อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 124 โลกคู่ขนาน 1
ตัวตนที่แท้จริงของลำดับที่ 10 คือหญิงสาวที่ฉันเคยเจอที่สวนสาธารณะหรือก็คืออากาเนะในวัยผู้ใหญ่
แม้จะเชื่อได้ยาก แต่ฉันก็มั่นใจจนน่าแปลกใจตัวเองว่าต้องเป็นเธอแน่นอน
ทว่าถึงการเคลื่อนไหวจะคล้ายกันมากเพียงแต่ อารมณ์ที่อ่อนไหวและความสิ้นหวังที่สามารถสละชีวิตตัวเองได้อย่างง่ายดายทำให้ฉันรู้ว่าเธอจะต้องพบเจออะไรที่ยากลำบากมาอย่างแน่นอน
ก็จริงว่าฉันอาจจะคิดไปเองทั้งหมดก็ได้ แต่เพราะเคยอาศัยอยู่กับฮาคัวที่เจอเรื่องทำนองนี้เหมือนกันจึงคิดว่าอาจจะเป็นไปได้
ถึงจะยังไม่มั่นใจว่านั่นคือร่างโคลนของเธอหรือตัวตนที่แยกออกมามีความนึกคิดเป็นของตัวเองก็เถอะ
แต่ในเมื่อสุดท้ายคนตรงหน้าฉันคืออากาเนะ ฉันก็จะต้องช่วยเธอไว้ให้ได้
เหมือนกับตอนที่อากาเนะและคนอื่นๆ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยฉันที่อยากจะตายเอาไว้
ทว่าพวกเรากลับถูกกระแสวังวนปริศนาดูดกลืนเข้าไป
ร่างกายเหมือนกำลังลอยเคว้งอยู่ในอากาศ แสงสว่างที่วูบวาบไปมา
พอรู้สึกตัวอีกทีฉันก็มาอยู่ภายในเมืองร้างแห่งหนึ่ง
「……ที่ไหนกันเนี้ย」
ถนนและอาคารมากมายถูกทำลายลงจนไม่เหลือเค้าเดิม
เพราะไม่ได้รับการดูแลรักษา พวกวัชพืชก็เลยเกาะอยู่ตามสิ่งก่อสร้างทำให้ดูโทรมยิ่งกว่าเก่า
「โปรโตกับชิโระก็ไม่อยู่……」
แล้วที่นี่มันที่ไหนกัน?
จะบอกว่าเป็นฝีมือพวกเอเลี่ยนก็ไม่น่าใช่เพราะหากพวกมันอาละวาด จัสติสครูเซเดอร์คงไม่อยู่เฉยแน่ แถมสภาพความเสียหายนี้น่าจะเกิดขึ้นหลายเดือนแล้วด้วย
「จะคิดต่อใครก็คงไม่ได้ แปลว่าฉันต้องหาคำตอบด้วยตัวเองสินะ?」
ฉันถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินไปตามเมืองที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง
「……」
ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกแปลก
ดูจากสภาพและป้ายต่างๆ แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคือญี่ปุ่น แต่ทำไมฉันถึงนึกไม่ออกเลยล่ะว่าส่วนไหนของญี่ปุ่นมันมีสภาพแบบนี้
หรือจะเป็นโลกที่ถูกสร้างในมิติของคนที่ดึงเราเข้ามาเหรอ?
แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้อีกเพราะหากมีฝีมือขนาดนั้น ยัยรูอินคงเคลื่อนไหวไปแล้ว
「จะแปลงร่างก็ไม่ได้อีก…คงต้องระวังตัวยิ่งกว่าเดิม」
แอบปวดใจเหมือนกันที่ต้องแยกจากกับโปรโตและชิโระ
ทั้งคู่จะปลอดภัยไหมนะ
เป็นไปได้ก็อยากจะกลับไปรวมกลุ่มกันให้เร็วที่สุด
「คะ คัตสึมิคุง!!」
「เอ๋?」
มีเสียงเรียกชื่อของฉันดังขึ้น
พอมองไปยังทิศทางของเสียงก็พบว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังกวักมือเรียกฉันมาจากมุมตึกแห่งหนึ่งที่น่าจะเคยเป็นร้านอาหารมาก่อน
ฉันที่เห็นผู้หญิงคนนั้นก็ทำหน้าแหยงใส่ทันที ฮิลด้าเอเลี่ยนที่สร้างร่างกายขึ้นมาให้เหมือนกับโมโมโกะ คาเสะอุระ ผู้มีผมลอนสีน้ำตาลอันเป็นเอกลักษณ์
「ฮิลด้า…แกก็โดนกับเขาด้วยเหรอเนี้ย」
「รีบมาตรงนี้ก่อนเถอะ!! ไม่รู้หรือไงว่าไปเดินแบบนั้นมันอันตรายขนาดไหน?!」
「ขอปฏิเสธแล้วกัน」
「คนเขาคุยด้วยดีขนาดนี้แล้วยังไม่เชื่อใจกันอีกหรือไง?!」
จะให้ฉันเชื่อใจหล่อนที่โผล่หน้ามาทีไรก็เกิดแต่เรื่องได้ยังไงฟะ
ทันใดนั้นเองก็เกิดแรงสั่นสะเทือนเหมือนกับแผ่นดินไหวขึ้น
อะไรกัน เหมือนมีบางอย่างกำลังใกล้เข้ามา
「คราวนี้ฉันเองก็ลำบากไม่น้อยเหมือนกัน ดังนั้นรีบมาเร็วเข้า!!」
「เห้อ ช่วยไม่ได้……!」
ว่าแล้วฉันก็เดินไปหาฮิลด้า ก่อนที่เธอจะคว้าแขนของฉันเข้าไปหลบในมุมมืด แล้วมองไปข้างนอกอย่างตื่นตระหนก
…ท่าทางจะไม่มีเจตนาทำอะไรฉันที่แปลงร่างไม่ได้จริงด้วยวุ้ย
「แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน」
「บางที…พวกเราน่าจะถูกย้ายมาในอีกจักรวาลหนึ่งแล้วน่ะ」
อีกจักรวาลหนึ่ง……?
ปกติแล้วฉันไม่เชื่อเรื่องแบบนี้หรอก แต่พอเห็นท่าทางของฮิลด้าที่กังวลจริงจังก็เหมือนว่าเธอจะไม่ได้โกหก
ก็แปลว่าเจ้าของเสียงนั่นเป็นคนส่งพวกเรามาสินะ?
「คัตสึมิคุง ตอนนี้นายแปลงร่างได้ไหม?」
「…ไม่ได้หรอก ชิโระกับโปรโตหายไปไหนก็ไม่รู้」
「ถามจริง…แบบนี้ก็ชักจะซวยแล้วสิ」
「ทางแกล่ะ?」
ฉันถามฮิลด้าที่ดูเหมือนจะกังวลอยู่
พอเธอเห็นแบบนั้นก็ปล่อยพลังงานสีชมพูออกมาจากแขน ทว่ามันกลับไม่เสถียรราวกับมีบางอย่างกำลังรบกวนพลังนี้อยู่
「ไม่รู้เพราะอะไร แต่พลังของฉันมันไม่เสถียรจนแปลงร่างเองไม่ได้เหมือนกัน แย่สุดๆ」
「ก็แปลว่าทั้งฉันกับเธอง่อยกินทั้งคู่น่ะสิ…..」
เหมือนที่ฮิลด้าบอก ตอนนี้แย่สุดๆ
แต่ในอีกมุมหนึ่งมันก็หมายความว่าลำดับ 10….อากาเนะก็น่าจะอยู่ที่นี่เหมือนกัน
「ฮิลด้า เห็นอากาเนะ…ไม่สิลำดับ10หรือเปล่า?」
「ตั้งแต่มาก็ไม่เห็นเลยนะ」
「อ้า……」
หากเป็นไปได้ก็อยากรวมกลุ่มให้เร็วที่สุด
อันตรายเกินไปที่จะแยกกันในเมืองที่พังทลายเช่นนี้
ดูจากเสียงแผ่นดินไหวก่อนหน้านี้ บางอย่างที่อันตรายคงอยู่ไม่ไกลจากที่พวกฉันอยู่
「! ตรงนั้น」
ฮิลด้าชี้ไปที่ข้างนอกร้าน
แม้จะมีรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่ตัวตนของมันก็ห่างไกลจากมนุษย์ที่ฉันรู้จักเหลือเกิน
『หึมมุ ข้าว่าเห็นมันแถวๆ นี้นะ』
『มันอาจจะกำลังหลบซ่อนอยู่ก็ได้』
「สัตว์ประหลาดกระดิ่งกับสัตว์ประหลาดเลเซอร์?」
พวกมันคือสัตว์ประหลาดที่ฉันเคยจัดการมาก่อน
พวกมันกำลังเดินไปมาในเมืองราวกับกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง
「งั้นเหรอ เป็นโลกแบบนี้เองสินะ?」
「……หมายความว่ายังไง」
「เห็นก็น่าจะรู้แล้วนะ มันก็คือโลกที่สัตว์ประหลาดอาศัยอยู่ยังไงล่ะ」
「……」
….ความจริงที่ว่าสัตว์ประหลาดที่ฉันเคยฆ่าไปปรากฏตัวขึ้นแล้วเดินไปมาในเมือง
ญี่ปุ่น…ไม่สิ นี่มันคือโลกที่ถูกพวกสัตว์ประหลาดปกครอง
น่าสิ้นหวังชิบ
ในสถานการณ์ที่พวกมันเดินเล่นไปมาในเมืองได้ กับตัวฉันและฮิลด้าที่แปลงร่างไม่ได้ ถึงจะเจอกับพวกอ่อนที่สุดก็คงได้ไปโลกหน้ากันหมดแหง
หากมีอาวุธแบบอากาเนะมันก็พอจะลุ้นได้อยู่หรอก แต่ตอนนี้ดันตัวเปล่าเลยนี่สิ
「ยะ แย่แล้วพวกมันมองมาทางนี้แล้ว!」
「ก็เพราะหล่อนยื่นหน้าออกไปดูเยอะไปนั่นแหละ!!」
「อุ่ย ขอโทษเถอะย่ะ!」
อาจจะเป็นเพราะฮิลด้าโผล่หน้าออกไปเยอะเกินไป พวกสัตว์ประหลาดมันก็เลยเหมือนจะรู้ตัวแล้ว
ทีนี้ก็คงเหลือแค่รอให้พวกมันมาหาถึงที่
「ซวยแล้วสิ ว่าแต่เธอกลายร่างเป็นเข็มขัดได้ไหม?」
「ได้ทำมันก็ทำได้อยู่หรอก แต่นายจะ….」
ยัยนี่คงคิดว่าฉันไม่กลัวเหรอว่าจะถูกยึดร่างสินะ
ก็จริงอยู่ว่าฉันแอบหวั่นๆ แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยก็มีแต่ตายกับตายดังนั้นถึงจะมีโอกาสรอดเพียงน้อยนิดฉันก็ต้องคว้ามันเอาไว้
「แล้วจะไปด้วยกันไหมล่ะ」
「เห้อ แต่ว่านั่น…มันค่อนข้างจะ….」
「ถ้ามาตายที่นี่กันหมด แผนอะไรที่มีก็เปล่าประโยชน์นะเห้ย」
「……อึก」
อะไรของยัยนี่ฟะ ทั้งที่เจอกันตอนแรกพยายามจะสิงร่างฉันให้ได้ แต่ตอนนี้ดันทำท่าลังเลแล้วหน้าแดงนั่นอีก
ฉันที่เริ่มทนไม่ไหวจึงได้เอามือไปจับที่ไหล่ของฮิลด้าเพื่อดึงสติเธอ ทันใดนั้นเองร่างของฮิลด้าก็ส่องแสงออกมาแล้วกลายเป็นหัวเข็มขัด
『SCREAM DRIVคลื่น……คึกคึกคึก』
「เอ๋?」
หัวเข็มขัดรูปหนามเหมือนที่ฉันเคยเห็นอยู่ดีๆ มันก็เปลี่ยนไปซะอย่างงั้น
『INVERSION!!』
『RE:SCREAM DRIVER!!』
ครั้งนี้ดีไซน์ของมันออกมาค่อนข้างล้ำยุค
ฉันจ้องมองไปยังเข็มขัดที่มีโทนสีดำเป็นหลักโดยบริเวณรอบหัวเข็มขัดถูกแต่งแต้มด้วยสีชมพูและเขียว จากนั้นข้อมูลมากมายก็ไหลเข้ามาในหัวของฉัน
———และฉันก็รู้วิธีใช้งานมันแล้ว
「ทั้งที่ลังเลขนาดนั้นแต่ก็ให้ความร่วมมือดีนี่หว่า….ว่าแต่ไงเงียบไปเลยละเห้ย」
ตอนนี้เข้าใจวิธีแปลงร่างแล้ว ฉันทำการกดปุ่มใช้งานมัน ทันใดนั้นเองเข็มขัดก็โผล่ขึ้นมาพันรอบเอวของฉันเอาไว้พร้อมกับอุปกรณ์ที่เหมือนช่องใส่การ์ดโผล่ขึ้นมาข้างเข็มขัด
เมื่อยืนยันว่าพร้อมจะลุย ฉันก็เดินออกไปหาพวกสัตว์ประหลาด
「ตรวจพบมนุษย์!!」
「จับกุมมัน จับกุม!!」
「มาลุยกันเลย ฮิลด้า」
ฉันทำการหยิบการ์ดที่อยู่ด้านข้างของเข็มขัดออกมา
รูปที่แสดงอยู่ภายในการ์ดคือร่างของไรเดอร์เกราะสีชมพูดำ ซึ่งมีตราสัญลักษณ์ของแมงป่องติดอยู่ จากนั้นฉันก็นำมันไปสอดใส่ในช่องหัวเข็มขัด และแล้วเสียงดนตรีแจ๊สอันมีชีวิตชีวาก็เริ่มบรรเลง
「อะ อะไรกัน!?」
「เสียงประหลาดนี่มัน!!?」
「แปลงร่าง」
ฉันประกอบมันเข้าไปตรงกลางเข็มขัดเป็นแนวทแยงเหมือนกับสแกนเครื่องอ่านการ์ด
『CHANGE→SCORPIO』
『ANTI VENOM!!』
แม้จะถูกโยนมาในโลกที่ไม่รู้จัก แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้าวต่อไปข้างหน้า
สุดท้ายก็ต้องมาเริ่มการต่อสู้ครั้งใหม่ที่โลกใบนี้
***
ทันทีที่ฉันตระหนักได้ถึงตัวตนของคัตสึมิ โฮมุระที่หายตัวจากโลกใบนี้ไป ฉันก็ถูกรูอินจังเรียกเข้าพบทันที
ตอนนี้รูอินจังกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์โดยมีลำดับที่ 1 ยืนอยู่ข้างๆ เธอ และลำดับ 2 ที่เป็นเด็กน้อยซึ่งสะท้อนอยู่ภายในกระจกที่ลอยอยู่ พิจารณาจากสถานการณ์พวกระดับสูงทั้งหมดคงจะถูกเรียกว่าแน่เลย
「ขอโทษทีนะ ซันนี่ที่เรียกแกมา พอดีมันเกิดเรื่องเลยอยากให้มามีส่วนร่วมสักหน่อยน่ะ」
「ไม่เป็นไรหรอกจ้า ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น」
———รูอินจังตอนนี้ดูหงุดหงิดสุดๆ ไปเลยแฮะ
แม้ว่าภายนอกจะเหมือนร่าเริงตามเคย
ทว่าความโกรธของเธอมันกำลังค่อยๆ ทำให้พื้นที่โดยรอบบิดเบือนไปมาจนผิดปกติ
「xxxxxเป็นคนทำ」
เห้อ ท่าจะแย่แล้วสิ เพียงวาสที่พูดชื่อของลำดับที่สองภาษาลึกลับก็จะโผล่มาเขียนทับทันที
ลำดับแห่งดวงดาราที่ 2 นักท่องมิติ######
เธอคือคนเดียวเลยที่ฉันคิดว่าตัวเองไม่มีสนิทกันได้แน่นอน
「ก็ไม่แปลกใจแล้วที่รูอินจังจะโกรธ」
ในจังหวะที่กำลังต่อสู้กัน เมื่อความลับของลำดับที่ 10 ใกล้จะถูกเปิดเผย ลำดับที่ 2 ก็ได้โผล่เข้ามาแทรกเอาไว้
และสิ่งที่แย่กว่าเดิมก็คือเธอส่งคัตสึมิจังไปยังอีกโลกหนึ่งโดยไม่มีอะไรติดตัวไปเลย
「ุถ้างั้นก็มาฟังเรื่องฝั่งแกบ้างดีกว่า มีอะไรจะพูดไหม?」
รูอินจังจ้องมองไปยังเด็กคนหนึ่งที่ลอยอยู่ภายในภาพกระจกที่สะท้อนออกมา
แม้จะถูกสายตาของรูอินจังจ้องมอง เด็กคนนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนท่าทีสบายๆ ของเธอไปเลย
「ฉันคิดว่ามันดูน่าสนใจดีน่ะ ก็เลยลองทำดู」
「หา?」
「ลำดับที่ 10 หรือก็คืออากาเนะ อาราซากะ คือคนที่ฉันพามาจากอีกโลกหนึ่งนี่นา」
หา….จะบอกว่าหญิงสาวคนนั้นคือเรดจังงั้นเหรอ?!
ความจริงที่น่าตกใจนี้ทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออก ส่วนทางท่านรูอินที่ฟังก็ไม่ได้พูดอะไร
「ในขณะที่ฉันกำลังเฝ้าดูเธอในการค้นหาความหมายของคำว่าชีวิต ฉันก็เริ่มนึกสงสัยขึ้นมาว่าหากเธอได้กลับไปยังช่วงเวลาก่อนที่โลกของเธอจะล่มสลายเธอจะเลือกเส้นทางแบบไหนน่ะ และความสัมพันธ์ของเธอกับคัตสึมิ โฮมุระจะดำเนินไปเป็นยังไง」
「แกนี่มีงานอดิเรกที่น่ารังเกียจจริงๆ ….」
เธอมองว่าสิ่งมีชีวิตเป็นเพียงแค่ความบันเทิงสำหรับตัวเองเท่านั้น
นั่นคือเนื้อแท้ของลำดับที่ 2
ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเฝ้าดูทุกสิ่งจากภายในมิติที่ 2 ซึ่งไม่มีอะไรสามารถทำอันตรายเธอได้อีกต่างหาก
「แต่ไม่ว่าจะคิดยังไงมันก็ออกมาเป็นภาพในหัวไม่ได้สักที เพราะภาพที่เธอจะอยู่รอดได้มันไม่มีเลยนี่นา ก็เลยลองลงมือทำมันให้เห็นซะเลยน่ะ」
「นั่นเลยเป็นเหตุผลที่แกส่งคัตสึมิไปยังโลกที่เต็มไปได้สัตว์ประหลาดสินะ?」
「หากจะพูดให้ชัดโลกใบนั้นเป็นโลกที่คล้ายกับโลกของอากาเนะ อาราซากะอาศัยอยู่มาก แม้จะมีเรื่องที่แตกต่างกันแต่ก็เป็นเพียงเรื่องยิบย่อยเท่านั้น」
….เพราะไม่มีภาพงั้นเหรอ
ไม่รู้ตัวเลยสักนิด ว่าการกระทำที่ผยองเช่นนั้นจะทำให้เกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
「แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่สำหรับท่านนี่นา」
「……」
「ในโลกนั้นมีสัตว์ประหลาดที่นำทัพโดยโอเมก้าของโลกมนุษย์ซึ่งมีพลังมหาศาล ดังนั้นไม่มีที่ไหนจะเหมาะสมสำหรับการเติบโตของคัตสึมิ โฮมุระไปได้มากกว่านี้อีกแล้วนอกจากนี้ในจักรวาลนั้นก็มีพ่อของท่านอยู่ด้วย ถึงแม้จะเขาจะไม่สามารถเอาชนะได้ แต่อย่างน้อยหากได้สู้กันก็น่าจะเป็นประสบ…อึก?!」
ในขณะที่ลำดับ 2 กำลังพูดออกมาอย่างสนุกสนาน อยู่ดีๆ เธอก็เริ่มบิดตัวไปมาแล้วดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดขณะจับคอตัวเองเอาไว้
สิ่งมีชีวิตอมตะที่เคลื่อนที่ได้อย่างอิสระในโลกสองมิติ มันไม่ใช่ตัวตนที่ฉันจะสามารถทำอะไรได้ ทว่าตัวตนแบบนั้นก็หาได้สมบูรณ์แบบและสุดท้ายเธอก็เป็นเพียงแค่ลำดับที่ 2
เพราะเบื้องหน้าของเธอยังมีวาสที่เป็นลำดับที่ 1 และรูอินจังที่เป็นผู้นำสูงสุดขององค์กรซึ่งสามารถกำจัดเธอได้
「เรื่องของแกมันน่าเบื่อซะฉันหาวเลย」
「อะ อึก คึ……」
สายตาของรูอินจังกำลังจ้องมองลำดับที่ 2 ซึ่งบิดตัวไปมาในกระจกอย่างทรมาน ก่อนจะโบกนิ้วมือขวาของเธอไปมา
ในวินาทีนั้นเอง ร่างของลำดับที่ 2 ซึ่งอยู่ภายในกระจกก็ถูกดึงออกมาอยู่ภายในมิติที่สามเช่นเดียวกับที่ฉันอยู่
ร่างของเธอถูกยึดเอาไว้กับพื้นด้วยแรงกดดันของรูอินจังจนทำได้เพียงหมอบคลาน
「ดูเหมือนว่าแกจะไม่ได้เข้าใจอะไรเลยสักนิด———」
「มะ หมาย ความ ว่า ยะ……!?」
「ใครเป็นคนอนุญาตให้แกทำแบบนั้น? ฉันให้เคยสั่งแกสักครั้งไหมว่าให้ทำแบบนั้นกับคัตสึมิ ข อ ง ฉั น ?」
รูอินจังจ้องมองไปยังร่างของลำดับที่ 2 ซึ่งหมอบคลานอยู่กับพื้นโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ เสียงกระดูกของเธอที่กำลังโดนบดขยี้ดังไปทั่วบริเวณ
เพราะทำอะไรไม่คิดสุดท้ายก็เลยโดนโกรธเข้าให้ไงล่ะ
นี่คงจะเป็นการลงโทษพวกที่คิดว่าตัวเองอยู่ในจุดปลอดภัยสุดๆ
「ลำดับแห่งดวงดาราที่ 2 อิริสเตโอ้・・・・・」
รูอินจังพูดชื่อของลำดับที่ 2 ด้วยความโกรธ
ดวงตาของลำดับที่ 2 ถึงกับเบิกกว้างขึ้นเพราะชื่อของเธอไม่ได้ถูกคลื่นสัญญาณอะไรรบกวนเลยสักนิดเมื่อมันออกมาจากปากของรูอินจัง
「อยากจะทำตัวเป็นผู้สังเกตการณ์ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่หากแกยังล้ำเส้นแบบนี้ ฉันจะทำลายตัวตนของแกในทุกพหุมิติให้หายไปเอง」
ทำลายตัวตน
แม้จะเป็นลำดับที่ 2 ผู้ก้าวข้ามได้ในทุกมิติและมีตัวตนเป็นอมตะ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรต่อหน้ารูอินจังได้เลย
พอเห็นแล้วก็อยากจะขำขึ้นมาซะงั้น
「อย่างแรกเลย แกคงไม่คิดหรอกใช่ไหมว่าสิ่งที่แกทำได้ฉันจะทำไม่ได้น่ะ?」
เมื่อรูอินจังยกฝ่ามือขึ้น ภาพของคัตสึมิจังที่กำลังแปลงร่างก็ปรากฏขึ้นในประตูมิติตรงหน้า
นั่นคือคัตสึมิจังที่ถูกส่งไปยังอีกโลกหนึ่ง…ท่าทางเขาจะปลอดภัยดีสินะ
และนี่มันก็เป็นเครื่องยืนยันว่าเธอสามารถทำได้แบบที่ลำดับที่ 2 ทำ
「หากฉันต้องการ การนำคัตสึมิกลับมาก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ว่านั่นสินะ….」
「อึก!」
「ตอนนี้ปล่อยไว้ก่อนละกัน」
รูอินจังเริ่มผ่อนคลายแรงกดดันออกแล้วกลับไปนั่งบนบัลลังก์อีกครั้ง ก่อนจะกอดอกด้วยท่าทางที่แสนสง่างามแล้วเฝ้ามองคัตสึมิจังภายในประตูมิตินั้น
ลำดับที่สองยังอยู่ในสภาพที่หายใจไม่ออกและไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ แต่รูอินจังก็ไม่คิดจะสนใจอีกต่อไปแล้ว
「ถึงจะข้ามขั้นตอนไปบ้าง แต่ก็นับว่าเป็นโอกาสที่ดี ฉันมั่นใจว่าเขาจะต้องตอบสนองความต้องการของฉันได้อย่างแน่นอน」
ความสนใจของรูอินจังมีเพียงแค่คัตสึมิจังที่อยู่ตรงหน้าแล้ว
…..เป็นคัตสึมิจังนี่ก็ลำบากจังเลยน้า
ควรจะเอาเรื่องนี้ไปบอกให้ไฮรุจังรู้ดีหรือเปล่าน้อ ไม่สิ ขืนรู้ขึ้นมาเธอได้กังวลจนอกแตกตายแน่เลย
—จบ—
คัตสึมิตะลุยต่างโลกกับฮิลด้าแถมไอ้การแปลงร่างกับการ์ดแบบนี้ดีเคทชัดๆเข้ากับธีมไปต่างโลกสุดๆ!!!
และรูอินจังโมโหเมื่อถูกล้ำเส้น โลกที่ไปโผล่คือโลกคนละไทม์ไลน์กับโลกที่ส่มสลายของXแต่มีความใกล้เคียงกันสุดๆสิน้า
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code