อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 123 นักรบผู้มีบาดแผล
ความถี่การปรากฏตัวของพวกสัตว์ประหลาดเพิ่มขึ้นสูงมาก
หนักไปกว่านั้นคือพวกมันโผล่ออกมาทั่วประเทศญี่ปุ่น
เนื่องจากเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่น พวกเราเลยจำเป็นต้องออกเดินทางไปจัดการพวกมันด้วยยานบิน
「ชวนให้นึกถึงเรื่องเก่าๆ เลยวุ้ย……」
「คาชู้วววว!!」
พอบินไปถึงที่เกิดเรื่องด้วยLupus Strikerก็พบว่าตรงหน้าคือสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างคล้ายกับกลองกำลังดูดน้ำจากทะเลสาบอยู่
เหมือนมันกำลังตั้งใจจะดูดน้ำในนั้นให้หมดก็เลยไม่สังเกตถึงมามีอยู่ของฉัน
ถึงแม้จะต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าน้ำจะหมด แต่ตอนนี้มันก็มากพอแล้วที่จะทำให้เห็นปลาและขยะที่ก้นทะเลสาบ
「แกจะดูดไปถึงไหนวะ」
「ชู้ววว!?」
ฉันที่อยู่ในร่างโปรโตวันได้พุ่งเข้าไปต่อยสัตว์ประหลาดจากด้านหลังจนทำให้ร่างของมันร่วงลงไปในทะเลสาบทันที
ถึงจะต่อยเข้าไปเต็มๆ แต่เหมือนจะยังไม่ตายวุ้ย
「ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้องตัวแตกไปแล้วแท้ๆ …..จะว่าไปร่างของมันดูจะเคลือบทองแปลกๆ ไหมฟะ?」
『คัตสึมิคุง ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง!!』
「โอโมริซัง ช่วยตรวจสอบข้อมูลสัตว์ประหลาดตัวนี้ให้หน่อยครับ ก็จริงว่าเคยสู้กับมันมาแล้วทีหนึ่งแต่เหมือนคราวนี้มันจะแปลกๆ」
ความสามารถของมันคือการดูดเอาน้ำออกมาพ่นใส่ นั่นเป็นข้อมูลทั้งหมดที่ฉันมีก่อนที่ฉันจะต่อยมันจนตัวแตกไป
หลังจากผ่านไปไม่กี่วิ โอโมริซังก็ส่งข้อมูลคร่าวๆ มาให้กับฉัน
『ศัตรูคือสัตว์ประหลาดกักน้ำ ความสามารถของมันคือการกักเก็บน้ำได้อย่างไม่มีจำกัดนอกจากนี้ยังสามารถดึงความชื้นภายในอากาศและสิ่งมีชีวิตได้อีกด้วย!!』
「เป็นตัวที่ปล่อยไปไม่ได้เลยนี่หว่า」
『นอกจากนี้ หากจะจัดการมันก็ควรจะทำในสถานที่ที่ไม่สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่โดยรอบนักเพราะหากมันตายน้ำที่มันเก็บสะสมเอาไว้ภายในจะไหลออกมาด้วย!!』
「ขอบคุณครับ」
เพราะคราวก่อนเก็บมันเร็วไปเลยไม่รู้อะไรสักนิด จากนั้นฉันก็มองไปยังทะเลสาบที่อัดมันจนร่วงลงไป
ไม่นานนักผิวน้ำก็เกิดฟองขึ้นและร่างของมันก็ลอยขึ้นมา
「พอลงไปซักน้ำสักหน่อยก็ดูสะอาดขึ้นนี่หว่าか」
「ชู้ว!! ชู้วววววว!!」
ร่างของมันส่องแสงสีทองออกมา
จากนั้นร่างของมันก็ถูกปกคลุมด้วยเกราะสีท่องก่อนจะพ่นน้ำใส่ฉัน
เท่าที่เห็นมันแกร่งกว่าในอดีตแน่นอน แรงดันน้ำก็สูงกว่าเดิมด้วย
「ฮ้า」
ฉันต่อยน้ำนั่นสวนกลับไปตนสร้างแรงกระแทกให้กับพื้นผิวทะเลสาบและผืนดินตรงหน้าเป็นรอยลากยาว
…..ถึงมันจะแข็งแกร่งกว่าในอดีตก็จริง แต่ว่า———
「คาชู้ววววว———」
「แค่แกเลี่ยมทองไม่ได้หมายความว่าฉันจะแพ้นะเห้ย!!』
ถึงจะไม่รู้ว่าร่างนี้ของมันทำได้ถึงขั้นไหน แต่ฉันเองก็แกร่งขึ้นไม่แพ้กันนะเห้ย!!
ฉันพุ่งเข้าไปหามันก่อนจะต่อยมันให้กระเด็นไปบนท้องฟ้าแล้วกระโดดตามไป——、
「ชิโระ!!」
『โฮก!!』
———พอขึ้นไปบนฟ้าฉันก็ปลดการแปลงร่างแล้วใช้Truth Driverแทน
『THE ENEMY OF JUSTICE……』
『『『TRUTH FORM!!!』』』
หลังจากเปลี่ยนเป็นTruth Formเสร็จฉันก็หยิบขวานสายฟ้าออกมาฟาดเข้าที่ลำตัวของมันให้ปลิวไปไกลกว่าเดิม
หลังจากนั้นฉันก็สร้างประตูมิติขึ้นที่ปลายทางของร่างสัตว์ประหลาดที่ปลิวไป เมื่อมันผ่านประตูมิติก็มาปรากฏตรงหน้าฉันอีกครั้ง จากนั้นฉันก็ใช้หมัดของตัวเองในการคว้านร่างของมันบริเวณรอยแรกของเกราะที่ขวานทำขึ้นก่อนหน้า
「คุ!?」
『DEADLY Ⅰ!!』
『TYPE RED!!』
ฉันใช้มืออีกข้างในการเปลี่ยนฟอร์มแล้วใช้งานท่าพิเศษ
สูทของฉันถูกย้อมไว้ด้วยสีแดงฉานก็จะลุกเป็นไฟ
『คัตสึมิคุง?!หากจะฆ่ามันจริงๆ น้ำพวกนั้นมันจะ———』
「แกคงจะชอบน้ำมากเลยสินะ」
มันพยายามพ่นน้ำออกมาใส่ฉันราวกับดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย
ก็จริงว่าหากฆ่าเจ้านี้ น้ำในร่างของมันคงจะถูกปล่อยออกมาจนกลายเป็นภัยพิบัติ แต่เรื่องนั้นฉันคิดทางออกเอาไว้แล้ว
「ถ้างั้นก็แค่เผามันให้ระเหยไปจนหมดแม่มเลยก็พอ!!」
『ALL BREAK!!』
『FLARE EXPLOSION!!』
「คุ ชู้ววววว!!?」
เปลวไฟลุกท่วมมือของฉันก่อนจะเผาร่างของสัตว์ประหลาดจากภายในรวมถึงน้ำที่เก็บกักในร่างของมันด้วย
เนื่องจากตอนนี้ฉันลอยอยู่ในอากาศคนรอบข้างไม่น่าจะได้รับผลกระทบอะไร ถึงจะน่าเสียดายน้ำที่ต้องระเหยไปก็เถอะ
「ชู้วววว……ว……ว」
หลังยืนยันว่ามันกลายเป็นถ่ายไปแล้วจากความร้อน ก็ใช้เวลาไปได้ประมาณ 3 นาที
ฉันทำการเปิดประตูมิติเพื่อลงมายังพื้นดิน
「เอ่อ…โอโมริซัง สัตว์ประหลาดนั่นถูกจัดการแล้วครับ」
『เหนื่อยหน่อยนะ!! ทางนี้ก็ยืนยันว่าสัญญาณมันหายไปแล้วเหมือนกัน』
「คนอื่นละครับ?」
『หายห่วง สัตว์ประหลาดที่ปรากฏตามจุดต่างๆ ถูกพวกเธอจัดการเรียบร้อย』
สัตว์ประหลาดที่ปรากฏตัวคือพวกที่เราเลยสู้มาก่อนแล้ว
ถึงมันจะแกร่งขึ้น แต่ฉันมั่นใจว่าพวกเธอไม่มีทางแพ้แน่นอน
「หากต้องการความช่วยเหลือก็บอกได้เลยนะครับ ผมจะเฝ้าระวังแถวนี้อีกสักพัก」
『อื้อ』
หลังจากได้ยินเสียงอันสดใสของโอโมริซัง ฉันก็ตัดการเชื่อมต่อแล้วมองไปรอบๆ
น้ำที่ถูกสัตว์ประหลาดกลืนกินเข้าไปหายไปหมดแล้ว
อันที่จริงก็อยากจะให้น้ำมันกลับไปที่เดิมหรอก แต่ฉันไม่สามารถควบคุมน้ำพวกนี้ได้แถมมันอาจจะล้นออกมาจนไปท่วมเมืองแถวนี้ก็ได้
「โปรโต ชิโระ ไม่มีปฏิกิริยาสัตว์ประหลาดใช่ไหม?
『ตอนนี้ก็ยังนะ แต่เราก็ไม่ควรจะประมาทคงต้องเฝ้าระวังต่อ』
「อ้า」
『โฮก!』
ฉันรู้ดีว่าพวกมันเหลี่ยมขนาดไหน
ฉันละไม่เข้าใจการกระทำของพวกมันจริงๆ ว่าจะเอาสัตว์ประหลาดออกมากันทำไมตอนนี้ แต่การปรากฏตัวของมันก็ทำให้ชีวิตผู้คนตกในความเสี่ยงเลยจำเป็นต้องเคลื่อนไหว
「….พอนึกย้อนกลับไปตัวฉันเมื่อก่อนก็สู้ได้แบบบ้าบอชะมัด」
『คัตสึมิแบบนั้นฉันก็ชอบนะ』
「ถึงจะไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจอะไรแต่ก็….ขอบคุณ」
คำจำกัดความของคนเลวมันอะไรกันนะ
พอมาคิดดูตัวฉันในตอนนั้นก็ค่อนข้างเด็กด้วยแหละน้า….
『โฮก!!』
『คัตสึมิ……』
ฉันมองไปยังตรงหน้าของตัวเอง หลังได้ยินเสียงของโปรโตและชิโระ
ทันใดนั้นควันสีชมพูก็ปรากฏขึ้น โดยมีสองร่างอยู่ภายในนั้น
「โอโมริซัง」
『คัตสึมิสัญญาณถูกรบกวน』
「อ้า」
ก็รู้ได้ทันทีว่าใครคือสาเหตุที่ทำให้การติดต่อกับสำนักงานใหญ่ถูกตัดออกไป
「เจออีกจนได้」
「กลับมาแล้วจ้า♪」
ฮิลด้าโผล่มาในร่างของมนุษย์ที่ไม่ได้สวมสูทซึ่งข้างๆ ของเธอคือลำดับที่ 10 ซึ่งเรียกว่าตัวเองว่าเอ็กซ์ซึ่งมาพร้อมกับเกราะสีแดงดำ
ไม่ว่าจะคิดยังไงก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญให้มาเจอกันแน่นอน
「คราวนี้จะพาเรื่องปวดหัวอะไรมาให้อีก」
「อย่าพูดแบบนั้นสิ ไม่ดีใจที่ได้เจอฉันแล้วเหรอ~?」
「……」
「พูดอะไรหน่อยสิ……?」
ยัยนี่ไม่รู้เลยหรือไงว่านิสัยแบบนี้มันทำให้คนอื่นเกลียดน่ะ
หัวจะปวด
ฮิลด้าแสดงท่าทีเหมือนเจ็บปวดกับการกระทำของฉัน ก่อนจะพูดต่ออย่างสนุกสนาน
「แต่ไม่ต้องห่วง คราวนี้ฉันไม่เข้าไปยุ่งหรอก」
「……หมายความว่าคนที่จะสู้คือลำดับ 10?」
「อื้อ พอดีเธออยากจะสู้กับนายดูสักครั้งน่ะ ฉันก็เลยมาส่งเฉยๆ」
「……」
ลำดับที่ 10 เดินมาอยู่ข้างหน้าฮิลด้าโดยไม่พูดอะไร
ลักษณะท่าทางการเคลื่อนไหวแบบนี้…ทำไมมันชวนให้นึกถึงอากาเนะกันนะ
「ตามที่สัญญาเอาไว้ ฉันจะไม่เข้าไปยุ่ง ส่วนเรื่องการกวนคลื่นสัญญาณน่าจะยื้อได้ไม่ถึง 10 นาที ระหว่างนี้ก็พยายามเข้าล่ะ แต่ว่า….. 」
『ถึงแม้ฉันจะถูกอัศวินดำฆ่าที่นี่เธอก็จะไม่เข้ามายุ่งอยู่ดีสินะ?』
「……อื้อ ก็ตกลงกันไว้แบบนั้นนี่นา」
ฮิลด้าจะไม่เข้ามายุ่งจริงดิ ว่าแล้วเธอก็เดินจากลำดับ 10 ไปนั่งอยู่บนหินบริเวณทะเลสาบที่เหือดแห้ง
เป็นพวกพ้องภาษาอะไรฟะ?
หรือยัยนี่กำลังวางแผนอะไรแปลกๆ อีก
「โปรโต」
『อื้อ!』
TYPE 1 ร่างที่น่าจะเหมาะสบกับการรับมือลำดับที่ 10
『มีบางอย่างที่ฉันจะถามก่อนเราจะสู้กัน』
「หือ?」
เสียงสังเคราะห์ที่ลำดับ 10 พูดออกมาทำให้ฉันสงสัย
ฉันมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ศัตรูที่โจมตีด้วยการพูด ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจฟังเรื่องของเธอ
หลังผ่านไปไม่กี่วินาที ลำดับ10 ก็เอามือจับที่หน้ากากตรงปากตัวเองแล้วถอดมันออกจนเผยให้เห็นใบหน้าครึ่งล่าง
「……อัศวินดำ」
เสียงปกติที่ไม่ถูกสังเคราะห์ผ่านอุปกรณ์
พอฟังเสียงนั้นแล้ว มันช่างคล้ายกับหญิงสาวที่ฉันเจอในสาธารณะก่อนสัตว์ประหลาดจะปรากฏตัว
เป็นเรื่องบังเอิญเหรอ ที่ลำดับ 10 กับเธอคนนั้นจะเสียงคล้ายกัน
แต่ที่ขำไม่ออกเลยก็คือพวกเธอดันเสียงคล้ายกับอากาเนะสุดๆ
「ทำไมนายถึงตัดสินใจสู้กับสัตว์ประหลาดแมงมุมเหรอ?」
「「?」」
ทั้งฉันและฮิลด้าที่นั่งเฝ้าดูอยู่ไม่ไกลแสดงท่าทีสงสัยออกมาพร้อมกัน
เธอถามฉันโดยที่ไร้ซึ่งอาวุธใดๆ ในมือนอกจากนี้ก็ไม่มีเจตนาฆ่าหรืออะไรทำนองนั้นแผ่ออกมาเลยสักนิด
「อยู่ดีๆ ทำไมมาสนใจเรื่องสัตว์ประหลาดแมงมุมซะงั้นล่ะ?」
「……แค่อยากรู้น่ะ」
「สงสัยอะไรพิลึกชะมัด..เฮ้อ」
ในมุมของฉันมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อนานมากแล้วจนไม่เก็บมาใส่ใจ
แต่จะว่าไปมันก็คือสัตว์ประหลาดแห่งจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันเข้ามาสู่โลกแห่งการต่อสู้
ถึงจะบอกแบบนั้นก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าลำดับ 10 จะมาสนใจอะไรเรื่องพวกนี้
….นอกจากนี้คำพูดของเธอมัน….
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ปากของฉันก็เปิดออกโดยไม่ได้ตั้งใจ
「ก่อนที่สัตว์ประหลาดจะปรากฏตัว ความรู้สึกในชีวิตของฉันที่เหมือนกับได้ปลดปล่อยเป็นอิสระก็คือตอนสวมสูท」
「……」
「ถึงตอนนี้มันจะต่างออกไปก็เถอะ แต่ตัวฉันในอดีตไม่ได้เชื่อใจใครและก็ไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิตด้วย」
ความรู้สึกครั้งแรกเมื่อสวมโปรโตสูทคือคำว่า อิสระ
ฉันวิ่งไปทั่วเมืองในยามค่ำคืนเพื่อสัมผัสกับท้องฟ้าที่ล่องลอย
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสิ่งผิดปกติยามค่ำคืนจึงเป็นอะไรไม่ได้ได้นอกเสียจากตัวน่ารำคาญ
「ส่วนเรื่องที่สู้กับสัตว์ประหลาดแมงมุม ก็คงจะตอบง่ายๆ ว่ามันคือการกำจัดสิ่งที่มารบกวนอิสรภาพของฉัน」
「อิสรภาพ……」
ลำดับ 10 พูดทวนคำพูดของฉัน
เหมือนปากของเธอจะขยับเหมือนพูดอะไรกับตัวเองเสียด้วย ทว่าไม่นานนักเธอก็นำหน้ากากส่วนล่างกลับไปสวมตามเดิม
『ขอบคุณที่บอก ตอนนี้ฉันหายคาใจแล้ว』
「……อ้า」
ถึงอีกฝ่ายจะพูดแบบนั้น แต่ดันกลายเป็นฉันที่คาใจแทนนี่สิ
สิ่งที่สัมผัสได้จากเธอมันแตกต่างจากตอนที่เธอสู้กับอากาเนะก็จริง แต่ยังไงเธอก็คือศัตรูของฉัน
เมื่อการพูดคุยจบลงพวกเราก็ต้องมาสู้กัน
พลังงานสีแดงได้แผ่ออกมาเป็นผ้าพันคอ ส่วนอีกฝ่ายก็สร้างดาบสองคมขึ้นมาภายในมือ
「……อึก」
อย่างที่คิดภาพของเธอมันทับซ้อนกับอากาเนะเสียเหลือเกิน
เธอคือใครกันนะ?
ถึงจะยังคาใจแต่ตอนนี้จำเป็นต้องเตรียมตัวรับมือกับลำดับที่ 10 แล้ว
***
ต่อสู้เพื่ออิสรภาพ
แม้จะเหตุผลจะต่างจากฉัน…แต่พื้นฐานแล้วก็เหมือนกัน
สิ่งที่ฉันสงสัยมาโดยตลอด
ก็ไม่ได้คาดหวังในคำตอบอย่างเหมาะสมแท้ๆ แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูดฉันก็รู้ได้ทันทีว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นฮีโร่
「ย้าก!!!」
『ชิ……!!』
ดาบที่สร้างขึ้นมาถูกบดขยี้ทิ้งไปอย่างง่ายดายด้วยหมัดของเขา
นอกจากนี้แรงกระแทกของมันก็ยังทำให้เกราะส่วนบนของฉันแตกเป็นเสี่ยงๆ จนร่างฉันกระเด็นลงไปในทะเลสาบ
『แข็งแกร่ง』
『จากที่เห็นก็น่าจะอย่างงั้นแหละ』
ฉันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีครามพร้อมกับร่างที่ลอยอยู่เหนือน้ำซึ่งถูกแสงแดดสาดส่อง โดยมีGRDบ่นอยู่ข้างๆ
เขาน่าจะตามมาในไม่ช้า
ฉันตัดสินใจเตรียมรับมือแบบจัดเต็มทันที
『』
『ARMOR・PURGE【BOX:Ⅳ】』
เกราะชนิดใหม่ถูกส่งเข้ามาประกอบร่างของฉันพร้อมกับแสงสว่างจ้า
เสียงของกลไกค่อยๆ ทำงานตามส่วนต่างๆ ของเกราะ
มันคืออาวุธหนักที่มีความสามารถในการโจมตีและป้องกันที่ยอดเยี่ยม
ด้วยสิ่งนี้น่าจะพอรับมือกับอัศวินดำได้
เมื่อการติดตั้งเสร็จ ก็เกิดแรงกระแทกขึ้นเหนือผิวน้ำจนทำให้น้ำรอบๆ กระเด็นอย่างรุนแรง
『ทำถึงขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ……』
เขาแยกทะเลสาบได้ด้วยการเตะ ในขณะที่ฉันหัวเราะออกมาแบบแห้งๆ กับพลังที่แสนร้ายกาจของเธอ ฉันก็ใช้ดาบที่สร้างขึ้นมาใหม่เข้าโจมตีอัศวินดำ
「จะสร้างมาอีกกี่รอบก็จะทำลายให้ดู!!」
———เขาเป็นนักรบที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
นี่สินะพลังที่ทำให้พวกสัตว์ประหลาดและลำดับแห่งดวงดาราต้องพ่ายแพ้
ไม่แปลกใจเลยที่คนบนโลกจะไว้วางใจเขา
ฉันพยายามเต็มที่เพื่อป้องกันหมัดของเขาที่พร้อมจะขยี้ร่างของฉันให้แหลกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว หากเสียสมาธิสักเสี้ยววิ รูคงได้เกิดบนร่างฉันแน่นอน
「ย้ากกก!!」
การโจมตีสามครั้งติด
เกราะบริเวณแขนซ้ายของฉันแตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อรับการโจมตีเข้าไป
ไม่ถึง 10 วินาทีเกราะหนักที่ฉันสร้างขึ้นมาก็ไม่เหลือชิ้นดี แม้เขาจะเดาะลิ้นออกมาเหมือนไม่พอใจ แต่คงตั้งใจจะปิดเกมแล้วแน่ๆ
แต้ว่าหา———、
「ชิ!!」
ฉันใช้แขนซ้ายของฉันในการป้องกันหมัดที่พุ่งเข้ามา ส่วนสภาพก็อย่างที่รู้ว่าไม่เหลือชิ้นดี
ชิ้นส่วนตั้งแต่ข้อศอกลงไปกระจายเป็นเศษซาก ฉันไม่รอช้าใช้บีมที่ติดไว้ตรงแขนขวายิงใส่อัศวินดำ
「ชิ นี่เธอ……!!」
อัศวินดำใช้หมัดของเขาทำลายกระสุนนั้นทิ้งจนเกิดเป็นไอร้อนขึ้น ก่อนจะถอยไปนิดหน่อย
….ทำไมถึงถอยไปล่ะ?ทั้งที่สามารถใช้หมัดนั่นตรงไปฆ่าฉันต่อเลยก็ได้แท้ๆ
「อะไรขอเธอ คิดว่าฉันจะฆ่าเธอจริงๆ เหรอ?」
『ก็ต้องแบบนั้นสิ』
「เห้อ เธอนี่นะไม่ได้เข้าใจอะไรเลยสักนิด」
ด้วยเหตุผลบางอย่าง อัศวินดำหัวเสียใส่ฉันแทนซะงั้น
หมัดของเขากำลังสั่นอยู่…..นั่นสินะ
「หรือเป็นเพราะฉันเคลื่อนไหวแบบเดียวกับเพื่อนของนายเหรอ? 」
นิสัยที่ติดตัวมันแก้กันไม่ได้ด้วยนี่นะ
ทว่าในมุมของอัศวินดำคงไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีนัก
「ไม่เห็นจะเหมือน」
……ไม่เหมือน?
ฉันสับสนกับคำตอบที่เกินคาด
「เธอกับเรดน่ะต่างกันโดยสิ้นเชิง」
『เขาตั้งใจจะพูดอะไรกันแน่?จากการวิเคราะห์จะเธอหรือเธออีกคนก็มีความสอดคล้องกันเกือบจะทั้งหมดแท้ๆ』
GRDเองก็สงสัยกับคำพูดของอัศวินดำ
พวกเราควรจะเป็นคนเดียวกันเลยแท้ๆ มันต่างกันตรงไหนล่ะ
「จะบอกว่าเป็นร่างโคลนของเรดก็ไม่ใช่ สัตว์ประหลาดที่แปลงร่างเลียนแบบก็ไม่ใช่อีก」
「……」
「เธอน่ะต่างจากเรด ตัวเธอน่ะคือคนที่สามารถเอาชีวิตตัวเองไปโยนทิ้งได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้รูปลักษณ์อะไรจะเหมือนกัน แต่โดยพื้นฐานแล้วพวกเธอไม่เหมือนกันสักนิด」
แบบนี้นี่เอง
เขามองตัวฉันในโลกนี้ดีเสียจริง
「ถ้าจะให้บอกว่าเหมือน เธอคงจะเหมือนกับฉันในอดีตมากกว่า….เห้อ หัวจะปวด」
เหมือนเขาจะยิ้มเยาะเย้ยตัวเองอยู่เลย จากนั้นอัศวินดำก็วางมือเอาไว้ตรงหน้ากาก ฉันสัมผัสได้ถึงสายตาทั้งสองของเขาที่จับจ้องมายังดวงตาของฉันซึ่งอยู่ภายใน
「แล้วนั่นมันก็ทำให้ฉันสนใจตัวจริงของเธอสุดๆ」
「……อึก」
「เธอน่ะเป็นแค่พวกเอเลี่ยนบุกโลกจริงเหรอ?ที่จริงแล้วเธอเป็นใครกันแน่?」
「อย่าให้ต้องพูดซ้ำสิ ฉันก็คือลำดับ———」
「ฉันไม่ได้อยากรู้ตำแหน่งอะไรนั่นของเธอ แต่ถ้าเธอไม่อยากจะบอกละก็———」
อัศวินดำเอาหมัดทั้งสองชนกันก่อนจะส่งออร่าที่ดุดันออกมา
「ฉันจะเป็นฝ่ายกระชากหน้ากากนั้นออกมาเอง」
……ช่างดูเป็นประโยคที่เหมาะสมกับฮีโร่เหลือเกิน……
อัศวินดำผู้มาพร้อมกับบรรยากาศที่เหล่าวายร้ายต้องหวาดผวา
ในขณะที่ฉันกำลังจ้องมองไปยังร่างของเขา มันก็ชวนให้นึกถึงตอนที่มายังโลกนี้เป็นครั้งแรก
ความทรงจำที่เกือบจะถูกลืมเลือนไปแล้วหลังจากใช้ชีวิตมานานกว่าหลายร้อยปี
***
เมื่อฉันถูกพามายังจักรวาลนี้ สิ่งแรกที่ฉันทำคือการฆ่าตัวตาย
ทว่านาโนแมชชีนที่อยู่ภายในร่างกายของฉันซึ่งมันกำเนิดมาจากการหลอมรวมเซลล์ของโอเมก้าและเทคโนโลยีของ เรมะ คาเนะซากิเข้าด้วยกันมาฉีดใส่ มันคือไพ่ตายที่มีไว้ใช้รับมือกับโอเมก้าและสิ่งนี้มันทำให้ฉันฆ่าตัวตายไม่ได้
ทันทีที่ฉันตั้งใจจะจบชีวิต มันก็จะทำการเข้ามาขัดขวางเอาไว้และทำให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่ได้สนใจความตั้งใจของฉันเลย
『สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งผิดพลาดครั้งที่สองชีวิตฉัน』
『เรด..ไม่สิ อากาเนะ อาราซากะ อย่าได้คิดใช้สิ่งนั้นเด็ดขาด』
『หากเธอใช้มันเธอจะไม่สามารถกลับมาเป็นมนุษย์ได้อีกต่อไป』
ฉันไม่ได้ฟังคำแนะนำสุดท้ายของเรมะ คาเนะซากิและนำสิ่งนี้เข้ามาในร่างกายเพื่อเข้าต่อสู้กับโอเมก้าเป็นครั้งสุดท้าย———ฉันคือสัตว์ประหลาดที่มีไว้ฆ่าพวกสัตว์ประหลาด
ร่างกายที่เสียหายได้ถูกสร้างใหม่ขึ้น ความเร็วในการแก่ชราถูกทำให้ช้าลง ร่างกายที่เหนือมนุษย์ซึ่งทำให้ทนอยู่ได้ในทุกสภาพแวดล้อม
หากจะให้คิดถึงช่วงเวลาที่มายังจักรวาลนี้ก็คงเป็นช่วงราวๆ ปี 1900
ฉันต้องใช้เวลาเร่ร่อนอยู่ในอวกาศมากกว่า 100 ปีจนกระทั่งเวลาเดินทางมาถึงยุคสมัยของฉัน
『———คราวนี้ ฉันจะต้องปกป้องโลกเอาไว้ให้ได้』
ฉันรู้ดีว่าโลกใบนี้ไม่ใช่โลกที่ฉันจากมา แต่นี่คือทั้งหมดที่ฉันสามารถทำได้
หากโลกจะต้องถูกพวกสัตว์ประหลาดรุกราน ฉันก็จะเป็นคนจัดการพวกมันเอง
ฉันจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้
ตัวฉันที่มี GRD ซึ่งเป็น AI ที่สร้างขึ้นมาโดยใช้บุคลิกของเรมะ คาเนะซากิเป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์ดาวต่างๆ ในอวกาศว่าดาวดวงไหนมีสิ่งมีชีวิตที่อันตรายบ้างก่อนจะมุ่งตรงไปเพื่อฆ่าล้างบางพวกมัน ซึ่งนั่นจะช่วยฝึกฝนตัวฉันและเพิ่มพลังให้ได้มากยิ่งขึ้น
จนจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าฆ่าไปเท่าไหร่
แน่นอนว่าฉันไม่คิดจะได้รับการให้อภัยจากพวกสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนดาวดวงนั้น ยังไงในสายตาของพวกเขาฉันก็คือวายร้ายที่บุกมายังดาวของพวกเขา
ฉันต่อสู้ สู้ แล้วก็สู้ไปเรื่อยๆ ในสภาพแวดล้อมที่แสนโหดร้าย จนในที่สุดความทรงจำหลายๆ อย่างที่เคยใช้บนโลกก็ค่อยๆ เลือนหายไป กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีฉันก็กลายมาเป็นคนขององค์กรที่มีเอเลี่ยนจำนวนนับไม่ถ้วนอยูาภายใต้การดูแล
———ทว่าความจริงที่ฉันได้เผชิญกลับช่างไร้เหตุผล
จุดเริ่มต้นอยู่ตรงที่อัศวินดำสามารถเอาชนะสัตว์ประหลาดแมงมุมที่ควรจะสังหารประชากรของญี่ปุ่นกว่า 40% ได้สำเร็จ
ใช่แล้ว เขาสามารถเอาชนะสัตว์ประหลาดที่ฉัน อาโออิ และคิราระพร้อมกับผู้คนอีกมากมายต้องเสียสละชีวิตเข้าสู้
ไม่นานนักจัสติสครูเซเดอร์ก็ปรากฏตัวขึ้น
แทนที่จะสวมสูทพลังงานขับเคลื่อนแบบพวกเรา พวกเธอกลับใช้สูทเหมือนหลุดมาจากอนิเมะเหมือนกับอัศวินดำ และเอาชนะพวกสัตว์ประหลาดจนกอบกู้โลกไว้ได้สำเร็จ
『———หา?』
ฉันที่เห็นเรื่องนี้เกิดขึ้นก็ไม่สามารถยอมรับความจริงได้เลยสักนิด
อัศวินดำคือใครกัน
จัสติสครูเซเดอร์นั่นมันอะไร
สิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีอยู่บนโลกของฉัน
แล้วทำไม…ทั้งหมดที่ฉันทำมามันเพื่ออะไรกัน…..
『ฮ่ะ ฮ่าๆๆ ฉันดูน่าสมเพชมากเลยสินะ….』
สิ่งที่ฉันพยายามมาทั้งหมดนั้นไร้ประโยชน์ โลกใบนี้ได้รับการช่วยเหลือโดยที่ฉันไม่ต้องทำอะไรเลยสักนิด
ทั้งที่ควรจะเหมือนกัน แต่กลับไม่เหมือนกันเลยสักนิด
นี่ฉันมันทำบ้าอะไรในจักรวาลนี้กัน?
เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นฉันได้ฆ่า ฆ่า แล้วก็ฆ่าสิ่งมีชีวิตมากมายจนกลายมาเป็นลำดับต้นๆ ขององค์กร เหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของฉันจากนี้คืออะไรล่ะ?
「น่าสมเพชเสียจริง」
ฉันพูดกับตัวเองในขณะที่ร่างของฉันกำลังพิงอยู่กับต้นไม้ที่ถูกโค่นไป
อุปกรณ์ทั้งหมดที่ฉันเตรียมมาถูกทำลายไม่เหลือซาก ร่างของฉันไร้ซึ่งการป้องกันใดๆ
แขนเทียมก็ใช้งานไม่ได้ สภาพของฉันไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว
「……」
ฉันสูญเสียเป้าหมายในชีวิตหลังพบความจริงที่ว่าทุกสิ่งที่ฉันทำมาจนถึงตอนนี้มันไร้ค่า ฉันควรจะทำยังไงต่อดีล่ะ
ยิ่งไปกว่านั้นพอรู้สึกตัวเองที ฉันก็กลายมาเป็นศัตรูของดาวโลกแทนเสียแล้ว
น่าขำจริงๆ
แสวงหาพลังเพื่อช่วยโลก แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นวายร้ายที่ทำลายโลกซะเอง
สุดท้ายนี้ก็หวังว่าฉันจะกลายเป็นศัตรูที่ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ได้นะ
「คิราระ อาโออิ……」
การสู้กับตัวเองมันไม่ใช่ปัญหาอะไร
แต่กับคิราระและอาโออิฉันทำไม่ได้จริงๆ
ไม่ว่าจะเตรียมใจมาสักแค่ไหน พอเห็นภาพทั้งสองคนที่เคยตายต่อหน้าฉัน กำลังหันดาบมาใส่ฉัน….ฉันก็หมดกำลังใจที่จะสู้ต่อทันที
ถึงภายนอกจะฝึกฝนจนแข็งแกร่งสักแค่ไหน แต่ภายในของฉันมันไม่พัฒนาเลยสินะ
「……」
จากนั้นอัศวินดำก็เดินมาตรงหน้าของฉัน ก่อนจะย่อตัวลง
แทนที่จะยกกำปั้นมาจัดการฉัน เขากลับปลดการแปลงร่างออก
『คัตสึมิ!? 』
「แค่นี้คงจะพอแล้วน่า……」
เขาไม่ได้สนใจเสียงประหลาดที่ส่งออกมาจากตรงข้อมือ อัศวินดำ———คัตสึมิ โฮมุระกำลังเผยตัวจริงให้ฉันเห็น
มือของเขาทำการสัมผัสหน้ากากของฉันแล้วถอดมันออก
「เธอไปทำอะไรมากันนะ อากาเนะ」
นั่นคือสิ่งที่เขาพูดกับฉัน
แม้ว่าความสูง อายุและหน้าตาจะต่างจากตัวฉันในโลกนี้ แต่เขาก็เรียกชื่อของฉันเหมือนกับเป็นเรื่องปกติ
「……เป็นไปไม่ได้」
ฉันกับอากาเนะโลกนี้ไม่เหมือนกันสักหน่อย
ฉันไม่เคยพบเจอกับคัตสึมิ โฮมุระ และนี่คือครั้งแรกที่พวกเราได้พูดคุยกัน
แล้วทำไมเขาถึงมองมาที่ฉันด้วยสายตาแบบนั้น ราวกับคนที่เคยพบเจอกันมาแล้วล่ะ
「……ฉันไม่เหมือนสักหน่อย」
「ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเธอทำยังไงถึงไปอยู่ลำดับ 10 ได้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมถึงอยากพยามสูบบุหรี่ในสวนสาธารณะแถมยังสิ้นหวังถึงขนาดหาเหล้ามาดื่มแต่หัววันอีก」
「ทำไม นาย……」
ในขณะที่ฉันตกใจว่าทำไมเขาถึงรู้เรื่องนี้ได้ เขาก็หยิบเอาแว่นตาและหมวกมาจากไหนไม่รู้มาสวม
นี่มัน…เด็กหนุ่มที่ฉันเจอในสวนสาธารณะซึ่งเรียกตัวเองว่า คัตสึกิ อาราซากะนี่นา
「ก็เคยคิดเอาไว้อยู่หรอกว่าพอโตขึ้นเธอน่าจะเหมือนกับชิออนซัง แล้วก็เป็นไปตามที่คิดเลย」
「อย่าพูดแบบนั้นเลย…ฉันไม่ใช่อากาเนะที่นายรู้จักหรอก」
「ไม่หรอก เธอคืออากาเนะ อย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่ฉันคิด」
หลังพูดจบเขาก็ยืนขึ้นแล้วยื่นมือมาหาฉัน
「ก่อนอื่นช่วยเล่าเรื่องของเธอให้ฉันฟังหน่อยสิ」
ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเหมือนกับตอนที่คุยกับฉันในสวนสาธารณะ ตัวฉันในตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ที่ยากจะอธิบาย
ฉันสามารถจับมือนี้ได้จริงเหรอ
จะไม่เป็นไรใช่ไหม ตัวฉันที่เป็นแบบนี้
ฉันค่อยๆ ยกมือที่สั่นเทาขึ้นอย่างช้าๆ เพื่อเอื้อมมันไปหาเขา
———ฉันคิดอะไรดีๆ ออกแล้ว
「ใครกัน? 」
คัตสึมิหยุดมือของเขาเอาไว้แล้วจ้องมองไปยังผิวน้ำที่อยู่ใกล้ๆ
ผิวน้ำดังกล่าวที่สะท้อนภาพของท้องฟ้าค่อยๆ เปลี่ยนไป ก็ที่จะมีบางอย่างเข้ามาปกคลุมร่างกายของฉันเอาไว้ ความรู้สึกสะอิดสะเอียนนี้มัน….
「「อึก」」
ชายที่อยู่ตรงหน้าฉันก็ถูกโจมตีด้วยสิ่งนี้เหมือนกันและกำลังพยายามจะแปลงร่าง ทว่าหัวเข็มขัดและนาฬิกาข้อมอของเขาก็ถูกปลดออกไปด้วยพลังลึกลับ
———สิ่งนี้คงจะไม่จำเป็นนะ
『คัตสึมิ!? 』
『โฮก!? 』
ประตูมิติที่ดูบิดเบี้ยวเกิดขึ้นตรงหน้าฉัน
ฉันจำมันได้ดีเลย
สิ่งที่พาฉันข้ามโลกข้ามจักรวาลมาที่นี่
「แกคิดจะทำอะไรของแก ลำดับ 2!!」
จากนั้นก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นบริเวณผิวน้ำ
เป็นร่างของเด็กชายที่แผ่บรรยากาสน่าขนลุกออกมา เส้นผมสีขาวและสีฟ้าที่ตัดกันบนหัว ลำดับแห่งดวงดาราที่ 2
เขากำลังโบกมือให้กับฉันก่อนจะยิ้มออกมาโดยไร้ซึ่งความรู้สึกมุ่งร้ายใดๆ
———สงสัยเหรอว่าเพื่ออะไร?
———เพื่อความอยู่รอดยังไงล่ะ
「อย่ามาทำอะไรตามใจชอบแบบนี้นะ!!」
「จะ จะถูกดูดเข้าไปแล้ว……!」
「แย่ละ ฉันพลาดจังหวะหนีไปแล้วสินะ!!? 」
หลังสิ้นเสียงนั้น ร่างของฉัน คัตสึมิ และฮิลด้าที่อยู่ใกล้ๆ ก็ถูกดูดเข้าไปในประตูมิติปริศนา
—จบ—
สภาพจิตใจของอากาเนะต่างโลกคงบอบช้ำสุดๆ ทว่าก่อนที่จะได้คลี่คลายเรื่องราว ลำดับ 2 ก็ปรากฏตัวขึ้นมาเสียก่อนจะลากพวกเขาไปที่ไหนกัน?!? แถมตอนโผล่มาให้อากาเนะเห็นเป็นผู้หญิง แต่ตอนนี้เป็นผู้ชายลึกลับเสียจริง
ตอนต่อไป > โลกคู่ขนาน 1
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code