อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 82 เหตุผลในการมีชีวิต (มุมของคอสโม่)
หัวใจของท่านรูอินมีเพียงอัศวินดำ
พูดกันตามตรงว่าฉันคงเป็นเพียงเบี้ยที่ใช้แล้วทิ้ง
ตอนแรกก็คิดว่าฉันจะต้องร้องไห้ออกมา ปฏิเสธว่ามันคือเรื่องโกหกพร้อมกับน้ำตาอาบสองแก้มและจมอยู่กับความโศกเศร้า
ทว่าฉันกลับยอมรับได้ง่ายกว่าที่คิด
โฮมุระเป็นคนพิเศษ
สิ่งมีชีวิตที่มีพลังเหนือเหตุและผลที่ฉันไม่เคยพบเจอ
หลังเขาเอาชนะฉันได้อย่างสมบูรณ์ ฉันก็ยอมรับในตัวเขาแล้วเหมือนกัน
「……โฮ่ย คอสโม่」
「อะไรของนายชินโด ตอนนี้ไม่ได้มีลูกค้าสักหน่อยขอพักบ้างเถอะ」
ในขณะที่ฉันกำลังนั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์แล้วจมอยู่ในความคิด ชินโด เจ้าของร้านกาแฟก็เข้ามาถามฉัน
「เปล่า ไม่ได้คิดจะใช้อะไร แค่เห็นว่าเธอแปลกไปน่ะ」
「หา? 」
「เป็นอะไรหรือเปล่า เรื่องคราวก่อนก็ผ่านมาสักพักแล้วด้วยสิ」
นับตั้งแต่ที่ท่านรูอินปรากฏตัวสินะ
ถึงจะทำใจยอมรับได้ แต่มันก็คงส่งผลต่อฉันจริงๆ
「นายก็รู้อยู่แล้วนี่」
「อื้ม แต่จะว่ายังไงดีล่ะ สภาพเธอดูเหมือนแฟนสาวที่อกหักจากคนรักน่ะ」
「หากนายเอาฉันไปเทียบอะไรแบบนั้นอีกจะเชือดให้เลยนี่」
รู้จักพูดให้มันน่าฟังกว่านี้ไม่ได้หรือไง!
ให้ตายสิ!
「ท่านรูอินที่ฉันสาบานว่าจะภักดีด้วยไม่ได้สนใจฉันเลยสักนิด สายตาของท่านมีแต่อัศวินดำคนเดียว」
「…ถึงเธอจะลำบาก แต่เขาเองก็ไม่ต่างกันนักหรอก」
「ฉันรู้น่า」
ฉันได้รู้ถึงอดีตของโฮมุระมาบ้างแล้ว
เขาเหมือนกับฉันพอสมควร
หากจะต่างก็คงเป็นเรื่องที่วาส พ่อของฉันรับฉันมาดูแลหลังฉันเสียครอบครัวไป
แต่เรื่องแบบนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับโฮมุระ
「ดาวของฉันถูกกำหนดให้ล่มสลาย」
「อยู่ดีๆ ก็พูดอะไรของเธอน่ะ? 」
「แค่ฟังเฉยๆ มันยากนักหรือไง」
อยู่ดีๆ ฉันก็เกิดอยากจะพูดเรื่องราวของตัวเองให้ใครสักคนขึ้นมาซะอย่างงั้น น่าแปลกชะมัด
「ไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากเฝ้ารอความตายที่กำลังจะมาถึง…ทว่าก็ได้รับความช่วยเหลือจากพ่อบุญธรรมของฉัน จนทำให้ฉันมีทุกวันนี้ได้」
「ภาพของดวงดาวที่กำลังล่มสลาย….พอเจออะไรมามากมายมันก็คงต้องเชื่อแล้วแหละนะ」
ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
อาจจะเห็นบางอย่างในตัวฉันก็ได้
แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณที่ทำให้ฉันรอดชีวิตมาได้
ฉันชื่มชมพ่อของฉันที่พยายามให้คำแนะนำฉันในฐานะพ่อที่แอบดูงุ่มง่าม และพ่อของฉันที่ให้คำแนะนำอย่างเข้มงวดในฐานะลำดับที่ 1
「เพราะงั้นฉันเลยกังวลน่ะ」
「เรื่อง? 」
「ฉันจะใช้ชีวิตแบบนี้ไปได้นานอีกแค่ไหนกัน」
ท่านรูอินไม่ได้คาดหวังอะไรจากฉันเลย
ฉันแน่ใจว่าพ่อเองก็คงผิดหวังในตัวฉัน
ฉันควรจะอยู่ต่อไปแบบนี้จริงเหรอ
ฉันสามารถเมินการต่อสู้ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้และไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวได้อีกหรือเปล่า
「ดาวดวงนี้…เป็นที่ที่ดีจริงๆ 」
อาหารก็อร่อย
แม้ว่าเครื่องจักรอะไรจะล้าสมัยและควบคุมได้ยาก แต่วัฒนธรรมที่แตกต่างและหลากหลายก็เข้ามารวมตัวกันจนกลายเป็นดาวโลก มากกว่าจะมีศูนย์รวมหนึ่งเดียวเหมือนดาวดวงอื่น
「ฉันที่มีพลังในการต่อสู้ จะเมินเฉยเรื่องที่เกิดขึ้นได้หรือเปล่านะ」
「……เรื่องนั้นฉันให้คำตอบกับเธอไม่ได้หรอな」
「นั่นสินะ ฉันคงต้องเป็นคนเลือกเอง」
「เธอก็รู้ตัวดีนี่」
จนถึงตอนนี้ฉันใช้ชีวิตโดยขึ้นอยู่กับคนอื่นไม่ใช่ตัวเอง
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หากไม่มีพวกเขา ฉันก็ไม่มีอะไรเลย
มันคือสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้หลังความพ่ายแพ้
รู้สึกตัวเองเป็นเด็กโง่ของแท้….
「งั้นให้ฉันติดต่อคัตสึมิไหม」
「เพื่อ!? 」
คุยกันอิท่าไหนถึงไปลงที่เรียกโฮมุระมาได้ล่ะ!!
ไม่ใช่ว่าฉันจะต้องไปสู้กับหมอนั่นอีกยกหรอกนะ?!
「คิดซะว่ามันเป็นโชคชะตาละกันตอนนี้ความทรงจำของเขาเหมือนจะกลับมาทั้งหมดแล้วด้วย」
「ก็นั่นแหละมันจะดีเหรอ ไม่ใช่ว่าตัวเขาตอนเป็นอัศวินดำเปิดก่อนแล้วค่อยคุยไม่ใช่หรือไง?!」
「ไม่ต้องห่วงหรอกน่า」
ชินโดยิ้มขณะหยิงโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา
「โดยพื้นฐานแล้วจะอัศวินขาวหรืออัศวินดำก็ไม่ต่างกันหรอก ถึงน้ำเสียงท่าทาง คำพูดจะไม่เหมือน แต่ความใส่ใจเห็นอกเห็นใจคนอื่นแม้จะไม่มีความทรงจำอยู่เขาก็มีมันเสมอ นั่นคือสิ่งที่ฉันผู้อยู่ใกล้ชิดกับเขาระยะหนึ่งสังเกตเห็นได้ เธอเองก็น่าจะรู้นี่」
「……」
「เพราะเธอก็เคยได้รับมันจากเขามาแล้วใช่ไหม? 」
ฉันจะได้คำตอบที่ตัวเองตามหาหลังพูดกับเขาไหมนะ
คนที่เกือบจะฆ่าฉันและคนที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้
อย่างไรก็ตาม การได้เจอสักครั้งคงทำให้การตัดสินใจเรื่องในอนาคตง่ายขึ้น
「งั้นเอาเป็นว่าฉันจะโทร——」
「โฮก!!」
「ชิ」
จังหวะนั้นเองเลโอได้ส่งเสียงร้องออกมา
ฉันที่สัมผัสได้เหมือนกันก็รีบดึงเลโอที่เปลี่ยนร่างเป็นหัวเข็มขัดเข้ามาทันที
『LEGURUS DRIVER』
เมื่อชุดเกราะสีน้ำเงินเข้ามาประกอบที่ร่างของฉันกระสุนพลังงานก็ถูกยิงออกมาจากทางนอกร้านใส่ฉันกับชินโด
ก่อนที่มันจะระเบิดฉันได้ใช้ดาบปลายปืนตัดมันทิ้งเพื่อปกป้องชินโด
「……โถ่เว้ย」
กระสุนพลังงานถูกยิงออกมาเพียงนัดเดียว
แต่ความเสียหายที่มันทำได้ก็กินไปเกินครึ่งของร้านกาแฟแล้ว ก่อนอื่นต้องตรวจสอบว่าชินโดปลอดภัยดีไหม
「ยังหายใจดีใช่ไหม ชินโด!!」
「อะ อ้าา เธอก็ไม่เป็นไรสินะ?! แต่ร้านของฉันนนนน!!」
「รักษามาดเข้มของตัวเองหน่อยสิ!」
ท่าทางเขาจะไม่เป็นไร
ฉันลุกขึ้นยืนแล้วปัดพวกเศษไม้ออกจากตัว
「รีบโทรหาโฮมุระซะ ฉันจะไปหยุดพวกศัตรูข้างนอกเอง!」
「ดะ เดี๋ยว! เธอไม่จำเป็นต้องออกไปสู้ก็ได้!!」
「เป้าหมายของศัตรูคือฉัน ดังนั้นต้องรีบออกไปก่อนจะยิงมาอีกรอบ!」
「ขะ เข้าใจแล้ว โถ่เว้ย!!」
ฉันกระโดดออกจากหน้าต่างร้านที่พังอยู่และวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่เหมาะสมแทน
「……ดูเหมือนอีกฝ่ายก็คิดแบบเดียวกัน」
ฉันรู้สึกเหมือนมีคนกำลังไล่ตามฉันมาข้างหลัง ไม่นานนักฉันก็มาถึงที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
พวกมันมากำจัดคนทรยศเหรอ?
ไม่สิ ฉันพ่ายแพ้ไปแล้วจึงไม่จำเป็นต้องสู้ต่อ
….แถมการมาโจมตีมนุษย์โลกแบบนี้มันคุ้มเสี่ยงที่จะต้องไปรับมือกับอัศวินดำหรือจัสติสครูเซเดอร์เหรอ?
「ยัยนั่น……!」
อยู่ดีๆ ฉันก็นึกได้ถึงใครบางคนที่น่าจะกล้าทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้
คนที่ทำอะไรตามใจตัวเองโดยไม่สนถึงคนอื่น
「ฮิลด้า!! เลิกซ่อนตัวแล้วออกมาซะ!!」
เมื่อมาถึงที่สวนสาธารณะ ฉันก็หยุดวิ่งแล้วตะโกนออกมา
ไม่นานนักไรเดอร์ในชุดสูทสีชมพูก็ปรากฏตัวขึ้น
「ว่าแล้วเชียวว่าเธอต้องรู้ พวกเราก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าอะไรกันนี่เนอะ」
「แกคิดมาทำบ้าอะไรที่โลกกันแน่」
ร้านที่ฉันทำงานอยู่เกือบจะถูกทำลายจนไม่เหลือซาก
ถึงจะรู้อยู่แล้วว่ายัยนี่ยังไม่วางมือจากโลก แต่ไม่คิดเลยว่าจะโจมตีโจ่งแจ้งขนาดนี้
「ถ้าจะให้พูดก็เรียกว่ามาชวนเข้าทีมละมั้ง」
「……คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำก่อนหน้านี้จะทำให้ฉันเชื่อคำพูดของแกเหรอ? 」
「ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร การโจมตีแบบนั้นเรียกว่าทักทายไม่ได้ด้วยซ้ำมั้ง」
หงุดหงิดชะมัด
ฮิลด้าเป็นเข็มขัดปรสิตที่จะเข้ายึงร่างของสิ่งมีชีวิตจนชวนรู้สึกขนลุก
แถมความสามารถของยัยนี่ดันเก่งอีกต่างอีก
「แล้วที่ว่าชวนเข้าทีมนี่มันยังไง」
「คนพวกนี้เขาสนใจเธอน่ะ」
ทันใดนั้นเอง เสาแห่งแสงสองต้นก็พุ่งลงมา
ก่อนปรากฏร่างของเรนเจอร์สีแดงกับเขียว
ฉันรู้ได้ทันทีว่าพวกมันคือใคร มอทัลเรดและมอทัลกรีนจากเซไคเซ็นไต สูทของพวกมันคล้ายกับจัสติสครูเซเดอร์ชะมัด
「หือ เยลโล่ล่ะ? 」
「เหมือนว่าเธอจะไม่มา」
「…เอาเถอะ ครั้งนี้คงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอกถึงเธอจะไม่มา」
ทำไมเจ้าพวกนี้ถึงโผล่มาล่ะ……!?
เรื่องจริงเหรอที่พวกมันตั้งใจจะชวนฉันเข้ากลุ่มด้วย?!
「ยินดีที่ได้รู้จัก เป็นการพบกันครั้งที่สองของพวกเราสินะ คอสโม่คุง? 」
「ยัยนี่จะไหวเหรอ มีประโยชน์จริงหรือเปล่า? 」
「จริงแท้แน่นอนจ้า ฉันรับประกันได้เลย」
ฮิลด้าคือคนแนะนำฉันให้พวกมัน?!
ไม่สิ ทำไมยัยนี่ถึงไปรวมกับพวกมันได้กันล่ะ
จากนั้นฮิลด้าก็ตอบคำถามในใจของฉันเหมือนกับรู้
「จริงสิ เมื่อวันก่อนฉันได้กลายเป็นสมาชิกของเซไคเซ็นไตในฐานะมอทัลพิงค์แล้วจ้า!」
ฮิลด้าอวดของใหม่ที่ติดอยู่ตรงข้อมือเธอ
「พิงค์คนก่อนได้หลับไหลไปแล้ว ต่อจากนี้ฉันจึงกลายเป็นมอทัลพิงค์คนใหม่น่ะ!!」
「ก็อย่างที่เธอพูด หลังจากพวกเราพ่ายแพ้ให้กับอัศวินดำและจัสติสครูเซเดอร์ ฉันจึงเห็นว่าพวกเราควรเสริมแกร่งให้กับทีม」
มอทัลเรดชี้นิ้วมาทางฉัน
「และฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกเธอเข้ามาแทนบลูที่ไม่ได้เรื่อง」
「ขอปฏิเสธ!! ใครมันจะอยากเข้ากลุ่มคนโรคจิตของพวกแกกัน!!」
ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องสนใจสักนิด
แถมไอ้คนโรคจิตพวกน้มันก็ทำอะไรโหดร้ายเกินกว่าจะบรรยายได้มาโดยตลอด
「ฉันไม่ได้ถามความต้องการของเธอ เธอเองก็ใส่สูทสีน้ำเงินด้วย ดังนั้นจึงเหมาะสมที่จะมาแทนบลูเป็นอย่างมากไม่ใช่หรือไง? 」
「หา」
「เอาเถอะ! ก่อนอื่นก็คงต้องต่อสู้กันก่อนจะกลายมาเป็นพวกพ้องสินะ!! มาเลย เพื่อการกำจัดความชั่วร้ายของดวงดาวแห่งนี้!!」
มอทัลเรดและกรีนได้สร้างอาวุธขึ้นมาในมือของพวกเขา
แม้ว่าจะโรคจิตแต่ก็เป็นพวกสองหลักลำดับต้ๆ
ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะรับมือกับพวกมันได้ไหม แต่อย่างน้อยก็ไม่คิดจะเข้าร่วมทีมกับพวกมันแน่นอน
ฉันชักดาบปลายปืนขึ้นมาแล้วกดคันโยกเข็มขัดเพื่อใช้งานท่าพิเศษ
『PUNISH → L・E・O』
「ไอ้พวกสารเลวโรคจิต!!」
『REGULUS EXECUTION……』
กระสุนพลังงานถูกยิงออกมาจากปากกระบอกปืน
รูปร่างของกระสุนพลังงานได้เปลี่ยนเป็นหัวสิงโตและพยายามกลืนกินอีกฝ่าย ทว่ามันกลับถูกดาบใหญ่ของมอทัลเรดฟันทิ้งทันที
「ชิ」
「อื้ม ว่าแล้วเชียวท่าจัสติสเรดน่าสนใจจริงๆ 」
มอทัลเรดเหมือนจะใช้พลังลึกลับจากพลังงานดวงดาราและควบคุมแรงโน้มถ่วงได้จริงสินะ
จากนั้นมอทัลกรีนก็พุ่งเข้ามาหาฉันพร้อมกับขวานทั้งสองข้างในมือ
「ย๊ากกก!!」
「……อึก」
ขวานของมอทัลกรีนพุ่งเข้ามา ฉันจึงใช้ดาบปลายปืนป้องกันทว่ามันกลับโดนกันกล่อน
…มีพลังในการกัดกร่อนอาวุธเหรอ?!
ฉันสลัดการปะทะกันของอาวุธแล้วหลบขวานที่พุ่งเข้ามาแทน จากนั้นก็ต้องหลบการโจมตีของเรดที่เข้ามาซ้ำอีกรอบ
「ชิ! ยังหรอกน่า!!」
ฉันหยิบ กริมคีย์ขึ้นมาก่อนจะเสียบเข้าไปที่หัวเข็มขัด
『LOADING→→ ARMOR:GRIM』
ชุดเกราะได้ก่อตัวขึ้นรอบตัวของฉันก่อนจะเข้ามาประกอบกับร่างของฉันปิดท้ายด้วยฮู้ดที่ขึ้นมาคลุมหัว
เคียวปรากฏขึ้นในมือ ฉันทำการจับมันไว้แน่แล้วเคลื่อนที่เข้าหาอีกฝ่ายด้วยความเร็วสูง
「ยังช้าไปนะ คอสโม่จัง」
「!」
เคียวที่เล็งไปหาเรด ถูกฮิลด้าขวางเอาไว้ด้วยดาบทรงเลี่อยไฟฟ้า
โดนหยุดไว้ได้……!?
『PUNISH → L・E・O』
「ยังช้าจ้า!」
「อึก……!? 」
ก่อนที่ฉันจะปล่อยท่าพิเศษออกมา ฮิลด้าก็พุ่งผ่านตัวฉันไป ความเจ็บปวดได้ส่งผ่านร่างของฉันทันที
「……แฮก!!」
『LOADING→→ARMOR:EVIL!!!』
「ฉันยังไม่คิดจะยอมแพ้หรอก」
โหมดอีวิลเหมาะกับการสู้กับศัตรูหลายตัว
ปืนใหญ่หลายกระบอกปรากฏขึ้นและสาดใส่อีกฝ่ายพร้อมๆ กัน
「ใช่แล้ว แบบนี้แหละ ยืดหยุ่นได้ดีจริงๆ 」
「นี่สินะ ความสามารถของเธอที่ซ่อนอยู่」
……ชิ ถูกกันเอาไว้ได้หมด
แล้วตอนนี้ฉันควรจะทำยังไงต่อดีล่ะ?
หากจะเอาให้แน่ใจเลยก็คงต้องใช้โจ๊กเกอร์ฟอร์ม…
「ไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่ผิด!!」
พลังที่ไม่ควรแตะต้อง!!
เพราะฉันเอาแต่แสวงหาพลัง ฉันจึงมองข้ามคู่หูสุดล้ำค่าของตัวเองไป
ดังนั้นฉันยอมตายเสียยังดีกว่าจะใช้พลังที่ทำให้เลโอต้องเจ็บปวดอีก!!
「เข้ามาเลยเข้ามา!! มาฆ่ากันอีก!!」
「ไม่บอกก็จะทำอยู่แล้ว!!」
ฉันป้องกันขวานที่มีพลังในการกัดกร่อนของมอทัลกรีนได้ทัน
「ตายซะยัยหนอนแมลง!!」
「อึก!!? 」
จากนั้นฉันก็ยิงสวนกลับไปใส่หน้าของอีกฝ่าย แม้กรีนจะเห็นและพยายามถอย แต่กระสุนของฉันก็ตามมันไปราวกับไม่ยอมให้หลบพ้น ทว่ามันก็ถูกหางจักรกลของฮิลด้าเข้ามาขวางเอาไว้อีกรอบ
「หา」
「คงไม่ติดว่าจะยอมปล่อยให้โดนใช่ไหมจ้ะ? 」
หางของเธอสามารถป้องกันกระสุนเอาไว้ได้
แม้ในแง่ความสามารถฉันอาจจะเหนือกว่าพวกเขาตัวต่อตัวแต่พอเป็น 3 ต่อ 1 ยังไงมันก็เกินมือ
เมื่อหางของเธอฟาดสวนเข้ามาแล้วฉันหลบ ร่างของมอทัลเรดก็โจมตีตามมาทันทีด้วยพลังงานที่ชวนน่าขนลุก
「โย้ช!!」
「ชิ……!!」
ฉันรับดาบใหญ่ของอีกฝ่ายที่ห่อหุ้มไปด้วยพลังงานอันน่ารังเกียจ
ระหว่างที่ฉันกำลังต้านพลังนั้น มอทัลเรดก็พูดขึ้น
「ทำไมถึงพยายามปฏิเสธพวกเราล่ะ? 」
「คึก หุบปาก……!!」
「จะลังเลไปทำไมกัน? มาสิ มาเข้าร่วมกับพวกเราแล้วพวกเราจะช่วยเธอในการฝึกฝนให้ใช้พลังได้ยิ่งกว่านี้」
「……ชิ」
「ไม่ต้องเป็นห่วง เมื่อเธอยอมรับพลังแห่งดวงดารา เธอก็จะยอมรับพวกเรา เหมือนที่พวกเราเคยยอมรับมันเข้ามา!!」
น่าขยะแขยงชะมัด……!!
อะไรของพวกมัน กำลังจะล้างสมองคนอื่นเพื่อหาพวกหรือไง!
มือของฉันสั่นไปหมด เมื่อเห็นท่าว่าจะแย่ฉันจึงเปิดใช้งานท่าพิเศษอีกครั้ง
『EVIL!! EXECUTION!!』
「ย๊ากกกกกก!!」
ถ้าฉันแพ้ให้กับเจ้าพวกนี้ ฉันคงจะไม่ใช่ตัวฉันอีกต่อไป
หากฉันแพ้ ฉันจะกล่ายเป็นศัตรูของโลก
แม้ชินโดหรือโฮมุระจะเป็นศัตรูของฉันในช่วงที่ฉันแสวงหาพลัง
แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ฉันไม่ได้ต้องการสิ่งพวกนี้อีกต่อไป
***
「จะต่อต้านอย่างโง่เขลาไปอีกทำไมในเมื่อพวกฉันจะมอบพลังให้กับเธอ」
ฉันกัดฟันเมื่อได้ยินเสียงของฮิลด้า
ตัวฉันในตอนนี้ไม่มีทางจะเข้ากับพวกมันได้เลยสักนิด
แต่ไม่ว่าฉันจะพยายามออกแรงสักแค่ไหน อีกฝ่ายก็ไม่ยอมให้ฉันทำอะไรได้ง่ายๆ สุดท้ายฉันก็หมดสภาพ การแปลงร่างก็ถูกปลดออก
「สรุปคือจะพาเธอไปใช่ไหม」
「แน่นอนสิ ดูจากที่สู้แล้ว เธอมีศักยภาพที่จะแกร่งได้กว่านี้」
สภาพของเอโลในตอนนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก ไม่ต่างกับฉันเลย
ถึงจะเป็นแบบนั้นฉันก็พยายามจะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แต่ฮิลด้ากลับเดินเข้ามาหาแล้วมองเข้ามาในดวงตาฉัน
「รู้สึกยังไงบ้างล่ะที่โดนท่านรูอินทรยศ? 」
「หา? 」
「ว่ากันตามตรงตัวเธอในตอนนั้นน่าตลกชะมัด เหมือนกับกำลังมองดูตัวฉันคนเก่าอยู่เลย แค่เห็นก็รู้สึกเจ็บปวดไปด้วยแล้ว」
ฮิลด้าส่งยิ้มออกมา
「พูดตามตรงนะว่าฉันชอบเธอจริงๆ เลยอยากจะได้เธอมาเป็นพวกพ้อง เพื่อที่ฉันจะได้เห็นด้านนั้นของเธอยิ่งกว่านี้」
「……ขอโทษทีแล้วกัน แต่ฉันคงตอบรับความคาดหวังของแกไม่ได้หรอก」
「? 」
ฉันพยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้งและนึกถึงช่วงเวลาที่ตัวเองรับรู้ถึงสิ่งที่ท่านรูอินคิด
ตัวฉันยังเคารพท่านรูอิอยู่เสมอ
แม้ท่านจะไม่เคยสนใจฉันเลยแม้แต่น้อย ความชื่นชมของฉันที่มีต่อท่านก็ไม่ได้ลดลงเลย
「เพราะตัวฉันมันอ่อนแอก็แค่นั้นเอง!!」
ร่างกายที่ควรจะหมดพลังจนน่าจะเคลื่อนไหวไม่ได้แล้ว กลับมีพลังบางอย่างที่ผลักดันฉัน พลังที่ฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ฉันจับเลโอที่บาดเจ็บขึ้นมาทั้งที่ขาของตัวเองยังสั่นและตะโกนใส่ฮิลต้า
「ไม่ต้องให้แกมาบอกหรอก ตัวฉันรู้ดีอยู่แล้วว่าตัวเองอ่อนแอและน่าสมเพชแค่ไหน!!」
「……กำลังดูถูกตัวเองเหรอ? 」
「หุบปาก!!」
ฉันลุกยืนแล้วกำหมัดเอาไว้แน่น
ทั้งที่ร่างกายเจ็บไปจนหมดแท้ๆ แต่ฉันกลับปล่อยหมัดใส่ฮิลด้าพร้อมกับแสงสีทองที่อยู่ในมือ
「!」
แม้ว่าเธอจะหลบได้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าฮิลด้าเริ่มระวังตัวมากขึ้น
「ก็อย่างที่ว่าแหละ แม้จะเป็นตัวฉันในตอนนี้ก็ยั่งโง่เง่า และเป็นคนไร้ค่าเหมือนเดิม!」
คนโง่เง่าที่ไร้หัวคิด ทำให้ท่านรูอินผิดหวัง
นั่นคือตัวฉันเอง!!
สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการเมินเฉยความรู้สึกทั้งหมดที่ตัวเองมีและทำตามที่คนอื่นบอกแทน!!
「แต่ฉันก็ยังมีชีวิตอยู่!! ตัวฉันที่รอดมาได้เพราะความช่วยเหลือจากผู้คนบนโลกใบนี้!!」
ทั้งคำพูดและการกระทำของโฮมุระและชินโด
ตอนที่ได้ทำงานร้านกาแฟ ฉันก็ได้เรียนรู้การคุยกับผู้คนที่ไม่เคยทำมาก่อน
「ความจริงในข้อนี้ไม่มีใครจะปฏิเสธมันได้แม้กระทั่งแก!!」
ถึงตัวฉันจะสามารถเลือกเส้นทางที่ไม่ใช่การต่อสู้ได้
ทว่าตอนนี้ฉันตัดสินใจได้แล้ว
「ชีวิตของฉัน ฉันจะตัดสินใจด้วยตัวของฉันเอง!!」
แสงสีทองส่องจ้ามากกว่าเดิม ซึ่งมันมาจากภายในมือที่ฉันกุมเลโอเอาไว้
ทันใดนั้นเองเกราะสีน้ำเงินบนร่างของเลโอก็แตกออกแล้วกลายเป็นเกราะสีเขียวขอบแทง
『KING REGURUS DRIVER!!』
「มันไม่ใช่เรื่องที่พวกแกจะมาตัดสินใจ เพราะฉันค้นพบเส้นทางของฉันเองแล้ว!」
ฉันเสียบหัวเข็มขัดเข้าไปในเข็มขัดอีกครั้งพร้อมกับกดปุ่มเริ่มการทำงาน
「แปลงร่าง!」
เสียงคำรามดังขึ้นทันทีหลังฉันทำการแปลงร่าง
มอทัลเรดกับกรีนที่เห็นท่าไม่ดีจึงเริ่มโจมตีฉันอีกครั้ง แต่สิงโตสีทองก็พุ่งออกมาจากหัวเข็มขัดชนเข้ากับอีกฝ่ายจนกระเด็น
「จงกู่ร้องเสียงคำรามแห่งความมุ่งมั่น!! คิงเลโอ!!」
『โฮ๊กกกกกก!!!!』
สิงโตตัวนั้นได้วิ่งเป็นวงกลมอยู่รอบตัวของฉัน
อนุภาคสีทองค่อยๆ ก่อตัวขึ้นรอบตัวฉัน สิงโตทำการกลืนกินร่างของฉันจากด้านหลังก่อนเปลี่ยนร่างของมันให้กลายเป็นเกราะ
『COME ON!!』
『GREAT BEAST!! AIM FOR THE STARS!!』
ชุดเกราะสีเขียวได้ประกอบเข้าที่ร่างของฉัน
เกราะรูปหัวสิงโตได้ปรากฏขึ้นบนร่างของฉัน พลังที่ฉันไม่เคยสัมผัสมาก่อนได้เอ่อล้นออกมา
ไม่สิ นี่แหละคือพลังที่แท้จริงของเลโอที่ฉันไม่เคยดึงมันออกมาใช้ได้
「แต่จากนี้ไปมันจะไม่ใช่แบบนั้นอีก!!」
ฉันค้นพบเหตุผลที่ตัวเองต้องต่อสู้แล้ว
มาร่วมทางไปด้วยกันเถอะ ไม่ใช่แค่ตัวฉันคนเดียว!!
『KING LEGURUS!!』
『ORIGIN FOAM!!』
ขอบสีทองถูกสลักเอาไว้ตามขอบของชุดเกราะ การแปลงร่างเสร็จสิ้น
“คิงเรกูรัส”
นี่คือพลังที่แท้จริงของเลโอที่ฉันไม่เคยดึงมันออกมาใช้ได้เลย!!
————-
Note 1 : มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code