อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 134 โลกคู่ขนาน 11
โลกา หรือที่พวกเรารู้จักกันในชื่อของสัตว์ประหลาดแม็กม่าได้พ่ายแพ้ให้กับอัศวินดำเรียบร้อยแล้ว
นี่สามารถพูดได้เลยว่าเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ แต่ก่อนที่จะได้แสดงความยินดีอะไรกัน ระเบิดลูกใหม่ก็ตกลงมายังฐานทัพของฝ่ายต่อต้าน
ตัวตนที่แท้จริงของเร็กซ์ คืออากาเนะ อาราซากะในอีกโลกหนึ่ง
ปกติแล้วฉันคงเชื่อไม่ลงหรอก
แต่ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตาหรือการเคลื่อนไหว ทุกสิ่งที่เธอแสดงออกมามันเหมือนกับเรดที่ฉันรู้จักไม่มีผิด ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถปฏิเสธความเป็นไปได้ดังกล่าวได้
「การที่เธอบอกว่าตัวเองมาจากโลกคู่ขนานก็หมายความว่าโลกที่เธออาศัยอยู่มีประวัติศาสตร์คล้ายกับโลกของฝั่งเราสินะ?」
「อ้า ก็อย่างที่นายบอก」
ตอนนี้เราอยู่กันที่ห้องบัญชาการ
ภายในห้องนั้นมีตัวฉัน 3 สาว โอโมริคุง และสมาชิกคนสำคัญคนอื่นๆของกลุ่มต่อต้านมารวมตัวกันอยู่ ส่วนคนที่เหลือก็คือคนที่เดินทางมาจากอีกโลกหนึ่งอย่าง เร็กซ์ ฮิลด้าและ อัศวินดำ คัตสึมิ โฮมุระซึ่งนั่งตรงข้ามพวกเรา
「ก็สงสัยอยู่หรอกว่าในอนาคตอากาเนะจะเป็นยังไงแต่ว่านี่มัน…..」
「โตมาแล้วสวยสุดๆไปเลยแฮะ」
「อยู่ดีๆก็พูดอะไรของพวกเธอน่ะ……?」
ฉันเมินเรดที่โวยวายออกมาก่อนจะหันไปถามเร็กซ์ต่อ
「ฉันขอถามเธอตรงๆเลยนะ เกิดอะไรขึ้นกับพวกเราในโลกของเธอ?」
「……」
พอได้ยินคำถามนั้นเรดในเวอร์ชั่นผู้ใหญ่ก็ขมวดคิ้ว
ไม่ใช่ว่าเธอขุ่นเคืองกับคำถามของฉัน แต่เหมือนเธอจะลังเลว่าควรพูดมันดีไหม
…แต่การที่เธอแสดงสีหน้าแบบนี้มันก็ชัดแล้วว่าคงจะมีคนบาดเจ็บล้มตายกันเป็นจำนวนมาก
ถึงแบบนั้นฉันก็จำเป็นต้องรู้
ชะตากรรมของพวกเราที่ไม่มีคนพวกนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง
「ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นหรอก บอกพวกเรามาเถอะ เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรู้」
「……เข้าใจแล้ว งั้นก็เตรียมใจฟังให้ดีล่ะ」
เร็กซ์พยักหน้าอย่างเคร่งขรึมก่อนจะมองไปยังทุกคนที่อยู่ภายในห้อง
「อาโออิ น้องสาวของเธอที่ถูกจับไปกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด และนั่นทำให้หัวใจของเธอแตกสลายจนสุดท้ายเธอก็ ปลดลิมิตเตอร์ของสูทที่ใช้อยู่ให้ถึงขีดสุดเพื่อกวาดล้างพวกสัตว์ประหลาดจนตายไปเพราะร่างกายทนรับไม่ไหว」
「……เอ๋?」
จากนั้นเธอก็หันไปมองเยลโล่ต่อโดยไม่ได้สนใจท่าทางที่ตกใจสุดๆของบลู
「คิราระเธอระเบิดตัวตายระหว่างศึกตัดสินกับสัตว์ประหลาดแม็กม่า」
「……ฉันน่ะเหรอ」
「80% ของสมาชิกกลุ่มต่อต้านถูกกลิตเตอร์ สัตว์ประหลาดที่แฝงตัวในหมู่พวกเราฆ่าตาย」
「……」
「พวกเราไม่สามารถหยุดยั้งการตื่นขึ้นของโอเมก้าราชาแห่งเหล่าสัตว์ประหลาดได้ โอเมก้าได้ทำการเริ่มก่อสงครามกับพวกเอเลี่ยนในอวกาศและโลกก็ล่มสลาย」
ทุกคนถึงกับพูดอะไรไม่ออก แต่เร็กซ์ก็ยังคงพูดต่อไป
「และทุกอย่างที่ฉันว่ามาจะเกิดขึ้นในอีกประมาณ 10 วันนับจากนี้」
「「「……」」」
นี่มันเรียกว่าสิ้นหวังเลยไม่ใช่หรือไง?!
มันไม่ใช่แค่การถูกรุกฆาต แต่มันหมายถึงจุดจบที่แท้จริง
ไม่สิ ฉันเข้าใจดี
หากเร็กซ์และคนอื่นๆไม่ปรากฏตัวขึ้นพวกเราคงได้พบจุดจบแบบนั้นเหมือนกันแน่นอน
….ถึงจะผ่านชะตากรรมที่เลวร้ายมาได้บางส่วน แต่การที่ได้รู้ว่าหากมีอะไรผิดพลาดไปพวกเราจะพบจุดจบเช่นนั้น มันก็รู้สึกหนักอึ้งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
「แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเธอกัน?」
เรดถามกับเร็กซ์ในขณะที่บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความเงียบงัน
การที่พวกเราทุกคนตายกันหมด แต่เร็กซ์มาอยู่ตรงนี้ได้ ก็หมายความว่าเธอคือผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว
เรดเองก็คงอยากจะรู้ชะตากรรมของตัวเองในอีกโลกหนึ่ง
「ฉันเองก็อยากจะรู้ถึงความเป็นไปได้ในชะตากรรมนั้น เธอพอจะบอกได้ไหม?」
「……。ฉันคือผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวในโลกนั้น」
「ไหนเธอบอกว่าโลกถูกทำลายไปแล้ว แต่ทำไมถึง….」
「เป็นเพราะยานอวกาศที่เรมะ คาเนะซากิแอบสร้างเอาไว้….ด้วยสิ่งนั้นทำให้ฉันสามารถรอดมาได้」
「เธอใช้มันหนีไปเหรอ……!?」
นั่นคือยานที่ฉันเตรียมพร้อมเอาไว้เผื่อสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งฉันได้เก็บประวัติศาสตร์ อารยธรรมและข้อมูลพันธุกรรมของโลกเอาไว้
อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเพียงยานขยะที่ลอยไปมาภายในอวกาศได้นิดหน่อยซึ่งฉันได้ทำการติดตั้งAIที่อ้างอิงมาจากตัวฉันลงไปด้วย แม้มันจะไม่สมบูรณ์ก็เถอะ
ฉันเข้าใจแล้วว่าตัวฉันในโลกที่เร็กซ์อยู่จนมุมขนาดไหน
「……ว่าแต่มันแปลกๆนะ」
หลังคิราระได้ยินเรื่องราวของเร็กซ์เธอก็พูดขึ้น
「ถ้าโลกที่อากาเนะอีกคนอาศัยอยู่ถูกทำลายลงแล้วอากาเนะกลายเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวที่ลอยไปมาในอวกาศ แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ? 」
นั่นก็เป็นเรื่องที่ฉันอยากจะถามเหมือนกัน
มันมีจุดขัดแย้งในสิ่งที่เร็กซ์เล่าออกมาอยู่
ทว่าเร็กซ์เองก็คงจะคิดเอาไว้แล้วว่าจะถูกถามแบบนั้น ก็เลยตอบกลับได้อย่างรวดเร็ว
「หลังจากที่ฉันกลายเป็นผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว ฉันก็ถูกบางสิ่งส่งไปยังอีกจักรวาลหนึ่ง ซึ่งนั่นเป็นจักรวาลที่เขาและฮิลด้าอาศัยอยู่」
「มีคนที่ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ……?」
「มันคือลำดับแห่งดวงดาราที่ 2」
ลำดับที่ 2?! คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินชื่อของลำดับดวงดาราตอนนี้
「ในจักรวาลแห่งนั้นมันคือโลกที่ฉันไม่รู้จักมาก่อน」
「ก็มันไม่ใช่โลกของเธอนี่นะ……」
ก็หมายความว่าเธอไปอยู่ในจักรวาลของเขาก่อนที่จะย้ายมาโลกนี้อีกทีสินะ
การที่สามารถส่งมีชีวิตข้ามจักรวาลได้ก็สมกับเป็นลำดับแห่งดวงดาราลำดับต้นๆดี
ฉันเดาได้ทันทีว่าเร็กซ์ซึ่งข้ามจักรวาล หลังเจอดาวโลกของจักรวาลนั้นจะทำอะไรต่อ
「ก็แปลว่าหลังเธอข้ามไปจักรวาลนั้นเธอก็ได้ทำการจัดการกับพวกสัตว์ประหลาดทั้งหมดแล้วเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์สินะ?」
「…เปล่า มันไม่ได้เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ」
ไม่เหมือนกับพวกเราเหรอ
หมายความว่า โลกในจักรวาลนั้น ไม่มีสัตว์ประหลาดปรากฏตัวขึ้นเหรอ…ไม่สิ ดูจากความสามารถของคัตสึมิ โฮมุระแล้วการมีอยู่ของสัตว์ประหลาดนั้นเป็นเรื่องจริงแน่นอน
「พวกสัตว์ประหลาดถูกฆ่าล้างบางจนหมดก่อนที่ฉันจะเดินทางไปถึงโลกเสียอีก นั่นแหละคือความแตกต่าง」
「ล้างบางจนหมด……? สัตว์ประหลาดน่ะเหรอ?」
ไม่นะ เดี๋ยวก่อน มันอะไรกัน?
เธอจะบอกว่าดาวโลกสามารถเอาชนะสัตว์ประหลาดลงได้สำเร็จโดยที่เร็กซ์ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเลยเนี้ยนะ?!
จากนั้นเร็กซ์ก็หันไปหาคัตสึมิ โฮมุระ พอเขาถูกจ้องก็เหมือนจะแสดงสีหน้าลำบากใจออกมานิดหน่อยพลางเกาหัวไปด้วย
บางทีเขาอาจจะลำบากใจที่จะพูด ผู้หญิงที่นั่งข้างๆเขาอย่างฮิลด้าก็เลยพูดแทนอย่างสนุกสนาน
「หลังจากเขาได้สวมโปรโตสูทของโลกฝั่งนั้น เขาก็ทำการสังหารทั้งสัตว์ประหลาดแมงมุม สัตว์ประหลาดทากไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งโลกาจนหมดสิ้นด้วยตัวของเขาเองน่ะ」
「「「……」」」
เขาเอาชนะพวกมันทั้งหมดได้ด้วยตัวเอง?
แถมยังเป็นโปรโตเซโร่ที่ไม่มีใครสามารถใช้ได้นั่นอีก?
ไม่สิหากดูการต่อสู้ของเขาก่อนหน้านี้ก็ทำให้รู้ได้เลยว่าเขาเกิดมาเพื่อใช้งานโปรโตเซโร่และดึงพลังของมันออกมาใช้งานได้อย่างถึงขีดสุดกว่าที่ฉันคาดเดาได้
เมื่อเห็นทุกคนตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ฮิลด้าก็หยิบของบางอย่างที่เหมือนกับเมมโมรี่การ์ดออกมาจากข้อมือของเธอแล้วแสดงให้พวกเราเห็น
「คงจะเชื่อกันได้ยากใช่ไหมล่ะ งั้นฉันมีวิดีโอให้ดูจ้า」
「อะไรกัน!?」
「ไหงมีของแบบนี้อยู่ได้ล่ะ……?」
ทั้งคัตสึมิ โฮมุระและเร็กซ์ต่างก็แสดงความตกใจออกมาราวกับพวกเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ฮิลด้าที่เห็นแบบนั้นก็พูดต่อด้วยความภูมิใจ
「ถึงตอนนี้จะให้ความร่วมมือกัน แต่สุดท้ายพวกเราก็เป็นศัตรูกันนะ ก็ต้องเป็นเรื่องปกติไหมที่ฉันจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับนายน่ะ?」
「ศัตรูกัน…?」
「อ้า ทั้งฉันกับเร็กซ์ต่างก็เป็นลำดับแห่งดวงดารา โดยตอนนี้พวกเรากำลังต่อสู้กับคัตสึมิคุงในโลกของพวกฉันน่ะ」
เดี๋ยวๆๆๆ?! ทำไมถึงพูดข้อมูลที่ชวนให้ตกใจสุดๆได้เหมือนไม่มีอะไรเลยล่ะ?!
ทุกคนในที่นี้ซึ่งไม่รู้ว่าลำดับแห่งดวงดาราคืออะไรก็แสดงท่าที่ประหลาดใจออกมา แต่ในมุมของฉันซึ่งเป็นอดีตลำดับที่ 43 สถานการณ์มันพลิกกลับไปคนละแบบเลย
「สรุปคือเธอเป็นศัตรูของเขาเหรอ?!」
「ตอนนี้ฉันคงไม่คิดจะสู้กับเขาอีกแล้ว ส่วนฮิลด้าฉันไม่รู้หรอก」
「อื้ม ถึงตอนนี้จะสงบศึกกันชั่วคราว แต่ทันทีที่กลับโลกเดิมพวกเราก็จะเป็นศัตรูกันเหมือนเดิมจ้า」
「พอถึงตอนนั้นฉันจะจัดให้สาสมเลย」
「……」
คัตสึมิ โฮมุระตอบกลับไปในทันที จนทำให้ฮิลด้าพูดอะไรไม่ออก
ถึงจะไม่เข้าใจความเป็นมาของทั้งคู่เลยสักนิด แต่ก็คงจะมีเหตุผลอะไรอยู่เบื้องหลังแหละ เอาเป็นว่ากลับมาเรื่องที่ฉันอยากรู้ที่สุดก่อนดีกว่า
「หมายความว่าแม้จะเอาชนะพวกสัตว์ประหลาดไปแล้วการต่อสู้ก็ยังไม่จบเหรอ」
「สถานการณ์บนโลกของพวกฉันเลวร้ายกว่านี้เยอะ ก็จริงว่าพวกลำดับแห่งดวงดาราถูกส่งมาบุกโลก แต่ปัญหาจริงๆมันอยู่ตรงที่เขากำลังถูกตามโดยรูอินต่างหาก」
「……? รูอิน?」
ฉันเอียงหัวสงสัยทันทีเมื่อได้ยินชื่อนี้
หรือจะเป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับพวกลำดับแห่งดวงดารากันนะ
「……ถึงจะไม่รู้ว่าในจักรวาลนี้จะมีตัวตนนั้นอยู่ไหม แต่เอาเป็นว่าหากเป็นเธอคนนั้นคงจะสามารถพาพวกเรากลับไปยังที่ที่เคยจากมาได้แน่นอน」
「แปลว่าพวกเธอมีหนทางในการกลับไปเหรอ?」
「ของมันแน่อยู่แล้ว」
คัตสึมิ โฮมุระได้เปิดปากพูดขึ้นหลังผ่านไปสักพัก
จากนั้นเขาก็เบนสายตาไปมาราวกับจะหลบจากสิ่งกวนใจที่อยู่ใกล้ๆเขา
「ไอ้สารเลวที่มันเรียกตัวเองว่าลำดับที่ 2 มันส่งพวกเรามายังโลกใบนี้ในช่วงวิฤกติสุดๆก็หมายความว่ามันตั้งใจจะให้พวกเรากอบกู้โลกใบนี้ หากเสร็จสิ้นงานนี้แล้วก็คงจะพากลับไป」
「……งั้นเหรอ ว่าแต่ทำไมพวกมันต้องทำแบบนั้นล่ะ……」
「เหตุผลมันไม่ได้สำคัญหรอก แต่ยังไงฉันก็ไม่มีทางจะปล่อยให้โลกใบนี้ล่มสลายได้หรอก ถึงแม้จะไม่พอใจที่ถูกทำเหมือนเป็นลูกไก่ในกำมือมันก็เถอะ……」
…เด็กดีชะมัด เขาคนนี้
ความอ่อนโยนที่ยากจะจินตนาการได้ว่าสามารถสู้แบบดิบเถื่อนกับโลกาได้
「ฉันพอจะเข้าใจเรื่องราวฝั่งพวกเธอบ้างแล้ว เอาเป็นว่าฉันขอดูวิดีโอจากฝั่งนั้นเพิ่มหน่อยได้หรือเปล่า?!」
「เอาสิยังไงมันก็เป็นของที่ปรับให้เข้ากับเทคโนโลยีของโลกอยู่แล้ว」
ฉันรับเมมโมรี่การ์ดมาจากิลด้าแล้วเสียบมันลงไปในเครื่องเล่นเพื่อทำการฉายวิดีโอบบนจอใหญ่
หลังภาพตัดไปชั่วขณะ วิดีโอก็เริ่มเล่นตรงหน้าจอควบคุม
「นั่นมันสัตว์ประหลาดแมงมุมนี่……?」
สัตว์ประหลาดตัวแรกที่ปรากฏขึ้นบนโลกคือสัตว์ประหลาดแมงมุม
ฝันร้ายที่สังหารประชากรชาวญี่ปุ่นไปกว่า 40%
ภัยร้ายที่สามารถฆ่าทุกชีวิตได้ด้วยเส้นใยของมันกำลังเผชิญหน้ากับโปรโตเซโร่อยู่
ในโลกนี้ ฉันได้สวมสูทตัวนี้และออกไปต่อสู้จนได้รับชัยชนะแม้จะทุลักทุเลสุดก็ตาม เลือดตกใน แขนและขาหักไม่เหลือชิ้นดี แต่อัศวินดำในวิดีโอกลับใช้พลังอันท่วมท้นอัดสัตว์ประหลาดแมงมุมอยู่ฝ่ายเดียว และสุดท้ายหมัดของเขาก็ชกทะลุร่างของมันไปเป็นอันจบ
「……เป็นไปได้ยังไงกัน」
สัตว์ประหลาดแม่งมุมถูกฆ่าตายในทันที นั่นทำให้ฉันตกใจสุดๆ
โปรโตเซโร่ที่สร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์มันทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ?
จากนั้นวิดีโอก็เริ่มเล่นไปเรื่อยๆ สัตว์ประหลาดที่แสนน่ากลัวถูกฆ่าตัวแล้วตัวเล่ากำลังฉายตรงหน้าของเรา
『ไอ้รำยำแมวเอ็งจะส่งเสียงดังหาป้าเอ็งเหรอฟะ! มันรบกวนเพื่อนบ้านนะเว้ย!!』
สัตว์ประหลาดที่รูปร่างเหมือนแมลงถูกตบร่วงในดอกเดียว
『จากที่เห็น ฉันก็แค่ต้องอัดแกไปเรื่อยๆ จนไฟของแกไม่เหลือเท่านั้นเอง!!』
โปรโตเซโร่สามารถเอาชนะสัตว์ประหลาดที่รู้จักกันในชื่อของจ้าวอสนีบาตลงได้สำเร็จ
ร่างของสัตว์ประหลาดที่มีเครื่องหมายปริศนาอยู่บนหัวก็โดนหินปาอัดใส่ตาย
สัตว์ประหลาดที่รูปร่างเหมือนกลองก็โดนหมัดเขาต่อยจนกลายเป็นโดนัท
ภาพของสัตว์ประหลาดมากมายที่ตายด้วยหมัดของเขากำลังถูกฉายให้พวกเราเห็น และภาพสุดท้ายมันก็คือสัตว์ประหลาดที่มีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่รอบตัว
『ไอ้สารเลวแบบแกไม่ควรมีหัวใจกับเขาหรอก!!』
จากนั้นสิ่งที่เหมือนกับแกนกลางของมันก็ถูกควักออกมา
โลกาถูกอัศวินดำฆ่าตาย
สถานการณ์ที่ฉันได้เห็นมันช่างห่างไกลกับโลกของฉันเหลือเกิน
「…พอได้เห็นกับตาตัวเองแล้วมันก็แอบทึ่งจนบอกไม่ถูกเลยแฮะ……」
นี่น่ะเหรอ คัตสึมิ โฮมุระ
ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงถูกเรียกว่าศัตรูตามธรรมชาติของพวกสัตว์ประหลาด
หากเขาอยู่ที่โลกใบนี้ ฉันก็คงไม่จำเป็นต้องสวมสูทออกไปสู้จนเกือบจะตาย การฆ่าล้างจากฝีมือของสัตว์ประหลาดแมงมุมก็คงไม่เกิด
「และเพราะตัวตนของเขา เลยทำให้นายในโลกนั้นมีเวลาเพิ่มอีก 6 เดือน」
「……6เดือน? เธอหมายถึงอะไรกัน?」
「สูทรุ่นถัดไปจากโปรโตเซโร่ นายทำการพัฒนาสูทตัวใหม่ที่ถูกเรียกในภายหลังว่าจัสติสสูท」
อ่ะ จริงด้วยสิ! ในโลกนี้ฉันเป็นคนใช้งานโปรโตเซโร่ก็จริง แต่ในโลกนั้นคือคัตสึมิ โฮมุระผู้สามารถเข้ากันได้สุดๆกับโปรโตเซโร่และออกฆ่าล้างพวกสัตว์ประหลาด ตัวฉันที่เห็นแบบนั้นก็เลยตัดสินใจพัฒนาสูทรุ่นถัดไปจากโปรโตเซโร่นี่เอง!!
ชะตากรรมของโลกได้เปลี่ยนไปเพราะตัวตนของเขา!!
「และพวกเธอก็คือคนที่ใช้งานสิ่งนั้น」
「เอ๋ พวกเราเหรอ?」
「ฉันเดาว่ามันคงเป็นสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตาละมั้ง พวกเธอทั้ง 3 คนถูกรับเลือกมาเพราะสามารถเข้ากันได้กับสูทตัวใหม่ แถมในโลกนี้พวกเธอก็ยังได้สวมสูทขับเคลื่อนที่หมอนั่นสร้างอีก….ในอีกมุมหนึ่งอาจจะเรียกว่าเป็นคำสาปก็ได้มั้ง」
อากาเนะ อาราซากะ
อาโออิ ฮินาตะ
คิราระ อามัตสึกะ
ทั้งสามคนคือคนที่สวมจัสติสสูท
ไม่สิ อันที่จริงในโลกนี้พวกเธอก็มีความเข้ากันได้กับสูทขับเคลื่อนที่ฉันสร้างขึ้นซะด้วยสิ
「…เอ่อ โฮมุระคุง..เรียกแบบนี้ได้สินะ?」
「หือ?」
「นายรู้จักตัวตนของพวกเราในโลกนั้นด้วยสินะ?」
「……」
คัตสึมิ โฮมุระไม่ได้พูดอะไรออกมาหลังเรดถาม
บางทีการที่เขาเงียบอาจจะไม่ใช่การปฏิเสธ แต่เป็นกำลังหาวิธีการตอบที่เหมาะสม
เรดที่เห็นแบบนั้นก็ถามต่อ
「ดูเหมือนนายจะรู้จักชื่อของอาโออิด้วยนี่นา ก็แปลว่านายต้องรู้จักพวกเราด้วยสินะ?」
อันที่จริงดูจากการปฏิบัติตัวกับพวกเรดแล้วก็พอจะเดาได้แหละว่ารู้จักกัน
นอกจากนี้ลักษณะการพูดของเขากับฉันก็เหมือนจะใกล้ชิดกันพอสมควรด้วยสิ
หลังเขาได้ยินคำถามนั้น เขาก็พยักหน้าให้กับเรดหนึ่งครั้ง
「อ้า พวกเธอที่อยู่โลกของฉัน…คือ..พวกเรา…เป็นเพื่อนกันน่ะ」
「เพื่อน……」
「พวกเธอคือคนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านและไม่ยอมทอดทิ้งคนแบบฉันไปน่ะ」
ก็หมายความว่าในโลกของเขา เรดกับคนอื่นๆคือพวกพ้องที่ร่วมต่อสู้ไปด้วยกันสินะ
เท่าที่เห็นทั้งน้ำเสียง ท่าทางอันแสนอ่อนโยนที่เขามีต่อพวกเธอก็น่าจะคิดได้แค่แบบนั้น
「ตัวฉันโลกนั้นเป็นยังไงเหรอ?」
「เอ๋?」
อยู่ดีๆบลูก็ถามขึ้นด้วยความอยากรู้
คัตสึมิ โฮมุระที่ถูกถามก็แสดงสีหน้าลำบากใจออกมาทันที
「เธอที่อยู่โลกนั้นค่อนข้างทำตัวแปลกๆ แต่ก็เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสนุกดี」
「……」
「หือ? เป็นอะไรไปน่ะ?」
บลูชะงักไปเล็กน้อยหลังได้ยินคำพูดของเขา ก่อนจะหันไปหาเรดกับเยลโล่
「ฉันบอกแล้วไงว่าเขาน่ะชอบฉัน———」
「เอาเป็นว่าเธอหุบปากไปสักพักดีกว่านะอาโออิ」
「อุมุมุ」
แปลกเหรอ นี่บลูโลกนั้นต้องทำตัวแบบไหนกันเนี้ย?
ถึงเธอจะชอบทำตัวเงียบๆ แต่ก็ดูไม่น่าจะเป็นพวกผิดแปลกไปได้เลยนะ
ไม่สิ หากสัตว์ประหลาดไม่ปรากฏตัวขึ้น บุคลิกนั่นอาจจะเป็นบุคลิกจริงๆของเธอก็ได้
「อ้อ จริงสิ จะว่าไปแล้วฉันก็มีวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับจัสติสสูทด้วยนะ」
「ว่ายังไงนะ!?」
ขณะกำลังคิดถึงพฤติกรรมแปลกๆที่บลูทำได้ ฉันก็ตกใจกับคำพูดของฮิลด้าที่กำลังปรับแต่งอุปกรณ์ในมือของเธอ
ผลงานชิ้นถัดไปจากโปรโตเซโร่ หากฉันทำการวิเคราะห์วิดีโอนั้น ฉันก็จะสามารถเสริมแกร่งให้กับสูทในตอนนี้ได้ด้วย มันไม่ใช่การเล่นโกงสักหน่อย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อโลกใบนี้ต่างหาก ใช่แล้วเพื่อโลกใบนี้!!
「เล่นให้ดูหน่อยสิ!!」
「จ้าๆ」
หลังใส่เมมโมรี่การ์ดอันใหม่เข้าไป วิดีโอก็เริ่มเล่น
บลูเลิกโวยวายแล้วหันมามองจอด้วยความตั้งใจเหมือกับเรดและคนอื่นๆ บางทีเธอเองก็คงอยากจะเห็นตัวเองในอีกโลกหนึ่งเหมือนกัน
「……จริงสิ」
「มีอะไรเหรอคัตสึมิคุง」
「คือว่า เธอพอจะมีวิดีโอเมื่อสมัยก่อนอยู่ไหม ไอ้นั่นน่ะ….」
เอ๋? เขาหมายถึงอะไรน่ะ?
ก่อนที่ฉันจะได้ถามฮิลด้าก็ทำอะไรบางอย่างจากนั้น สีอันฉูดฉาดทั้งสามซึ่งประกอบไปด้วย แดง เหลือง น้ำเงินก็ปรากฏขึ้นบนจอ
「เปลวเพลิงแห่งความกล้าหาญ! จัสติสเรด!」
「วารีแห่งปาฏิหาริย์! จัสติสบลู!」
「อสนีบาตแห่งความหวัง! จัสติสเยลโล่!」
「「「พวกเราสามคน! ขบวนการเซ็นไต 3 สี จัสติสครูเซเดอร์!!!」」」
สิ่งที่ฉันเห็นคือเด็กสาว 3 คนที่สวมสูทสีแดง เหลือง น้ำเงิน
ฉันสามารถบอกได้ทันทีว่านั่นคือพวกเรด…นี่น่ะเหรอ สูทรุ่นถัดไปจากโปรโตเซโร่ที่ฉันสร้างขึ้น
เข้าใจดีเลย ฉันเข้าใจดีเลย ต้องแบบนี้สิตัวฉันอีกโลกหนึ่ง
ไม่ว่าจะยังไง สุดท้ายฮีโร่มันก็ต้องมีท่าแปลงร่างสิ
「อะ อะ อ้าาาา……」
「นี่ตัวฉันอีกโลกทำบ้าอิหยังลงไปเนี้ย?!」
「มันไม่ใช่เรื่องจริง……」
พวกเรดต่างก็เอามือปิดหน้าและบิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวด ดูเหมือนพวกเธอจะทนดูสารรูปของพวกเธออีกโลกหนึ่งไม่ไหว
「ให้ตายสิ ทำไมตัวฉันถึงเผลอใส่ท่าโพสต์ของแปลงร่างลงไปในสูทของจัสติสครูเซเดอร์ได้นะ แหะๆ!!」
「แหะๆบ้านป้าแกสิยะ เห็นชัดเลยว่าตั้งใจ」
「…โห้ยอย่ามาว่าฉันสิเห้ย นั่นมันฝีมือฉันอีกโลกต่างหาก……」
สถานการณ์เริ่มวุ่ยวายกว่าเดิม แต่ในที่สุดฉันก็ได้เข้าใจเสียที การมาถึงของพันธมิตรคนใหม่และสิ่งที่ฉันค้นพบนี่แหละจะกลายเป็นไพ่เด็ดสำหรับพวกเรานับจากนี้
***
อธิบายท้ายตอน
ความแตกต่างระหว่างโปรโต 1 กับ โปรโตX
【โปรโตX】
สูทจะร้อนจนกลายเป็นสีแดงเมื่อเกิดการโอเวอร์ไดร์ฟ ซึ่งมันจะดึงเอาพลังจำนวนมากออกไปใช้งาน แต่คงสภาพได้ไม่นานนักเพราะความสามารถในการถ่ายเทพลังงานส่วนเกินยังไม่ดีพอ
【โปรโต1】
เพราะมีการติดตั้งระบบ OLKS(Over Limit Kurokishi System)จึงสามารถปลดปล่อยพลังงานส่วนเกินออกมาเป็นผ้าพันคอสีแดงและใช้มันเป็นแรงขับเคลื่อน ส่งผลให้คัตสึมิสามารถใช้งานสูทได้อย่างต่อเนื่องและสะดวกกว่าโปรโตX
—จบ—
ฉากจบที่แสนเศร้าในหลายๆความหมายถูกเปิดเผย เรียกว่าขุดศพมาซ้ำเลยดีกว่า หากได้เจอตัวเองในอีกโลกคงมีเรื่องต้องคุยกันยาว 5555 ว่ากันตามตรงถ้าได้เป็นเมะบทต่างโลกนี่น่าทำเป็นมูฟวี่สัก 2 ภาคได้เลยและก็เป็นบทที่ผมอ่านแล้วสนุกสุดด้วยดังนั้นหากเห็นว่าลงถี่ช่วงนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจครับ
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code