อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 48 วิวัฒนาการและการต่อสู้อันดุเดือด
ฉันเดินทางไปพร้อมกับพวกจัสติสครูเซเดอร์ด้วย Lupus Striker
พวกเอเลี่ยนปรากฏตัวขึ้นกลางเมืองกลางวันแสกๆ
ทว่าพวกมันไม่ได้เดินทางมาพร้อมกับเสาแสง ไม่ได้ทำลายบ้านเมือง และยืนรอพวกเราไปถึง
เห็นได้ชัดว่าพวกมันแตกต่างจากเมื่อก่อน
「กำลังรออยู่เลย อัศวินขาว จัสติสครูเซเดอร์!」
ชายร่างจักรกลส่งเสียงออกมาระหว่างกอดอกอยู่และพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ฉันลงจาก Lupus Striker ในขณะที่เรดกับคนอื่นๆก็เตรียมอาวุธไว้ในมือแล้ว
「ลำดับแห่งดวงดารา 50 ดาราแฝดเจ็ม!」
หลังสิ้นเสียงนั้นเรดกับบลูก็เข้าโจมตีทันที
ทว่าเขากลับไม่ได้แยแสการโจมตีพวกนั้นเลย
ทันใดนั้นเองกึ่งไซบอร์กอีกสองตัวที่มาด้วยกันก็เข้ามาป้องกันเขาโดยการสร้างบาเรียขึ้นมา
「ป้องกันได้……!?」
การโจมตีจากเรดและบลูเนี่ยนะ?!
นี่น่ะหรือความสามารถของพวกลำดับ 50!
สีหน้าของเขาแสดงความผ่อนคลายออกมาราวกับไม่มีอะไร
「……」
「「ไอ้เจ้าผู้ชายโง่เง่านี่มันอะไรกันคะ? อย่างน้อยก็พยายามหลบหน่อยเถอะค่ะ」」
「เอ๋!?」
เสียงของกึ่งไซบอร์กทั้งสองทับซ้อนกันอย่างสมบูรณ์และต่อว่าเจ็มที่ไม่ขยับตัวไปไหน
ดวงตาที่ส่องแสงออกมากะพริบไปมาด้วยความประหลาดใจแม้ทั้งร่างจะเป็นจักรกลก็ตาม
「อ่ะ เอ่อ ก็แบบว่ายัยพวกนั้นมันโจมตีแบบกะทันหันก็เลยไม่ทันตั้งตัวน่ะสิ วู้วนึกว่าจะตายแล้วสิ!」
「「ไม่ใช่ว่าประมาทคู่ต่อสู้ที่มีความสามารถเกิดไปเหรอคะ เพราะแบบนี้ไงคะถึงไม่สามารถหลุดพ้นจากเงาของพี่สาวได้」」
「ว่ากันได้โหดร้ายชะมัด! แต่ก็นั่นแหละพวกจัสติสครูเซเดอร์ไม่เหมาะกับฉันจริงๆ โลกใบนี้น่ากลัวชะมัด ให้ตายเถอะ!」
เจ็มดูเหมือนจะเป็นผู้ชาย ส่วนอีกสองคนที่ปกป้องเขาคือผู้หญิง
ต้องเรียกว่าพวกเธอเป็นแอนดรอยมากกว่าไหมนะ?
เสียงเหมือนกันเลย
แทนที่จะเรียกว่าฝาแฝดฉันรู้สึกว่าพวกเธอคือคนคนเดียวกันด้วยซ้ำ
「ความประมาทคือศัตรูตัวฉกาจ….หื้ม ภาษาของโลกนี่น่าสนใจจริงๆ ชวนให้น่าศึกษาตลอด….อันที่จริงฉันน่าจะพาพวกเธอมาสัก 5 คงจะดีว่าไหม?」
「「ปฏิเสธ ถึงจะพามาเท่าไหร่ ผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยนค่ะ」」
「ถ้าเธอว่างั้นก็คงจริง แต่นี่มันคือโลกนะเห้ย!! หลังจากได้เห็นสัตว์ประหลาดที่เคยปรากฏตัวมาในบันทึก บอกตามตรงดาวเคราะห์บ้านี่ผิดปกติชิบ!」
……ไอ้หมอนี่อะไรของมัน……?
นอกจากจะคุยกับเฮฮาต่อหน้าเรา พวกมันยังไม่ได้แสดงความเกลียดชังอะไรออกมาเลย
「อัศวินขาว」
「……เรดเหรอ มีอะไรล่ะ」
ฉันตอบเรดผ่านฟังก็ชันสื่อสารในสูท
「เราจะจัดการกับสองคนนั้นเอง」
「……จะให้ฉันจัดการหัวหน้าของอีกฝ่ายเหรอ? พวกเธอ……」
「สองคนที่โผล่มาแกร่งกว่าตัวตรงกลาง สำหรับนายตอนนี้คงไม่ไหวหรอก」
ขนาดนั้นเลยเหรอ
จริงอยู่ว่าฉันใช้ Another Form ได้ แต่กลางเมืองแบบนี้คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดี นอกจากนี้มีเวลาเพียงแต่ 10 วิ ถ้าจบงานไม่ได้ก็ลำบากอีก
「เอาล่ะๆ ถ้างั้นฉันจัดการกับอัศวินขาวตามที่วางแผนกันไว้แต่แรกเลยละกัน」
「「เข้าใจแล้วค่ะ จากนี้เราจะดำเนินการก่อวินาศกรรมขณะรับมือกับจัสติสครูเซเดอร์」」
「ทำไมเธอ สู้กันอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้ฟะ?」
———หา ก่อวินาศกรรม!?
หลังเจ็มพูดจบ บางอย่างที่เหมือนปืนลำแสงก็ยิงออกมาจากไหล่ของแอนดรอยสาวทั้งสองตรงไปยังตึกใกล้ๆ
ในขณะที่ลำแสงกำลังจะชนนั้นเอง
「บลู!」
「ให้แบกหมดเลยก็ไม่ไหวนะ……!」
บลูใช้ปืนสองกระบอกในมือยิงกระสุนพลังงานอย่างต่อเนื่อง
เรดและเยลโล่ก็ปลดปล่อยการโจมตีของตัวเองไปสกัดการลำแสงนั้นด้วย แต่สุดท้ายมันก็หลุดรอดไปกระทบกับสิ่งก่อสร้างจนเกิดแรงระเบิดอยู่ดี
「โหว ถึงจะพลังยิงหายไปกว่า 90% ยังได้ขนาดนี้เลยเหรอ ไม่มีอะไรนอกจากต้องชื่นชม แต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองกระจอกแปลกๆวุ้ย!!」
「「เช่นนั้น จะดำเนินการต่อค่ะ」」
「อ้า ตามสบาย แต่อย่าถูกทำลายซะล่ะเหมย ก็จริงอยู่ว่าถึงถูกทำลายไปก็ไม่กระทบอะไร แต่ฉันไม่อยากเห็นภาพของพวกเธอถูกทำลายต่อหน้า」
「「รับทราบค่ะ มาสเตอร์」」
แอนดรอยเปลี่ยนร่างโดยข้างหลังของเธอมีบูสเตอร์แพ็กโผล่ขึ้นมา
พวกเธอทั้งสองทะยานออกไปในทิศเดียวกัน โดยมีเรดกับคนอื่นๆตามไป
「อัศวินขาว จัดการหมอนั่นซะ!」
「อ้า ไว้ใจได้ลเย!!」
เสียงระเบิดดังและเสียงกระทบของโลหะดังขึ้นจากข้างหลังของฉัน ทางฉันก็หันหน้าไปเผชิญหน้ากับเจ็ม
อีกฝ่ายหรี่ตาลงและแสงในดวงตาของเขาก็เหมือนสแกนทั้งรางของฉัน
「เอ่อ เรามาคุยกันสักหน่อยละกัน」
「……!」
「ไม่ได้เหรอ? งั้นเอาเป็นสู้ไปคุยไปก็ได้」
ฉันใช้มีดพุ่งเข้าไปโจมตีอีกฝ่าย ทว่าเจ็มก็ได้ของที่เหมือนกับคทาป้องกันมีดของฉันขณะพูด
「ฉันบอกนายไว้ตรงนี้ก่อนเลยละกัน คงไม่ว่าอะไรนะ?」
「……อะไร」
「ถ้าฉันเห็นว่าตัวเองจะแพ้ ขอตัวโกยเลยละกัน」
「หา!?」
ฉันส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ ส่วนเจ็มกลัยยิ้มกว้างจนถึงใบหู
ไอ้หมอนี่มันกวนโอ้ยหรือเปล่าฟะ!
ฉันพยายามสงบสติอารมณ์และเริ่มแกว่งมีดในมือสลับการเตะ
「โอ้ววว!」
อีกฝ่ายก็ใช้คทาเป็นโล่ในการรับลูกเตะและกระโดดถอย
อยู่ดีๆฉันก็รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูกในขณะที่เขาอ้าแขนออก
「ก็อย่างที่นายเห็น ส่วนตัวแล้วฉันไม่มีความสามารถจะอยู่ถึงลำดับ 50 หรอก แม้จะเอาแบบสุดๆเลย ถ้าฉันคนเดียวคงได้แถวๆ 75」
「ก็ยังแกร่งอยู่ดีไม่ใช่หรือไง」
「ไม่หรอก อ่อนจะตาย ถ้านายเข้าAnother Form ฉันคงไม่เหลือ ไม่สิแค่ Axe Yellow ก็พอแล้วมั้ง เอาเป็นว่าไม่ว่าจะทางไหนฉันก็เอานายไม่ลงหรอก」
Another Form….Axe Yellow หมอนี่มันรู้หมดเลยนี่หว่า!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันน่าจะเตรียมการรับมือกับร่างพวกนี้มาแล้ว
งั้นมันคงไม่โผล่มาเผชิญหน้ากับฉันหรอก
「ดังนั้นฉันก็เลยต้องล่อให้นายมากลางเมืองที่มีคนอยู่กันเยอะ นายจะได้ไม่สามารถใช้พลังที่มีได้สุดๆ ไม่เข้าใจพวกมนุษย์โลกเลยจริงๆว่าตระหนักถึงอันตรายนกันน้อยไปไหม แม้จะมีสัญญาณเตือนให้หนี แต่ก็ยังมีพวกที่แอบอยู่แถวนี้เต็มไปหมด」
「……!」
「โฮ่ยๆ อย่ารีบโกรธไปน่าพวก ไม่งั้นเดี๋ยวจะกลายคนละคนเอานะเอ้อ」
รับมือยากชะมัด
ต่างจากพวกก่อนหน้านี้
หมอนี่ไม่ได้ดูถูกพวกเราเลย เขามองว่าการทำลายเมืองเป็นเพียงตัวช่วยในการสร้างข้อได้เปรียบ
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงรับมือยาก
「อย่างแรกนะ แทบไม่มีความต่างกันอย่างชัดเจนเลยในลำดับที่ 30 ถึง 70 พลังของพวกเราในลำดับนี้มีจุดอ่อนจุดแข็งที่ต่างกันออกไปแล้วแต่ปัจจัยแวดล้อม ในบางครั้งการแพ้ทางชนะทางกันเป็นปกติ」
「แล้วนายมีเป้าหมายอะไร! จะฆ่าฉันเหรอ!」
ฉันไม่ได้สนใจคำพูดอีกฝ่ายและตะโกนถาม
อีกฝ่ายตอบกลับมาโดยไม่ได้เกรงกลัวเสียงของฉันเลย
「ไม่อ่ะ ไม่ๆๆๆ เป็นไปไม่ได้หรอกของแบบนั้น」
「หา!」
「ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจำเป็นต้องชนะนายเลย ว่ากันตามตรงแอบสงสารนายด้วยซ้ำ」
หมอนี่มันถ่อข้ามอวกาศมาเพื่อบอกเรื่องนี้เนี่ยนะ!
ฉันตัดความสงสัยออกไปแล้วเปลี่ยนฟอร์มที่ใช้
『CHANGE!! SWORD RED!!』
『FLARE CALIBER!!』
「ย้ากกก!!」
ฉันใช้ดาบแห่งเปลวเพลิงฟันคทาจนขาดเป็นสองท่อน
「โห้ว?! พลังเพิ่มขึ้นชัดเลยแฮะ สเกลพลังนี่ต่างจากที่คาดจริงๆ!!」
เจ็มโยนคทาที่ถูกผ่าแล้วทิ้งไป ก่อนที่ดาบจะโผล่ออกมาจากมือของเขาพร้อมแสงจ้า
จากนั้นจึงใช้มันเข้าปะทะกับดาบของฉัน
「ตัวฉันน่ะ มีหน้าที่แค่ช่วยนาย」
「หมายความว่าไงฟะ!」
「ก็อย่างท่าบอก ฉันมาช่วยทำให้นายแกร่งขึ้น!」
แสงที่ส่องออกมาจากร่างของเขาเหมือนจะช่วยเพิ่มพลังให้กับเจ็ม
พลังของเขาในตอนนี้เหนือกว่าฉันเสียอีก จนทำให้เขาสามารถดันดาบของฉันกลับไป
「อึก」
「เพราะงั้น..เลยอยากจะขอให้ไว้ชีวิตน่ะ」
「ขอกับใครฟะ!」
「ก็นายไง!」
แต่ไอ้การกระทำของแกมันตรงกันข้ามเลยนะเห้ย!
ดาบของพวกเราดันกันไปจนกระแทกติดเข้ากับลำตัว
「ไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด!」
「ฮ่าๆ ก็คงงั้นแหละ! แต่ด้วยพลังของฉันตอนนี้คงได้แค่นี้!」
หากเขาพลังเหนือกว่าฉัน ฉันก็ต้องชนะเขาด้วยเทคนิคแทน
ฉันเบี่ยงวิถีดาบของเขา ใช้กลลวงและทักษะเข้าสู้
「ว่ากันตามตรงมันก็ไม่ใช่นายหรอก แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งมันก็นายนั่นแหละ เอาเป็นว่าจะอันไหนก้ไม่ต่างกันหรอก」
ในขณะที่ฉันกำลังสงสัย เขาก็ยกนิ้วชี้ขึ้น
「สรุปง่ายๆก็คือฉันอยากจะให้นายไว้ชีวิตฉัน แล้วฉันก็จะช่วยให้นายแกร่งขึ้น」
「นายพูดอะไรของนายกันฟะ ไม่เข้าใจเว้ย!」
「ก็ไม่ได้แย่นะสำหรับจุดนี้ ทางนายต่างหากจะลำบากถ้าไม่แข็งแกร่งขึ้น เพราะทั้งตัวนายและโลกใบนี้ได้สูญสิ้นแหง」
หา!!
「ดังนั้น――」
อยู่ดีๆหมอนี่ก็ทิ้งอาวุธ
ในขณะที่ฉันกำลังจะพุ่งไปโจมตีร่างกายที่ไร้การป้องกันต่อ พลังงานสีดำก็ออกมาจากร่างของเจ็ม และโจมตีฉัน
ทันใดนั้นเอง ร่างของฉันก็เกิดแรงปะทะขึ้นอย่างรุนแรง จนกระเด็นไปอัดเข้ากับอาคารข้างหลัง
「ถึงฉันจะอ่อนแอ แต่ฉันก็แข็งแกร่งกว่านายในร่าง Another Form」
「คึ อึก……!」
สายตาเริ่มพร่ามัว
ฉันส่ายหัวไปมาและยืนขึ้น
「ตอนนี้ก็ขอให้นายเติบโตขึ้นเพื่อ ชีวิตของฉันละกัน!!!!」
「ไม่เข้าใจเว้ย! ……อึก!」
พื้นคอนกรีตระเบิดเจ็มพุ่งเข้าหาฉันอย่างรวดเร็วราวกับจรวด
การเคลื่อนไหวของเขาในตอนนี้ไม่ได้มีความแม่นยำและใช้หัวคิดแบบเมื่อก่อน เขาพุ่งเข้ามาโดยหวังเพียงแค่อัดฉันให้หมอบ
「เวรเอ้ย……!」
ฉันกลิ้งตัวหลบการโจมตีดังกล่าว
ทำไมมันเร็วได้ขนาดนี้ฟะ?!
หมัดตรงที่แสนรุนแรงซึ่งสามารถเจาะการป้องกันของฉันได้อย่างง่ายดาย
「ฮ๊าาา!!」
ฉันใช้ดาบปัดป้องหมัดนั้นเพื่อบังคับให้หมัดเหวี่ยงวิถี ทว่าก็ไม่สามารถหยุดหมัดของเขาได้ จนฉันกระเด็นไปอีกรอบ
การโจมตีของเขาเหมือนกับนักล่าที่กัดเหยื่อไม่ปล่อย
「วู้วเป็นการเคลื่อนไหวที่ดิบชะมัด ดาต้านี่!!!!」
「พูดอะไรของนายฟะ……!!」
「ฉันเก็บข้อมูลการต่อสู้เอาไว้น่ะ ซึ่งจะทำให้ฉันสามารถคัดลอกทักษะการเคลื่อนไหวผ่านการอ่านดาต้าพวกนั้นได้ เพราะยังเป็นหุ่นยนต์ยังไงล่ะ」
「ก็คือการเคลื่อนไหวนั้นไม่ใช่ความสามารถปกติเหรอ!」
「แม่นแล้ว ฉันน่ะมันมีดีแค่หัว! แทนที่จะฝึกฝนทางร่างกาย โหลดข้อมูลใส่หัวง่ายกว่าเยอะ!!」
หมัดของเขาพุ่งตรงมาเหมือนหอกแหลม
การโจมตีที่ทำให้เกราะบนร่างของฉันแตกอย่างง่ายดาย
「นี่เป็นดาต้าที่วิเคราะห์มาจากนักรบชาวโลกคนนึ่งน่ะ แต่สุดท้ายก็เลียนแบบได้แค่ 46% เห้อได้แค่นี้สิน้อ!!」
แค่46%!?
ถ้าเกิดเลียนแบบได้ 100 จะเป็นยังไงนะ――、
「ดังนั้นจะใช้แรงฮึดแทน」
「คึก!!」
「มันก็จะได้แบบนี้แหละ!!」
หมัดของเจ็มที่ห่างออกไปในระยะ 30 เมตร พุ่งเข้ามาประชิดตัวฉันทันทีและบดขยี้ดาบของฉันทิ้งอย่างง่ายดายจนละลุเข้ามาที่ลำตัว
เสียงแตกของชุดเกราะและกระดูกของฉันดังลั่น ร่างของฉันกระเด็นทะลุอาคารที่อยู่ข้างหลังทันที
「อั๊ค……!」
ฉันกลิ้งไปมากับพื้น การแปลงร่างของฉันถูกปลดออก
ขณะที่มองไปยังชิโระ ก็เห็นว่าเข็มขัดเกิดรอยร้าวขึ้น
「ชิโระ!? เป็นอะไรไป……!」
『โฮก!』
เสียงของชิโระดูเปลี่ยนไปแปลกๆ
เจ็มปรากฏตัวขึ้นข้างหน้าของฉันท่ามกลางซากปรักหักพัง
แขนขวาของเขาที่ปล่อยหมัดออกมาตะกี้บิดเบี้ยวและมีประกายไฟพุ่งออกมา
「ดูนี่สิ แขนขวาของฉันหักหมดแล้วเนี้ย ถึงจะเป็นเครื่องจักรแต่ยังไงก็ไม่ไหวสิน้อ ทำไมพวกมนุษย์โลกถึงได้สามารถใช้พลังแบบนี้ได้กันนะ?」
เขาตัดแขนขวาตัวเองทิ้งไป ก่อนจะหยิบแขนใหม่ที่เหมือนของเขาไปติดแทนที่
「หากจะให้พูดถึงข้อดีของพวกจักรกลก็คงเป็นอวัยวะสามารถแทนที่กันได้นี่แหละ」
「……อึก!」
「เป็นครั้งแรกที่เจอกันโดยไม่ต้องสวมหน้ากากสิเนอะ แต่ไม่ต้องห่วง แถวนี้ไม่มีสายตาของคนหรือกล้องอะไรเลย」
แย่แล้วสิ!
แม้จะฝืนแปลงร่างกลับไปสู้ แต่ฉันจะเอาชนะพลังหมอนี่ได้ไหมนะ
หรือจะใช้ Another Form ไม่สิ ไม่ได้ หากเอามาใช้ที่นี่อาคารให้ถล่มทับแหง
「นายจะเอายังไงกันต่อล่ะ การแปลงร่างก็ถูกปลดไปแล้ว จะสู้อยู่ไหม?」
「ถ้าขอให้จบกันแค่นี้เลย นายจะไม่ฆ่าใครแล้วกลับไปเหรอ?」
「……」
หลังเงียบไปสักพัก เจ็มก็พูดขึ้น
「คงไม่ได้แหละนะ ฉันจะบุกรุนรานมนุษย์ต่อ คงต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อรุกรานโลก จนให้มีเหตุนองเลือด!」
「……ถ้างั้นก็คงไม่มีทางเลือกเหมือนกัน……!!」
ฉันเลือกจะแปลงร่างใหม่อีกครั้งในขณะที่มองชิโระในมือซึ่งเต็มไปด้วยรอยร้าว
——— ขอโทษที่ทำให้แกต้องฝืนนะ
แต่ช่วยทนอีกนิดหนึ่งเถอะ ชิโระ!!
「ฝากด้วยนะ คู่หู」
『LUPUS DRIVER!!』
ฉันเสียบชิโระเข้าไปตัวที่ล็อก เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ก็ดังขึ้น
ในขณะที่ฉันกำลังกดหัวเข็มขัด ร่างของเจ็มตรงหน้าก็กลายเป็นร่างทับซ้อนกับใครบางคน
นักรบทมิฬที่สวมหน้ากากสีดำ….
ร่างนั้นเริ่มเผยให้เห็นชัดขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ ดวงตาภายใต้หน้ากากนั้นจ้องมองมาที่ฉัน โดยไม่พูดอะไร
「……」
ภาพลวงตาของอัศวินดำผู้เงียบงัน
เขาชี้มาทางฉันแล้วหายไปราวกัสายหมอก
ฉันไม่รู้ว่านั่นคือภาพลวงตาหรือสิ่งที่เจ็ฒสร้างขึ้น
แต่น่าแปลกที่ความกลัว กังวลใจของฉันหายไป
「แปลงร่าง!」
ฉันใช้มือกระแทกไปที่หัวเข็มขัด
และแรงนั้นก็ทำให้รอยแตกร้าวของชิโระระเบิดออก หัวเข็มขัดได้เปลี่ยนเป็นสีเงินทอง ผสมกัน
『SAVE→BREAK!!』
เสียงแตกต่างจาก Save Form ชุดสูทและเกราะภายนอกเริ่มก่อตัวขึ้นภายใต้สนามพลังงาน
『FIGHT FOR RIGHT!!』
『CHANGE YOUR DESTINY!!』
ชุดเกราะและหน้ากากสีขาวนั้นยังคงเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือมีแถบสีทองประกอบขึ้นบริเวณขอบของชุดเกราะ
『BREAK FORM!! COMPLETE……』
แม้จะไม่ต่างจากเดิมนัก
แต่ฉันสัมผัสได้ถึงพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
「ฉันจะเอาชนะนายให้ได้!」
「นั่นแหละที่ฉันหวังไว้!!」
ฉันกับเจ็ม
พวกเราทั้งสองพุ่งเข้าหากันโดยแลกหมัดกับลูกเตะอยู่ข้างซากปรักหักพังของตึก
————-
Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code