“หลีซืออวิ๋น?”
เฟิงหานชวนขมวดคิ้วแน่น
เขาจะขอหลีซืออวิ๋นแต่งงาน?
“ฮวนฮวน คุณพูดบ้าอะไร? ผมกับหลีซืออวิ๋นแทบไม่เคยเจอกับตลอดระยะเวลาสามปี อีกอย่างเมื่อสามปีก่อนผมก็อธิบายกับคุณไปแล้วว่าผมกับเธอเป็นแค่เพื่อนกัน” เฟิงหานชวนดึงมือของเป๋าฮวน และอธิบายให้เธอฟัง
3 ปีมานี้ เขาจมปลักอยู่กับตัวเอง แม้แต่พี่น้องของตัวเองก็ขี้เกียจจะเจอหน้า นับประสาอะไรกับเจอคนอื่น?
กับหลีซืออวิ๋นก็เจอกันไม่กี่ครั้ง และที่ต้องเป็นหลีซืออวิ๋นก็เพราะต้องทำโครงการร่วมกัน จึงไปเจอกับเธอที่บริษัทไม่กี่ครั้งเท่านั้น
“คุณโกหกไม่เนียนเลยจริง ๆ ตลอดสามปีที่ผ่านมาเจอกันไม่กี่ครั้ง คนคนนั้นเข้าใจผิดคิดว่าคุณกับเธอแต่งงานกัน? คุณก็ไม่อธิบายให้เจ้าตัวเข้าใจ เจ้าตัวคิดเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียวงั้นสิ?” เป๋าฮวนคิดว่าตัวเองไม่มีทางเชื่อเฟิงหานชวนเด็ดขาด ถึงอย่างไรเนื้อหาในวีแชทที่หลีซืออวิ๋นส่งให้เขาก็ยังเป็นภาพฝังลึกอยู่ในสมองของเธอ
“ฮวนฮวน คุณพูด…..อะไร?” เฟิงหานชวนรู้สึกงุนงง ไม่รู้ความจริงที่แน่ชัด
“อ่อ ฉันนึกออกแล้ว คุณยังไม่เคยเห็นวีแชทใช่ไหม? ในโทรศัพท์ของคุณ คุณเปิดดูเองเลย!” ใบหน้าของเป๋าฮวนเย็นชา จากนั้นก็ชี้ไปทางหัวเตียงที่อยู่ไม่ไกลนัก
บนหัวเตียง มีโทรศัพท์สีดำเครื่องหนึ่งวางอยู่ นั้นเป็นโทรศัพท์ของเฟิงหานชวน
เฟิงหานชวนขมวดคิ้ว จากนั้นก็หมุนตัวและเดินไปทางนั้น ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูวีแชทอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นข้อความหลาย ๆ ข้อความที่หลีซืออวิ๋นส่งมา เฟิงหานชวนก็อึ้งงันไปจริง ๆ อีกทั้งยังอึ้งงันมากด้วย
หรือว่าเป๋าฮวนจะเข้าใจผิดเขา ที่เป๋าฮวนใจร้ายกับเขาขนาดนั้น ที่แท้…..ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้!
“ฮวนฮวน ฮวนฮวน….” เฟิงหานชวนรีบเดินเข้ามาหาเป๋าฮวนทันที จากนั้นก็จับมือของเธอ และอธิบายว่า : “ผมไม่รู้ว่าทำไมหลีซืออวิ๋นถึงได้ส่งวีแชทเหล่านี้มาให้ผม แต่คุณต้องเชื่อผมนะ ตลอดสามปีมานี้ ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเกินเลยกว่านั้น ไม่มีทางขอเธอแต่งงานแน่นอน”
“เดี๋ยวนะ ไม่ใช่สามปีมานี้ ตั้งแต่ผมรู้จักกับเธอ ผมก็ไม่เคยคิดกับเธอในทางคนรักเลย”
เฟิงหานชวนพยายามอธิบาย ไม่ว่าจะต้องอธิบายคำเหล่านี้กี่ครั้งก็ตาม
เขาหวังให้เป๋าฮวนเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
เป๋าฮวนขมวดคิ้ว จากนั้นก็สะบัดมือของเฟิงหานชวน และถามกลับว่า : “งั้นความหมายของคุณก็คือ หลีซืออวิ๋นคิดเข้าข้างตัวเองฝ่ายเดียว คิดว่าคุณจะของเธอแต่งงานนะสิ? ”
“คุณป่วย แต่เธอไม่ได้ป่วย?”
เป๋าฮวนยิ้มอย่างเย็นชา ไม่มีทางเชื่อคำพูดพวกนั้นของเฟิงหานชวน
“ฮวนฮวน คุณต้องเชื่อผม…..”
ทันทีที่เฟิงหานชวนพูดประโยคนี้จบ ก็รู้ปวดหัวขึ้นมาอย่างฉับพลัน และเริ่มหายใจลำบาก ราวกับว่าอาการป่วยกำลังกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อเห็นท่าทางที่ผิดปกติไปของเฟิงหานชวน เป๋าฮวนกลับคิดว่าเขาแกล้งป่วย จึงขี้เกียจจะสนใจเขา
“ฉันต้องลงไปกินอาหารเช้าข้างล่าง! ถ้าคนของคุณยังไม่มาอีก คุณก็รอให้คุณตาของฉันลงโทษละกัน!” สิ้นสุดคำพูดนี้เป๋าฮวนก็ก้าวเท้าตรงไปยังทางออกทันที
ในเวลานี้เอง เธอได้ยินเพียงแค่เสียงตะโกนที่แสนเจ็บปวดของเฟิงหานชวน
เป๋าฮวนหันกลับไป และเห็นเขาพยายามกำมือทั้งสองข้างไว้แน่น สีหน้าเริ่มซีดเผือด ลมหายใจเริ่มถี่ขึ้น
ท่าทางแบบนี้ คงไม่ได้แกล้งแล้ว
“ยาละ? ยาของคุณอยู่ไหน?” เป๋าฮวนรีบพุ่งตัวเข้าไปตรงหน้าของเขา และถามขึ้นด้วยความร้อนใจ
“ผม…..ผมลืมพามา……”
เสียง “ตึง” ดังขึ้น ทันทีที่สิ้นสุดคำนี้ ร่างสูงใหญ่ก็ได้ล้มลงไปบนพื้นอย่างหนักหน่วง จนเกิดเสียงดังตึง
“เฟิงหานชวน!!!”
เมื่อเป๋าฮวนเห็นผู้ชายตรงหน้าสลบไสลไปแล้ว เธอก็รีบหมุนตัว วิ่งตรงไปยังทางออก จากนั้นก็ตะโกนเสียงดัง : “ใครก็ได้ ตามหมอเร็ว!”
…….
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
เฟิงหานชวนยังคงสลบไสล มีสายน้ำเกลือเจาะระโยงระยางอยู่บนมือ นอนหลับอยู่บนเตียงในห้องพักแขก
มีกลุ่มคนยืนอยู่ข้างเตียง หนึ่งในนั้นเป็นคุณหมอตระกูลเป๋า แล้วก็ยังมีเป๋าฮวน เป๋าเยี่ยน เป๋าเฉิน รวมทั้งจิ่งมั่วและจิ่งเหลิ่ง
เป๋าเยี่ยนมองไปทางผู้ชายที่มีสีหน้าซีดเผือดอยู่ตรงหน้า จากนั้นก็กุมไม้เท้าพร้อมกับถอนหายใจอย่างหนักหน่วง แต่กลับไม่พูดอะไร
“คุณตา จริง ๆ แล้ว…….จริง ๆ แล้วเมื่อคืนเขา…….” เป๋าฮวนรู้ว่าวินาทีที่ตัวเองตะโกนออกไปนั้น ทุกคนต้องรู้ว่าเฟิงหานชวนอยู่ในห้องของเธอ
แต่เธอไม่สามารถยืนมองเฟิงหานชวนอยู่ในอันตรายเฉย ๆ ได้
“เสี่ยวฮวนฮวน หลานให้เขามาเหรอ?” เป่าเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย นึกถึงคำพูดที่ตัวเองเคยพูดไว้เมื่อวางกลางวัน จากนั้นก็เม้มปากอมยิ้มและพูดว่า : “หลานปล้นของบางอย่างไปจากเขาแล้วเหรอ?”
เป๋าฮวนถลึงตาใส่ทันที นี่มันใช่เวลาที่จะล้อเล่นแบบนี้ไหม!
ถึงแม้ว่าเธอจะปล้นครั้งที่สองแล้วก็ตาม แต่ตอนนี้คุณตาอยู่ด้วย เธอจะยอมรับเรื่องนี้ตอนนี้ไม่ได้
“ปล้นหัวใจของเขา ให้เขามาตามจีบฉัน คิดการใหญ่ไปรึเปล่า?” เป๋าฮวนกลอกตาไปมา
“ฮวนฮวน หลานยังชอบผู้ชายคนนี้อยู่ใช่ไหม?”
เวลานี้ น้ำเสียงที่แหบพร่าของเป๋าเยี่ยนก็ดังขึ้น
เป๋าฮวนอึ้งงันไปในทันที
คนอื่น ๆ ที่อยู่ที่นี่ต่างก็ไม่พูดอะไร ได้แต่ตกอยู่ในความเงียบ
“ฮวนฮวน เมื่อคืนหน่วยรักษาความปลอดภัยเห็นว่าเขาอยู่บนระเบียงกับหลาน ดังนั้น…….”
ยังไม่ทันที่เป๋าเยี่ยนจะพูดจบ ดวงตาของเป๋าฮวนก็เบิกกว้างราวกับไข่ห่านทันที จากนั้นก็รีบถามกลับไปว่า : “ดังนั้นคุณตาก็เลยมาหาหนู จนกระทั่งพบเฟิงหานชวนอยู่ในห้องของหนู? ดังนั้นพวกคุณก็เลยรู้ว่าเขาอยู่ในห้องของหนูเมื่อคืน?”
“อื้อ” ทุกคนในห้องนี้ต่างพร้อมใจกันพยักหน้า
เป๋าฮวนรู้สึกเหมือนภาพตกหน้าดับวูบไป
เธอคิดว่าตัวเองปิดเรื่องนี้เป็นอย่างดี จึงพาเฟิงหานชวนไปหลบซ่อนในห้องของตัวเอง เพื่อไม่ให้ถูกใครเห็น แต่ก็นึกไม่ถึงว่าทุกคนจะรู้เรื่องนี้แล้ว!
“พวกคุณรู้แล้วทำไมไม่บอกหนูละคะ?” เป๋าฮวนรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
“เราเคารพในการตัดสินใจของหลาน” เป๋าเยี่ยนอธิบาย
“…..” เป๋าฮวนมองไปทางคุณตาผู้ใจดีตรงหน้า ไฟโกรธที่สุมอยู่ในอกก็ได้มอดไหม้ลงทันใด
เธอเคาะศีรษะของตัวเอง จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าเสียใจว่า : “เขาบอกว่าคนของเขาจะมารับเขาตอนเช้า ดังนั้นหนูก็เลยให้เขาค้านหนึ่งคืน”
จริง ๆแล้ว เธอพูดประโยคนี้ด้วยความไม่เชื่อมั่นใจตัวเอง เพราะเธอกับเฟิงหานชวน ไม่ได้นอนค้างกันเฉย ๆ แค่คืนเดียว
เมื่อคืนทั้งสองคนยังทำเรื่องที่อธิบายไม่ได้อีกด้วย
“ฮวนฮวน ตาจำได้ว่าเมื่อก่อนเขาไม่ได้ป่วยแบบนี้? อาการป่วยนี้ คือ…..” เป๋าเยี่ยนมองไปทางผู้ชายที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง ด้วยความรู้สึกที่พูดไม่ออก
เป๋าฮวนยังสงสัยในอาการแกล้งป่วยของเฟิงหานชวน แต่ตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่าเฟิงหานชวนป่วยจริง ๆ
“เพราะหนู” เป๋าฮวนยอมรับออกไปตรง ๆ
“เพราะเรื่องนั้น ใช่ไหม?” เป๋าเยี่ยนทอดถอนใจอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง
เป๋าฮวนรู้ว่าคุณตาหมายถึงเรื่อง “ฆ่าตัวตาย” เธอจึงพยักหน้ายอมรับ
“งั้นเขา…..ก็แคร์หนูมากนะ” เป๋าเยี่ยนอยู่มาหลายปีแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไร มองแวบเดียวก็เข้าใจแล้ว
“เขารู้สึกผิด” เป๋าฮวนตอบกลับไป
สำหรับเธอแล้ว เฟิงหานชวนมั่นใจว่าเป็นเพราะคำโกหกนั้น ทำให้เธอต้องฆ่าตัวตาย ดังนั้นเขาจึงรู้สึกผิดอยู่ในใจ เนื่องจากความกดดันทางจิตใจมากเกินไปส่งผลให้เขาล้มป่วย
ต้องเป็นแบบนี้แน่!
“ให้เขาพักผ่อนเถอะ เราออกไปก่อน” เป๋าเยี่ยนส่ายหน้าอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็พูดกับเป๋าฮวนว่า : “หลานอยู่ดูแลเขาเถอะ”
“คุณตา…” เป๋าฮวนประหลาดใจ และอึ้งงันในเวลาเดียวกัน
เป๋าเยี่ยนมาพูดอะไร นอกจากหมุนตัวและเดินออกจากห้องไป หลังจากพ้นประตูห้องแล้ว เป๋าเยี่ยนก็หมุนตัวกลับมาตรงหน้าของเป๋าฮวนอีกครั้ง
“ฮวนฮวน เรื่องที่หลานทำทั้งหมด หลานคงจะทำตามหัวใจของตัวเอง ตาเคารพการตัดสินใจของหลานนะ ดังนั้นหลานไม่ต้องแบกรับความรู้สึกผิดใด ๆ แล้วนะ เข้าใจไหม?” เป๋าเยี่ยนกุมมือของเป๋าฮวน พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
เป๋าเยี่ยนอยู่มาตั้งนานขนาดนี้ ย่อมรู้จักความคิดของเธอมากกว่าเป๋าฮวนเองเสียอีก
“ค่ะ คุณตา” เป๋าฮวนรู้สึกโง่เขลาไปชั่วขณะ ทำได้เพียงแค่พยักหน้าเห็นด้วย
เป๋าเยี่ยนและคนอื่น ๆ ลงไปข้างล่าง เป๋าฮวนเพิ่งกลับเข้ามาในห้อง จากนั้นก็ปิดประตู
ในเวลานี้ ในห้องพักแขก มีแค่เธอกับเฟิงหานชวนสองคน เฟิงหานชวนยังคงสลบไสล นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง
เป๋าฮวนเข้าใจความหมายของคุณตา บางทีคุณตาอาจจะคิดว่าเธอชอบเฟิงหานชวนก็ได้
จริง ๆแล้ว เธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับเฟิงหานชวนกันแน่
ในตอนที่เขาสลบไปนั้น เธอร้อนใจมาก เธอเหมือนคนบ้า เธอเหมือนกับมดที่อยู่ในกระทะร้อน ร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูก
หลังจากที่เธอรู้ว่าเขาจะขอหลีซืออวิ๋นแต่งงาน เธอก็โกรธมาก เธอฉุนเฉียวมาก จนถึงขั้นรู้สึกแย่มากด้วย
ดังนั้น ในใจของเธอก็แคร์เฟิงหานชวนมากจริง ๆ?
แต่ เธอไม่อยากแคร์ เธอไม่อยากมีความสัมพันธ์กับผู้ชายแบบนี้อีกแล้ว
เธอถูกหลอกมาแล้วครั้งหนึ่ง และได้ “เกิดใหม่” ทำไมจะต้องตกอยู่ในวังวนแบบนี้อีก?
“ฮวนฮวน……”
ในตอนที่เธอกำลังจมปลักอยู่กับความคิดของตัวเองนั้น เธอก็ได้ยินเสียงเรียกหาเบา ๆ
ดวงตาทั้งสองข้างของเป๋าฮวนเป็นประกาย จากนั้นก็รีบพุ่งไปยังข้างเตียง เมื่อเห็นผู้ชายตรงหน้าค่อย ๆ ลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมาอย่างช้า ๆ วินาทีนี้ หัวใจของเป๋าฮวนก็เต้นระรัว
“คุณฟื้นแล้ว! เฟิงหานชวน คุณฟื้นแล้ว!” เป๋าฮวนตะโกนออกไปด้วยความโล่งใจ
“ฮวนฮวน ผมไม่ได้ ผมไม่ได้…….” น้ำเสียงของเฟิงหานชวนนั้นต่ำมาก ดูเหมือนจะไม่มีเรี่ยวแรง แต่ไม่นานก็เหมือนจะอธิบายอะไรสักอย่าง
“เอาละ ๆ คุณไม่ต้องพูดแล้ว คุณพักผ่อนเถอะค่ะ! คุณตารู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ เขาไม่ได้ทำร้ายคุณ คุณพักผ่อนได้อย่างสบายใจ” เป๋าฮวนรีบอธิบายทันที
เธอเป็นกังวลว่าเฟิงหานชวนจะคิดว่าตระกูลเป๋าทำร้ายเขาหลังจากที่เจอเขา ดังนั้นจึงไม่กล้าพักผ่อนอย่างสบายใจ
เฟิงหานชวนไม่เพียงแต่จะไม่พักผ่อนแล้วเท่านั้น อีกทั้งยังพยายามลุกขึ้นมานั่งอีกด้วย ในปากก็พร่ำเรียกแต่ “ฮวนฮวน” ชื่อของเธอ
เป๋าฮวนรีบประคองตัวเขา อยากจะกดเขากลับลงไปนอนพักบนเตียง แต่ดูเหมือนผู้ชายคนนี้จะอยากนั่งคุยอะไรบางอย่าง เป๋าฮวนจึงจำใจประคองตัวเขาขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง
“คุณหิวใช่ไหม? ฉันจะไปทำอาหารให้คุณกินนะ อยากดื่มน้ำอะไรไหม?” เมื่อเห็นริมฝีปากที่ซีดเผือดของผู้ชายตรงหน้า เป๋าฮวนก็ตระหนักได้ว่าเฟิงหานชวนยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อคืน
อีกทั้งเมื่อคืนพวกเขาสองคนก็ใช้แรงค่อนข้างมากด้วย ตอนนี้เฟิงหานชวนก็ยังมาป่วยอีก ถ้าไม่กินอาหาร เกรงว่าน้ำตาลในเลือดคงต่ำลงกว่าเดิมแน่
ตอนที่เป๋าฮวนหมุนตัวเตรียมจะเดินจากไปนั้น มือใหญ่ของผู้ชายก็คว้าข้อมือของเธอไว้
เป๋าฮวนหันกลับไปมอง มือของผู้ชายตรงหน้าออกแรงบีบแน่น อีกทั้งยังเป็นมือข้างที่เจาะน้ำเกลืออีกด้วย
“คุณจะทำอะไร? รีบปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ มือข้างนี้ของคุณเจาะสายน้ำเกลืออยู่ด้วย ทำแบบนี้มันมีผลต่อการให้น้ำเกลือนะ!” เป๋าฮวนจำได้ก็เลยตะโกนขึ้นเสียงดัง
“ฮวนฮวน อย่าไป ……” เฟิงหานชวนเงยหน้ามองเธอ ดูเหมือนในดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นได้สะท้อนความอ้อนวอนออกมาอย่างเห็นได้ชัด
เป็นการอ้อนวอนเล็ก ๆ น้อย ๆ
เป๋าฮวนรู้สึกตัวสั่นเทิ้มไปทั้งตัว รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย และถามขึ้นว่า : “คุณอยากจะพูดอะไร?”
“ฮวนฮวน ผมไม่เคยรู้สึกอะไรกับหลีซืออวิ๋นเกินเลยกว่านั้น ผมไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงคิดว่าผมอยากจะขอเธอแต่งงาน ให้ผมโทรศัพท์หาเธอตอนนี้ก็ได้ ผมจะได้ถามให้ชัดเจนไปเลย แบบนี้คุณก็ได้เข้าใจ ดีไหม?” น้ำเสียงของเฟิงหานชวนแหบพร่า ดูเหมือนจะแข็งกร้าวอยู่เล็กน้อยด้วย
เป๋าฮวนอึ้งงันไป เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังเชื่อคำพูดของเฟิงหานชวน แต่ทุกครั้งความจริงก็มักจะ…
ดังนั้น เธอจึงอยากให้เขาโทรศัพท์หาอีกฝ่ายจริง ๆ ใช่ไหม?
“นี่โทรศัพท์ของคุณ!” เป๋าฮวนหยิบโทรศัพท์สีดำเครื่องหนึ่งจากหัวเตียง จากนั้นก็ยัดใส่มืออีกข้างของเฟิงหานชวน
เวลานี้ ภายในห้องเงียบสงัดลง ทันใดนั้นผู้ชายตรงหน้าก็หัวเราะด้วยเสียงเบา ๆ
“คุณหัวเราะอะไร?” เป๋าฮวนย่อมรู้ว่าเป็นเสียงหัวเราะของเฟิงหานชวน
เพราะเธออยู่ข้างเตียงของเขา เธอเห็นมุมปากของเขากระตุกยิ้ม เธอได้ยินเสียงหัวเราะของเขา
“ฮวนฮวน คุณแคร์ผม” เฟิงหานชวนเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาสีดำยากหยั่งถึงคู่นั้นได้จ้องเขม็งไปทางเป๋าฮวน ก่อนจะพูดอย่างมั่นใจว่า : “ผมยอมรับ”
เป๋าฮวน : “……”
“ฮวนฮวน รอให้ผมเคลียร์เรื่องนี้ชัดเจนก่อน คุณจะกลับมาอยู่ข้างกายผมได้ไหม?” เฟิงหานชวนรู้สึกว่าสภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นมาก เพราะเขามั่นใจว่าเป๋าฮวนนั้นแคร์เขาจริง ๆ
แคร์เขามากจริง ๆ
เป๋าฮวน “……”
“ฮวนฮวน คุณตอบให้ผมมั่นใจหน่อยจะได้ไหม?” เมื่อเห็นเป๋าฮวนเงียบไป เฟิงหานชวนก็เค้นถาม และบีบข้อมือเธอแรงขึ้น
“คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” เป๋าฮวนตะคอก แต่ไม่ได้ตะคอกด้วยอารมณ์โกรธแต่อย่างใด เธอเพียงแค่กังวลใจก็เท่านั้น
เธอกังวลว่าหากเฟิงหานชวนออกแรงมากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อสายน้ำเกลือที่ข้อมือเขา
“โอเค ผมปล่อยก็ได้” เฟิงหานชวนค่อย ๆ ปล่อยมือ
เพราะว่าเขาทำใจไม่ได้ที่เห็นเป๋าฮวนกระวนกระวายใจ ทำใจไม่ได้ที่เห็นเธอเป็นกังวลเพราะเขา
เพียงแต่หลังจากที่เฟิงหานชวนปล่อยมือของตัวเองแล้ว ก็ไม่มีใครพูดอะไรกันอีก ภายในห้องตกสู่ความเงียบสงัดไปครู่หนึ่ง
“ฮวนฮวน ผม……” เฟิงหานชวนอยากจะพูดออกมา แต่กลับถูกเป๋าฮวนพูดแทรกเสียก่อน
เธอพูดอย่างจริงจังว่า : “คุณอย่ามัวแต่พูดพร่ำอยู่เลย ถ้าคุณไม่มั่นใจ ก็รีบโทรหาหลีซืออวิ๋นสิ อย่ามาเรียกร้องอะไรกับฉัน”
อันที่จริงแล้วเป๋าฮวนก็ร้อนใจอยู่เหมือนกัน เธออยากรู้ความจริงระหว่างเฟิงหานชวนกับหลีซืออวิ๋น ตกลงแล้วมันใช้การขอแต่งงานหรือไม่ ตกลงเหตุการณ์มันเป็นยังไงกันแน่
เธอเองก็อยากรู้ อยากเข้าใจ ไม่อยากสับสนแบบนี้อีกแล้ว
ในเมื่อเฟิงหานชวนบอกว่าเขาบริสุทธิ์ งั้นก็เธอก็ขอดูหน่อย ว่าเขาจะโกหกไหม!
“ได้ งั้นผมจะโทรกลับหาเธอตอนนี้” เฟิงหานชวนก็คิดเหมือนกัน อยากจะรู้ว่าเรื่องเป็นมายังไงกันแน่
ถึงอย่างไร เขาก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งใด ๆ กับหลีซืออวิ๋น เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหลีซืออวิ๋นถึงได้พูดคำเหล่านี้ออกมา
ทันทีที่เขาพูดออกไป จู่ ๆ โทรศัพท์ก็สั่นขึ้น มีสายโทรเข้ามาจากวีแชท
เฟิงหานชวนรีบไถ่หน้าจอ ซึ่งก็เป็นสายวีแชทจากเฟิงหย่าหลานสาวของเขา
เป๋าฮวนยื่นหน้าเข้าไปดู และก็เห็นชื่อของเฟิงหย่า เธอจึงพูดขึ้นด้วยความสงสัย : “หลานสาวของคุณ? คุณรับก่อนเถอะ”
“อื้อ ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงโทรมากะทันหัน แต่จะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในบ้านแน่ ๆ” หลังจากที่เฟิงหานชวนตอบกลับ เขาก็กดรับสาย และถามขึ้น
ไม่ว่าจะเรื่องอะไร เขาก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังเป๋าฮวน เขาอยากให้เป๋าฮวนเข้าใจตัวเขา
เวลานี้ ภายในห้องเงียบสงัดลง มีแค่เสียงที่ดูสดใสแต่แฝงไปด้วยน้ำเสียงตำหนิของเด็กสาวดังขึ้นว่า : “อาสาม ทำไมอาไม่ตอบวีแชทของพี่อวิ๋นละคะ? เธอรอข้อความจากอาทั้งวันเลยนะคะ!แล้วตอนนี้อาอยู่ที่ไหน? กลางวันก็ไม่อยู่บริษัท กลางคืนก็ไม่กลับบ้าน…..”
เป๋าฮวนเพิ่งคิดได้ เธอเห็นข้อความที่หลีซืออวิ๋นส่งมาให้กับเฟิงหานชวนตั้งแต่เช้าตรู่ ตอนนั้นน่าจะเป็นตอนเช้าที่ประเทศฮัว
ดังนั้น เช้าวันที่สองที่เธออยู่ตอนนี้ ประเทศฮัวก็คงจะมืดค่ำแล้ว
เฟิงหย่าพูดถูก หลีซืออวิ๋นรอเฟิงหานชวนมาทั้งวันแล้ว
“ที่เธอส่งวีแชทเหล่านั้นมา หมายความว่ายังไง?” เฟิงหานชวนขมวดคิ้ว เดาได้ว่าเฟิงหย่าต้องรู้ต้นสายปลายเหตุแน่นอน
เขาจึงรีบคว้าโอกาส ถามเฟิงหย่าออกไปก่อนว่า :” อาไปขอเธอแต่งงานตอนไหน?”
“อาสาม ก็อาอยากแต่งงานกับพี่อวิ๋นไม่ใช่เหรอ? ทำไมอาถึงไม่ยอมรับละคะ!” เฟิงหย่าถามกลับด้วยความตกใจ
MANGA DISCUSSION