อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 60 ศึกครั้งใหญ่
จัสติสมารีน
เรือดำน้ำขนาดใหญ่ที่สำนักงานใหญ่จัสติสครูเซเดอร์เป็นผู้ครอบครอง
ตัวเรือมีการออกแบบให้มีรูปทรงแหลมเหมือนกับที่เห็นในหนังไซไฟอวกาศ บนดาดฟ้าของเรือก็มีลานลากยาวออกไปเหมือนเรือบรรทุกเครื่องบิน ฉันและเหล่าจัสติสครูเซเดอร์ทั้ง 4 คนก็ติดเรือลำนี้มา ก่อนจะเห็นภาพตรงหน้าที่เหลือจะเชื่อ
「ไอ้นั่นสินะกำแพงน้ำแข็ง……」
「ขนาดอยู่ตรงนี้ยังรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นสุดๆ 」
「หนาวกว่าฮอกไกโดประมาณ 2.5 เท่า」
「อาโออิเคยไปฮอกไกโดด้วยเหรอ……? 」
ภาพที่ฉันเห็นตรงหน้าคือกำแพงสีขาวที่มีพายุหมุนวนไปมา
ซึ่งความสูงของมันนั้นสุดลูกหูลูกตาราวกับไม่ต้องการให้ผู้ใดเข้ามาบุกรุก
ตอนนี้พวกเราอยู่กันบนดาดฟ้าเรือจัสติสมารีน
『ฉันคงมาส่งพวกเธอได้แค่นี้ ที่เหลือฝากด้วยล่ะ』
หลังจากได้ยินเสียงของเรมะ ส่วนหนึ่งของดาดฟ้าก็เปิดออกก่อนจะปรากฏยานสามลำเลื่อนขึ้นมา
ส่วนของฉันก็….
「ชิโระ ฝากด้วยล่ะ」
『โฮก!』
『LUPUS STRIKER!!』
มอเตอร์ไซค์สีขาวดำปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า
พาฉันขึ้นไปนั่งบนนั้นเรมะก็พูดขึ้นมา
「เริ่มขั้นตอนถัดไปได้เลย」
『BLACK Ⅳ! WHITE Ⅴ!』
ลำแสงสีเขียวพุ่งออกมาจากตาของชิโระแล้วยานลำใหม่ 2 ลำก็ปรากฏขึ้นห่างจากรถของฉันประมาณ 10 เมตร
ลำแรกเป็นยานเกราะสีดำคล้านกับเครื่องบินสเตล
ส่วนอีกลำเป็นสีขาวคล้ายกับของที่พวกจัสติสครูเซเดอร์ใช้
「……โย้ชし」
ส่วนท้ายของยานสีขาวถูกสลักเอาไว้ว่า ไวท์ 5 เปิดออก แล้วฉันก็บิดคันเร่งLupus Striker ขับเข้าไปข้างใน
พอขับเข้าไปตัวยานก็ทำการประกอบรถของฉันเข้ากับมันทันที
「……」
ทัศนวิสัยของฉันมืดไประยะหนึ่งก่อนที่จะเกิดแสงสว่างขึ้นโดยรอบราวกับเป็นการเปิดการทำงานของเครื่องยนต์ยาน
แอบรู้สึกกังวลนิดหน่อยเพราะเป็นการลองใช้งานครั้งแรก…แต่ในฐานะเด็กผู้ชายคนหนึ่งแล้วรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าแฮะ
「เรมะ……!」
『ไม่จำเป็นต้องพูดคัตสึกิคุง! หุหุ ฉันเข้าใจความรู้สึกนั้นดี!』
「อ้า……!」
ในขณะที่แลกเปลี่ยนอารมณ์ระหว่างเด็กผู้ชายกับเรมะ ฉันก็มองไปยังยานอีกลำ
『คัตสึกิ!』
「โปรโต ไหวใช่ไหม? 」
『สบายมาก!』
มีเสียงตอบสนองออกมาจากยาน แบล็ก 4
ปฏิบัติการคราวนี้เป็นแบบสายฟ้าแลบ ที่พวกเราจะใช้ยานทุกลำบุกทะลวงกำแพงน้ำข็งเข้าไป ในกรณีที่เกิดเหตุณ์ไม่คาดฝันตัวเลือกที่จะให้AIอย่างโปรโตควบคุม แบล็ก 4 ถือว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่สุด
『เอาล่ะ งั้นก็เริ่มประกอบร่างได้เลย!』
「รับทราบ」
แบล็ก 4 ที่ควบคุมโดยโปรโตเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาหาไวท์ 5 เพื่อทำการประกอบร่าง
ปืนใหญ่ได้ถูกติดตั้งไว้ตรงหน้าของยาน กลไกเครื่องเจ็ทได้ถูกติดเอาไว้ด้านข้างทั้งสองฝั่ง เมื่อควบรวมกันเสร็จเสียงเครื่องก็ดังก้องกังวานไปทั่วบริเวณ
『DOCKING PATTERNⅠ!』
『LUPUS GIGANT!! VEHICLE MODE!!』
จาก Lupus Striker เป็น Lupus Gigant
รูปร่างของมันตอนนี้ทำให้ฉันเชื่อว่าจะทะลวงกำแพงนั่นไหว
「คัตสึกิคุง…ใหญ่ชะมัด」
「น้องชายฉันน่าจะชอบเด้」
「เหมือน Batmobile ฉันชอบนะ」
『เอาล่ะ สาวๆ เร่งมือกันหน่อย!』
เรมะได้บอกพวกเธอผ่านเครื่องมือสื่อสาร
ว่าแล้วพวกสาวๆ ก็ขึ้นยานกันไป ตอนนี้ทุกคนอยู่ในสภาพพร้อมปฏิบัติการณ์แล้ว
『มาเริ่มปฏิบัติการกันเลย! เนื่องจากภายในกำแพงนั้นมีสนามแม่เหล็กแรงสูงอยู่ เป็นไปได้ว่าการสื่อสารจากภายนอกจะไม่ทำงาน ข้อมูลที่พวกเธอมีก็คือแค่จากดาวเทียมที่สำรวจก่อนหน้า ดังนั้นก็ทำในสิ่งที่พวกเธอคิดว่าเหมาะสมตามเรื่องราวซะ!』
ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เพราะเราไม่สามารถระบุตัวตนศัตรูทั้งหมดที่รออยู่ได้
ทว่าเรดกับเรมะก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวกับเรื่องนี้เลย
『ออกไปอาละวาดซะ! นี่คือคำสั่งที่ฉันสามารถมอบให้กับพวกเธอได้ แสดงให้ไอ้พวกเอเลี่ยนบ้าบอนั่นให้รู้ว่ามันคิดผิดแล้วที่มาเลือกดาวโลก กระทืบให้ยับอิหนู!!』
「「「「รับทราบ!!」」」」
『เริ่มปฏิบัติการได้!!』
เมื่อได้รับสัญญาณฉันก็เหยียบคันเร่งของยานทันที
Lupus Gigant พุ่งออกจากดาดฟ้าเรือด้วยความเร็วสูงจนฉันยังตกใจ ก่อนจะขับเคลื่อนขนานไปพร้อมกับพวกจัสติสครูเซเดอร์
『จัสติสครูเซเดอร์! ถอยไปข้างหลังยานของคัตสึกิก่อน ให้ยานเขาเป็นคนฝ่าไป!』
「หากเป็นยานลำนี้ละก็ไหวแน่!!」
ฉันเร่งความเร็วให้สูงขึ้นและพุ่งผ่านพายุความเย็นที่โหมกระหน่ำอยู่
อุณหภูมิภายนอกลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ด้วยพลังขับเคลื่อนของLupus Gigant มันสามารถทะลวงผ่านเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
「……ไอ้นี่มัน……!」
「ปราสาทน้ำแข็ง? 」
สิ่งที่รออยู่ภายในกำแพงนั้นคือดินแดนแห่งน้ำแข็ง
โดยใจกลางของที่นั่นซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางกลายกิโลเมตร มีปราสาทสีเงินตั้งอยู่
「เรมะ! ขอทำการทดสอบสัญญาณ?!」
『———』
「อย่างที่คาดเอาไว้…ติดต่อไม่ได้สินะ…เรด! ทางพวกเธอ――」
『ยืนยันสิ่งมีชีวิต! คัตสึกิ ข้างบน!!』
ทันใดนั้นเองก็ปรากฏเงาของบางสิ่งเหนือLupus Gigant
เมื่อหันกล้องขึ้นไปมองก็พบว่าเป็นนกยักษ์กำลังบินอยู่เหนือ Lupus Gigant และราวกับมองดูท่าทีของฉันเผื่อหาช่องโจมตี
「อะไรกัน!? 」
『กว้ากกกกก!!』
ขนาดตัวของมันน่าจะเรียกได้ว่าขั้นยุคไดโนเสาร์เลยมั้ง
「หะ เทราโนดอน!? 」
「จะอันไหนก็นกแหละเด้!」
「อุ จากความเห็นของฉัน นั่นคือ อาร์เจนทาวิส หนึ่งในนกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวั――」
「เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจะจัดการกับมันเอง ทุกคนกระจายตัวกันปฏิบัติการได้!!」
พวกเราทำการแยกตัวกันเพื่อป้องกันการโจมตีของนกยักษ์
พอสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่ามีหมายเลข 114 ติดเอาไว้ตรงปีกของมัน
ลำดับที่ 114 สินะ!!
จากลำดับแล้วมันไม่น่าจะมาคนเดียวแน่นอน
「เรด!!」
「ฉันรู้! พวกมันไม่มีทางมากันตัวเดียวแน่นอน!!」
เมื่อพายุหิมะเริ่มอ่อนกำลังลง
ฉันก็เห็นว่ามาเงาอีกมากมายกำลังค่อยๆ บินเข้ามา และบางส่วนก็โผล่มาจากภาคพื้นดิน
『คัตสึกิ นายน่าจะถูกล้อมเอาไว้แล้วนะ!』
「ก็อย่างที่แกว่า……!」
เห็นได้ชัดแล้วว่าอีกฝ่ายรู้ว่าพวกเราบุกเข้ามา แต่ว่า…
ทำไมพวกมันทุกตัวถึงยังไม่โจมตีเข้ามาล่ะ
『เจ้าพวกสัตว์ร้ายที่เข้ามารุกรานดินแดนของข้าเอ๋ย』
「! เสียงนั่น……」
『พวกเจ้าคือสิ่งที่โง่เขลา กล้าดียังไงมารุกล้ำดินแดนของอาริสต้าผู้นี้ 』
พวกเราหยุดฟังเสียงที่ดังก้องมาจากทางปราสาท
ไม่สินอกจากพวกเราแล้ว ไอ้ตัวที่ล้อมพวกเราอยู่ก็ฟังเสียงของมันเช่นเดียวกัน
『พวกไพร่จงสังหารพวกผู้บุกรุกที่ชั่วร้ายนี้เสีย ในข้อหามาเหยียบย่ำสวรรค์ของพวกแก』
「ผู้บุกรุกนี่ พวกเราเหรอ? 」
สมองมันต้องกลับถึงขนาดไหนกันฟะ ช่างกล้าพูดเหลือเกิน
เอเลี่ยนบุกโลกมาบอกชาวโลกว่าเป็นผู้บุกรุก
ความโกรธที่สุมอยู่ในอกเริ่มมากขึ้นจนฉันแปลกใจ
『เพื่อเป็นการแสดงความเมตตา ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าชดใช้บาปของตัวเองด้วยการปลิดชีวิตพวก———』
ในขณะที่ฉันกำลังจะเปิดใช้งานอาวุธ ก็เห็นว่ามีคลื่นสายลมปริศนากำลังพุ่งไปทางปราสาทน้ำแข็งที่ห่างออกไปหลายกิโล
สายลมนั้นมันตัดผ่านพายุหิมะอย่างง่ายดาย ก่อนจะเฉือนเอาส่วนบนของปราสาทให้ปลิวไปด้วย
「เอ๋」
ความประหลาดใจแรกอยู่ได้ไม่นาน วินาทีต่อมาฉันก็เห็นประกายแสงสีน้ำเงินถูกปลดปล่อยออกไปเป็นชุด ตามด้วยขวานยักษ์ที่หุ้มด้วยกระแสไฟฟ้าพุ่งไปทางปราสาทจนเกิดเป็นเสียงฟ้าร้องลั่นขนาดที่อยู่ตรงนี้ยังได้ยินชัด
『โห』
ฉันกับโปรโตถึงกับอึ้ง ไม่นานนัก ยานที่เรดใช้ก็ขับเข้ามาใกล้
ซึ่งบนยานลำนั้นก็มีเรดกำลังยืนอยู่เหนือตัวยานพร้อมกับดาบสีแดงเพลิงในมือ
「เป็นแค่หนูสกปรกที่เอาแต่ซุกหัวพูดเรื่องไร้สาระ」
ถัดจากเธอไปก็มีบลูที่ถือปืนอยู่ กับเยลโล่ที่ปาขวานทิ้งไปแล้วกำลังจ้องมองทางปราสาท แน่นอนว่าทุกคนปล่อยเจตนาฆ่าออกมาอย่างชัดเจน
「เบื่อที่จะต้องมาฟังคำพูดบ้าบอจริงๆ 」
「รีบๆ ลุยกันได้แล้วเด้ จะได้บ่เสียเวลา」
「พูดอะไรได้น่าสนใจ ฉันขอเป็นคนเป่าหัวมันปิดงานได้ไหม」
จากนั้นสามสาวก็ลงไปขับยานของตัวเองต่อ
「อย่างที่คิดแบบนี้สิถึงจะสมกับเป็นจัสติสครูเซเดอร์ที่ฉันรู้จัก…..」
『คัตสึกิ……? 』
ฉันแปลกใจกับคำพูดของตัวเองที่หลุดออกมาเหมือนกัน
อาการแบบนี้มักจะเป็นเมื่ออยู่กับพวกเธอด้วยสิ
บางส่วนในตัวของฉันมันบอกว่าการกระทำของพวกเธอนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิด
『อะ ไอ้เชี้ย….แขนข้าาาา!! ฆ่าพวกมันให้หมดดดดด!!』
น้ำเสียงของอาริสต้าพูดด้วยความโมโห ดึงสติของฉันกลับมา
จากนั้นพวกสัตว์ประหลาดยักษ์รอบๆ ก็เริ่มคำรามอย่างดุร้ายออกมาราวกับเป็นสัญญาณการต่อสู้
「ก็แค่นี้แหละย่ะ….อัศวินขาว! ลุยกันเลย!」
「อะ อ้อ!! ลุยกัน!!」
「ขอฝากดูแลพวกที่บินอยู่ด้วยละกัน!!」
「ไว้ใจได้เลย!!」
หลังฉันตอบกลับ จัสติสครูเซเดอร์ก็พุ่งไปข้างหน้าซึ่งเต็มไปด้วยพวกสัตว์ประหลาด
『ฟอร์เมชั่น เรด 1!』
ยานของพวกเธอเริ่มประกอบกันโดยมีเรดเป็นศูนย์กลาง
โดยปกติแล้วพวกสัตว์ประหลาดคงไม่ยอมให้พวกเธอรวมร่างกันได้แน่แต่เพราะทักษะการขับขี่ของพวกเธอจึงสามารถหลบพวกมันพร้อมประกอบร่างได้อย่างง่ายดาย
『จะระเบิดหื้อเหี้ยนเลย!!』
『วันนี้ดูจะคึกกว่าปกติ』
『『『ยูเนี่ยน!』』』
ยานทั้งสามลำได้ประกอบร่างกันเป็นหุ่นยักษ์หนึ่งตัว
ร่างของหุ่นยักษ์ได้ร่อนลงสู่พื้นจนเกิดควันรอบพื้นที่
『พาวเวอร์อาร์เมอร์!! จัสติสโรโบ!!!!』
『มายืนขวางทางอะไรกันเยอะแยะ!!』
หุ่นยักษ์ทำการต่อยสัตว์ประหลาดที่คล้ายกับไทแรนโนซอรัสจนกระเด็นไปกระแทกกับภูเขาน้ำแข็ง
พวกสัตว์ประหลาดรอบๆ ที่เห็นก็คำรามออกมาแล้วโหมเข้าไปโจมตี จัสติสโรโบ แต่อีกฝ่ายก็รับมือด้วยการคว้าหางของเจ้าไทแรนโนซอรัสเหวี่ยงไปมาเพื่อฟาดพวกที่บุกเข้ามา
『คิดว่าพวกฉันจะแพ้ให้กับแย้ล้านปีหรือไงยะ!!』
「หะ หือ……!? 」
『ไอ้พวกฟอสซิลหลงยุค!! จัสติสซิล!!』
จัสติสโรโบที่กำลังฟัดกับศัตรูได้ใช้กางโล่พลังงานขึ้นมาตรงแขนเพื่อป้องกันการโจมตีด้วย
ด้วยการกระทำเช่นนี้จึงทำให้พวกสัตว์ประหลาดรอบๆ ไม่สามารถโจมตีเข้ามาได้โดยง่าย
…ท่าทางพวกเธอจะไม่มีปัญหาอะไร
ฉันไม่มีภาพที่พวกเธอจะแพ้เลยสักนิด
「ถึงตาฉันบ้างสินะ……!」
「กว้ากกก!!」
สัตว์ประหลาดยักษ์ได้บินวนไปมาบนหัวฉัน
บางตัวก็เหมือนนก บางตัวก็เหมือนฉลามบินได้
「กว๊ากกกก!!」
『คัตสึกิ ด้านหลังทางซ้าย』
「รับทราบ!」
ฉันทำการหลบการโจมตีจากด้านหลัง
แน่นอนว่าต้องตอบโต้กลับไปด้วย
『ARMY BLUE!』
เครื่องยิงขีปนาวุธถูกปลดปล่อยออกมาในคราวเดียว
「ยิง!!」
「กว๊ากกกก!!」
『ทางขวา!』
「รับทราบ!!」
ฉันหลับการโจมตีของฉลามยักษ์ที่ควงสว่านเข้ามาโจมตี
ก่อนจะเล็งปืนยิงอัดใส่มัน 5 นัด
「ชะ ชาร์คคคค……!? 」
ฉลามยักษ์พ่นควันออกมาจากปากก่อนนิ่งไป
อะไรของมันฟะ!
『มาอีกแล้ว!』
「จำนวนล่ะ!」
『เยอะสุดๆ!!』
「เข้าใจง่ายชะมัด!!」
ในระหว่างนี้ฉันก็ทำการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วย
เริ่มจะค่อยๆ ชินกับการต่อสู้ด้วยยานนี้แล้วสิ!!
「กว๊ากกก!!」
「หือ!? 」
เสียงคำรามดังขึ้น
โดยมันมาจากนกยักษ์ที่อยู่ข้างบนเหมือนเดิม
แต่คราวนี้มันต่างจากตัวอื่นนิดหน่อยตรงที่ปีกของมันสามารถปล่อยไฟออกมาได้
「ก็มาสิฟะ ไอ้พวกบ้านี่!」
『ลุยกันเลยคัตสึมิ!』
「อ้า จัดมาเลยโปรโต!!」
『~~ชิบ!! อะ อื้อ!!』
ต้องจัดการกับเจ้านกเพลิงนี่ก่อนไม่งั้นคงได้วุ่นวาย
แถมตัวเลขที่ติดปีกนั่น 49 เหรอ!! คงหินพอตัว!!
「กว๊ากกก!!」
ทว่าก่อนที่ฉันจะได้ไล่ตามไปเก็บมัน พวกนกยักษ์ตัวอื่นก็เข้ามาขวางซะก่อน
เกะกะจังวุ้ย!!
「โปรโต! ปลดการรวมร่าง!!」
『โอ้!!』
แบล็ก 4 และ ไวท์ 5 ได้รับคำสั่งปลดการรวมร่าง
ดูเหมือนว่าพวกนกยักษ์จะตกใจพอตัว เลยนิ่งไปครู่หนึ่ง
ฉันใช้จังหวะนี้ในการดีดเอามอเตอร์ไซค์ออกมาจากไวท์ 5 แล้วเปลี่ยนร่าง
『CHANGE!! BREAK RED!!』
『FLARE CALIBER Ⅱ!!』
「เข้ามากินฉันสิฟะ เจ้านกบ้า!!」
ร่างของฉันได้กลายเป็นสีแดง
หลังดีดตัวออกจากLupus Gigant ฉันก็ปาFlare Calibur 2ที่อยู่ในมือออกไป
「กว๊าก!? 」
แทงหัวที่หัวเต็มๆ!!
นกยักษ์ตัวหนึ่งร่วงลงมาบิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวด ฉันเร่งความเร็วของรถแล้วเปิดการใช้งานท่าพิเศษต่อทันที
『DEADLY!! BREAK RED!!』
Lupus Striker ถูกกลืนกินด้วยเปลวเพลิงก่อนที่ประจุพลังงานจะไปรวมกันตรงล้อหน้า
พุ่งยะทานออกไปเหมือนกับดาวตก โดยมีเส้นแห่งเปลวเพลิงลากตามไปด้วย
『BREAK POWER!!』
『BURNING!! BREAK!!』
「เอาละโว้ย!! ตัวแตกไปซะ!!」
「กะ แกว๊ก!? 」
ฉันชนร่างของนกยักษ์ที่กำลังบิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวดเต็มๆ
หลังมันกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว ฉันและLupus Striker ก็กลับเข้าไปใน ไวท์ 5 อีกครั้งเพื่อไล่ล่านกไฟนั่น
「กว๊าก……!!」
ทว่าไอ้พวกที่ล้อมนกไฟเอาไว้อยู่เหมือนกับลูกน้องนี่ก็เยอะเสียเหลือเกิน
หากนับแค่ตัวเลขยังไงฝ่ายฉันก็เสียเปรียบ
ดังนั้นก็งัดหัวบอสมันให้จบละกัน!!
「คงต้องปิดด้วยของใหญ่!!!ชิโระ โปรโต!!」
『DOCKING PATTERN Ⅱ!! → OK? 』
『รับทราบ!』
แบล็ก 4 ที่แยกออกไปก่อนหน้านี้เปลี่ยนเป็นร่างส่วนบน
หมัดเหล็กได้งอกออกมาจากยาน ก็จะปรากฏส่วนหัวดวงตาสีแดง ส่วนไวท์ 5 ส่วนปีกได้ไปติดกับข้างหลังของร่างแบล็ก และที่เหลือกลายเป็นส่วนขาทั้งสองข้าง
『LUPUS GIGANT!! →SKY MODE!!』
LUPUS GIGANT โหมดต่อสู้ทางอากาศ
ร่างของLUPUS GIGANTคล้ายกับมนุษย์แต่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วก่อนจะทะยานเอาหมัดไปยัดใส่นกไฟ
「กว๊ากกก!!」
「ไม่ยอมง่ายๆ สินะ!!」
แม้มันจะแสดงอาการตกใจออกมา แต่มันก็ปล่อยเปลวเพลิงออกมาจากปีกแล้วพุ่งเข้ามาหาฉันหมายจะแทงด้วยจะงอยปากอันแหลมคม
「ย๊ากกก!!」
「กว๊ากกกก!!」
ถึงตัวของมันจะไม่ใช่เล่นๆ
แต่พลังของLUPUS GIGANTของฉันก็ไม่ได้กระจอกนะเออ
「โอ้วววว!!」
「งะ!? 」
หมัดของฉันปะทะเข้ากับจะงอยปากของมันอย่างรุนแรง จนทำให้ร่างของมันกระเด็นไปข้างหลัง
สภาพจะงอยปากของมันเละเป็นชิ้นๆ
พวกนกยักษ์ที่เหลือเห็นท่าไม่ดีก็เลยรีบเข้ามาปกป้องมัน แต่ว่า…
「ยังไม่หมดเว้ย!!」
『เปิดการใช้งานเต็มอัตราศึก!!』
『ARMY BLUE! ALLル WEAPON!!』
เครื่องยิงขีปนาวุธได้ปรากฏขึ้นมาตรงไล่ ลำตัว ขา และปีกข้างหลังของหุ่น
นอกจากนี้ยังมีปืนเกทลิ่งออกมาจากแขนทั้งสองข้างของหุ่นด้วย
นอกจากนี้ก็มี ปืนเลเซอร์โผล่มาจาก ตรงอก กับไหล่เพิ่มอีกอย่างละ 2 จุด
ระบบได้ทำการล็อกเป้าหมายไปยังพวกลูกน้องของนกไฟ
『ทำการล็อกเป้าหมายทั้งหมด!』
「ยัดให้หมด!!」
『GIGANT! FULL BURST!!』
「โอ้ววววว!!」
ฉันสาดอาวุธทั้งหมดที่มีใส่อีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล
ขีปนาวุธ เลเซอร์ กระสุนปืน ได้พวยพุ่งออกมาจากหุ่นเข้าไปยังพวกนกยักษ์
ไม่จำเป็นต้องกั๊กอีกต่อไป
พวกนกยักษ์ร่วงลงมาตายเป็นจำนวนมาก
「กว๊ากกกก!!」
「ไอ้ตัวนี้ถึกชะมัด!!」
แต่เจ้านกไฟยังอยู่
ฉันเองก็พอเข้าใจได้เพราะพลังของมันเหนือกว่าตัวอื่น หากจะรอดจากการสาดกระสุนคราวนี้ก็คงไม่แปลก
「กว๊ากกกก!!」
「แต่โทษทีว่ะ! ฉันยังเหลืออะไรให้แกกินอยู่!!!!」
『CONNECT!! DEADLY LUPUS GIGANT!!』
ฉันเปิดการใช้งานท่าพิเศษ
หมัดของLUPUS GIGANTถูกห่อหุ้มด้วยพลังงานสีดำ
「เอาไปกิน!!」
『GI! GI! GI! GIGANT!!』
『BIG KNUCKLE FINISHER!!』
ความเร็วของมันสูงจนอีกฝ่ายไม่สามารถหลบได้ หมัดได้ทะลวงไปถึงสมองของฉัน ก่อนจะเกิดการระเบิดขึ้น จนกลายเป็นอนุภาคและเปลวไฟของมันก็มอดดับ
「ยังเหลืองานให้เก็บอยู่สินะ ไอ้พวกที่บิน――」
「กว๊ากก กว๊ากกก!!」
「กว๊ากกกก!!」
อะไรของพวกมัน บินหนีไปตรงพื้นดินเหรอ?!
นกยักษ์ที่เหลืออีกประมาณ 10 กว่าตัวซึ่งรอดจากการสาดกระสุน ได้บินลงไปทางที่พวกเรดกับสัตว์ประหลาดภาคพื้นดินอยู่
ฉันรีบคุมLupus Gigantไล่ตามพวกมันไป แล้วก็ได้เห็นว่าจัสติสโรโบของพวกเรดกำลังงัดกับสัตว์ประหลาดอยู่
『จัสติสพันช์!』
จัสติสโรโบที่คุมโดยเรดกับคนอื่นๆ ได้กะซวกหมัดที่มีหนามติดทะลุร่างของสัตว์ประหลาด
ผืนดินสีขาวถูกย้อมไปด้วยเลือดของพวกสัตว์ประหลาด ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่พวกเธอเห็นLupus Gigantร่อนลงมาจากท้องฟ้า
「คัตสึกิคุง ปลอดภัยดีสินะ!」
「อ้า แต่สัตว์ประหลาดพวกนี้มันเหมือนจะมารวมกันตรงนี้!」
「อื้อ ก็อย่างที่เห็นเหมือนมันมารวมตัวกันแล้วก็พากันหนี เดี๋ยวนะเส้นทางที่พวกมันไป….」
『พวกมัน…ไปทางปราสาท!』
เสียงของโปรโตได้แจ้งถึงทางที่พวกมันหนีไป
แล้วตรงจุดที่มันหนีไปรวมกันนั้นเอง พวกสัตว์ประหลาดได้ทำการรวมร่างกันจนขนานของมันใหญ่จะจนฉันอึ้ง
『อู้วววววว!!!』
สัตว์ประหลาดที่รวมร่างกันกลายเป็นสัตว์ประหลาด 4 ขาร่างยักษ์กว่าเดิม ก่อนจะคำรามออกมา
ขนาดของมันใหญ่กว่าจัสติสโรโบถึง 3 เท่า น้ำหนักของมันคงจะเยอะจนไม่สามารถยืนด้วย 2 ขาไหว
「ไม่ว่าจะใหญ่สักแค่ไหน แต่ขนาดมันสู้คุณภาพไม่ได้หรอก……!」
「แย่แล้วสิ ถ้าปล่อยให้มันหลุดหนีไปได้คงเรื่องใหญ่แหง」
นอกจากนี้ก็ยังมีไอ้คนที่สร้างแดนน้ำแข็งนี่ขึ้นมาอีก พลังของมันสามารถสร้างปัญหาให้โลกได้หนักสุดๆ เพียงครั้งเดียวคงได้มีคนตายนับล้าน
『อู้วววววว!!』
「ยังไงก็มีแต่ต้องลุย คัตสึกิคุง!!」
「อ้า!!」
ต่อหน้าสัตว์ประหลาดยักษ์ที่กำลังคำรามจัสติสโรโบและLupus Gigantได้เตรียมเข้าต่อสู้
ก่อนอื่นต้องปราบเจ้าตัวยักษ์นี่เป็นลำดับแรก…!!
————-
Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code