อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 - ตอนที่ 109 การจากลาที่ขมขื่น
ตอนที่ 109 การจากลาที่ขมขื่น
ชูฟี่ บลูมฟิลด์ “จตุรดาราแห่งบูรพา”ผู้ใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูที่มีผมหยักสีเขียว
ถึงส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวพร้อมกับปาร์ตี้ แต่สำหรับศึกป้องกันขนาดใหญ่อย่างบอเดอร์ซาร์ดเธอจะย้ายมาสนับสนุนแนวหลัง
เวทมนตร์ฟื้นฟู ปริมาณการฟื้นฟูจะเปลี่ยนไปตามค่าสมาธิและความศรัทธา ซึ่งเป็นเวทมนตร์ที่ไม่เหมาะกับแนวหน้า
“ท่านชูฟี่ ท่านชูฟี่ ขอบพระคุณมากครับ……!”
“จริงเหรอเนี่ย รักษาแผลขนาดนั้นได้ในพริบตา”
“เทวดาที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา……”
“นักบุญหญิง……”
ชูฟี่ยังคงใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูต่อไปเรื่อยๆ ภายในห้องโถงที่ถูกใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหนื่อย เพราะใช้เวทมนตร์มาทั้งคืน
ถึงกระนั้นก็ยังยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน แล้วหน้าอกขนาดใหญ่—-ขนาดพอๆกับพริสซิลล่า ที่มอบความอุ่นใจให้กับเหล่าผู้คน
“ท่านชูฟี่ กรุณาพักก่อนเถอะครับ”
พนักงานของกิลด์นักผจญภัยเข้าหาอย่างนอบน้อม คงไม่มีพนักงานคนไหนที่จะทำอะไรโง่ๆ กับเธอที่สามารถรักษาผู้บาดเจ็บหนักเจียนตายให้รอดได้
“ขออีก แค่นิดเดียว……”
ถึงชูฟี่จะพูดด้วยน้ำเสียงน่ารักไพเราะ แต่พนักงานของกิลด์ก็ไม่ยอมถอย
“เกรงว่าร่างกายของท่านชูฟี่จะไม่ไหวเสียก่อน แล้วการรักษาผู้บาดเจ็บหนักก็เกือบหมดแล้วด้วยครับ”
“เกือบหมด……? แต่เท่าที่ฉันเห็นยังมีคนที่ทรมานอยู่อีกมากเลยนะ”
“เรื่องนั้น……”
สิ่งที่พนักงานกิลด์พูดไม่ใช่เรื่องโกหก “ผู้บาดเจ็บหนัก” รักษาเสร็จหมดแล้ว ที่เหลืออยู่ก็แค่ “ผู้บาดเจ็บเล็กน้อย” กับ “ผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้แล้ว” เท่านั้น
“ถ้าเวทมนตร์ของฉันพอจะยื้อชีวิตให้พวกเขาได้แล้วละก็จะทำค่ะ ระหว่างนั้นถ้ารอผู้ใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูจากศาสนจักรกับศูนย์รักษาของพื้นที่ต่างๆ น่าจะช่วยพวกเขาได้อยู่ค่ะ”
“ท่านชูฟี่……”
พนักงานกิลด์ปาดน้ำตาโดยไม่รู้ตัว
หลายแห่งรู้แล้วว่าบอเดอร์ซาร์ดกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ถึงสภาพจะเริ่มผ่อนคลายขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีผู้ใช้เวทมนร์ฟื้นฟูมาสักกี่คน
แถมชูฟี่ ไม่รับค่าตอบแทนในการใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูเลยสักนิด
พนักงานกิลด์ไม่เคยเห็นคนที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความเมตตาขนาดนี้มาก่อน เลยคิดว่าเหมาะสมแล้วที่จะเรียกว่า “นักบุญหญิง”
“คนต่อไป……เป็นนักผจญภัยของพอนโซเนียสินะ คุณเพียกับคุณพริสซิลล่า”
“ครับ—–อ้าว?”
ตรงที่ทั้งคู่นอนอยู่ไม่มีใคร
“เห็นว่า ‘ส่วนท้องแห่วง’ กับ ‘โดนพิษหลายชนิดจนอยู่ในอาการโคม่า’ นี่—–มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า?”
“เอ๊ะ? มะ ไม่นะครับ….แปลกจริงๆเลย ตอนที่ผมมาตรวจสอบยังอยู่ในสภาพที่เลวร้ายอยู่เลย……”
พนักงานกิลด์พูดด้วยเสียงสั่นเครือ คงคิดว่าเสียชีวิตแล้ว เลยย้ายร่างออกไปหรือเปล่า
“อ๊ะ 3 คนตรงโน้นไงครับ”
ตอนนั้นเองที่พนักงานกิลด์สังเกตุเห็น 3 คนนั้นเข้าไปในห้องโถง
นักผจญภัยเพีย พริสซิลล่า และมีสาวน้อยอีกคนเดินตามไป
เดินได้ปกติ
คิดว่ามองผิดคน แต่เกราะท้องของเพียแหว่งไป ทำให้คิดว่าไม่ผิดตัวแน่ๆ
“เอ๊ะ? อ้าว? ทำไมแข็งแรงดีแล้วล่ะ?”
พนักงานกิลด์ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็เกิดเรื่องเหลือเชื่อยิ่งขึ้นไปอีก
พวกเธอมุ่งหน้าไปยัง “ผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้แล้ว”—-สาวน้อยที่ตามมาเหมือนโดนเพียลากไปอย่างไม่เต็มใจสักเท่าไร
เพีบกับพริสซิลล่าหยิบผ้าผืนใหญ่ออกมากางราวกับฉากกั้นเพื่อซ่อนนักผจญภัยเอาไว้
“ทำอะไร……กันอยู่เนี่ย? โน้นใช่เด็กผู้หญิงที่บาดเจ็บสาหัสจริงหรือคะ?”
“คะ ครับ น่าจะเป็นอย่างนั้น”
เด็กผู้หญิงที่ตามเพียกับพริสซิลล่า ถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ แล้วเดินเข้าไปในบริเวณผ้าที่กางเอาไว้
ดูเหมือนจะไม่รู้ว่าชูฟี่กับพนักงานกิลด์อยู่ตรงเสาพอดี
“!”
แล้วชูฟี่ก็ตัวแข็งทื่อ
เพราะว่า—-รับรู้ได้ถึงพลังเวท
“เวทมนตร์ฟื้นฟู……!”
“เอ๊ะ? เด็กคนเมื่อครู่ใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูเหรอ? อ้อ จะว่าไปใช้พวกเวทมนตร์ฟื้นฟูเบื้องต้นได้อยู่ครับ”
“อ๊ะ ท่านชูฟี่!”
พนักงานกิลด์รีบร้อนไล่ตามชูฟี่ที่ออกวิ่ง
ตอนที่สาวน้อยลุกขึ้น เพียกับพริสซิลล่าก็แสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมา
“พวกเธอ! ทำอะไรกันอยู่หรือคะ!?”
ชูฟี่ส่งเสียงออกมาอย่างร้อนรน ทำให้สาวน้อย 3 คนตกใจ
แล้วทั้ง 3 คนก็วิ่งหนีไป
“—————”
ชูฟี่ไม่ได้วิ่งไล่ตามไป แต่หยุดยืนอยู่ข้างหน้านักผจญภัยที่กำลังนอนอยู่
“ดะ เด็กพวกนั้นอะไรกันเนี่ย……มีอะไรหรือครับท่านชูฟี่?”
“อาการป่วยของคนคนนี้คือ”
“ครับ?”
“จะว่าไปตั้งแต่ศอกซ้ายขาด กับขาขวาอยู่ในสภาพเป็นหินมั้งครับ?”
“เอ๊ะ ว่าไงนะ”
พนักงานกิลด์พูดออกมาในขณะที่ตรวจสอบรายชื่อผู้ป่วย
“—–ใช่แล้ว อาการตามนั้นเลยครับ”
“หายสนิทแล้ว”
“……หา?”
พนักงานกิลด์ส่งเสียงกลับมาพร้อมกับมองไปที่นักผจญภัย
“เอ๊ะ……”
ถึงจะยังหมดสติอยู่ แต่สีหน้าก็ดีขึ้นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นตั้งแต่ศอกซ้ายที่ขาดไปก็งอกกลับมา แถมขาขวาที่กลายเป็นหินก็รักษาหายแล้ว
“เรื่องนั้น เป็นไปไม่ได้……!?”
“ช่วยกันไปตามหาตัวเธอด้วยค่ะ เธอน่าจะเป็นผู้เวทมนตร์ฟื้นฟูที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าฉันอีกค่ะ!”
“ยิ่งกว่าท่านชูฟี่!?”
“เร็วเข้า! รีบไปหากันเถอะค่ะ!”
“อ๊ะ คะ ครับ!”
พนักงานกิลด์รีบออกมาจากห้องโถง
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก……ทั้ง 3 คนหายใจหอบอยู่ตรงซอยด้านหลัง
“ดูเหมือน ที่พอลล่าบอก จะเป็นเรื่องจริง……นักผจญภัยคนนั้นหายแล้ว”
คนที่พูดออกมาคนแรกคือพริสซิลล่า เสียงของเธอค่อนข้างตื่นเต้นซึ่งเป็นอะไรที่หายากมากสำหรับเธอ
“อือ……ก็บอกแล้วไงว่าไม่อยากทำ ถ้าความแตกจะแย่เอา ฉัน จะออกจากเมือง—–”
“มันยอดไปเลยไม่ใช่เหรอ!!”
เพียที่ตื่นเต้นยิ่งกว่าจับไหลของพอลล่า
“นั่นมันอะไรเนี่ย!? เวทมนตร์นั้น!? เธอทำอย่างนั้นได้ตั้งแต่เมื่อไร!? ถ้ามีสิ่งนั้น ฉันคงจัดการศัตรูได้โดยไม่ต้องห่วงอาการบาดเจ็บแล้ว!”
“จะ เจ็บนะ เพีย……”
“อ๊ะ โทษที”
ถึงเพียจะปล่อยมือแล้ว แต่อาการเจ็บตรงไหล่ยังคงอยู่
“แต่ว่านะพอลล่า อย่าพูดอะไรบ้าๆอย่างการบอกว่าจะออกจากเมืองนี้สิ ก่อนอื่นไปรักษาคนที่บาดเจ็บหนักกันก่อน แล้วเก็บค่ารักษามา เท่านี้พวกเราก็จะรวยกันแล้ว!? หลังจากนั้นก็ไปซื้ออุปกรณ์ใหม่ๆ ทีนี้เราจะไปที่ไหนก็ได้แล้ว!”
“————-”
พอลล่าดูเพียที่เปลี่ยนไป—-ในที่สุดก็รู้ถึงความโง่เขลาของตัวเอง
ตอนแรกเพียคิดว่าพอลล่า “ขายร่างกายของตัวเองเพื่อแลกกับโพชั่นระดับสูง”
แต่ตอนที่เผลอหลุดปากไปว่า “เพราะเวทมนตร์ฟื้นฟูต่างหาก” เลยโดนบอกว่า “งั้นแสดงให้ดูหน่อย” พร้อมกับบอกว่า “ถ้าเป็นเรื่องจริงจะยอมรับมัน” เลยทำอย่างเลี่ยงไม่ได้
“จะทำให้ดูแค่ครั้งเดียวนะ”
“แล้วก็ห้ามให้คนอื่นเห็น”
บอกเงื่อนไขออกไป ยังดีที่มีผู้บาดเจ็บหนักอยู่เต็มไปหมด
แต่
แถมเพียยังผิดสัญญา ทั้งที่ควรจะต้องแยกจากกันแล้วแท้ๆ แต่ทำไมถึงพูดถึงเรื่องที่จะผจญภัยหลังจากนี้กัน
(อย่างที่ท่านฮิคารุบอกเอาไว้จริงๆด้วย……)
ความรู้สึกผิดเอ่อล้นอยู่เต็มอก ฮิคารุพูดเอาไว้ว่าจะเกิดการแย่งชิงความสามารถของตัวเธอแล้วจะต้องมีคนตายเกิดขึ้น
มันถูกต้อง
“เพีย ใจเย็นๆ พอลล่าไม่สามารถไปผจญภัยได้อีกแล้วนะ”
พริสซิลล่าคงใจเย็นลงแล้ว ทำให้พอลล่ารู้สึกขอบคุณอยู่
“หา? หมายความว่ายังไงกัน? อ้อ—-พอลล่า หรือพอได้พลังนั้นมาแล้ว พวกฉันจะเป็นไงก็ช่างงั้นเหรอ!?”
“มะ ไม่ใช่นะ! ทำไมมันถึงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้ล่ะ!?”
“แย่นะเนี่ย! ฉันอุตส่าห์ปกป้องเธอด้วยชีวิตแท้ๆ! เธอไม่สนสัญญาที่ให้ไว้กับพวกฉันงั้นเหรอ!!”
“ระ เรื่องนั้นมัน……”
“ใช่ไหมล่ะ!”
“เพีย ใจเย็นๆก่อน”
คราวนี้พริสซิลล่าขึ้นเสียง แล้วแยกให้เพียออกห่างจากพอลล่า
แต่คำพูดของเพียได้เสียดแทงเข้าไปในใจของพอลล่าแล้ว
จริงอยู่ที่เพียเอาตัวเข้าปกป้องพอลล่า ดังนั้น พอลล่าเลยอยากจะช่วยเธอให้ได้แม้ต้องสละชีพของตัวเองก็ตาม
แต่—-กลับสื่อไปไม่ถึงเพีย เธอไม่ยอมเข้าใจ แล้วไม่คิดจะเข้าใจด้วย
“พริสซิลล่าเองก็คงคิดว่ามันแปลกใช่ไหมล่ะ!? จู่ๆเวทมนตร์ฟื้นฟูก็ตื่นขึ้นมาอย่างนี้เนี่ย—-มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?”
“ระ เรื่องนั้น……บอกไม่ได้”
“บอกไม่ได้!? เพราะอะไรกัน!? ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิดก็บอกออกมาสิ!”
“ขอโทษด้วย มันบอกไม่ได้น่ะ!”
ผิดสัญญากับฮิคารุไปแล้ว
ดังนั้นจะผิดสัญญาไปมากกว่านี้ไม่ได้
ได้รับการช่วยชีวิตถึง 2 ครั้ง แถมครั้งนี้ยังช่วยเพียกับพริสซิลล่าอีก
จะหักหลังฮิคารุไม่ได้
“พวกเราไม่ใช่เพื่อนกันเหรอ……”
คำพูดลอยๆนั้น เสียดแทงเข้ามาในจิตใจของพอลล่าอีกครั้ง
เพราะเป็นเพื่อน เลยยอมแสดงเวทมนตร์ฟื้นฟูให้เห็น
“ขอโทษนะ……”
พอลล่าทำได้แค่ก้มหน้าขอโทษ
“เข้าใจแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว”
“……เพีย”
เพียยอมเข้าใจแล้ว
พอลล่าเงยหน้าขึ้นมาด้วยความดีใจ แต่พอได้เห็นรอยยิ้ม—-อันบิดเบี้ยวของเพียก็ถึงกับพูดไม่ออก
“ถ้างั้น ฉันจะไม่ยอมปล่อยเธอไปหรอก ถ้ามีเธออยู่จะมีเงินใช้ไม่อั้นไง และสามารถส่งเงินกลับหมู่บ้านได้ จะได้บอกลาจากชีวิตยากจนสักที และมีชีวตหรูหราได้ตามที่ต้องการเลย!”
“————–”
เคยอ่านจากในหนังสือมาว่า เงินและความสามารถที่มากเกินไปจะทำให้คนเปลี่ยนไป
แต่พอได้มาเห็นต่อหน้าอย่างนี้แล้ว—–มันรู้สึกน่ากลัวมาก
“เพีย อย่างนั้นไม่ได้นะ”
พริสซิลล่ายังคงสงบอยู่
“พริสซิลล่า! เธอเป็นพวกใครกันแน่!? จะให้พอลล่าหนีไปใช้ชีวิตหรูหราคนเดียวงั้นเหรอ!”
“ไม่ใช่นะ พอลล่าเองคงต้องแลกอะไรสักอย่างกับพลังนั้น ดังนั้นมันคงไม่ต่างอะไรกับการ ‘ขายร่างกาย’ และน่าจะรวมไปถึงห้ามบอกความลับนี้ด้วยไง”
พริสซิลล่ามองไปยังพอลล่าด้วยสายตาที่อ่อนโยน
เพียงเท่านั้นก็ทำให้พอลล่าหลั่งน้ำตาแห่งความยินดีออกมา
“ดังนั้น……ไปเถอะ พอลล่า วันคืนที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันมันสนุกมากเลย”
“พริสซิลล่า……เพีย ขอโทษด้วยนะ ฉัน ฉัน—-”
“ไม่เอา! ฉันไม่ยอมรับหรอก!!”
เพียชักดาบออกมา—-ตอนนั้นเอง
“หยุดซะ”
มีมีดมาจ่อตรงคอของเพีย
“!?”
ทั้งที่ตรงนี้อยู่กันตั้ง 3 คน แต่ไม่รู้สึกตัวเลยว่าลอบเข้ามาตอนไหน
คนนั้นมีรูปร่างเหมือนกับเด็กผู้หญิง แต่เพราะคลุมฮู้ดอยู่ และจากความสามารถของเครื่องสวมใส่ทำให้เห็นแค่รางๆ
“กะ กะ แกเป็นใคร……”
“พอลล่าถูกตัดสินให้แต่งงานกับ ‘ราชา’ ท่านหนึ่งไว้แล้ว ถ้าลงมือจะถือว่าเป็นการก่อกบฏ และโดนไล่ล่าไปตลอดชีวิต”
“ว่าไงนะ!?”
“ลองตั้งใจฟังดูสิ”
ได้ยินเสียงมาจากที่ห่างไกลว่า “ไปไหนแล้ว?”, “กลุ่มผู้หญิง 3 คน”
“อะ อะไรกัน……”
เพียถึงกับทรุดลงไปตรงนั้น
ถึงจะมีท่าทีขึงขัง แต่เธอมีจุดอ่อนตรงจิตใจที่อ่อนแอ
“ชื่อพริสซิลล่าสินะ พาเพียไปซะ ทางนี้ไม่ทำอะไรเลวร้ายกับพอลล่าหรอก”
“…………”
พริสซิลล่ามองสาวน้อยด้วยความระแวง ก่อนจะฝืนใจพยักหน้าแล้วประคองเพียจากไป
“—-ค่าตอบแทนที่ช่วยปกป้องพอลล่า หลังจากนี้จะโอนเข้ากิลด์การ์ด”
ตอนที่พูดอย่างนั้น พริสซิลล่าก็หยุดเดินลงครู่หนึ่ง แล้วหันกลับมามอง ไม่ใช่ที่สาวน้อยแต่เป็นพอลล่า
เธอทำหน้าตาเสียดายและอาลัยอาวรณ์
ก่อนจะเดินจากไป
“……อะ เอ่อ คุณ……เกี่ยวข้องกับเชื้อพระวงศ์หรือคะ……?”
พอเหลืออยู่คนเดียว พอลล่าที่ยังไม่เข้าใจเรื่องราวเลยถามสาวน้อยออกไป
“เรื่องนั้นมันโกหกน่ะ คนที่ตามหาเธอคือพนักงานกิลด์ต่างหาก”
สาวน้อย—-ลาเวียถอดฮู้ดออกเพื่อเผยใบหน้า
“ไม่ได้พบกันนานเลยนะ ขอฟังเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างทางก็แล้วกัน สภาพอย่างนั้น……ฮิคารุคงทำอะไรสักอย่างสินะ?”