อาริซากะช่วยผู้กล้ามาแล้วนับไม่ถ้วน - ตอนที่ 2.1 นี่คือต่างโลกสินะงั้นขอเวลาฟาร์มของแป๊บนึง 1
- Home
- อาริซากะช่วยผู้กล้ามาแล้วนับไม่ถ้วน
- ตอนที่ 2.1 นี่คือต่างโลกสินะงั้นขอเวลาฟาร์มของแป๊บนึง 1
ฉันที่เริ่มรู้สึกตัวค่อยๆลืมตาตื่นและค่อยๆลุกขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่”กลางป่า…”ที่ไหนก็ไม่รู้ ฉันที่ลองเปิดแผนที่ดูก็พบว่าทุกส่วนของแผนที่ไม่มีอะไรแสดงเลย”งานเข้าแล้วไงแล้วจะทำยังไงต่อดีล่ะทีนี้…ช่างมันแล้วกันเดินไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เจออะไรสักอย่างเองนั่นแหละ”ฉันได้ตัดสินใจเดินทางไปเรื่อยๆไร้จุดหมาย เพราะถ้ารออยู่นี่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ดี
2 ชั่วโมงต่อมา ฉันได้เดินไปเรื่อยๆจนได้เจอกับ…จะอธิบายยังไงดีมันคล้ายๆคนแคระแต่มีผิวเป็นสีเขียวถ้าจำไม่ผิดรู้สึกเรียกกันว่าก็อบลิน ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกพวกนี้จะไม่เป็นมิตรสินะ แต่เท่าที่ดูแล้วพวกมันมีประมาณ 30 กว่าตัวและอาจจะเยอะกว่านี้ด้วย”เยอะเป็นบ้าเลย อ้อมไปแล้วกัน”ระหว่างที่กำลังอ้อมไปอยู่นั้น อยู่ดีๆก็มีเสียงคล้ายกับแตรดังขึ้น “Ahhhg” หลังจากที่เสียงแตรดังขึ้น อยู่ดีๆพวกก็อบลินก็ตะโกนขึ้นมาแล้วพวกมันก็รีบวิ่งไปที่ไหนสักที จากการคาดเดาพวกมันน่าจะไปหาต้นตอของเสียงรีบหน่อยดีกว่า ระหว่างที่กำลังย่องผ่านอยู่นั้นก็ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นด้านหน้าของฉันห่างออกไปประมาณ 50 เมตร ไปดูหน่อยก็แล้วกัน
ฉันได้วิ่งมาถึงต้นตอเสียงระเบิดก็พบกับคนสามคนที่กำลังสู้กับพวกก็อบลินประมาณ 40 กว่าตัว และดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงทั้งแก๊งเลยด้วย “เอาไปกินซะไอ้พวกโง่ כדור אש”หลังจากที่ผู้หญิงคนนึงได้พูดบทสวดหรืออะไรสักอย่าง ได้มีลูกไฟออกมาจากมือและได้ไปโดนก็อบลินตัวนึงเสียชีวิตทันทีดูจากการแต่งตัวน่าจะเป็นนักเวทย์ และอีก 2 คนที่เหลือดูเหมือนจะเป็นนักดาบ ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะช่วยพวกเขาดีไหมแต่ระหว่างที่กำลังดูสถานการณ์อยู่นั้น ก็ได้มีก็อบลินจำนวนหนึ่งพยายามอ้อมไปอยู่ด้านหลังพวกเขา”ไม่มีทางเลือกแล้วสินะ”ฉันได้ตัดสินใจพุ่งออกไปช่วย
ฉันได้ออกมาจากพุ่มไม้และได้ตะโกนบอกพวกเขา”ด้านหลังมีก็อบลินอยู่!”หลังจากที่ฉันบอกไปก็เขาก็หันไปจัดการพวกด้านหลังทันที”ขอบคุณมากกว่าไปเธอเป็นใครเหรอ”นักเวทย์ได้ถาม”แค่คนดีที่ผ่านทางมารีบจัดการพวกมันให้หมดก่อนแล้วค่อยคุยกัน”พวกเขาทั้งสามคนก็พยักหน้าตอบ ฉันก็ได้ชักดาบออกมาแล้วก็เริ่มจากการพวกมันทีละตัวทีละตัว
ฉันได้สู้กับพวกก็อบลินไปสักพักนึงก็เริ่มรู้สึกว่าดาบที่ตัวเองถืออยู่มันไม่ค่อยถนัดเลยเพราะมันทั้งหนักและไม่ค่อยคล่องตัวเลยน่าจะมาจากการที่สกิลดาบยังไม่มากพอแล้วมั้ง “ในนี้ใครพอมีมีดหรือดาบสั้นบ้าง”ฉันได้ถามออกไป “พอมีอยู่นี่”นักเวทย์ได้โยนมีดสั้นให้ฉัน ฉันได้ทำการเก็บดาบเข้าฝักดาบและได้ใช้มีดที่นักเวทย์ให้มาฆ่าพวกมันต่อ พอสู้กับพวกมันไปสักพักหนึ่งพวกมันก็เริ่มมีน้อยลงหลังจากที่มันรู้ว่ามันเสียเปรียบพวกมันก็เริ่มหนี”ในที่สุด”
“ขอบคุณอีกครั้งที่มาช่วยพวกเรานะจะว่าไปคุณชื่ออะไรหรอคะ”นักเวทย์ได้ถามระหว่างที่พวกเราพักกันอยู่”ฉันชื่อ…”เดี๋ยวก่อนนะในอาณาจักรนี้เขาใช้ชื่อนำหน้าหรือสกุลนำหน้า เอาเป็นว่าเอาชื่อนำหน้าเหมือนชาวยุโรปก็แล้วกัน”ดิฉันชื่อ อาริซากะ มิยาโกะค่ะ แล้วคุณล่ะคะ””ฉันชื่อ ฮิลารี โนเอล เป็นนักเวทย์ของปาร์ตี้ 402 ยินดีที่ได้รู้จัก””ฉันชื่อ เซเลสทีน มาร์ตินา เป็นนักดาบเวทของปาร์ตี้ 402 ยินดีที่ได้รู้จัก””ฉันชื่อ เคียน่า แซนเดอร์สัน เป็นนักดาบและหัวหน้าของปาร์ตี้ 402 ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”หลังจากนั้นพวกเราได้คุยอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนกินเวลาไปนิดหน่อย
“ถ้าหายเหนื่อยกันแล้วมาช่วยเก็บหินเวทย์กันหน่อยเร็วเข้า”เคียน่าได้ลุกขึ้นและได้พูดกับพวกเราทุกคน”หินเวทย์ มันคืออะไรหรอคะ?”ฉันได้ถามออกไปด้วยความสงสัย”นี่เธอไม่รู้จักหินเวทย์เหรอ”ฮิลารีได้ถามด้วยความตกใจ ชิบหายแล้วไงแล้วกูจะตอบเขายังไงวะเนี่ย”คือว่า…ประเทศของฉันไม่ค่อยมีอะไรแบบนี้นะคะ”ไม่ใช่ไม่ค่อยไม่มีไม่มีเลยดีกว่า”แปลกๆนะเนี่ยเพราะว่าทั่วโลกก็ต้องมี Monster แบบนี้ทั่วไป เธอมาจากประเทศไหนงั้นเหรอ?”เคียน่าได้ถามอาริซากะ เอาแล้วไงโดนสงสัยใหญ่เลย”คือว่าประเทศของฉันห่างไกลจากที่นี่เอามากๆก็เลยไม่ค่อยอยากพูดถึงนะคะ””อย่างนี้นี่เองตามมาเดี๋ยวฉันสอนวิธีเก็บหินเวทย์แล้วพวกเธอสองคนล่ะ””พวกฉันขอพักอยู่ที่นี่ก่อนเราทั้งสองคนมานาแทบไม่เหลือแล้ว”ฉันตามเคียน่าไปทันทีเพราะกลัวพวกเขาจะสงสัย
เราได้มาถึงจุดที่พวกเราสู้กับพวกก็อบลินห่างจากแคมป์พวกเราไม่มากนัก”เดี๋ยวฉันจะสอนวิธีเก็บหินเวทย์ส่วนใหญ่หินเวทย์ของพวก Monster จะอยู่ตรงกลางอก วิธีการคือเอามีดเจาะลงไปกลางอกของพวกมันและค่อยๆลากลงอย่างช้าๆจนขนาดที่สามารถเอามือของเธอเข้าไปได้และค่อยๆดึงหินเวทออกมาช้าๆนี่ไงได้แล้ว จำไว้อย่าทำเร็วเกินไปไม่งั้นหินเวทย์อาจจะเสียหายได้ ไหนลองทำดูซิ”เคียน่าได้โชว์วิธีการเก็บหินเวทย์ ฉันที่เห็นก็รู้สึกเฉยๆอยู่หรอกเพราะน่าจะชินอะไรแบบนี้แล้ว
งั้นมาลองหน่อยดีกว่า เอามีดเจาะลงไปกลางอกและค่อยๆลากลงอย่างช้าๆและค่อยๆดึงหินเวทออกมา”นี่ไงได้แล้ว””ไม่เลวนี่สำหรับมือใหม่”เคียน่าได้เอ่ยปากชมอาริซากะ”รีบทำให้เสร็จก่อนที่จะมืดเร็ว”เคียน่าบอก หลังจากที่พวกเราเก็บหินเวทย์เสร็จ พวกเราก็กลับไปที่แคมป์แล้วก็พักกันเพราะพรุ่งนี้พวกเราก็ต้องเข้าเมืองตั้งแต่เช้า ตื่นเต้นจังที่จะได้เห็นเมืองในต่างโลก
เช้ารุ่งขึ้น พวกเราทั้ง 4 คนได้เดินทางเข้าเมืองระหว่างทางพวกเคียน่าก็เล่าเกี่ยวกับเมือง กรีนวูด ให้ฟัง
เมือง กรีนวูด (גרינווד) เป็นเมืองที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เมืองมีแม่น้ำขนาดใหญ่ตัดผ่านตรงกลางซึ่งเหมาะกับการค้าทางเรือและทางบกเป็นอย่างมาก และก็เป็นที่ทำเงินของนักผจญภัยมากหน้าหลายตาเช่นกันก็เพราะมีดันเจี้ยนมากมายที่รอให้นักผจญภัยไปสำรวจ What a perfect city.
พวกเราได้เดินกันมาประมาณ 5 กิโลเมตรพวกเราก็ถึงประตูหน้าเมือง”ยินดีต้อนรับกลับนะทุกคน จะว่าไปคุณเอลฟ์สุดสวยคนนั้นเป็นใครหรอ” ทหารยามที่เฝ้าอยู่หน้าประตูทางเข้าได้เดินเข้ามาทักทายและได้ถามพวกเคียน่าว่า เอลฟ์สุดสวยที่ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นใคร”เธอคนนี้เป็นผู้มีพระคุณของพวกเราเธอคนนี้มีชื่อว่า อาริซากะ มิยาโกะ ทำตัวดีๆกับเธอหน่อยแล้วกัน””ครับๆ ผม เดวี่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”เขาได้ยื่นมือมาเพื่อจับมือทักทาย”เช่นกันค่ะ”
พวกเราได้คุยทำความรู้จักกันอยู่หน้าเมืองสักแป๊บนึงหลังจากที่เราคุยกันเสร็จ พวกเราก็ได้เข้าเมืองแต่ปัญหามันอยู่ที่ฉันนี่แหละ”ขอบัตรยืนยันตัวตนหน่อยครับ คุณอาริซากะ”เอาแล้วไง! โกหกไปก่อนแล้วกัน”ระหว่างที่เดินทางอยู่ พอดีฉันทำบัตรยืนยันตัวตนหายนะค่ะ”จะโดนจับได้ไหมวะ”งั้นเหรอครับกรุณาไปเบิกบัตรที่ศาลากลางก่อนถึงเที่ยงพรุ่งนี้ด้วยนะครับ ถ้าไม่เบิกรับรองพรุ่งนี้บินแน่””เข้าใจแล้วค่ะ”เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ
ระหว่างที่พวกเราเดินอยู่ในเมือง คุณฮิลารีก็ได้ทักขึ้น”จะว่าไปตอนที่อยู่หน้าป้อมทำไมเธอถึงตรวจบัตรนานจัง”ฉันได้หันไปแล้วตอบว่า”พอดีเช่นทำบัตรหายนะคะ ขอโทษที่ทำให้เสียเวลานะคะ”ฉันได้ก้มหัวลงนิดนึง”ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้”คุณฮิลารี ตกใจนิดนึงและได้บอกฉันว่าจะทำแบบนั้นอีก “รีบๆหน่อยสองคนนั้น ไม่อยากได้เงินหรือไง”คุณเคียน่า ได้เรียกพวกเราทั้งสองคน”จะไปเดี๋ยวนี้แหละ ไปกันเถอะ””ค่ะ”