งเหิงเฉยเมย เขาเดินเข้าไปในห้องและสำรวจรอบๆโดยไม่สนใจชิวอี้เหลิน
กลิ่นหอมของหญิงสาวอบอวลไปทั่วทั้งห้อง ภายในห้องนอนของเธอเต็มไปด้วยคริสตัลประดับมากมาย
ใบหน้าสวยของชิวอี้เหลินตกตะลึงเล็กน้อย เธอเดินตามเขาไปอย่างใกล้ชิด เธอเป็นผู้หญิงที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมาก แม้แต่พี่เลี้ยง หากต้องการที่จะเข้าห้องนอนของเธอ ก็ต้องขออนุญาตเธอก่อน
แต่ในตอนนี้ ชายแปลกหน้าที่เธอเพิ่งเจอได้เพียงสองวัน กำลังสำรวจไปทั่วทุกมุมในห้องนอนของเธอ เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆ
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่มีทางเลือก เพราะสิ่งที่เขาทำก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง
เอ๊ะ! หรือว่าเขามีจุดประสงค์อื่น… หรือว่าฉันคิดมากเกินไป?
เมื่อนึกได้แบบนี้ใบหน้าชิวอี้เหลินก็ผ่อนคลายลง จากนั้นเธอก็ทำใจปล่อยให้เฉินซ้งเหิงเข้าตรวจสอบห้องของเธอต่อไป โดยมีเธอเดินตามไปทุกที่
เฉินซ้งเหิงตรวจสอบทุกซอกทุกมุมของห้อง จากนั้นเขาก็เดินไปที่ห้องน้ำ
ขณะที่เฉินซ้งเหิงกำลังจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ จู่ๆชิวอี้เหลินก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอรีบก้าวตามเข้าไปอย่างรีบร้อน
“คุณเฉิน … นั่น …เอ่อ” เธอรีบวิ่งเข้าไปขวางทางเข้าห้องน้ำ แต่มันก็สายไปเสียแล้ว
เฉินซ้งเหิงยืนอยู่ในห้องน้ำแล้วมองไปรอบๆ โดยที่ไม่ได้สนใจการกระทำของเธอเลย
ใบหน้าสวยของชิวยี่แดงระเรื่อ เธอทั้งตกใจและเขินอายจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหน ข้างในห้องน้ำมีเสื้อชั้นในของเมื่อวานและเมื่อวานก่อนที่เธอถอดทิ้งไว้อย่างไม่เป็นระเบียบ
เนื่องจากเธอยุ่งกับงานมากเกินไป เธอจึงลืมแจ้งให้พี่เลี้ยงมาทำความสะอาด
และเธอก็ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีใครเข้ามา เธอจึงลืมเรื่องนี้ไปสนิท…
ดวงตาของเฉินซ้งเหิงนิ่งเฉย เขาค่อยๆสำรวจรอบๆห้องน้ำ
ในดวงตาของเขาไม่มีร่องรอยของความรู้สึกอะไรทั้งสิ้น มันเย็นชาราวกับว่าเขาเป็นคนไร้ความรู้สึก หลังจากยืนยันว่าไม่มีอุปกรณ์อะไรที่น่าสงสัย เขาก็หันหลังกลับออกมาจากห้องน้ำ เหลือไว้เพียงแค่ชิวอี้เหลินที่ถูกทิ้งให้ยืนหน้าแดงอยู่คนเดียว สำหรับเธอแล้วฉากนี้มันน่าอายเกินไป
เขาตรวจสอบทุกๆห้องในคฤหาสน์หลังนี้แล้ว แม้แต่กระทั่งตอนตรวจสอบห้องของชิวชวงเซี่ย สีหน้าของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด
ในเวลานี้พ่อแม่ของชิวอี้เหลิน… ชิวหวยไห่และหลัวเซียงหนานได้กลับมาถึงคฤหาสน์แล้ว
เมื่อพวกเขาเห็นเฉินซ้งเหิงทั้งคู่ก็ตกใจอย่างมาก
ชิวชวงเซี่ยที่นั่งอยู่บนโซฟากล่าวขึ้นอย่างทะเล้น “นี่คือคนที่พี่พากลับมาบ้านด้วย”
จากนั้นการแสดงออกของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไป
ชิวอี้เหลินก้าวออกมาข้างหน้าเพื่ออธิบายอย่างรีบร้อน “ไม่ใช่นะคะพ่อ เขาคือผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงภายในที่หนูจ้างมาใหม่ค่ะ”
มื้อค่ำคืนนี้ ชิวหวยไห่สั่งให้พ่อครัวประจำคฤหาสน์เตรียมอาหารที่หรูหราให้เฉินซ้งเหิงเป็นพิเศษและยังเพื่อเป็นการตรวจสอบผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงภายในคนใหม่ไปด้วย
ชิวหวยไห่เป็นคนกว้างขวาง เขารู้จักผู้คนในวงการธุรกิจมากมาย แม้ว่าลูกสาวของเขาจะบอกเกี่ยวกับที่มาที่ไปของผู้ชายคนนี้มาบ้างแล้ว แต่ชิวหวยไห่ก็ยังไม่ไว้ใจเฉินซ้งเหิงอยู่ดี
เขาจะเชื่อได้ก็ต่อเมื่อ เขาได้เห็นด้วยตาตัวเองเท่านั้น
ชิวหวยไห่ถือโอกาสนี้ชวนเฉินซ้งเหิงไปดื่มที่โต๊ะเพื่อพูดคุยทำความรู้จักเฉินซ้งเหิง แต่มันก็ไม่เป็นผล
หลังอาหารค่ำ ชิวหวยไห่เรียกทีมบอดี้การ์ดส่วนตัวที่อยู่ด้านนอกคฤหาสน์เข้ามา
ทีมบอดี้การ์ดกว่า 20 คนในชุดสูทสีดำเดินตรงเข้ามาในห้องโถงด้วยท่าทีเข้มครึม!
นี่คือทีมบอดี้การ์ดส่วนตัวชั้นแนวหน้าที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างมืออาชีพ!
“คุณเฉิน นี่คือทีมบอดี้การ์ดที่รับผิดชอบความปลอดภัยของคฤหาสน์ของตระกูลชิวของผม คุณช่วยดูให้หน่อยได้ไหมว่าพวกเขาเป็นอย่างไร?” คราวนี้ชิวหวยไห่มีเจตนาที่จะให้ทีมบอดี้การ์ดมืออาชีพที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีกว่าสองโหลมาทดสอบเฉินซ้งเหิง!
เฉินเซิงเหิงเหลือบมองทีมบอดี้การ์ดอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็พูดคำหนึ่งออกมา “ห่วยแตก! คนพวกนี้มีแต่ช่องโหว่”
หึ ~! เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของทีมบอดี้การ์ดทั้งยี่สิบคนก็เปลี่ยนไปทันที!
หยางเฟิง หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดหัวเราะเยาะ “ปากดี! ทีมของเราเต็มไปด้วยช่องโหว่งั้นเหรอ? นี่คุณกำลังล้อผมเล่นอยู่หรือไง?”
พวกเขาเป็นทีมบอดี้การ์ดระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์เสี่ยงตายมานับไม่ถ้วน พวกเขามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะถูกเรียกว่าทีมบอดี้การ์ดระดับสูง! แต่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้กลับบอกว่าพวกเขาเต็มไปด้วยช่องโหว่เนี่ยนะ!? นี่มันดูถูกกันชัดๆ!
“ในเมื่อคุณพูดอย่างนั้น… เรามาลองทดสอบกันดูดีมั้ย?!” ผู้ชายในทีมอีกคนอดไม่ได้ที่จะโกรธและท้าทายออกมา
ร่องรอยความดูถูกฉายผ่านแววตาเฉินซ้งเหิง “อย่างพวกคุณแค่ไม่กี่วิ… ก็จบแล้ว”
“ปากเก่งนักนะ!” หยางเฟิงหัวหน้าทีมบอดี้การ์ดก้าวออกมาและพูดอย่างโกรธเกรี้ยว “การที่คุณพูดแบบนี้ แสดงว่าคุณยังไม่เคยเจอคนที่เป็นมืออาชีพจริงๆใช่มั้ย? ในเมื่อคุณพูดขนาดนี้แล้วก็ลุกขึ้นมาเถอะ!”
“พ่อหนุ่ม ทีมบอดี้การ์ดเล่ยหยินของเรานั้นเป็นทีมบอดี้การ์ดอันดับต้นๆของจีน พวกเราปกป้องเหล่าคนดังมาแล้วมากมายทั้งกัวฟู่เฉิงดาราฮ่องกง ทั้งเหอหลงราชานักพนันชาวไต้หวันและยังมีซุนหลงประธานแห่งยูนิเวอร์แซลกรุ๊ปอีก” หนึ่งในสมาชิกของทีมบอดี้การ์ดพูดโอ้อวด
พวกคนดังเหล่านั้นเขาไม่เคยเจอมาก่อนจริงๆและเขาก็ไม่ได้ต้องการที่จะเจอคนพวกนั้นด้วย ครั้งหนึ่งเคยมีอดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นมาขอร้องเพื่อที่จะพบเขา แต่ก็ถูกเขาปฏิเสธไปอย่างไม่ใยดี! แล้วนับประสาอะไรกับแค่ดารานักแสดง
ทีมบอดี้การ์ดเหล่านี้ไม่รู้เลย ว่าจริงๆแล้วเฉินซ้งเหิงนั้นเป็นใคร ไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วระดับของพวกเขาต่างกันขนาดไหน
“มีคนดังในจีนคนไหนบ้างที่เราไม่เคยคุ้มกัน อย่างคุณก็แค่มือสมัครเล่นเท่านั้นแหละ อย่าทำเก่งไปหน่อยเลย!” หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดพูดอย่างเย่อหยิ่ง! ในฐานะที่ทีมบอดี้การ์ดเล่ยหยินนั้น มีชื่อเสียงว่าเป็นทีมบอดี้การ์ดชั้นนำระดับประเทศ พวกเขามีความภูมิใจที่ไม่สามารถยอมให้ใครมาหยามได้
“งั้นเหรอ?” เฉินซ้งเหิงพูดพร้อมยกยิ้ม… จากนั้นเขาก็ค่อยๆยกมือขึ้นและดีดนิ้ว
“เป๊าะ!” จู่ๆคฤหาสน์ทั้งหลังก็มืดลงในพริบตา
อุปกรณ์ส่องสว่างทั้งหมดในคฤหาสน์ดับลง!!