อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 91 เรื่องในอดีตของเขา
ผ่านไปสามวันแล้วตั้งแต่ที่สัตว์ประหลาดสีดำนั่นโผล่มา
ฉันใช้ชีวิตอย่างสงบสุขโดยไม่ต้องออกไปสู้กับเจ้าพวกนั้นอีก แต่ความรู้สึกขนลุกแปลกๆดันไม่หายไปไหนซะงั้น
ตอนนี้ฉันสามารถสวมโปรโตสูทออกไปลุยได้ตลอดเวลา แถมยังมีชิโระคอยจับตามองเฝ้าระวังภายนอกให้อีก อะไรๆมันก็เลยง่ายขึ้น
แต่ก็อย่างที่โบราณว่าไว้ คนไม่ทำงานก็ไม่ควรมีขาวกิน ฉันก็เลยมาช่วยงานบ้านของครอบครัวอาราซากะเหมือนที่ทำกับครอบครัวอามัตสึกะ
「……ฟู้ว」
ในช่วงเช้าฉันพับผ้าแล้วเฝ้ามองชิออนซังทำอาหารอยู่ในครัว
ทั้งที่ฉันก็ไม่มั่นใจในเรื่องการทำงานบ้านอะไรมากมายแท้ๆ แต่ความทรงจำตอนที่เป็นคัตสึกิซึ่งคอยดูแลการใช้ชีวิตอันแหลกเหลวของฮาคัวมันดันทำให้ฉันมีความสามารถงานบ้านขึ้นมาซะงั้น
พอพับผ้าเสร็จฉันก็ได้ยินเสียงคนวิ่งลงมาจากบันได เป็นพี่สาวทั้งสองของอากาเนะนั่นเอง
「นี่แม่ เห็นเสื้อของหนูไหม」
「แขวนเอาไว้ตรงนั้นครับ」
「……」
「โอเค แล้วก็เสื้อเชิ้ตที่———」
「อ้อ ถ้าเป็นตัวนี้กำลังรีดเสร็จครับ จะเอาไปใส่เลยหรือเปล่า?」
「……」
ทำไมพวกเธอตัวแข็งทื่อไปล่ะ?
ไม่นานนักพวกเธอก็เดินออกจากห้องนั่งเล่นไป
「ก็ถือว่าเป็นยาดีสำหรับพวกเธอแหละนะ」
「เอ๋?」
「ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก เอ้า อาหารเช้าเสร็จแล้ว ทานก่อนได้เลย」
「อ่อ ครับ」
ชิออนซังยิ้มออกมาแล้ววางจานไว้ตรงที่นั่งของฉัน
จากนั้นฉันก็สัมผัสได้ถึงสายตาของชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามฉัน ใช่แล้วพ่อของอากาเนะ
「เด็กพวกนี้คงเสียงดังมากเลยสินะ?」
「อะ เอ่อ」
「แล้วตอนนี้รู้สึกชินบ้างหรือยัง?」
คนที่ถามฉันคือสามีของชิออนซัง หัวหน้าครอบครัวอาราซากะ ซาดาโอะซัง
ชายหนุ่มผมสีดำดูเรียบร้อยและใจดี เขาวางถ้วยชาที่จิบอยู่ลงก่อนจะยิ้มให้ฉัน
ก็ตามที่ได้ฟังมา เขาเป็นเพียงพนักงานบริษัทธรรมดา ถึงจะไม่มีโอกาสได้ถามเจาะจงก็เถอะว่างานแบบไหน
「 เพราะเมื่อก่อนเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน พอมีเธอมาอยู่ด้วยบรรยากาศก็เปลี่ยนไปมากจริงๆ」
「เหรอครับ?」
「อ้า」
ฉันถามซาอาโอะซังที่ยิ้มอย่างอ่อนโยน
「อีกอย่างอากาเนะเหมือนจะมีความสุขมากที่เธอมาอยู่บ้านนี้ด้วยสิ」
「ปกติคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องคัดค้านไม่ใช่เหรอครับ…?」
「ฮ่าๆๆ」
จากมุมของพวกเขา การมีลูกสาวคนสำคัญอยู่จะให้ผู้ชายคนอื่นมานอนค้างบ้านมันก็แปลกๆไหม
จากนั้นฉันก็หันมาสนใจอาหารเช้าตรงหน้า ทานแล้วนะครับ
「….อันที่จริงถ้ามันสิ้นหวังของแท้ ก็ตั้งใจว่าจะตีหัวลากเข้าบ้านล่ามโซ่ไว้หรอก!」
「……เอ๋!?」
「หือ มีอะไรเหรอ?」
เอ๋ เดี๋ยว ไม่สิ ไอ้คำที่มันไม่น่าจะออกมาจากปากของซาดาโอะซังเมื่อกี้มันอะไรฟะ…..
สงสัยฉันคงคิดไปเองมั้ง ไม่มีทางที่คนใจดีอย่างเขาจะพูดสิ่งที่น่าสยองและใช้น้ำเสียงเหมือนเรดกับฉันตอนสู้พวกสัตว์ประหลาดหรอก….
「ซาดาโอะซัง ใกล้จะถึงเวลาแล้วไม่ใช่เหรอคะ?」
「หืม? อ้อจริงด้วย」
ชิออนซังเรียกซาดาโอะซังมาจากข้างในครัว
เขาดูเวลาแล้วก็พยักหน้าให้ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วสูทที่แขวนอยู่ตรงเก้าอี้และยกถุงสีดำที่วางไว้ข้างๆ
「คัตสึมิคุง」
「ครับ?」
ก่อนจะออกจะห้องนั่งเล่นไปเขาได้เรียกฉันอีกครั้ง
「จะคิดว่านี่เป็นบ้านของเธอก็ได้นะ….ถึงเธอจะอาจจะรู้สึกอึดอัด แต่ฉันคิดแบบนั้นจริงๆ」
เขายิ้มแล้วยกนิ้วให้
「ฉันขอยอมรับในเรื่องของเธอ เช่นเดียวกับครอบครัวอามัตสึกะที่เธอเคยอยู่ก่อนหน้านี้」
「……ครับ」
「ถ้างั้นขอตัว」
ว่าแล้วเขาก็ออกไปทำงาน
ซาอาโอะซังนี่เป็นคนพูดอะไรแปลกๆเหมือนกับโอมะซังพ่อของคิราระเลยวุ้ย
อย่างไรก็ตามการที่เขายอมรับฉันก็คงเป็นเรื่องดีแหละมั้ง
***
หากจะมีสิ่งหนึ่งที่ฉันคาดไม่ถึงเลยในชีวิตก็คงจะเป็นเรื่องที่ลูกสาวของฉันอากาเนะกลายมาเป็นฮีโร่ปกป้องโลก
ตอนแรกฉันคิดว่าแค่อำกันเล่นเฉยๆ
แถมยังคัดค้านด้วยว่าเธอไม่มีทางจะได้รับความไว้วางใจให้ทำเรื่องสุดอันตรายแน่
ทว่ามันกลับเป็นความจริง
สัตว์ประหลาดได้ปรากฏตัวขึ้นและฆ่ามนุษย์ไม่เลือกหน้า
ฉันนึกภาพไม่ออกเลยสักนิดว่าเด็กสาวที่ไม่เคยออกกำลังกายอะไรเลยจะสามารถสู้กับพวกมันไหว
ทว่า ชายผมบลอนด์ที่ดูน่าสงสัยซึ่งเรียกตัวเองว่า เรมะ คาเนะซากิได้เข้ามาพูดคุยกับพวกฉันและอากาเนะ ก่อนจะบอกให้ตัดสินใจเสีย ตอนแรกฉันก็ตั้งใจจะปฏิเสธเขาหรอก แต่อากาเนะกลับยอมรับข้อเสนอทันที
『ฉันเข้าใจความรู้สึกกลัวที่จะฆ่าสัตว์ประหลาดฆ่าตายดีค่ะ』
『เจ็บปวดมากจนร้องไห้ออกมา…ภายในใจก็เอาแต่บอกว่าไม่อยากตาย』
『นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันอยากจะต่อสู้เพื่อไม่ให้มีคนต้องรู้สึกแบบเดียวกับฉันค่ะ』
ซาดาโอะซังกับฉันพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้เห็นสีหน้าอันมุ่งมั่นของอากาเนะ
ท้ายที่สุดเธอก็เข้าต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในฐานะเรด ผู้นำของจัสติสครูเซเดอร์ด้วยตัวเธอเอง
…แต่คำวิจารณ์จากผู้คนนั้นก็แย่มากทีเดียวในหลายๆความหมาย
เพราะได้เลือดจากฉันมามากเกินไปก็เลยทำตัวเหมือนฉันตอนเด็กๆหรือปล่านะ?
จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่อากาเนะต่อสู้ในฐานะจัสติสครูเซเดอร์
ทั้งที่คิดว่าเรื่องราวจะจบลงแล้ว แต่กลับมาพวกเอเลี่ยนมาบุกโลกต่อ
ในที่สุดเรื่องที่แสนเลวร้ายก็เผยออกมา ผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่ารูอินต้องการจะทำลายโลก
เฮ้อ ทั้งที่คิดว่าจะไม่มีเรื่องเกินคาดกว่านี้แล้วแท้ๆนะ
ทว่าอากาเนะกลับพาผู้ชายที่เธอชอบเข้ามาในบ้านของเราได้ซะอย่างงั้น
คัตสึมิ โฮมุระคุง
เด็กชายที่แบกชะตากรรมของโลกไว้บนบ่า
อากาเนะ ลูกสาวคนเล็กสุดได้พาเขามาที่บ้านเมื่อประมาณสัปดาห์ก่อน เขาดูเรียบร้อยกว่าที่เห็นในทีวีมาก จากที่อากาเนะบอกเหมือนนิสัยหยาบคายของเขาจะโผล่มาเฉพาะตอนที่สู้กับศัตรู ด้านที่น่ารักและเรียบร้อยนี้จึงเป็นด้านปกติของเขาจริงๆ
「คัตสึมิคุง」
「หืม มีอะไรเหรอครับ?」
อากาเนะกับคนอื่นๆก็ไปโรงเรียนกับทำงานตามปกติ จึงเหลือแค่ฉันกับเขา
ตอนนี้เขากำลังดูทีวีโดยมีคิโนโกะ สุนัขที่ฉันเลี้ยงเอาไว้ เหมือนเด็กคนนี้จะติดใจเขามากเลยสินะ
「ฉันคิดว่าเป็นโอกาสดีที่เราจะได้คุยกันสักหน่อยน่ะ」
「? ได้สิครับ」
「อื้อ」
ฉันขอให้เขาลุกจากโซฟามานั่งโต๊ะก่อนจะเสิร์ฟชาให้
เมื่อเขาพร้อมจะคุย ฉันก็พร้อมจะเปิดการสนทนา
「ก่อนอื่นพวกเรารู้อดีตของเธอทั้งหมดแล้ว」
「ผมเข้าใจดีครับ……」
อดีตของเขาถูกเผยออกมาเพราะเอเลี่ยน
เหมือนว่าเขาจะเข้าใจเรื่องนี้ดี ก็เลยยิ้มออกมาพร้อมแสดงสีหน้าลำบากใจนิดหน่อย
「ฉันไม่อยากให้เธอเข้าใจผิดน่ะ การที่ฉันกับอากาเนะเลือกรับเธอเข้ามาไม่ใช่เพราะความสงสารในเรื่องนี้หรอก สบายใจได้」
「……ครับ」
「ดังนั้น หากมีอะไรที่พวกเราทำให้เธอไม่สบายใจก็สามารถบอกได้เสมอนะ รวมถึงจะปฏิเสธตอบสิ่งที่ฉันจะถามด้วยก็ได้」
คัตสึมิคุงพยักหน้ารับ
ฉันรู้ดีว่าหากเป็นโคโยมิซังของบ้านอามัตสึกะคงไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่
แต่ฉันอยากจะคุยให้ชัดเจน
「คัตสึมิคุง เธอเกลียดพ่อกับแม่ของตัวเองไหม?」
「……」
เขาคงไม่ได้คุยเรื่องพวกนี้กับอากาเนะด้วยแน่ๆ
ถึงจะทำใจไว้แล้วว่าเขาอาจจะไม่ตอบ แต่ฉันอยากจะถามเขาจริงๆ
หากเขาจะต่อว่าฉันว่ายุ่งไม่เข้าเรื่องฉันก็คงต้องยอมรับผิดแต่โดยดี….ทว่ามันกลับตรงข้ามจากที่คิดเอาไว้ เขาไม่ได้แสดงสีหน้าอารมณ์เสียหรืออะไรก่อนจะพูดออกมา
「ก็คงจะพูดได้ไม่เต็มปากหรอกครับไม่มีรู้สึกแบบนั้น เพราะส่วนหนึ่งในจิตใจของผมก็เกลียดพ่อกับแม่ที่พูดแบบนั้นออกมาก่อนตายจริงๆ」
คู่สามีภรรยาที่ต่อว่าลูกของตัวเองซึ่งรอดปลอดภัย
ทั้งที่ผ่านประสบการณ์อันน่าสยองจนอยากจะหันหน้าหนีมา แต่น้ำเสียงของเขากลับเป็นน้ำเสียงแห่งความโศกเศร้ามากกว่าจะโกรธหรือเกลียดชัง
「ผมคิดมาตลอดน่ะครับว่ามันคงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้」
「……ช่วยไม่ได้?」
「คงเป็นเรื่องปกติที่ผมจะถูกตำหนิครับ บางคนอาจจะคิดว่าน่าขนลุกด้วยซ้ำ」
ฉันสัมผัสได้ถึงเด็กชายตัวน้อยที่ชื่อคัตสึมิ โฮมุระมาจากดวงตาของเขา
ดวงตาที่ดำสนิทเหมืนอกับความมืดมิด คำพูดที่ออกมาจากปากเหมือนกับเป็นเรื่องราวของคนอื่นไม่ใช่ตัวเอง
「ตอนนั้นผมคิดว่าหากตัวเองตายไปพร้อมกับพ่อแม่ก็คงจะดี ทำไมผมถึงต้องมีชีวิตอยู่แล้วสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นต่อด้วยนะ」
อาจจะเป็นเพราะพ่อแม่ของเขาและสภาพแวดล้อมหลังกลับมาได้จึงทำให้เขาเป็นแบบนี้
พ่อแม่ที่ต่อว่าเขาทั้งที่เขายังเป็นแค่เด็ก ญาติที่ไม่ได้ดูแลเขาในฐานะผู้ปกครองให้ดีก็ด้วย
แม้ทุกอย่างจะได้รับการแก้ไขแล้ว แต่อดีตก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเลือนหายไป
「ผมเองก็เข้าใจพวกญาติๆนะครับ ที่อยู่ดีๆต้องมาเลี้ยงเด็กไม่ดีแบบผม」
「ฉันว่าเธอเข้าใจผิดประเด็นไปหน่อยนะ สิ่งที่ญาติของเธอทำต่างหากมันแย่สุดๆรู้หรือเปล่า?」
ภูมิหลังของเขาถูกเอามานำเสนอในข่าวหลายครั้ง
ทว่ามันก็ถูกนำเสนอออกมาเพียงบางส่วนเพราะเนื้อหาที่รุนแรงเกินไปไม่สามารถนำมาออกทีวีได้ ดังนั้นจึงทำให้รู้ชัดว่าอดีตของเขามันน่าเศร้าแค่ไหน
เด็กชายที่เสียพ่อแม่ไป สภาพจิตใจก็บอบช้ำพออยู่แล้วยังต้องมาโดนทำอะไรแบบนี้อีก
บาดแผลในใจของเขาไม่มีทางเยียวยาหายได้ด้วยตัวเองแน่
กว่ามันจะซ่อมแซมให้กลับมาดีได้ ก็มีแต่ต้องได้รับการเยียวยาที่ดีจากคนรอบตัว
「ผมไม่โทษพวกเขาหรอกครับ」
นอกจากจะไม่โกรธแล้วยังทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดกับพวกญาติของเขา
「ตอนนั้นผมก็ทำตัวน่าขนลุกจริงๆ ทั้งไม่หัวเราะ ไม่ร้องไห้ ไม่ได้แสดงท่าทีใดๆออกมาไม่ว่าจะเจอกับเรื่องอะไร」
ไม่มีทางที่เด็กแบบนั้นจะไม่ทำให้รู้สึกขนลุกนี่ครับ? เขาเหมือนจะพูดคำนั้นออกมาให้ฉันฟัง
「หลังจากที่พวกเขาดูแลผมไม่กี่ปี ในที่สุดผมก็ได้ออกมาใช้ชีวิตคนเดียวโดยไม่ต้องลำบากพวกเขาเสียที」
「……」
「แต่ผมก็ปรับตัวได้ง่ายนะครับ เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการแยกอยู่คนเดียวภายในบ้านเก่าเท่าไหร่」
……แยกอยู่คนเดียว?
เขาพูดเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่คนพวกนั้นแยกเขาให้อยู่คนเดียวทั้งที่อยู่ในบ้านหลังเดียวกันเนี่ยนะ?
ฉันฟังคำพูดของเขาแล้วก็รู้สึกเศร้าใจตาม นี่ยังมีความจริงอะไรที่พวกเรายังไม่รู้อีกกันนะ
「แต่หลังจากมาอยู่ตัวคนเดียวจริงๆผมรู้สึกสบายใจขึ้นนะครับ」
「การออกมาอยู่คนเดียวเลยน่ะเหรอ?」
「ครับ…ถึงมันจะไม่นานนักก็เถอะ」
เขาจ้องถ้วยชาในมืออยู่พักหนึ่ง ก่อนจะมองไปตรงนาฬิกาข้อมือแล้วพูดต่อ
「โปรโต…..ตั้งแต่ที่ผมได้พลังของอัศวินดำมา ชีวิตประจำวันของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไหนจะถูกโจมตีโดยพวกสัตว์ประหลาด ผู้คนเข้ามายุ่งกับผม มีพวกแปลกๆตามอีก….」
「…ไม่เคยคิดจะสละพลังนั้นทิ้งไปเลยเหรอ?」
「เรื่องนั้นไม่เคยคิดเลยครับ」
คัตสึมิคุงแทบไม่ต่างอะไรกับพวกอากาเนะเลย
ได้รับพลังมาแล้วก็จบลงที่สู้กับพวกสัตว์ประหลาดเพราะมีพลังนั้น
「ตอนที่ผมต่อสู้ในฐานะอัศวินดำ ก็คิดอยู่เสมอว่าจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่มีทางรู้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรสำหรับคนอย่างผมที่ไม่เหลืออะไรแล้วในชีวิต เมื่อก่อนผมสู้โดยคิดแบบนั้นมาโดยตลอดครับ」
「……แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปสินะ?」
「ครับ ผมได้เข้าใจอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น」
เพราะพวกอากาเนะหรือเปล่านะที่เปลี่ยนเด็กคนนี้
ส่วนตัวก็ไม่รู้ถึงรายละเอียดของพวกจัสติสครูเซเดอร์กับเขาเท่าไหร่ด้วยสิ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ฉันมั่นใจได้เลยก็คือเขาไว้วางใจและมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเธอ
「ดีใจนะที่ได้ฟังเรื่องราวของเธอ」
「ผมเองก็ดีใจครับ เพราะไม่ค่อยมีโอกาสได้คุยเรื่องพวกนี้กับคนอื่นด้วยสิ」
จากที่เห็น….ก็คงจะแบบนั้น
อย่างน้อยฉันก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เด็กคนนี้จะพูดขึ้นมาเองได้
พูดไม่ออกเลยแฮะพอได้ยินเรื่องราวในอดีตของเขา
แต่สุดท้ายสำหรับเขามันก็เป็นแค่อดีตไปแล้ว ที่สำคัญคืออนาคตจากนี้ต่างหาก
「อีกเรื่องที่ฉันสงสัยคือตอนนี้เธอมีใครดูแลอยู่เหรอในฐานะผู้ปกครองน่ะ?」
「เรื่องนั้นผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เหมือนกันครับ แต่ดูเหมือนตอนนี้เรมะจะได้เป็นผู้ปกครองคนปัจจุบันของผม」
「ประธานคนนั้นสินะ」
คงไม่แปลกอะไร
ไม่สินอกจากเขาแล้วฉันก็นึกไม่ออกจริงๆว่าใครเหมาะสม
ความสัมพันธ์ของพวกเขาคงสนิทมากเสียจนเรียกชื่อแบบนั้นได้ เอาเถอะ หากพวกเขาเห็นว่าดีฉันก็ไม่คิดบ่นหรอก
ทว่ายังเหลืออีกเรื่องที่ฉันต้องถามเขา
「คัตสึมิคุง」
「ครับ?」
「เธอคิดยังไงกับอากาเนะ?」
「……? สหายร่วมรบ……ไม่สิ ตอนนี้ต้องเรียกว่าเพื่อนครับแหะๆ พอได้มาพูดแบบนี้ก็แอบเขินเหมือนกัน」
เด็กคนนี้น่ากลัวจริงๆ
เห็นภาพของซาดาโอะซังตอนเด็กๆเลย
อย่างไรก็ตามในฐานะคนเป็นพ่อแม่ก็อยากจะเห็นลูกมีความสุข ดังนั้นฉันคงต้องออกแรงสักหน่อย
ในขณะที่ความเงียบงันปกคลุมห้องนั่งเล่น ฉันก็หยิงหนังสือเล่มเล็กซึ่งเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกมา
「คัตสึมิคุง….อยากจะดูอัลบั้มรูปของอากาเนะไหม?」
「ถึงจะดูเสียมารยาทแต่ขอปฏิเสธครับ….」
เขาตอบกลับมาจริงจังเสียยิ่งกว่าเรื่องเล่าตอนแรกอีก
เอ๋ ทำไมกันล่ะ?
–จบ–
พ่อตาอีกบ้านไฟเขียวเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าพวกพี่สาวที่ช็อกไปเพราะอิจฉาที่น้องพาว่าที่แฟนหนุ่มแสนดีทำงานบ้านเก่งเข้าบ้านทั้งที่ตัวเองยังไม่มีปัญญาหาได้สักคนหรือเปล่า
ที่แน่ๆ แม่อากาเนะได้พ่ออากาเนะมาด้วยวิธีการไม่ปกติแหง
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code