อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 97 เรื่องราวของแต่ละคน
PART 1 : ยามเช้าของตระกูลฮินาตะ
การไลฟ์พูดคุยกับคัตสึมิซังได้รับผลตอบรับที่เกินคาด
จนถึงตอนนี้ตัวตนของเขารู้จักแค่ในนามของอัศวินดำและอดีตที่น่าเศร้า กล่าวได้ว่าการปรากฏตัวในครั้งนี้สร้างภาพลักษณ์และความเข้าใจใหม่ให้กับผู้คนได้เป็นอย่างดี
….ว่ากันตามตรงฉันเองก็ยังหยุดตัวเองไม่ได้เลย
ต้องเรียกว่าขาดสติเลยแหละ
แต่จะมีใครต้านทานได้ล่ะเมื่ออยู่ต่อหน้าของเขา
ฉันได้หลุดถามคำถามที่ไม่อยู่ในแผน
สุดท้ายเรื่องมันก็เลยวุ่นวายยกใหญ่
แต่ฉันไม่เสียใจเลยสักนิด
ว่าแล้วฉันก็ทำการโพสต์ลงในทมิสเตอร์หลังไลฟ์จบ
●อาโอฮานะนาโอะ@AOHANA70_KC
ฉันไม่เสียใจสักครั้งที่ทำแบบนั้นลงไป……!!
●เซ็นไตเรดออกปฏิบัติการณ์@AKARED_JCAKR
ตอบกลับ @AOHANA70_KC
ฉันก็อยากจะเชื่อเธอนะ แต่ว่า….
●อาโอฮานะนาโอะ@AOHANA70_KC
ตอบกลับ @AKARED_JCAKR
ฉันเองก็รักเรดซังเหมือนกันนะคะ!!
●เซ็นไตเรดออกปฏิบัติการณ์@AKARED_JCAKR
ตอบกลับ @AOHANA70_KC
รักเรดซังเหมือนกัน?
●อาโอฮานะนาโอะ@AOHANA70_KC
ตอบกลับ @AKARED_JCAKR
……อ๊ะ
เผลอหลุดอะไรไปนิดหน่อยแต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะเธอคนนี้แตกต่างกับคิราระซังหรือพี่ ในฐานะรุ่นพี่แล้วฉันรู้สึกเคารพเธอจริงๆ แถมเธอยังเป็นผู้หญิงประเภทที่ดึงดูดผู้หญิงคนอื่นๆ ให้เข้าหาด้วยสิ ขนาดฉันเองยังหวั่นไหวเลย แต่ก็ไม่ได้พูดต่อหน้าเธอตรงๆ เลยสักครั้ง
เอาเป็นว่าก็ตามที่ฉันได้โพสต์ไปไลฟ์คราวนี้ฉันไม่เสียใจกับการกระทำของตัวเองเลยสักนิด
「ฮารุ ลูกมีอะไรอยากจะบอกกับพ่อแม่หรือเปล่าคะ? 」
งานเข้าแล้วสิ เพราะเรื่องที่ฉันปิดบังไว้ว่าตัวเองถูกสัตว์ประหลาดทำร้ายกับครอบครัวหลังไลฟ์พวกเขาก็เลยเรียกฉันมาคุย
ที่โต๊ะทานข้าวในเช้าวันอาทิตย์
ฉันอดตกใจไม่ไหวจริงๆ ที่แม่เป็นคนแรกซึ่งเปิดประเด็นขึ้น
「เอ่อ คือว่า ตอนนั้นหนูหนีออกจากบ้านไปใช่ไหมล่ะ ถ้ากลับมาแล้วบอกว่าตัวเองถูกสัตว์ประหลาดทำร้ายเข้า คนที่บ้านคงได้เป็นลมกันหมดแหง….」
「……」
「นะ นอกจากนี้หนูก็ได้คัตสึมิซังช่วยเอาไว้ด้วย ดังนั้นไม่เป็นไรหรอก….」
「……คิดว่านั่นเพียงพอสำหรับคำแก้ตัวเหรอคะ? 」
「ขอโทษค่ะ จะปิดปากเงียบรับผิดค่ะ……」
ฉันยอมจำนนต่อแรงกดดันของผู้อยู่ลำดับสูงสุดในบ้านอย่างง่ายดาย
แม่ถอนหายใจออกมาก่อนจะจิบชาในมือ
บ้านของพวกเราไม่เหมือนกับบ้านอื่น เพราะพวกเราจำเป็นต้องทานข้าวเช้าด้วยกันตลอดไม่เว้นวันหยุด ดังนั้นบนโต๊ะตอนนี้จึงมี พี่สาว ฉัน พ่อ แม่ และปู่ของฉันรวมไปถึงคัตสึมิซังที่มาพักบ้านของเราเมื่อวันก่อน
「เอาเถอะ เรื่องราวมันก็ผ่านมาสองปีแล้ว แม่เองก็ไม่ได้ตั้งใจจะเค้นอะไรเพิ่มอีกถึงอย่างงั้นก็ต้องขอขอบคุณคัตสึมิซังจริงๆ ค่ะ」
「ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเองก็รู้เรื่องนี้จากปากของลูกสาวคุณเมื่อวานนี้เอง……」
「อย่าถ่อมตัวไปนักเลยค่ะ ได้โปรดรับความขอบคุณของฉันเถอะ ว่าแต่จะรับข้าวเพิ่มไหมคะ? 」
「อ่ะ ครับ? รบกวนด้วยครับ」
ด้วยแรงกดดันแปลกๆ ของแม่ คัตสึมิซังจึงรับข้าวมาทานเพิ่ม
ตอนนี้เขานั่งอยู่ระหว่างฉันกับพี่สาวก็จริง….แต่ทำไมวันนี้พี่ถึงกินข้าวเงียบๆ โดยไม่พูดอะไรเลยนะ น่าขนลุกชะมัด
พี่กำลังวางแผนอะไรอยู่กัน?
「อาโออิ เหมือนวันนี้ลูกจะตื่นสายนะ」
「อื้อ」
จะว่าไปวันนี้พี่ก็ตื่นสายจริงนั่นแหละ น่าแปลกชะมัด
ดูเหมือนว่าจะแม่ถึงขนาดต้องเข้าไปปลุกเธอให้ตื่น ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับพี่สาวของฉันที่มีนาฬิกาชีวิตเหมือนเครื่องจักร
ในขณะที่กำลังกวนถั่วเน่า พี่สาวของฉันก็ตอบกลับเพียงแค่อื้อ เหมือนไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ
「กำลังรอให้คัตสึมิคุงมาปลุก」
「เอ๋? 」
「ทำไมถึงไม่บอกกับแม่ล่วงหน้าล่ะ? ถ้ารู้แบบนี้คงจะบอกให้คัตสึมิซังไปปลุกแล้วแท้ๆ 」
「หา? 」
คัตสึมิซังหันหน้าสลับไปมาระหว่างพี่สาวกับแม่ของฉัน
ฉันละไม่เข้าใจที่ทั้งสองคนคุยกันเลยจริงๆ แถมยังเป็นต่อหน้าเขาอีก
「คะ คือ ผมคงได้ยินอะไรผิดไปสินะ? ต้องหูฝาดแน่ๆ ….」
เดี่ยวสิคะ นี่จะฝืนการรับรู้ตัวเองด้วยการบอกว่าหูฝาดจริงดิ?!
「……คัตสึมิคุง」
「ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ? 」
ทันใดนั้นเองพ่อของฉันก็พูดกับคัตสึมิซังที่นั่งอยู่ตรงข้าม
คัตสึมิซังก็ต้อบกลับไปด้วยอาการเกร็งนิดหน่อย
「….การใช้ชีวิตที่นี่เป็นยังไงบ้าง? 」
「เอ๋? ……เอ่อ ทุกคนใจดีกับผมมากก็เลยทำให้ปรับตัวได้ง่ายครับ」
「เข้าใจแล้ว ก็ดี」
「ครับ」
「……」
「……」
เห็นได้ชัดเจนเลยว่าพ่อของฉันกังวลสุดๆ ในการพูดคุยกับเขา แต่การกระทำแบบนี้มันก็ทำให้คัตสึมิซังอึดอัดไปด้วย เพราะไม่รู้จะคุยยังไงกันต่อ
「พ่อ หยุดกดดันคัตสึมิคุง」
「ใช่แล้วค่ะ คัตสึมิซังลำบากใจนะคะ」
「คุณคะ ถ้าคัตสึมิคุงกลัวขึ้นมาจะทำยังไง? 」
「หะ โหดร้าย……」
「เอ่อ ผมไม่ได้คิดอะไรมากหรอกครับ….」
เขาตอบกลับอย่างสุภาพเพื่อให้พวกเราสบายใจ แต่ทำไมพ่อของฉันถึงเป็นแบบนี้กันนะ ทั้งที่ปกติไม่ใช่พวกชอบพูดจาแท้ๆ พยายามออกตัวแปลกๆ
「คัตสึมิคุง วันนี้วางแผนจะทำอะไร? 」
「แผนเหรอ? ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษด้วยสิ แต่จะออกไปข้างนอกก็คงไม่ได้」
「ถ้าเรื่องนั้น……」
「ที่ห้องฉันมีเกมเยอะ มาเล่นด้วยกันสิ!」
「อ้า ก็น่าสนใจดีนี่」
นี่พวกเขาชิงนัดกันเสร็จสรรพเลยเหรอ?!
แย่แล้ว ฉันต้องรีบตามไปเพื่อไม่ให้ถูกทิ้ง!!
「ฮารุล่ะ? 」
「ฉันก็จะไปด้วยค่ะ」
ก่อนที่ฉันจะได้เข้าไปแทรก เขาก็ยื่นมือมาให้ฉันเสียแล้ว
พอหันไปหาพี่ก็เห็นว่า เธอทำหน้าเหมือนแผนการล้มเหลว
….เอาสิ ฉันจะตบพี่ให้ยับต่อหน้าคัตสึมิซังเอง ล้างคอรอได้เลย
ถึงจะพ่ายแพ้มาหลายครั้ง แต่วันนี้แหละจิตวิญญาณแห่งอาชูร่าจะนำพาชัยมาให้ฉัน!!
****
PART 2 : งานอดิเรกของเจ็ม
●เจ็ม
●เจ็ม ไปซื้อพุดดิ้งที่ร้านให้หน่อย
●เจ็ม อีกนิดเดียวจะได้แล้วขอเงินหน่อย
●หิวแล้วอ่ะ
●ขยะตรงนั้นเอาไปทิ้งหน่อยสิ
●ฝากที่เหลือด้วยนะ ฉันจะไปนอนกลางวัน
●เห็นวันๆ เอาแต่คุยกับเครื่องจักร ทำแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกน่า
[สารคดี] ระบบนิเวศวิทยาของพวกนีทไร้ประโยชน์
JEMJEM แชแนล
จำนวนผู้ติดตาม x ล้านราย
*พี่สาวผู้เป็นสัตว์ประหลาดตัวร้ายประจำบ้าน*
Comment
●นี่แหละชะตาที่มิอาจหลีกเลี่ยง
●ใช่แล้วนี่คือชะตาที่มิอาจหลีกเลี่ยง
●อย่างกับเห็นภาพของตัวเอง หากพวกเราไม่ได้เกิดเป็นลูกชายคนโตของบ้านก็ต้องรับชะตากรรมเช่นนี้แหละ
●คือฉันก็มีพี่สาวนะ แต่สภาพมันไม่ได้สุดขนาดนี้
●น่าอิจฉา
●ยังสบายดีไหมคุณน้องชาย
●ตอนโดนพี่สาวไถตังนี่น่ากลัวชะมัด
●สภาพกลายเป็นยากุซ่าไถตังไปแล้ว
●แต่ด้วยความแข็งแกร่งของคนเป็นพี่ทำให้ต่อต้านไม่ได้
●สัตว์ประหลาดที่เรียกว่าพี่สาวช่างแข็งแกร่ง
●ถึงจะน่ารำคาญ แต่เธอก็แอบน่ารักแปลกๆ นะ
●แอบสงสัยแฮะว่าที่ถ่ายมาเนี่ยได้รับอนุญาตจากเธอแล้วเหรอ < ตอบกลับ : เขาบอกว่าเรมจะอนุญาตแล้ว
●น้องชายหาเงินจากการถ่ายพี่สาวที่ติดกาชา ส่วนพี่สาวก็ไถเงินจากน้องชายไปหมุนกาชา นี่แหละสมบูรณ์แบบ!!
●วงจรอุบาทว์ชัดๆ
—-
「……เชี่ย」
หลังจากฉันตัดต่อวิดีโอแล้วลงเสร็จ ฉันก็กลับไปดูผลลัพธ์ที่ได้ก่อนจะขยี้ตา
ดวงตาของฉันสร้างขึ้นมาจากเลนส์ที่มีประสิทธิภาพสูง จึงไม่มีคำว่าเหนื่อยล้า แต่สาเหตุที่ทำแบบนี้ก็เพราะสภาพทางจิตใจที่ไม่เข้าใจถึงเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลซึ่งได้เผชิญ
———ทั้งหมดมันเริ่มต้นมาจากข้อเสนอของท่านซันนี่
『ถ้ามีเงินเหลือไม่เยอะ ทำไมไม่ลองทำแชแนลล่ะจ๊ะ เห็นได้ชัดว่ากระแสบนดาวโลกตอนนี้เป็นการอัพวิดีโอลงแชแนล』
『คิดดูสิด้วยใบหน้าของเรมจังน่าจะดึงดูดคนได้เยอะว่าไหม? 』
『เอาเลยสิลองดูสักตั้ง ถึงมันจะไม่ได้ผลแต่อย่างน้อยก็ได้ลองน่า อันที่จริงเดี๋ยวฉันจะไปโผล่ด้วยดีไหมนะ? ล้อเล่นจ้าล้อเล่น…อย่าส่ายหน้าไปมาอย่างสิ้นหวังต่อหน้าฉันแบบนั้นสิ!』
สุดท้ายฉันก็ทำตามที่ท่านซันนี่บอก แต่ก็ไม่คิดหรอกว่าเงินมันจะหามาได้ง่ายขนาดนั้น
อย่างไรก็ตาม
แต่พอทำไปทำมามันดันเป็นเรื่องง่ายซะงั้นเพราะสมองของฉันได้ทำการเก็บความทรงจำอันน่าสมเพชของพี่สาวฉันเอาไว้เต้มไปหมด ดังนั้นจึงดึงออกมาตัดต่อได้ง่าย
ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับการตอบรับดีหรอก
นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด พอตัดต่อเสร็จ ฉันก็ลองโพสต์มันลงไปในเว็บที่คัตสึมิ โฮมุระเคยไลฟ์ ส่วนผลลัพธ์ก็…..
「พวกมนุษย์โลกมันปาเงินให้กับเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอฟะ!!!」
「นายท่านคะ ตั้งสติก่อนค่ะ」
「ทำไมการถ่ายทอดชีวิตประจำวันอันแสนไร้ประโยชน์ของพี่สาวตัวเองมันถึงทำเงินได้มากกว่าการที่ฉันพยายามอย่างจริงจังในการหาเลี้ยงชีพฟะ?! แปลกเกินไปแล้วเว้ย!! ยัยนั่นก็แค่ กิน นอน ตื่นมาปาเงินใส่เกม แล้วดูผลที่ได้สิฟะรายได้ที่เข้ามานี่มันอะไรกัน!! บัดซบ วงจรในหัวของฉันมันจะพังหมดแล้วเว้ย!!」
MEI วิ่งเข้ามาดูอาการของฉันขณะกำลังบิดตัวไปมาอยู่หน้าคอม
ไม่เข้าใจเลยสักนิด!!
อะไรที่ไม่สมเหตุสมผลแบบนี้มันได้รับความนิยมได้ยังไงกันฟะ!!
「ไม่คิดเหรอว่าตัวเองหยาบคายกับพี่สาวคนนี้เกินไปหน่อย? 」
「พูดอย่างกับว่าถ้าฉันพูดดีด้วยเธอจะทำตัวมีประโยชน์ขึ้นงั้นแหละ……!!」
「หือ……พูดแบบนี้พี่สาวคนนี้ขอสักหมัดได้ไหม? ได้สินะ? 」
เรม หมุนตัวไปมาบนเก้าอี้แล้วยกกำปั้นขึ้นมา
ขู่แค่นี้คิดว่าฉันจะกลัวเหรอฟะ
ทำตัวไร้ประโยชน์
ใช้เงินอย่างกับน้ำ
ตะกละ
ไม่เรียบร้อย
การที่มีคนมาปาเงินให้กับพี่สาวซึ่งไม่มีอะไรดีเลยนอกจากกำลังในการต่อสู้เนี่ย…..พวกมนุษย์โลกมันเป็นอะไรกันไปหมดฟะ?!
「…ก็ถือว่าเป็นการไถ่บาปของพวกที่ล้มเหลวในฐานะมนุษย์ดีนะคะ」
「เดี๋ยว นี่เธอกำลังบอกว่าฉันเองก็เป็นแบบนั้นเหรอ? เห้ย พูดกับฉันใช่ไหม?! MEI! มองหน้าฉันแล้วพูดอีกทีสิเห้ย MEI?!」
MEI นี่เธอคิดว่าตัวเองดูแลฉันเหมือนที่ฉันดูแลยัยนั่นเหรอ?!
สุดท้ายฉันก็ต้องกลับไปตัดต่อวิดีโออันใหม่ด้วยการดึงความทรงจำที่แสนเข็บปวดออกมา น่าแปลกจริงๆ ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาทำอะไรแบบนี้
***
PART 3 ความฝันของโมโมโกะ
ฉันตกอยู่ในความฝัน
ความฝันที่กำลังใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างสงบสุข
สถานที่ที่เห็นไม่ใช่ดาวโลก
แต่ก็มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่ต่างกับที่ฉันอยู่
ฉันมีครอบครัว
พ่อที่คอยห่วงใย
แม่ที่คอยต่อว่าหากออกนอกลู่นอกทาง
พี่ชายที่ต่อสู้เพื่อปกป้องครอบครัว
พี่สาวที่คอยอยู่เคียงข้างเสมอ
และชายที่เรียกตัวเองว่าโอเมก้า ซึ่งบอกว่าจะปกป้องฉันและใช้ชีวิตด้วยกันตลอดไป
ทุกคนต่างใจดีเหลือเกิน
ความฝันนั้นทำให้ฉันมีความสุขเหลือเกินแม้จะเป็นเพียงชีวิตประจำวันธรรมดา
ได้พบกับครอบครัวที่แสนอบอุ่น
ทว่ามันก็แปรเปลี่ยนเป็นฝันร้าย
ความสุขได้กลายเป็นขุมนรก
ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากผู้รุกรานจากฟากฟ้าที่มาพร้อมกับยานขนาดใหญ่ ซึ่งประกาศว่าต้องการอัลฟ่า
ฉันคืออัลฟ่า
หญิงสาวที่มีพลังพิเศษอยู่กับตัว
ผู้รุกรานได้กล่าวว่าผู้คนที่อาศัยอยู่บนดาวดวงนี้จะได้รับอันตรายหากไม่ยอมปล่อยฉันมาให้พวกมัน
『ฉันจะยกลูกสาวคนนี้กับให้กับนายเอง! ดังนั้นได้โปรดเถอะ อย่างน้อยแค่ครอบครัวของฉันก็ได้!』
พ่อที่เคยห่วงใยฉันตัดสายใยทิ้งอย่างไม่ไยดี
『แกทำให้ฉันอับอาย โรคร้ายอย่างแกไม่ใช่ลูกสาวฉัน』
แม่ที่คอยต่อว่าด้วยความห่วงใย กลับทำเหมือนฉันเป็นของที่น่าขยะแขยง
『แกมันปีศาจจริงๆ ด้วย จะไปตายไหนก็ไปซะ』
พี่ชายที่คอยต่อสู้เพื่อปกป้องครอบครัวผลักไสราวกับฉันเป็นสิ่งแปลกปลอม
『เธอบอกว่าตัวเองเป็นน้องสาวของฉันใช่ไหมล่ะ? ดังนั้นแค่ตายแทนกันคงได้สินะ…..』
พี่สาวที่คอยอยู่เคียงข้างก็เกลียดฉันเหมือนเป็นสิ่งชั่วร้าย
『ถ้าพวกเรายอมเสียสละเธอไป เราก็จะสามารถปกป้องดาวดวงนี้เอาไว้ได้ ดังนั้นได้โปรด เพื่อพวกเราเธอช่วยเสียสละตัวเองด้วยเถอะ』
ชายที่ถูกเรียกว่าโอเมก้า ชายที่เคยบอกว่าจะปกป้องฉัน ได้ทรยศฉันและหันหลังให้กับฉัน หลังแทงข้างหลังฉันเสร็จเขาก็ส่งฉันให้กับพวกผู้รุกราน
ก่อนที่จะรับรู้ได้ถึงพลังของฉัน พวกเขาก็เป็นเพียงครอบครัวธรรมดา
แต่เพราะการมาถึงของพวกผู้รุกราน พอพวกมันได้เห็นพลังของฉัน พวกมันก็ยื่นข้อเสนอในการแลกกับสันติภาพ
เพราะเรื่องนี้ ครอบครัวของฉันและผู้คนบนดาวดวงนั้นจึงเปลี่ยนไป
นี่คือการเสียสละเพื่อสันติภาพ
หัวใจของหญิงสาวคนหนึ่งได้แตกสลาย ทั้งที่ควรจะกลายเป็นเพียงแกนกลางที่เงียบงันไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ
แต่ความโศกเศร้าที่ความโกรธของเธอไม่เคยจางหายไปแม้จะกลายเป็นแกนกลาง
แกนกลางนั้นได้ปล่อยแสงสีชมพูผสมสีเขียวที่เหมือนพิษไปทั่วก่อนจะหลุดการควบคุม
『อะ อ๊ากกกก……』
ฉันได้เข้าสิงร่างของผู้รุกรานคนหนึ่งและหลอมรวมเข้ากับเขาจนยึดร่างสำเร็จ
ฉันได้กลับไปยังดาวบ้านเกิดของตัวเอง ดาวที่ละทิ้งฉัน ฉันทำการสังหารและทำลายล้างผู้คนที่อาศัยอยู่บนดาวดวงนั้นอย่างไม่ลังเล
น้ำตาไหลอาบทั้งสองแก้ม
ความโศกเศร้าที่ไม่มีวันจางหาย
ราวกับเป็นคำสาป จิตใจของหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งที่ถูกครอบครัวหักหลัง ก่อนจะรู้สึกตัว ฉันก็กลายเป็นเพียงสิ่งที่บิดเบี้ยวต้องการแต่เพียงการทำลายล้าง
「ตื่นแล้วเหรอ? โมโมโกะ」
———เป็นการตื่นขึ้นมาที่น่าปวดหัวชะมัด
เมื่อฉันตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย ฉันก็มองไปยังร่างที่ฉันไม่สามารถควบคุมได้
ภายในห้องทดลองที่มืดมิด ฮิลด้าได้วางมือของเธอไว้บนเก้าอี้ขณะยิ้มออกมาระหว่างดูดาวโลกผ่านกระจกบนใหญ่
「เพราะหลอมรวมกันนานเกินไปหรือเปล่านะเธอถึงสามารถเห็นอดีตของฉันได้? 」
———ไม่ใช่ว่าเธอตั้งใจหรอกเหรอ?
「ถึงจะเป็นฉันก็มีความทรงจำที่ไม่อยากให้ใครรู้อยู่นะรู้ไหม? 」
ฉันไม่รู้ว่านั่นมันจริงแท้แค่ไหน แต่ส่วนตัวฉันก็ไม่อยากจะสัมผัสกับความทรงจำอันเลวร้ายแบบนั้นหรอก
ถึงยัยนี่จะนิสัยเสียและชิงร่างกายของฉันไปตามใจชอบ แต่บางส่วนในใจของฉันก็แอบเห็นใจเธอ
———เธอถูกครอบครัวทอดทิ้งเหรอ?
「รู้สึกสงสารฉันหรือไง? มนุษย์โลกนี่น่ารักชะมัด」
ถึงจะเห็นใจแต่ใช่จะยอมรับในสิ่งที่เธอทำ
เพราะยัยนี่เลยทำให้ฉันไม่สามารถกลับบ้านหรือกลับไปมหาลัยได้
พ่อกับแม่ของฉันจะคิดว่าฉันตายไปแล้วหรือเปล่านะ แค่คิดก็รู้สึกขนลุก
「พวกมนุษย์โลกนี่สุดยอดเลยน้า ฉันละชอบจริงๆ 」
———จะอันไหนก็เห็นบอกชอบไปซะหมดเลยนะ
「เมื่อก่อนฉันไม่ได้พูดแบบนี้บ่อยๆ นะ แต่ช่วงนี้มันก็อย่างที่เธอเห็น อย่าคิดว่าฉันเป็นพวกพูดอะไรไปเรื่อยสิ」
นอกจากนี้ก็ยังแอบแปลกใจที่ยัยนี่มีความรู้สึกเชิงบวกต่อเยลโล่ที่อยู่ภายในทีมของเซ็นไตอวกาศ ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ชอบเธอสุดๆ
「จิตวิญญาณที่ไม่แตกสลายโดยง่าย และไม่บิดเบี้ยวเมื่อเจอกับความยากลำบาก การยึดมั่นในจิตวิญญาณของตัวเองเป็นอะไรที่วิเศษจริง」
———……อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรของเธอเนี่ย?
「เธอเห็นฉันถูกถวายให้พวกมันเหมือนเป็นเครื่องสังเวยแล้วใช่ไหมล่ะ ทั้งที่พวกเขาเป็นครอบครัวของฉัน ใจดีกับฉันและดูแลฉันเป็นอย่างดีแท้ๆ ก่อนที่พวกมันจะบุกเข้ามา」
น้ำเสียงของฮิลด้ายังคงร่าเริงไม่เปลี่ยน
ให้ตายสิ ยัยนี่ พูดเหมือนเป็นเรื่องของคนอื่นเลยนะ
「ตอนแรกฉันก็คิดจะยอมจำนนต่อพวกมันเพื่อความสงบสุขอยู่หรอก ฉันคิดว่ามันคงจะไม่เป็นอะไรหากฉันยอมเป็นเครื่องสังเวยเพื่อปกป้องครอบครัวที่ฉันรัก」
ในความทรงจำของฉัน ฮิลอ้าตอนนั้นยังเป็นเพียงสาวน้อยที่ใสซื่อ
เธอมีความสุขไม่ต่างอะไรกับเด็กสาวทั่วไป ช่างห่างไกลกับเธอที่แสนชั่วร้ายตอนนี้เหลือเกิน
「ทว่าคนพวกนั้นกลับเริ่มมองเหมือนฉันเป็นสัตว์ประหลาด….แล้วก็เริ่มทำร้ายฉันกับโอเมก้าซึ่งถูกมองว่าเป็นสัตว์ประหลาดเหมือนกัน…..สุดท้ายฉันก็ก้าวข้ามความสิ้นหวังแหละยืนหัวเราะอยู่ได้เป็นคนสุดท้าย」
———นั่นคือเหตุผลที่เธอฆ่าพวกเขาเหรอ?
「ก็ไม่เห็นจะต้องคิดอะไรมากเลยนี่นา คงตลกน่าดูหากพวกที่ผลักไสคนอื่นให้ตกนรกแล้วคิดว่าตัวเองจะไม่ถูกแค้นมีอยู่จริง ———ก็ถือว่าเป็นค่าตอบแทนในการทรยศความรักของฉันแล้วกัน」
เธอหันไปหาดาวโลกอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจแล้วกระโดดขึ้นมาจากเก้าอี้
เธอกางแขนออกกว้างแล้วพูดขึ้น
「นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันชอบคนที่จะไม่แทงข้างหลังฉันยังไงล่ะ ทั้งบลู เยลโล่ คอสโม่จัง จัสติสครูเซเดอร์ อัศวินดำ…คัตสึมิ โฮมุระ สุดท้ายก็คือเธอยังไงล่ะ」
——น่าขนลุกชะมัด
「ฉันชอบเธอที่เป็นแบบนี้แหละ」
เธอพูดออกมาราวกับเป็นเรื่องล้อเล่น
「ดังนั้นหากฉันจะต้องตายละก็ ฉันก็ขอจบชีวิตด้วยมือของคนเหล่านี้นี่แหละ ดังนั้นจงต่อต้านสิ ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ในระหว่างนี้ฉันก็จะเดินหน้าทำลายล้างทุกสิ่งเพื่อรอให้พวกเธอส่งฉันไปสู่ขุมนรก」
———เธอตั้งใจจะลากฉันลงนรกไปด้วยหรือไง?
「เรื่องนั้นก็ไม่รู้สินะ」
ยังไงก็ทำใจยอมรับไม่ได้จริงๆ
ถึงเธอจะเป็นคนที่น่าสงสารสุดๆ ก็ตามที
หากเป็นไปได้ฉันก็ไม่อยากให้เธอ…ฮิลด้า…ได้รู้เลยสักนิดว่าอันที่จริงแล้วเธอเองก็มีความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับมนุษย์อย่างเราหรอก
–จบ—
มนุษย์เราก็แบบนี้แหละเจ็ม…..ส่วนฮิลด้าเดาเลยว่าอนาคตอาจจะกลายเป็นไดร์ฟให้โมโมโกะใช้แปลงร่างแหง
จบเล่ม 4
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code