อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 138 โลกคู่ขนาน 15
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายในโลกคู่ขนานแห่งนี้
กำจัดโอเมก้าและสัตว์ประหลาดทากไฟฟ้า คืนความสงบสุขให้ดาวโลก
เป้าหมายคืออาณานิคมที่ 3 ซึ่งเป็นรังสุดท้ายของพวกสัตว์ประหลาด
「ด้วยพลังงานที่สัตว์ประหลาดทากไฟฟ้าเก็บเอาไว้ ・・・โอเมก้าจะทำการใช้มันเพื่อยกเกาะญี่ปุ่นขึ้นไปจากผืนโลกและเข้าต่อสู้กับพวกเอเลี่ยนในอวกาศ」
「เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น พวกเราจำเป็นต้องฆ่าพวกมันให้หมด」
รถหุ้มเกราะก็กำลังมุ่งหน้าไปยังอาณานิคมที่ 3
บนหลังคารถคันนั้นมีฉันกับเร็กซ์กำลังพูดคุยกันอยู่
โดยภายในรถก็มีอากาเนะกับคนอื่นๆ แถมคราวนี้เรมะเป็นคนขับเองซะด้วย
「….พอมีนายอยู่ด้วยฉันรู้สึกไม่ต้องเป็นกังวลอะไรเลยแฮะ」
「ที่ฉันทำแบบนี้ได้ก็เพราะมีเธออยู่ด้วยต่างหาก」
『คงไม่ได้ลืมฉันหรอกใช่ไหม?』
「รู้น่า ไม่ต้องทำแก้มป่องแบบนั้นก็ได้」
『ทั้งที่ฉันเป็นเข็มขัดยังรู้อีกเหรอ?』
ตอนนี้ฉันอยู่ในร่างของ Type X ชุดเกราะสีเงิน โดยมีฮิลด้าที่กลายร่างเป็นเข็มขัดพันรอบเอวไว้ด้วย
ระหว่างที่รออยู่บนหลังคารถ ฉันก็ทำการใช้ด้ายสีเงินส่งออกไปรอบๆ ตรวจสอบสถานการณ์ด้วย
『ว่าแต่ผู้บัญชาการออกมาเองแบบนี้จะดีเหรอคะ?』
หูฟังที่ถูกติดตั้งเอาไว้ทำให้ฉันได้ยินพวกอากาเนะคุยกันภายในรถด้วย
『คนอื่นๆ ก็เหมือนจะไม่ค่อยอยากให้ผู้บัญชาการมานะ….』
『นี่คือการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนะ หากไม่ออกมาลุยตอนนี้จะลุยตอนไหนล่ะ ไม่ต้องห่วงหลังส่งพวกเธอถึงปลายทางฉันก็จะคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเอง ความเสี่ยงแค่นี้ไม่ทำอะไรให้กลัวหรอก』
เรมะพูดขณะขับรถหุ้มเกราะ
ส่วนคนที่มากับเขา….โอโมริซังเองก็เหมือนจะมีพลังใจเต็มเปี่ยมเลยแฮะ
『ฉันเองก็รู้สึกไม่ต่างกับผู้บัญชาการหรอก ไม่ว่าจะแบบไหนหากพวกเราแพ้ทุกอย่างก็จบดังนั้นก็ออกมาลุยกันให้มันสุดไปเลยดีกว่า』
『……เข้าใจแล้ว งั้นก็มากลับบ้านพร้อมกันเถอะ』
『ทำไมพูดเหมือนปักธงตายล่ะ มันน่าขนลุกนะ』
『โฮ่ย อย่าพูดอะไรไม่เป็นมงคลสิฟะ』
ความตึงเครียดดูจะลดน้อยลงระดับหนึ่ง
คิราระเองก็เหมือนจะไม่เป็นไรแล้ว———
「……」
ดูเหมือนจะมีสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งมาติดด้ายสีเงินที่ฉันส่งออกไป———จากนั้นร่างของมันก็ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ
ไม่ว่าจะที่ไหนก็มักจะมีสัตว์ประหลาดซ่อนตัวอยู่จริงๆ ด้วย
นอกจากอาณานิคมที่สองซึ่งยึดมาได้แล้ว ฉันก็ไม่พบมนุษย์กลุ่มอื่นอีกเลยหลังจากนั้น
「ระยะค้นหาของมันประมาณเท่าไหรเนี่ย?」
「เพราะยังไม่ชินกับการมาทำบนรถเลยได้เป็นรัศมีประมาณ 500 เมตรน่ะ แต่ถ้ามันไม่อยู่บนรถที่วิ่งอยู่คงประมาณ 2 กิโล」
「ตัวตนของนายนี่บ้าบอชะมัด」
บนรถแบบนี้มันไม่ค่อยมีสมาธิในการใช้งานเท่าไหร่ เป้าหมายของฉันที่จะฆ่าคือพวกสัตว์ประหลาดไม่ใช่มนุษย์ มันก็เลยต้องตั้งสติพอสมควรระหว่างใช้งาน
『อะ เอ่อ คือว่า คัตสึมิซัง ได้ยินเสียงของฉันไหมคะ?』
「อ้า มีอะไรเหรอ อากาเนะ」
ฉันตอบอากาเนะกลับไป
เสียงของเธอดูเกร็งๆ นะ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?
『เรื่องนั้น……』
「…เธอมีอะไรคาใจหรือเปล่า?ไม่ต้องลังเลถามมาได้เลย」
คงไม่ได้จะบอกว่าเอาไว้คุยหลังการต่อสู้จบลงหรอกนะ?
อาโออิเคยบอกฉันว่าการพูดอะไรแบบนั้นมันคือการปักธงด้วยสิ
ในขณะที่ฉันกำลังรอคำตอบของอากาเนะ เธอก็เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่น
『ชะ-ช่วยเรียกฉันว่าพี่สาวสักครั้งได้หรือเปล่าคะ?』
「……」
ฉันถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินสิ่งที่เกินคาดสุดๆ
ทุกคนที่อยู่ในรถหุ้มเกราะก็ไม่ต่างกับฉัน ส่วนเร็กซ์ที่นั่งข้างๆ เหมือนจะไม่ได้แปลกใจอะไรจนฉันสงสัยว่าทำไม
『เดี๋ยวเถอะ!! นี่เธอพูดบ้าอะไรของเธอเนี้ย?!』
『กะ ก็แบบว่า หลังได้ยินเรื่องพวกนี้แล้วมันก็อดไม่ได้นี่นา แถมนี่เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายด้วย ฉันเลยคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการพูดเรื่องนี้….มันแย่ขนาดนั้นเลยหรือไง』
『หล่อนจะทำให้เขาอับอายจนตายหรือไง ยัยโง่นี่!』
———มันไม่ใช่หัวข้อที่คนปกติจะพูดออกมาได้นะ
ตอนแรกก็คิดว่าล้อเล่นอยู่หรอก แต่บางทีลึกๆ แล้วตัวเธออาจจะมีสภาพจิตใจไม่ต่างอะไรกับคิราระก็ได้ พฤติกรรมที่แสดงออกมาก็เลยประหลาดๆ
ในฐานะที่เคยช่วยเหลือคิราระมาแล้ว ฉันก็ต้องช่วยเธอเหมือนกัน
「นี่ อากาเนะ ฉันเข้าใจดีนะว่าเธอผ่านอะไรมามากบนโลกนี้」
『เอ่อ มันก็ผ่านมาพอสมควรจริงแหละค่ะ แต่….』
「ฉันคิดมาโดยตลอดว่าเธอคงไม่น่าจะเป็นอะไรเพราะในโลกของฉันเธอทั้งแข็งแกร่งและมั่นคงราวกับดาบสังหารปีศาจ….แต่ฉันคิดผิด」
『ทำไมตัวฉันในโลกนั้นมันถึงกลายเป็นตัวแบบนั้นไปได้ล่ะคะ……?』
มีหลายอย่างที่ฉันต้องทำในเวลาที่จำกัดนี้
สั่นพยายามกลั้นใจอดทนต่อความอับอายแล้ว ดึงสติก่อนพูด
「ถ้าหากว่า….สิ่งนั้นมันสามารถเยียวยาบาดแผลในใจของเธอได้….จะให้ฉันเรียกเธอว่าพี่สาว ฉันก็ไม่ติดหรอก…!!」
『……เอ๋?!เดี๋ยวสิคะ ทำไมมันถึงกลายเป็นฉันกำลังโหยหาความรักความเมตตาไปได้ล่ะ!! ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาด———』
「นั่นสินะเรื่องอายุคงมีปัญหานิดหน่อยงั้นจะเรียกฉันว่าพี่ชายแทนก็ได้นะ」
『———พะ พี่ชายเหรอคะ?』
『ดูเหมือนพวกเรามีสิ่งที่ต้องจัดการก่อนสัตว์ประหลาดละสิ』
『สมองหายไปก่อนการต่อสู้แหง』
เสียงของคิราระกับอาโออิที่ให้อากาเนะถึงกับตกใจ แต่เธอก็ดึงสติกลับมาแล้วพูดต่อ
『เอ๋ แต่คัตสึมิซังเป็นน้องชายบุญธรรมของฉันในอีกโลกไม่ใช่หรือไงคะ?』
「…หาาาาา?」
เดี๋ยวนะ ฉันเริ่มตามไม่ทันละ
อากาเนะพูดว่าอะไรนะ?
「แล้วฉันไปเป็นน้องชายของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กันฟะ?ว่าแต่ไปได้ยินมาจากใครก่อนเถอะ?」
『เร็กซ์』
「เร็กซ์?นี่หมายความว่ายังไง?」
ทำไมต้องไปโกหกอันเองด้วยฟะ?
เดี๋ยวนะ เคยไปคุยอะไรกันไว้ตอนไหนหรือเปล่า ทำไมยัยนี่ถึงเข้าใจผิดว่าฉันเป็นน้องชายบุญธรรมของอากาเนะไปได้ล่ะ
นึกยังไงก็นึกไม่ออกวุ้ยว่าไปเอามาจากไหน
เมื่อเห็นสีหน้าสับสนของฉัน เร็กซ์ก็กอดอกแล้วถามกับฉันด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย
「……。ก็ไม่ใช่หรือไง?」
「ใช่ก็บ้าแล้ว ถึงฉันจะมีพี่สาวบุญธรรมจริงๆ …แต่อายุยัยนั่นแค่เกือบจะสองขวบเอง」
「…ขะ เขาว่างั้นแหละอากาเนะ อาราซากะ ขอโทษที่ทำให้เธอฝันสลาย」
『โฮ่ย ยัยบ้าลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันขอชกหน้าหล่อนสักหมัดหน่อยเถอะ!!!』
ถึงจะไม่เข้าใจว่าจุดเริ่มต้นความเข้าใจผิดของเร็กซ์มันเกิดมาจากตรงไหน แต่ตอนนี้อากาเนะเหมือนจะอายสุดๆ กับการกระทำของตัวเอง
โดยส่วนตัวฉันก็คิดว่าเป็นเรื่องดีที่บรรยากาศก่อนศึกตัดสินมันออกมาค่อนข้างดี แต่อากาเนะไม่ใช่พี่สาวฉันจริงๆ นะเออ
อย่างมากในสายตาฉันเธอก็เป็นเหมือนน้องสาวมากกว่า สุดท้ายก็วุ่นวายซะแล้วสิ
『สุดท้ายเรดก็แทงตัวตายชัดๆ』
『หนวกหูน่า……』
『พวกเรามาถึงแล้ว』
รถหุ้มเกราะได้หยุดลง ทางฉันเองก็ดึงด้ายสีเงินกลับมา
อาณานิคมขนาดใหญ่ที่สร้างมาจากเมืองซึ่งถูกทำลายจนสิ้น
สนามกีฬาขนาดใหญ่ตอนนี้มันได้กลายเป็นรังของสัตว์ประหลาดไปแล้วจนไม่คงเหลือรูปร่างเดิมของมัน
「นี่น่ะเหรอ อาณานิคมที่สาม」
『รังของพวกสัตว์ประหลาดแหล่งสุดท้าย ป้อมปราการที่หุ้มไปด้วยเหล็กหนา หากพวกเราสามารถยึดมันได้สำเร็จก็ไม่ต่างอะไรกับจุดจบของพวกสัตว์ประหลาด』
『อากาเนะอย่ามัวแต่ทำหน้าบูดบึ้งสิ ไปสวมสูทได้แล้ว』
『ฉันเป็นหัวหน้ากลุ่มนะ』
『จ้าๆ จะอะไรก็เถอะไปได้แล้ว!!』
จากนั้นรถหุ้มเกราะก็เปิดส่วนเสริมของมันออกมาเผยให้เห็นจัสติสอาร์เมอร์
เกราะที่แวววาวซึ่งถูกสร้างมาจากโลหะพิเศษปกคลุมทั่วร่างผู้ใช้
ขนาดของมันค่อนข้างเล็กกว่าสูทขับเคลื่อนเดิมพอสมควร ทางฉันกับเร็กซ์เองก็เตรียมอาวุธในมือพร้อมแล้ว
「ตอนนี้คงต้องเก็บแรงฝั่งโปรโต X ไว้ก่อน ฮิลด้าเธอพร้อมไหม?」
『แน่นอนสิ ในที่สุดก็ถึงตาฉันสักที』
『CHANGE→SCORPIO』
『ANTI VENOM!!』
จากร่างสีเงินกลายเป็นชมพู ดาบเล่มใหม่ปรากฏขึ้นในมือฉัน
ต่อจากนี้จะเป็นการต่อสู้ตัดสิน ฉันจะฝืนใช้โปรโต X ก่อนเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดทากไฟฟ้าหรือโอเมก้าไม่ได้เด็ดขาด
「เรมะ ฉันสร้างบาเรียให้แล้วนะ」
『ขอบคุณมาก!! ทางฉันก็จะพยายามสนับสนุนนายเอง!!』
บาเรียของรีไลฟ์เยลโล่ก่อตัวขึ้นรอบๆ รถหุ้มเกราะ จากนั้นโดรนจำนวนมากจากในรถก็กระจายไปทั่วบริเวณ
พอพวกมันบินจากไป ฉันก็หันไปมองสาวๆ ที่กำลังสวมจัสติสอาร์เมอร์อยู่
「พวกเธอพร้อมกันหรือยัง?」
「แน่นอนสิ!!」
「ฆ่าพวกน่ารำคาญให้หมด!」
「พวกเราจะกลับไปพร้อมกันทุกคน!!」
ฉันเองก็พลังเต็มเปี่ยม
งั้นก็ไม่ต้องรีรออะไรกันอีกแล้ว
「เอาล่ะ!! งั้นก็ลุยกันเลยจัสติสครูเซเดอร์!!」
「「「โอ้!!」」」
หลังสิ้นเสียงนั้นพวกเราทั้งหมดก็กระโดดพุ่งตรงไปยังรังของพวกสัตว์ประหลาด
พวกสัตว์ประหลาดที่สังเกตเห็นพวกเราก็เริ่มรวมกลุ่มกันเพื่อรับมือ
แต่ไม่สำคัญหรอกว่ามันจะมีกี่ตัว สิ่งที่พวกเราต้องทำก็แค่ฆ่ามันให้หมดเพื่อทำให้โลกกลับมาเป็นเหมือนเก่า
—จบ—
เตรียมเข้าสู่ศึกตัดสิน ส่วนเรดเป็นได้แค่น้องสาวนะครับ
สุดท้ายปลิงทะเล(จ้าวอสนิบาต)ก็กลายเป็นทากไฟฟ้าไปโดยสมบูรณ์
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code