อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 121 ครอบครัวอาราซากะสู่สำนักงานใหญ่
ตัวตนที่แท้จริงของฉันถูกเผยลงในเน็ต
ว่ากันตามตรงฉันก็เตรียมใจเอาไว้แล้วอยู่หรอก
ครอบครัวของฉันตอนนี้ก็มาพักกันอีกที่สำนักงานใหญ่อย่างปลอดภัยด้วยฝีมือของประธานที่เตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว
นอกจากนี้ฉันก็ใกล้จะเรียนจบแล้วด้วย หลังช่วงนี้ไปก็เป็นช่วงหยุดยาว
แต่ว่านะ แต่ว่า….
「ทำไมถึงมีแค่ฉันที่โดนปล่อยข้อมูลส่วนตัวล่ะยะ?!!」
มันไม่โหดร้ายเกินไปหน่อยหรือไง!?
ฉันบ่นออกมาขณะที่กำลังทานอาหารกลางวันอยู่ในสำนักงานใหญ่แห่งที่สอง
คิราระกับอาโออิซึ่งกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ก็เงยหน้าขึ้นมามองฉัน
「ก็ดีออกนี่ที่ได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสาวงามบนเน็ต」
「ไม่เห็นจะดีใจสักนิด!!」
「ดูสิสาวลิลลี่มาติดตามอากาเนะเยอะขึ้นสุดๆ」
สาวลิลลี่นี่มันอะไรกัน
แต่ฉันรู้สึกกลัวแปลกๆเลยไม่กล้าถาม
「หากเป็นฉัน ฉันคงรู้สึกเหมือนเป็นสไปเดอร์แมนที่กำลังช่วยเมืองเอาไว้!」
「ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะเออ」
「โอ้ย」
คิราระฟาดสันมือลงหัวของอาโออิ
ในเวลาแบบนี้คิราระที่มีสามัญสำนึกช่วยได้เยอะเลย แต่ในขณะเดียวกันคำพูดของอาโออิก็ช่วยทำให้ฉันผ่อนคลายลงได้เหมือนกัน
「คนที่บ้านของคิราระกับอาโออิไม่เป็นไรใช่ไหม?」
「ไม่เป็นไรนะ แต่ประธานก็ส่งคนไปคอยสอดส่องแล้วเหมือนกัน」
「จนถึงตอนนี้ยัง」
บ้านของคิราระมีน้องของเธออีกสองคนอย่าง นานากะกับโคตะ ฉันเลยโล่งใจที่พวกเขาไม่เจออะไรแปลกๆ
「คัตสึมิคุงไม่เห็นจะได้รับความเสียหายอะไรนักเลยหลังถูกรู้ตัวจริง ดังนั้นอากาเนะเองก็ต้องไม่เป็นไรแหละ」
「พลังของอัลฟ่าจังก็ไม่สามารถใช้ได้แล้วด้วยสิ ลำบากจริงๆน้า……」
「บางทีอาสึอาจจะทำอะไรบางอย่างกับพลังของฉันก็ได้」
อัลฟ่าพูดขณะจิบกาแฟโอเล
บ้านของฉันตอนนี้ถูกปิดไม่ให้เข้า ข้าวของเกือบทุกอย่างถูกเก็บออกไปจนหมดกลายเป็นบ้านเปล่าๆ
ไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าบ้านของตัวเองจะอยู่ในสภาพเดียวกับอพาร์ตเมนต์ของคัตสึมิคุง
ในขณะที่ฉันกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ก็มีหญิงสาวเข็นรถเข็นที่เต็มไปด้วยอาหารมาที่โต๊ะของเรา
「นี่คือออเดอร์ที่สั่งค่ะ พาสต้าเนโปลิตัน เซ็ตแมคเคอเรลย่าง แกงกะหรี่ แล้วก็กัซปาโช่ค่ะ」
「ขอบคุณคะ…เอ๋ กัสปาโซ๋?…ใครเป็นคนสั่งน่ะ」
「ฉันเอง」
อาโออิยกมือขึ้นขณะหยิบจานที่ไม่คุ้นตาสุดๆไป เหมือนซุปเย็นเลยแฮะ
ว่าแต่ทำไมถึงมีเมนูแบบนี้ได้ล่ะ…..
「ตอนที่ฉันถามไปว่ามีอาหารสเปนไหม เขาก็บอกว่ามีน่ะ ก็เลยลองสั่ง」
「แล้วไหงไปถามได้ก่อนเถอะ……」
「หัวหน้าพ่อครัวที่นี่ค่อนข้างแข็งแกร่ง คราวก่อนสั่งช็องกุกจังเขาก็ทำมาเสิร์ฟได้」
นี่หล่อนจะสั่งแต่อะไรที่คนปกติเขาไม่สั่งกันอย่างเดียวเลยใช่ไหม…..
ในขณะที่ฉันเอาพาสต้าเนโปลิตันมาไว้ตรงหน้าตัวเองก็มีคนมาแตะไหล่ของฉัน แถมคนคนนั้นยังเป็นพนักงานที่เอาอาหารมาให้พวกเรานั่นแหละ
「หือ?」
「ทำสีหน้าซะดูไม่จืดเชียวนะ อากาเนะ」
「เอ๋ พี่จิเสะมาที่นี่ได้ยังไงกัน?!」
พี่จิเสะเป็นลูกสาวคนที่สองของบ้านอาราซากะ พอเห็นฉันตกใจก็เหมือนดีใจใหญ่เลย
จากที่ได้ยินเหมือนเธอบอกว่าตั้งใจจะมาทำงานที่นี่เสีย
การที่ปรากฏตัวตอนนี้ได้แปลว่าสำเร็จแล้วแหง
「สวัสดีจ้า คิราระจัง อาโออิจัง ขอบคุณที่คอยดูแลยัยน้องสาวคนนี้มาโดยตลอดนะ」
「เอ่อ สัวสดีค่ะ จิเสะซัง….ว่าแต่ทำไมมาทำงานอยู่ที่นี่ได้เหรอคะ ?!」
「พอดีอยากจะช่วยอะไรพวกเธอสักหน่อยน่ะ」
พี่จิเสะพูดออกมาอย่างสบายๆ ทว่าที่แห่งนี้มันคือโรงอาหารของสำนักงานใหญ่จัสติสครูเซเดอร์เชียวนะ
มันเป็นสถานที่ที่รวบรวมเอาเชฟผู้มากฝีมือซึ่งได้รับการว่าจ้างจากประธานที่อ้างว่าเป็นนักชิมเบอร์หนึ่ง จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เธอจะเข้ามาทำงานในนี้ได้
แต่สุดท้ายพี่สาวคนนี้ก็ดันเข้ามาได้จริง
「มองในอีกมุมหนึ่งมันก็เป็นสถานที่เหมาะสมในการฝึกฝนการทำอาหารของฉันนะ ไหนๆมันก็เกิดเรื่องไปแล้วนี่เนอะ」
「มองได้แง่บวกชะมัด……」
ถึงจะเป็นพี่สาวของฉัน แต่วิธีคิดของเธอก็เข้มแข็งเสียจริง
ถ้าจำไม่ผิดความตั้งใจแรกของเธอคือการไปฝึกเรียนเป็นเชฟที่ต่างประเทศหลังเรียนมหาลัยจบด้วยสิ
「ยังไงพี่จิเสะก็เก่งเรื่องมีดนี่เนอะ」
「ไม่อยากจะให้คนที่เก่งเรื่องดาบมาพูดหรอกย่ะ」
พี่คุรุมิซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของบ้านก็เก่งเรื่องการใช้กรรไกร
ก็ไม่ได้อยากจะคิดหรอกนะ แต่ลูกสาวบ้านนี้ทำไมมันเก่งใช้ของมีคมกันเสียจริงนะ
「ดูเหมือนจิเสะซังจะสบายดีนะคะ?」
คิราระถามพี่จิเสะด้วยความเป็นห่วง
「อื้อ สบายหายห่วง ถึงจะไม่เคยฝันว่าจะได้มาอยู่ที่สำนักงานใหญ่ก็เถอะ ว่ากันตามตรงรู้สึกทึ่งสุดๆ」
「แล้วเรื่องมหาลัยล่ะ……?」
「ฉันเข้าคลาสออนไลน์ได้ หน่วยกิจก็เก็บได้พอสมควรแล้วด้วยดังนั้นไม่มีปัญหา ถึงจะอยู่ที่นี่ก็รับปริญญาได้สบาย แถมยังมีเวลาว่างอีกตั้งสองเดือนเพราะปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิด้วย」
ก็ไม่ค่อยเข้าใจระบบเรียนมหาลัยเท่าไหร่ แต่ถ้าพี่จิเสะบอกงั้นก็คงไม่เป็นไรมั้ง
「พ่อกับแม่เองก็สามารถทำงานทางไกลได้ พี่คุรุมิก็เหมือนจะออกมาทำวิดีโอเกี่ยวกับการตัดผม ดังนั้นเรื่องรายได้ของคนที่บ้านไม่ใช่ปัญหา」
「เอ๋ สรุปไม่ใช่ทำไปเพราะแค่เป็นงานอดิเรกหรอกเหรอ?」
6 เดือนก่อนก็ได้ยินหรอกว่าอยากจะลองทำวิดีโอตัดผมลงเน็ตดูเป็นการฝึกฝนเฉยๆ
「อ้า ดูเหมือนพี่เขาจะค่อนข้างอายที่จะคุยเรื่องวิดีโอที่ตัวเองลงน่ะ แต่จากที่ฉันไปดูมาค่อนข้างมีชื่อเสียงเชียวแหละ ยิ่งความจริงของเธอถูกเปิดเผย แชแนลของพี่คุรุมิก็เหมือนจะมียอดวิวและผู้ติดตามเพิ่มอีกโขเลย」
ทำไมฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยล่ะ!!?
ก็ว่าอยู่ทำไมเมื่อวานตอนเดินสวนกันยัยพี่นันถึงมาบอกกับฉันว่า ขอบคุณนะคุณน้องสาว
「ครอบครัวของฉันมันจะแปลกเกินไปไหม……?」
「「「「หล่อนกล้าพูดนะ」」」」
พี่จิเสะ อาโออิ คิราระ กับอัลฟ่าจังพูดขึ้นมาพร้อมกัน
「จริงสิ แล้วคัตสึมิคุงหายไปไหนซะล่ะ? ตัวเธอที่ไม่มีเขาอยู่ข้างๆก็ไม่ต่างอะไรกับโคล่าที่ไม่มีคาร์บอนไดออกไซด์กับน้ำตาลเลยสักนิด」
「นั่นมันน้ำบ้าอะไรน่ะ!!」
ทำไมฉันถึงกลายเป็นเครื่องดื่มที่ห่วยแตกสุดๆไปได้ละเห้ย!!
แถมไอ้ของแบบนั้นมันเรียกว่าโคล่าไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ
จะทำร้ายจิตใจน้องสาวตัวเองมากไปไหม!!
「คัตสึมิคุงยังไม่มาหรอก」
「ติดธุระเหรอ?」
「อื้อ」
ตอนนี้เขาไปเยี่ยมคาเสะอุระซังกับฮาคัวจังน่ะ
…..นอกจากนี้ก็มีคิโนโกะซึ่งเป็นสุนัขของบ้านฉันติดไปด้วย
***
หลายวันผ่านไปตั้งแต่เรื่องสัตว์ประหลาดบุก สภาพจิตใจของคาเสะอุระซังก็เหมือนจะสงบลงบ้างแล้ว
ในขณะเดียวกันพลังแห่งดวงดาราที่เธอปล่อยออกมาก็เริ่มคงที่ แต่เรมะก็บอกให้ฉันมาเยี่ยมเธอบ่อยๆเพื่อประคองจิตใจ
…ถึงจะมีเรื่องของอากาเนะที่ต้องกังวล แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะช่วยอะไรได้
ก็เลยฝากให้พวกเรมะกับคนอื่นๆจัดการไป
「โฮ่ง」
「ชู้ว เงียบก่อน」
ฉันกระซิบใส่คิโนโกะ สุนัขขนสีขาวฟูฟ่องที่นั่งอยู่บนตักฉัน ซึ่งตอนนี้ฉันกำลังอยู่ภายในห้องพักที่โรงพยาบาลซึ่งคาเสะอุระซังพักรักษาตัวอยู่ แถมมีฮาคัวที่สวมชุดคลุมสีขาวมาด้วยอีกคน
「คาเสะอุระซังตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง?」
「ถ้าเป็นตอนนี้ก็พอไหวค่ะ」
ถึงจะลืมเพราะเกิดอะไรหลายๆอย่างขึ้น แต่ฮาคัวก็เคยทำหน้าที่เป็นจิตแพทย์ของจัสติสครูเซเดอร์เชียวนะเออ
ถึงจะเป็นตัวตนปลอมแต่ความสามารถของเธอและคำปรึกษาที่เคยให้ก็คือของจริง
「ไม่จำเป็นต้องพูดจาสุภาพกับฉันก็ได้ อันที่จริงฉันอายุได้แค่ขวบเดียวเอง ไม่ต้องเกรงใจหรอก」
「……」
……หล่อนพูดไปแบบนี้มันจะดีเหรอ?
คาเสะอุระซังมองมาทางฉันเหมือนจะขอความช่วยเหลือแปลกๆ
「ยังรู้สึกกังวลอยู่เหรอ?」
「………ค่ะ อันที่จริงก็ยังไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของฉัน จนทำให้รู้สึกไม่สบายใจอยู่นิดหน่อยค่ะ」
.
คาเสะอุระซังก้มหัวก่อนจะเอามือไปถูอุปกรณ์ตรงข้อมือที่เหมือนกำไล
ฮาคัวที่เห็นแบบนั้นก็เอามือไปสัมผัสหลังมือของเธอแล้วพูดขึ้น
「ถึงพวกเราจะยังไม่มีหนทางในการแก้ไขเรื่องนี้ แต่อย่างน้อยพวกเราก็มีหนทางในการลดความวิตกของเธอได้นะ」
「ยังไงเหรอคะ……?」
「พูดคุยยังไงล่ะ」
เธอมองเข้าไปในดวงตาของคาเสะอุระซังก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
「มาเริ่มคุยกันถึงสิ่งที่เธออยากจะทำต่อจากนี้ดีกว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องมีสาระก็ได้ หรือจะบ่นอะไรก็ได้ เธอสามารถทำได้หมดเลยขอแค่เชื่อในตัวของพวกเรา ไม่มีอะไรต้องกังวลทั้งนั้น」
…เห็นแบบนี้แล้วก็สัมผัสได้ว่าเธอเป็นหมอด้านนี้จริงๆเลยวุ้ย
อันที่จริงช่วงที่ฉันเสียความทรงจำไปก็ได้เธอในการดูแลเรื่องสุขภาพจิตเหมือนกันนี่หว่า
「คัตซึน」
「หือ」
พอได้ยินเธอเรียกชื่อ ฉันที่อุ้มคิโนโกะไว้บนตักก็หันไปหาฮาคัว
ฉันถามเรมะเกี่ยวกับอาการแพ้ของเธอมาก่อนแล้ว ดังนั้นเลยไม่มีปัญหาที่จะพาเจ้านี่มาในห้อง
「เจ้านี่เป็นตุ๊กตาเหรอ..?」
「โฮ่ง」
「……เอ๋ สุนัขจริงเหรอคะ? ฉันนึกว่าเป็นตุ๊กตาสัตว์ซะอีก?!」
คาเสะอุระซังเองก็แปลกใจเหมือนกันที่รู้ว่าคิโนโกะไม่ใช่ตุ๊กตา
จากนั้นฉันก็ยืนคิโนโกะไปให้คาเสะอุระซังอุ้มบ้าง แถมมันยังสงบนิ่งไม่ต่อต้านอะไรเลยเหมือนเดิม
「อากาเนะ…ไม่สิสุนัขตัวนี้เป็นสุนัขที่เรดดูแลอยู่น่ะ ชื่อคิโนโกะ」
「คิโนโกะเหรอคะ? นึกว่าชื่อวาตาเมะ(สายไหม)ซะอีก」
「คิดเหมือนกันเลยใช่ไหมล่ะ? แต่เจ้านี่ชื่อคิโนโกะจริงๆ」
「โฮ่ง」
「……หุหุหุ」
ในที่สุดคาเสะอุระซังก็ยิ้มออกมาขณะเล่นกับคิโนโกะ
จากนั้นพวกเราก็ใช้เวลาคุยกันอีกสักพัก
「อาการของเธอดีขึ้นแล้วจริงเหรอ?」
หลังออกมาจากห้องที่คาเสะอุระซังอยู่ฉันก็ถามกับฮาคัวระหว่างเดิมไปตามทางเดิน
ภายในใจฉันยังกังวลไม่หาย ถึงแม้วันนี้จะได้พูดคุยกันก็เถอะ
「まเธอน่าจะยังต้องรับการดูแลให้คำปรึกษาเรื่องสภาพจิตใจอีกระยะหนึ่งเลย คิดดูสิไหนจะโดนเอเลี่ยนเข้ามายึดร่างตั้งหลายเดือน แถมพอออกมาได้ก็เกิดเรื่องประหลาดกับตัวเองอีก」
「……นั่นสิ」
แถมเธอยังคงสติเอาไว้ได้ตอนถูกยึดร่างอีกด้วย
การที่รู้ตัวแต่ไม่สามารถทำอะไรกับร่างกายตัวเองได้ฉันนึกไม่ออกเลยจริงๆว่ามันรู้สึกแย่แค่ไหน
「ดังนั้นพวกเราคงต้องมาหาเธอบ่อยๆเลยแหละ」
「ฉันเองก็จะช่วยเท่าที่ไหวเอง」
ฉันมั่นใจว่าพวกอากาเนะเองก็คงพร้อมให้ความร่วมมือ
「โฮ่ง」
「แน่นอนว่าแกก็ด้วยนะ」
ฉันมองไปยังคิโนโกะที่อยู่ตรงเท้าของฉันก่อนยิ้มออกมา
เด็กคนนี้เองก็พยายามไม่น้อยในคราวนี้
「การบำบัดด้วยสัตว์เหมือนจะได้ผลดีเสียด้วย」
「นั่นสิ พอเห็นหน้าของเธอแล้วก็คงเป็นอย่างงั้น」
ถึงจะเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน แต่มาเห็นด้วยตาตัวเองก็แอบตกใจไม่น้อย
「แอบดูเป็นเรื่องบังเอิญจนน่าประหลาดดีนะ ที่ได้เด็กคนนี้ตามมาด้วย」
ชิออนวังแม่ของอากาเนะได้มาหาฉันแล้วขอให้ฉันช่วยดูแลเจ้านี่สักพักเพราะเธอติดธุระ ก็เลยพามาที่โรงพยาบาลด้วย
「ไหนๆก็ได้มาดูแลแล้วพาไปเดินเล่นสักหน่อยคงดี」
「หมายถึงจะพาไปเดินที่สำนักงานใหญ่เหรอ?」
「ไม่ได้หรอก ถ้าทำงั้นคงได้เดือดร้อนพวกพนักงานแหง ฉันว่าจะพามันออกไปเดินแถวนี้แหละ」
ที่ฉันต้องทำก็แค่ปลอมตัวเหมือนกับที่เคยทำมา ยังไงข้อมูลที่หลุดออกไปก็มีแค่คนในครอบครัวของอากาเนะ ไม่ได้รวมเจ้าคิโนโกะไปด้วย
「ยังไงก็เถอะ ก่อนหน้านี้ไปหาข้าวเที่ยงกินกันดีกว่าฉันหิวแล้วเนี้ย」
「กินเยอะระวังจะอ้วนเอานะ?」
「วัยกำลังโตไม่เป็นไรหรอกน่า!!」
ฉันไม่คิดว่าความอยากของเธอมันจะเป็นสิ่งที่เด็กขวบเดียวเขาเป็นกันนะ
พอนึกถึงตอนที่เสียความจำแล้วต้องมานั่งทำอาหารให้เธอกินเป็นหม้อๆก็แอบขำดี
เอาเถอะฉันเองก็หิวแล้ว ตรงไปหาอะไรกินก่อนละกัน
—จบ—
ย้ายกันมายกบ้าน
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code