อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 79 เมื่อทุกอย่างมาบรรจบกัน 5
ฉันเห็นภาพที่เกิดขึ้นผ่านทีวีที่ติดอยู่ภายในร้าน
คัตสึมิ โฮมุระได้ฟื้นความทรงจำทั้งหมดกลับมาแล้ว จากนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา
แม้จะถูกหักหลัง แต่ฉันก็ยังคงมองเธอด้วยความชื่นชมและหวาดกลัว สีหน้าที่เธอแสดงออกมาไม่ใช่สีหน้าที่ฉันเคยเห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียว
「……อึก」
แรงกดดันอันมหาศาลที่สัมผัสได้แม้จะดูผ่านทีวี
ความแข็งแกร่งของเธอทำให้ทุกคนที่มองเห็น ทุกสรรพสิ่ง ต้องก้มกราบลงพื้น
การดำรงอยู่ของท่านรูอินเพียงอย่างเดียวก็มากพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนยอม
「บะ แบบนี้ แย่แน่…!!」
ทางฉันยังพอประคองร่างตัวเองไม่ให้ล้มลงกับพื้นไหว แต่คนอื่นในร้านไม่ใช่แบบนั้น!
「อะ นะ นี่มัน เกิดอะไร….……」
「ละ ละสายตาจากเธอไม่ได้…ทะ..อ่ะ…」
ลูกค้าภายในร้านได้รับผลกระทบทุกคน พวกเขาไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ แค่นอนคว่ำอยู่บนโต๊ะ
แค่เห็นท่านรูอิน ก็ทำให้ผู้คนทั้งหลายยอมแพ้โดยไม่คิดจะหาทางสู้
「ยะ ยัยนั่นมันตัวบ้าอะไรกัน…!!」
「ชินโด! รีโมต! รีโมตทีวีอยู่ไหน!!」
「ตะ ตรงนั้น!!」
ชินโดล้มลงกับพื้นพร้อมกับถ้วยกาแฟในมือ
แม้จะแอบแปลกใจที่ถึงจะล้มกาแฟในมือกลับไม่หกเลยสักนิดก็เถอะ ว่าแล้วฉันก็ยืดแขนออกไปหยิบรีโมตมาเพื่อปิดทีวี
เมื่อภาพบนจอหายไป แรงกดดันที่ทับร่างของฉันเอาไว้ก็หายไปด้วย
「คอสโม่ ช่วยได้เยอะเลย……」
「อ้า……」
นี่คือทั้งหมดที่ฉันทำได้
หากท่านรูอินต้องการจริง แค่พริบตาเดียว ดาวดวงนี้ก็หายไปแล้ว
「โฮมุระ พยามเข้าล่ะ…!」
ตอนนี้เขาเป็นคนเดียวที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบันได้
ได้โปรดอย่าทำให้โลกใบนี้ต้องจบลงเลย
***
เซไคเซ็นไต ลำดับที่ 8 และการโจมตีของลำดับที่ 7
ทันทีที่เอาชนะเจ้าพวกนั้นได้ ฉันก็เห็นบางสิ่งปรากฏขึ้นและนั่นทำให้ฉันคุกเข่าลงกับพื้นทันทีอย่างไม่มีทางต้าน
แต่ไอ้ฉันน่ะยังดี
สภาพของพนักงานคนอื่นๆล้มลงไปกับพื้นหมดแล้ว แม้จะคงสติได้แต่ก็ไม่สามารถขยับตัวได้เลย
「ประธาน ไอ้นี่มัน……!!」
「อ้า ยัยนั่นมาแล้ว」
ฉันรู้ได้ทันทีว่าเป็นยัยนั่น
รูอิน ผู้นำองค์กรไร้นาม….อันโนว ผู้อยู่บนจุดสูงสุดของลำดับแห่งดวงดาราได้มาถึงโลกใบนี้แล้ว
「คัตสึมิ…นี่นาย…!!」
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้นอนราบอยู่กับพื้นและไม่สามารถขยับตัวได้ ทว่าเขากลับเป็นคนเดียวที่ยืนอยู่ต่อหน้ารูอินโดยไม่ได้รับผลกระทบเลย
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งของเขา สูทที่เขาใส่อยู่ หรือรูอินทำการแทรงแซงบางอย่างเลยทำให้เขาไม่ได้รับผลของพลัง
อย่างไรก็ตามฉันบอกได้เลยว่ารูอินสนใจตัวเขาเป็นอย่างมาก
「ทั้งที่วางแผนเอาไว้ว่าจะจับตามองไปอีกสักพักแท้ๆ แต่ในเมื่อแกเรียกฉันมาก็คงต้องตอบรับหน่อยสินะ?」
「……ทั้งหมดนี่ฝีมือแกเหรอ?」
คัตสึมิคุงที่เห็นพวกเราและคนอื่นๆล้มลงกับพื้นก็จ้องมองไปทางรูอิน
พิจารณาจากท่าทางของเขาคงจะไม่ได้รับผลกระทบจากรูอินอย่างที่คิด…ทางรูอินที่เห็นก็บ่นอย่างหัวเสีย
「ก็ไม่ใช่ว่าฉันต้องการเสียหน่อย แต่สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่เป็นแบบนี้กันหมดเมื่อเห็นฉัน」
「……แต่ฉันไม่เห็นจะเป็นอะไร」
「เพราะแบบนั้นแกก็เลยดูน่ารักที่สุดยังไงล่ะ」
สิ่งที่เป็นไปไม่ได้มากที่สุดอาจจะเป็นไปได้เสียแล้ว…!!
ทว่าทำไมถึงเป็นคัตสึมิคุงล่ะ เขาทำได้ยังไงกัน?!
「แต่ก็ระวังคำพูดไว้ด้วยนะ เพราะบางคำที่พูดออกมาอาจจะกระตุ้นฉันก็ได้」
「หา? อะไรของแก?」
รูอินยิ้มออกมา
เหล่าลำดับแห่งดวงดาราได้เห็นใบหน้าเปี่ยมยิ้มของเธอเป็นครั้งแรก
「เอาเถอะ ถ้าแกอยากจะให้ฉันหยุด ฉันก็จะทำให้มันอ่อนลงหน่อยละกัน…อ้า แต่ก่อนหน้านั้น….」
「ในที่สุดก็ได้เจอสักที! ยัยสตอล์เกอร์!!」
เรดกระโดดลงมาจากบนฟ้าแล้วโจมตีรูอิน
เนื่องจากฉันไม่ได้แปลงร่างจึงไม่เห็นวิถีการโจมตีของเรด ทว่าการโจมตีของเธอก็ไปไม่ถึงตัวรูอิน
「หื้ม ไอ้นี่ก็รสชาติไม่เลว」
「……อะไรกัน!?」
ดาบของเรดถูกบางอย่างที่เหมือนกับบาเรียมาขวางการโจมตีเอาไว้
รูอินหมุนตัวกลับไปหาเรดแล้วยื่นมืออันเปลือยเปล่าไปหาเรด
คัตสึมิคุงที่เห็นแบบนั้นจึงพุ่งเข้าไปเตะแขนอีกฝ่ายทันที
「มะ ไม่จริงน่า……!?」
หลังสิ้นเสียงนั้น ทางฟ้ายามค่ำคืนก็โดนกรีดแยกออกจากกันเป็นสองส่วน
เพียงแค่การขยับมือรูอินก็สามารถผ่าท้องฟ้าได้ทันที หลังการกระทำนั้นเธอก็หันหามองคัตสึมิคุง
「ฟุฟุ」
「นี่แก……!!」
รูอินโบกแขนไปมาอีกครั้ง แล้วก็เป็นจังหวะที่คัตสึมิคุงหายตัวไป———ตัดภาพมาอีกที เขาได้อุ้มเรดเอาไว้ในอ้อมแขนบริเวณจุดที่ห่างจากรูอินไประดับหนึ่ง
เสี้ยววินาทีจากนั้น พื้นที่รอบตัวของรูอินก็ถูกทำลายจนสิ้นราวกับถูกกรงเล็บปริศนาคว้านออกไป ฉันตระหนักได้ทันทีว่าการโจมตีเหล่านี้น่ากลัวขนาดไหน
「คะ คัตสึมิคุง……」
「รูอิน! อย่าแตะต้องเธอคนนี้…!!」
「อย่าโกรธไปเลยน่า ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าสักหน่อย」
เพียงแค่ขยับแขน….
รูอินแสดงพลังทำลายล้างของตัวเองให้คัตสึมิคุงและเรดได้เห็น พร้อมกับยิ้มออกมา
「เยลโล่กับบลูเหมือนจะคุกเข่ากับพื้น แต่เรด….ยอดเยี่ยม…เหมือนว่าแกจะได้รับพลังนั้นมาแล้วสินะ…..」
「คึก!!」
「ยอดเยี่ยมจริงๆ ดาวโลกนี่ช่างน่าค้นหา จะเรียกว่าเป็นดาวผลิตสินค้าชั้นยอดจะได้ไหมนะ」
เห็นพวกเขาเป็นสินค้าเหรอ?
ถึงจะรู้ถึงพลังของรูอิน แต่ก็ไม่เข้าใจการกระทำของเธอเลยสักนิดว่าทำไมเธอถึงต้องหมกมุ่นอยู่กับคัตสึมิคุงคนเดียว
「……เอาล่ะ. ตอนนี้ฉันลดออร่าให้มันน้อยลงแล้ว จะมาเริ่มบรรรเลงไปพร้อมกับพวกจัสติสครูเซเดอร์ไหม?!」
…แรงกดดันเบาบางลงจริงๆ
ทว่ามันก็ลดลงแค่ครึ่งหนึ่ง
สำหรับคนธรรมดายังยืนไม่ไหว
「เรด กลับไปซะ」
「ตะ แต่ว่า……」
「บอกบลูกับเยลโล่ด้วยว่าอย่ายุ่งกับยัยนี่….พวกเธอในตอนนี้ทำอะไรไม่ได้หรอก」
「……ขะ เข้าใจแล้ว」
เรดถอยออกมาเพื่อไม่ให้ขวางคัตสึมิคุง
สถานการณ์อาจจะต่างออกไปนิดหน่อยหากฉันสามารถปรับปรุงอุปกรณ์ใหม่ที่หลับไหลอยู่ใต้ดินสำนักงานใหญ่ได้ทัน
ดังนั้นอดทนไว้ก่อนนะเรด!!
「ได้ข่าวว่าเล่นกับความทรงจำของฉันซะยับ ยัยบ้านี่…!!」
คัตสึมิคุง ก้าวออกไปข้างหน้าพร้อมกำหมัดแน่น
ฉันแน่ใจว่าเขาตั้งใจจะสู้กับเธอที่นี่ แต่ความเสียหายจะขนาดไหนกัน
「อ้อ ตอนนั้นสนุกมากเลย」
「แล้วฉันสนุกกับแกด้วยเหรือไง!!」
「ก็นั่นสิเนอะ แต่ตอนที่แกความจำเสื่อมไปก็ได้ฉันช่วยแนะนำหลายๆอย่างให้นะ ไม่ดีเหรอ?」
「นั่นเพราะแกขโมยมันไปไม่ใช่หรือไง! โถ่เว้ย!!」
เสียงลึกลับที่ชิราคาวะคุงเคยบอกคงจะเป็นรูอินสินะ ก็แอบเคยเดาๆเอาไว้แล้วเหมือนกัน แต่ดันจริงซะนี่
「ครั้งแรกที่เล่นฉันซะยับเป็นเพราะฉันยังไม่พร้อมเต็มร้อยหรอก !! ไหนจะหนี้แค้นครั้งที่ 2 อีก….」
「กลายเป็นพ่อหนุ่มอารมณ์ร้ายคิดแค้นไปแล้วสิ แต่ฉันก็ไม่เกลียดหรอก」
ครั้งที่ 2?
ครั้งแรกฉันเข้าใจว่าเป็นตอนที่เขาความจำเสื่อมกลับมาโลก แต่ครั้งที่ 2 นี่มันตอนไหนกัน?
หวังว่าคัตสึมิคุงจะไม่คลั่งไปเสียก่อนนะ
「ปัญหาของแกในอดีตคือแกมาถึงทางตันแล้วไปต่อไม่ได้ แต่โชคดีที่ฉันเห็นความโหดร้ายที่ซ่อนอยู่ในตัวแกเข้าก็เลยเข้ามาช่วยเลี้ยงดูเท่านั้นเอง」
「ทำอย่างกับฉันเป็นเด็กทารก……ชิ」
ไม่ว่าจะยังไงก็น่าจะเกิดการต่อสู้ระหว่างเขากับรูอินในตอนที่ฉันไม่รู้แหง
….ถึงจะแอบน่ารำคาญที่ต้องมาฟังเสี่ยงอัลฟ่าขู่เหมือนหมาอยู่ข้างๆก็เถอะ
「งั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาชำระหนี้แล้ว」
คัตสึมิคุงสร้างประตูมิติขึ้นภายในมือพร้อมต่อสู้
ในขณะที่คัตสึมิคุงทำแบบนั้น รูอินก็เริ่มเดินไปนั่งอยู่บนซากปรักหักพังบริเวณนั้น
「ฟุฟุ อย่าได้เข้าใจผิดไปสิ ฉันไม่คิดจะสู้เสียหน่อย」
「หา……?」
「ก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าที่มาก็เพราะถูกแกเรียกเฉยๆ」
เรื่องนั้นมันก็ใช่ แต่ในเมื่อไม่คิดจะสู้แล้วเธอปรากฏตัวทำไมล่ะ
เธอต้องการอะไรจากโลกใบนี้กันแน่
「นั่นสินะ ตอนนี้พวกชาวโลกก็ดูกันเยอะซะด้วย ฉันจะตอบคำถามแกหน่อยแล้วกัน」
「……หมายความว่ายังไง?」
「ไม่ได้คิดวางแผนแปลกๆหรอกน่า แต่เหมือนว่าแกมีคำถามจะถามฉันอยู่เยอะเลยนี่เนอะ」
「……」
หลังจากได้ยินแบบนั้นคัตสึมิคุงก็เดาะลิ้นแล้วลดกำปั้นลง
หากเขาสู้กับรูอินเห็นได้ชัดเลยว่ามันจะหายนะเสียยิ่งกว่าสู้กับพวกเซไคเซนไตก่อนหน้า
ดังนั้นคำพูดของรูอินก็เลยทำให้ฉันโล่งใจนิดหน่อย
「ก็จริงว่าฉันมีเรื่องอยากจะถามแก」
「ฟุฟุ อะไรล่ะ?」
「ทำไมแกถึงเล็งมาที่โลกกัน」
รูอินเอียงหัวสงสัยให้กับคำถามนั้น
….สำหรับนายมันอาจจะดูเป็นคำถามที่สมเหตุสมผล แต่เรื่องราวในตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้วจากที่ฉันเห็น
「ฟุฟุ นี่แกยังคิดว่าจุดประสงค์ของฉันคือโลกใบนี้อยู่จริงๆเหรอ?」
「ไม่ใช่เหรอ? แล้วมันจะมีอะไรได้อีก…. 」
「ดาวโลกอาจจะหายไปนานแล้วก็ได้หากไม่มีแกอยู่ 」
「……หา?」
「อย่างที่ฉันบอก คัตสึมิ อย่าทำให้ฉันผิดหวังเชียวล่ะ 」
คัตสึมิคุงถามอย่างอารมณ์เสียผิดกับรูอินที่พูดอย่างสนุกสนาน
「เพราะแก ฉันก็เลยยังไม่ทำลายโลกใบนี้」
ราวกับเป็นคำชี้ขาด
คัตสึมิคุงถึงกับไปไม่เป็นเมื่อได้ยินคำตอบของรูอิน
「คุณค่าของดาวโลกทั้งหมดขึ้นอยู่กับแก」
「ถามว่าทำไมต้องส่งพวกลำดับดวงดารามาบุกโลกงั้นเหรอ?」
「ทั้งหมดก็เพื่อแก」
「ฉันอยากจะให้แกได้เติบโตขึ้น」
「สิ่งที่ฉันสนใจมีเพียงแค่แกคนเดียวเท่านั้น」
ในขณะที่ทุกคนพูดอะไรไม่ออก รูอินก็เริ่มพูดออกมาเรื่อยๆ
ความสับสนที่ไม่อาจทำความเข้าใจได้โดยง่าย โลกยังรอดมาได้เพราะรูอินรู้สึกหลงไหลในตัวของคัตสึมิคุง
———ด้วยเหตุผลแบบนี้เนี่ยนะ
ถึงจะคิดเอาไว้แล้วว่าต้องการอะไรบางอย่างจากคัตสึมิคุง
แต่นี่มันเกินความเข้าใจสุดๆ
「เท่านั้นแหละเหตุผลของฉัน」
「……เป็นความผิดของฉัน……」
「ไม่เลย ไม่ใช่ความผิดของแก ต้องบอกว่าเป็นเพราะตัวแกต่างหากที่ทำให้ชะตากรรมที่ต้องถูกทำลายล้างของดาวโลกถูกเลื่อนออกไป ดังนั้นมองว่าแกเป็นผู้ที่ปกป้องมันเอาไว้น่าจะเหมาะสมกว่า」
ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตรายเพราะคัตสึมิคุง
แม้ว่าเขาจะช่วยเหลือโลกจากชะตากรรมที่ต้องล่มสลาย แต่ความจริงที่ว่าเขาดึงดูดมันเข้ามาก็ไม่เปลี่ยน
「ถ้าฉันถอนตัวล่ะ?」
「หืม?」
「ถ้าฉันออกไปจากโลกแล้วตามแกไป แกจะเลิกยุ่งกับโลกใบนี้ไหม?」
……อึก!!
ฉันพยายามจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็ต้องควบคุมกัดฟันทนเอาไว้ก่อน
「…จะเอาแบบนั้นเหรอ แกแน่ใจแล้วใช่ไหม?」
พอได้ยินคำตอบของคัตสึมิคุง รูอินก็เอามือปิดปากตัวเองราวกับไม่อยากเชื่อ
จากนั้นเธอก็เดินไปหาคัตสึมิคุงแล้วเอามือไปวางไว้บนหัวของเขา
「ฟุฟุ อยากจะลองทำแบบนี้มานานแล้ว」
「คึก!? อย่ามาแตะตัวฉัน!!」
เขาผงะไปครู่หนึ่งก่อนจะปัดเมือของเธอออก
อะไรกัน รูอินกำลังลูบหัวเขาอยู่เหรอ?
「การยอมจำนนมันไม่ค่อยมีความหมายเท่าไหร่ แต่ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้แฮะ เอาเป็นว่ามันน่าเบื่อออกที่จะทำให้แกเป็นของฉันโดยที่ไม่เต็มใจ」
「น่าเบื่องั้นเหรอ?」
「ก็ตามนั้น เอาเป็นว่าจะถือว่าฉันไม่ได้ยินเรื่องเมื่อกี้ละกัน」
「……」
「ถึงจะได้รับการฝึกฝนจากพวงพ้องและคำแนะนำจากฉันจนแกร่งขึ้นมามากแล้ว แต่ก็ควรรู้เอาไว้นะว่าบางเรื่องก็ไม่เป็นไปตามใจของแกตลอด」
「งั้นเหรอ……」
เมื่อเขาได้คำตอบแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินหันหลังให้อีกฝ่ายแล้ววินาทีต่อมาก็ใช้ศอกของตัวเองกระแทกเข้าไปที่ร่างของรูอินโดยไม่บอกกล่าว
「…ถ้างั้น การต่อสู้ก็ยังไม่จบลงจนกว่าฉันจะเอาชนะแกได้สินะ?」
「แกก็รู้คำตอบนั้นดีอยู่แล้ว」
รูอินใช้มือของเธอจับศอกของเขาเอาไว้แล้วยิ้มออกมา
ไม่ว่าจะทางไหนคำตอบในการหยุดยั้งโลกไม่ให้ล่มสลายก็คือการเอาชนะรูอิน
ถึงรูอินจะยังไม่ลงมือตอนนี้ มันก็ไม่ได้หมายความว่าโลกจะปลอดภัยจากภัยคุกคาม
「คัตสึมิ ฉันยังไม่อยากจะฆ่าแกตอนนี้หรอก」
「กล้าพูดตามใจชอบเชียวนะ……!!」
「ถึงอยากจะสู้กับแกในตอนนี้ที่มีพลังพอจะฆ่าฉันได้แล้วก็เถอะ」
หลังพูดจบรูอินก็สร้างประตูมิติขึ้นข้างหลังตัวเอง
ในขณะที่ก้าวเข้าไปเธอก็หันกลับมาคุยกับคัตสึมิคุงอีกครั้ง
「จงต่อสู้และแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ ใช้ทุกอย่างที่มีในการพัฒนาตัวเองซะ」
「….แกเองก็เหมือนกันอย่าได้คิดประมาทเชียวล่ะ ไม่งั้นหลังแกได้มีรูแน่」
「หึหึ」
รูอินยิ้มให้กับคัตสึมิคุงที่จ้องมองเธอไม่วางตา
「จงไปให้เหนือกว่าพวกลูกน้องของฉัน และฉันจะรออยู่ที่ปลายทางนั้น」
พูดจบเธอก็หายเข้าไปในประตูมิติ
แรงกดดันที่ทับร่างของฉันเอาไว้หายไปจนหมด
「พวกเซไคเซ็นไตกับอัศวินดำหายไปแล้ว….」
เพราะรูอินปรากฏตัวขึ้นมาฉันเลยไม่ได้สนใจ แต่พอสถานการณ์สงบลงพวกมันก็หายไปหมดแล้ว
ถึงการปล่อยให้พวกมันหนีไปได้จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่อีกฝ่ายก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน คงไม่มีทางบุกมาอีกทีได้ง่ายๆ
「……ต้องรีบหาฐานใหม่ด้วยสิ」
สำนักงานใหญ่ถูกทำลายไปบางส่วน
ก็จริงว่ามันเป็นแค่อาคารบังหน้าฉากเฉยๆจะสร้างบำรุงใหม่ก็ทำได้สบาย
แต่ปัญหามันอยู่ที่ใต้ดินนี่สิ…ไม่มีอะไรรับประกันว่ามันจะปลอดภัยอีกในคราวหน้า
「อัจฉริยะจะต้องมีแผนสำรองเสมอ」
อาจะต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ก็ควรหาช่องทางเอาไว้บ้าง
ไหนจะมีปัญหาเรื่องที่ผู้คนรู้ถึงตัวตนของคัตสึมิคุงแล้วอีก
โชคดีรูอินหมกมุ่นอยู่กับเขามาก โลกของเราก็เลยยังปลอดภัยจากยัยยันเดเระแห่งกาแล็กซี่ แต่ความเป็นไปได้ที่พวกโง่เง่าบนโลกใบนี้อาจจะร้องหาความรับผิดชอบจากเขาและทำอะไรไม่คิด
หากปล่อยให้เขาลำบาก รูอินเองก็คงทำลายโลกนี้ทิ้งทันทีหลังได้ตัวคัตสึมิคุงไป
「คงต้องแจงเรื่องของรูอินให้คนบนโลกรู้…」
ในสถานการณ์ที่ต้องมาสู้กับพวกสัตว์ประหลาดเลขหลักเดียว จะให้มารับมือกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์พวกมนุษย์โลกก็ใช่เรื่อง
ต้องทำอะไรสักอย่างกับข้อมูลหน่อยละกัน
「……ก่อนอื่นต้องไปคุยกับเขาก่อน」
ฉันจะเผยใบหน้าจริงในที่สาธารณะไม่ได้เด็ดขาด…
ดังนั้นฉันจึงหยิบหน้ากากอัศวินดำในกระเป๋าขึ้นมาเพื่อปลอมตัว
「เอ่อ ประธาน ไอ้นี่มัน…」
「ของที่ฉันใส่เอาไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินน่ะ」
「ไม่สิ ต้องบอกว่าทำไมถึงเป็นอัศวินดำล่ะ พกไปไหนมาไหนด้วยได้ยังไงเนี้ย?」
「ก็เพราะมันเป็นสินค้ายอดนิยมของบริษัทฉันยังไงล่ะ ….โฮ่ย หยุดมองฉันเป็นพวกโรคจิตได้แล้ว」
จริงอยู่ว่าคงจะสะดวกกว่าหากให้อัลฟ่าเปลี่ยนการรับรู้ของผู้คน แต่เรื่องราวมันหลุดออกไปถึงสื่อโลกโซเชียลหมดแล้ว จะตามเก็บยังไงก็ไม่หมดหรอก
ฉันจึงเดินเข้าไปหาคัตสึมิคุงโดยสวมหน้ากากเอาไว้และมองไปยังจุดที่รูอินหายตัวไป
「เรมะ」
「……อ้า」
「จากนี้แหละคือของจริง」
จากนี้ไปการต่อสู้ของพวกเราจะเข้มข้นกว่าเดิม
ในขณะที่ฉันสังหรณ์ใจเช่นนั้น เรดก็พุ่งเข้ามาหาคัตสึมิคุงจากด้านหลังด้วยพลังอันมหาศาล
「อัศวินดำคุง!! ในที่สุดนายก็จำได้หมดแล้ว!!」
「โอ้ย……」
เขาเกือบจะล้มลงเพราะการพุ่งมากอดของเรด ก่อนจะตั้งสติแล้วพยายามดึงเรดออกจากร่างของตัวเอง
「โห้ย ยัยบ้านี่ ออกไปนะเฟ้ย มันน่ารำคาญ!!!」
「ไม่เอา!! นายทำให้ฉันกังวลมากแค่ไหนรู้ตัวไหม หากไม่ยอมให้ฉันทำแบบนี้ ฉันก็ไม่มีทางให้——」
เยลโล่ กับบลูเดินเข้ามาลากเรดออกไป
เรดที่โดนดึงออกมาจากคัตสึมิคุงก็ล้มตัวลงกับพื้นแล้วงอแงกลิ้งไปมา
「พะ พวกเธอทำอะไร!?」
「อย่าใจร้อนเด้ ยัยคลั่ง」
「ใช่แล้ว ยัยคลั่ง ฉันต้องได้ก่อนสิ」
อัลฟ่ากระโดดมาทับหลังของเรดเอาไว้ ในขณะที่บลูกับเยลโล่มองดู
「อึก」
「เป็นแค่เก้าอี้มีปากพูดกับเขาที่ไหน?」
「ทำไมฉันต้องมาโดยอะไรแบบนี้ด้วยเนี้ย!?」
บรรยากาศตึงเครียดเมื่อกี้หายไปจนหมด
แต่ก็อาจจะบอกได้ว่าในที่สุด เขาก็กลับมาจริงๆสักที
「ตอนนี้ไปพาตัวกราทที่ถูกทิ้งไว้บนดาดฟ้ากลับมาก่อนละกัน」
กราทเป็นเอเลี่ยนที่สามารถฟื้นพลังของตัวเองได้ด้วยการกิน
เป็นที่รู้กันดีว่าเผ่าของเธอทำลายล้างดาวตัวเองจากการกลืนกินกันเอง ทว่าความสามารถพิเศษของเธอยังไม่หมด
เมื่อพลังงานของเธอหมดเผ่าของเธอจะกลับไปสู่ในสถานะคริสทัลเหมือนจำศีล
「ถึงจะช้าไป แต่ขอบคุณนะชิราคาวะคุง…เธอช่วยได้เยอะเลย」
…บอกได้เลยว่าหากไม่ได้ชิราคาวะคุงช่วย กราทคงไม่มีทางรอดแหง
ความพยายามของเธอไม่ได้ไร้ประโยชน์เลยสักนิด
「จากนี้ก็คงต้องยัดอาหารอร่อยๆอีกเยอะเพื่อให้เธอฟื้นกลับมา…」
ใช้โอกาสนี้จัดปาร์ตี้ฉลองการคืนชีพของคัตสึมิคุงเลยละกัน
แม้จะใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่ในที่สุดอัศวินดำ หรือ คัตสึมิ โฮมุระก็กลับมาแล้วจริงๆ
แค่นั้นก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับพวกเรา
————-
Note 1 : มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code