อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 113
ไม่อยากจะเชื่อว่าอาสึจะใช้แผนแบบนี้
ก็รู้อยู่หรอกว่าต้องระวังเธอเอาไว้สักหน่อย แต่ถ้าคิดจากจุดที่เธอยืนอยู่จริงๆ การจะใช้แผนนี้ก็คงไม่แปลก
เพราะเธอคนนี้สติหลุดจนไม่สามารถใช้สมองแบบคนปกติคิดได้
นอกจากนี้เธอยังได้นำสัตว์ประหลาดที่มีไว้เพื่อต่อต้านกับลำดับแห่งดวงดาราออกมาด้วย
「ผู้หญิง เธอชื่อว่าอะไรนะ?」
「เอ๋ เอ่อ ฉันไฮรุ โคโนฮานะค่ะ」
「เป็นชื่อที่ดี!」
「อะ ขะ ขอบคุณมากค่ะ!!」
อยู่ดีๆ ก็ถามอะไรเนี่ย!!
ไอรีนจังที่กำลังปกป้องไฮรุจังพูดขึ้น
ฉันจำเป็นต้องปกป้องไฮรุจัง เพื่อนร่วมชั้นของคัตสึมิจังที่นั่งข้างๆ กัน นี่สิน้ารสชาติของวัยรุ่น หวานอมเปรี้ยว
「เด็กคนนั้นสำคัญพิเศษอะไรกับเธอด้วยเหรอ?」
「หือ? ดูเหมือนสายตาของเธอก็มีปัญหานะ」
เธอไม่ได้เข้าใจอะไรเลยสักนิด
ความพิเศษในตัวของเด็กคนนี้น่ะ
「ความพิเศษงั้นเหรอ?เธอนี่ไม่ได้เข้าใจอะไรเลยจริงๆ ไม่ว่าจะจักรวาล ดาวเคราะห์ ยุคสมัย หรือช่วงเวลาใด สาวน้อยที่อยู่ในห้วงรักก็ย่อมเป็นบุคคลพิเศษอยู่แล้ว」
「น่าขนลุกชะมัด」
อย่าทำสีหน้าแบบนั้นใส่ฉันสิยะ
「ไอรีนจัง」
「หือ」
「ฉันไม่อยากจะให้โกลดี้รับรู้ดังนั้นช่วงแยกพวกเราออกไปทีได้ไหม?」
「อื้อ」
ไอรีนจังใช้นิ้วมือของตัวเองดึงผ้าพันคอที่ปิดปากของตัวเองเอาไว้ออก เผยให้เห็นใบหน้าครึ่งล่างของเธอ
จากนั้นเธอก็สูดหายใจเข้าเหมือนกำลังจะพูดอะไรออกมา แต่ทางพวกสัตว์ประหลาดดาวโลกก็ไม่คิดอยู่เฉยๆ จึงเข้าไปโจมตีเธอ ฉันจึงใช้เครื่องยิงเสาเข็มสร้างเป็นกำแพงขึ้นมาเสียเลย
「อดทนรอกันสักหน่อยสิจ๊ะ เดี๋ยวฉันจะจัดการกับพวกเธอเอง」
เครื่องตอกเสาเข็มปล่อยควันสีขาวออกมา
ชื่อของมันคือ Passion Bunker
「เอาละ จงสั่นกลัวต่อหน้าปืนฉีดความรักโดโรเลิฟๆ ของฉันเสีย」
『Passion Bunker ต่างหากไอ้สัตว์ประหลาดนี่ อย่ามาตั้งชื่ออาวุธข้าแปลกๆ สิฟะ』
ฉันมองไปที่ศัตรูตรงหน้า
สัตว์ประหลาดดาวโลก
เพียงแค่ตัวเดียวก็สามารถล้างบางดวงดาวได้ทั้งดวง
อันที่จริงโอเมก้าของดาวโลกเองก็มีความสามารถที่รับมือยากสุดๆ เสียด้วย
「 (อยากจะครอบครองเธอ) 」
「 (ดวงใจที่ฉันนั้นคอยเฝ้าตามหา) 」
「 (จงเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นเขาวงกตแห่งน้ำแข็ง) 」
ไอรีนได้เริ่มบรรเลงบทเพลงออกมาขณะที่เอามือไปปิดหูของไฮรุจังเอาไว้
เสียงที่ดังก้องกังวาลทำให้ฉันและอาสึรับผลของพลังไอรีนจังเข้าไปเต็มๆ
「งดงามเสียจริง」
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าของฉันคือโลกสีเงินที่ห่อหุ้มด้วยน้ำแข็ง
ฉันมองดูสัตว์ประหลาดตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมาให้กับความสามารถอันน่าทึ่ง
「มาลุยกันเถอะ ฉันไม่ได้ออกกำลังประมาณนี้มานานแค่ไหนแล้วน้า」
「「「……!」」」
เปลวไฟปะทุออกมาจากร่างของสัตว์ประหลาด
พลังที่ดูดไปจากฉัน…มันกำลังหลอมละลายพื้นที่รอบ
ในขณะที่ร่างของมันซึ่งปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงกำลังเข้าใกล้ฉัน พวกมันก็ถูกเสาเข็มตอกเข้าที่ร่างทันที
「ถ้าไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีไม่เด็ดอะไรก็ควรดูก่อนไปจ๊ะ?」
「……! อาาาา」
「หืม ดูเหมือนจะมีพลังในการฟื้นฟูร่างกายระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังดูดซับพลังงานที่ปล่อยออกมาจากPassion Bunkerได้อีกด้วย….」
ฉันพิจาณาความสามารถของพวกมันขณะเฝ้าดูเสาเข็มที่ยิงไปค่อยๆ ถูกร่างกายพวกมันกลืนกิน
มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรับมือกับฉันจริงๆ
นั่นก็หมายความว่าหากไม่ใส่เต็มแรกจนหายไปเลยมันก็จะกินพลังของฉันไปเรื่อยๆ
『เห้อ เป่าพวกมันให้เหี้ยนไปทีเดียวเลยสิฟะ』
「ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ศัตรูคราวนี้จริงๆ คืออาสึด้วยสิ สัตว์ประหลาดพวกนี้ยังไงก็เป็นแค่เบี้ย ไม่อยากจะเสียแรงเลยจริงๆ」
ถ้าจะพูดให้ชัด เจ้าพวกนี้มีสัตว์ประหลาดแมกม่าที่คัตสึมิจังเคยสู้เป็นต้นแบบ
「จากที่เห็นพวกมันน่าจะถูกปรับปรุงสายพันธุ์ให้กลายเป็นรุ่นผลิตจำนวนมากและไม่มีความนึกคิด ควบคุมได้ง่ายขึ้นแทน」
บางทีพวกมันอาจจะทนไม่ไหวแล้ว ก็เลยพุ่งเข้ามีโจมตีฉันพร้อมกันทั้ง 3 ตัว
「งั้นก็มาทดสอบความสามารถของพวกมันกันเลยดีไหม?」
「กุ———อะ!?」
「เอ้า เสียบไป 1 จ้า」
1 ใน 3 ตัวนั้นถูกโจมตีด้วยเสาเข็มสีแดงที่ร้อนฉ่าจนร่างกระเด็นไปในอากาศ
หากพวกมันไม่สามารถมองเห็นการโจมตีนี้ได้ก็แปลว่าไม่ใช่ศัตรูที่ต้องเอาจริงด้วยเลยสักนิด แต่ก็นะ ไม่ไหวๆ!
「อ้ากกก!!」
「กวาาาา!!」
『อย่าไปโดนตัวพวกมันอีกล่ะ ไม่งั้นโดนดูดพลังแหง!』
「ไม่มีปัญหาจ้า!!」
ฉันจงใจให้อีกสองตัวออกการโจมตีได้ และพวกมันก็ปลดปล่อยลาวาออกมาเต็มไปหมด ทว่าฉันก็ทำการปัดมันทิ้งไปด้วยการสะบัดแขนเพียงครั้งเดียว
ในจังหวะเดียวกันหลังพวกมันปล่อยลาวาก็รีบพุ่งเข้ามาประชิดตัวฉันเพื่อดูดพลัง ทว่าฉันก็จับร่างของพวกมันทุ่มกระแทกลงกับพื้นทันที
ผืนดินบุบสลาย ก้อนหินล่องลอยในอากาศ ฉันเหวี่ยงตัวหนึ่งที่จับติดมือขึ้นมาทุ่มไปใส่ตัวที่เหลือ
「โย้ช!!」
「อ๊าาา!!」
โลกาตัวหนึ่งกระแทกเข้ากับพวกของมันเต็มๆ
อีกฝ่ายเองก็เหมือนจะตั้งใจโต้กลับด้วยการพุ่งมาต่อย แต่ฉันก็หยุดเอาไว้ได้ด้วยมือซ้าย
ความร้อนระดับแค่นี้ฉันชินแล้วหรอกน่า
「!!?」
「จะดูถูกกันเกินไปหน่อยหรือไง ความร้อนแค่นี้จะมาสู้กับแสงอาทิตย์ได้ยังไง」
ว่าแล้วฉันก็กำหมัดของมันเอาไว้แน่นเพื่อไม่ปล่อยให้หลุด ก่อนจะใช้หัวโขกมันเข้าไปหนึ่งดอก
เสียงกระแทกนั้นทำให้หัวของโลกาตัวหนึ่งปลิวไปไกล
「หรือฉันจะคาดหวังว่าการต่อสู้มันต้องงดงามกว่านี้กันนะ?」
「……อุ」
ร่างของโลกาไม่ได้ปลิวไปด้วยเพราะฉันจับมือของมันเอาไว้อยู่
หัวที่ปลิวไปได้งอกขึ้นมาจากร่างอย่างรวดเร็ว
ความตายยากนี่ถือว่าเป็นจุดเด่นของสัตว์ประหลาดดาวโลกจริงๆ
「งั้นก็มาใส่ให้แรงกว่านี้ดีกว่า」
จากนั้นฉันก็ใช้มือขวาในการล็อคร่างของโลกาเอาไว้แทน ก่อนจะใช้นิ้วอีกมือในการกดปุ่มตรง Passion Bunker เพื่อเปิดใช้งานความสามารถพิเศษ
L E G A C Y
「ตำ น า น บ ท ที่ 1!!」
SPICA > REGULUS > ARCTURUS
สล็อตได้หมุนวนไปเรื่อยๆ ก่อนที่มันจะหยุดลงตรงหน้าปัดสีแดงซึ่ง Passion Bunker แสดงออกมาให้เห็น
『เปิดฉากตำนานองค์ 1!!』
『ความทรงจำแห่งยักษา ผู้ปกปักษ์ท้องนภา!!』
『ARCTURUS!!』
เมื่อตระหนักได้ถึงความอันตรายของแสงสีแดงที่ส่องออกมาพวกโลกาที่เหลือก็เหมือนจะพยายามหลบหนีจากจุดที่ฉันอยู่
ทว่าไม่พ้นหรอกนะ ฉันปลดปล่อยพลังที่อยู่ในมือขวาใส่ท้องของโลกาที่จับเอาไว้ ก่อนที่ร่างของมันจะปลิวไปหาอีกสองตัวที่พยายามหนี
ผืนดินตรงหน้าของฉันถูกคว้านออกไปก่อนจะเกิดไอร้อนขึ้น
「……เล่นแรงไปไหมน้า?」
พอสถานการณ์สงบลง โลกสีเงินเยือกแข็งก็ถูกเปลี่ยนภูมิประเทศเป็นผืนลาวาสีดำ
ทั้งที่พยายามจะยั้งมือแล้วแท้ๆ แต่เหมือนยังไม่พอ
『ยังไม่จบนะเห้ย』
「……ฉันรู้น่า」
สัตว์ประหลาด 3 ตัวพยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
มันได้รับความเสียหายไปไม่น้อย ความเร็วในการฟื้นฟูของมันก็ช้าลง แต่ถึงแบบนั้นมันก็ยังไม่จอดสักที
「ใช้พลังงานที่ดูดซับมาในการฟื้นฟู…..นี่สินะสัตว์ประหลาดของดาวโลก การที่คัตสึมิจังสามารถจัดการเจ้าพวกนี้ได้โดยที่โลกไม่ล่มสลายไปซะก่อนนี่สุดยอดจริงๆ」
สัตว์ประหลาดกลืนกินดวงดาว หากให้ฉันตั้งชื่อของสัตว์ประหลาดดาวโลกก็คงจะได้แบบนี้
แต่คัตสึมิจังที่รับมือและกำจัดพวกมันได้หมดสุดยอดกว่าเสียอีก
「กุ……」
「กะ……」
「อุ……」
「หืม?」
มีบางอย่างแปลกๆ เกิดขึ้นกับพวกมันทั้ง 3 ตัว
ตอนแรกก็คิดว่าจะงอกกลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม แต่รอบนี้มันต่างออกไป
『โฮ่ย ซันนี่ ไอ้เจ้าพวกนี้……』
「เป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวเสียจริง」
พวกมันทั้งสามตัวหลอมละลายและรวมร่างเข้าด้วยกันกลายเป็น 1 หัว 3 หัว แขน 3 คู่พร้อมกับอาวุธในมือ
「ถ้าจะต้องตั้งชื่อให้มันคงจะต้องเป็นสัตว์ประหลาดอาชูร่าละมั้ง อุ้ย รู้สึกได้ถึงมิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นแล้วสิ」
『ถ้าจะเล่นก็เอาไว้ก่อน!! มันมาแล้วเว้ย!!』
「อ้ากกกก!!」
ผืนดินตรงหน้าถูกทำลายลงจากพลังของอาชูร่า
เปลวไฟที่รุนแรงถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของมันจนอากาศโดยรอบถูกทำลายไปจนหมด
ความร้อนระดับนี้สามารถละลายเมืองทั้งเมืองได้เลยละมั้งเนี้ย
「ท่าทางจะอันตรายแล้วสิหากไม่รีบจบมันเสียแต่ตรงนี้」
ถ้าฉันปล่อยพวกมันไป บางทีมันอาจจะทำลายมิติที่ไอรีนจังสร้างขึ้นมาก็ได้
อาชูร่าสร้างบอลพลังงานความร้อนจำนวนมหาศาลขึ้นจากแขนทั้ง 6 ของมันแล้วปล่อยมันออกมาพร้อมกันใส่ฉัน
「มีมือเยอะแบบนี้ขี้โกงจังน้า!!」
『หยุดเล่นแล้วเป่ามันให้หมดได้แล้วเว้ย!』
ฉันทำการยิงเสาเข็มจาก Passion Bunker ใส่บอลความร้อนที่ปล่อยออกมา
ในระหว่างที่กำลังรับมือกับการโจมตีต่อเนื่อง ฉันก็ต้องหาทางใช้ท่าแรงเพื่อเอาให้อาชูร่าจอดในทีเดียว
L E G A C Y
「ตำ น า น บ ท ที่ 1!!」
สล็อตตรงอาวุธของฉันได้หมุนอีกครั้ง
แต่คราวนี้มันต่างไปจากเดิม
『เปิดฉากตำนาน องค์ 2!!』
『ความทรงจำแห่งราชสีห์ ผู้ยืนอยู่เบื้องหน้าเหล่าวีรบุรุษ!!』
『REGULUS』
「ลุยกันเลยยยยยย!!」
แสงสีฟ้าก่อตัวขึ้นในหมัดขวาของฉัน ก่อนเงยหน้าขึ้นมองอาชูร่าที่พุ่งลงมาโจมตีฉันต่อจากบนฟ้าพร้อมเสียงคำราม
จะต้องไม่ให้มันรอดไปได้ ฉันโฟกัสพลังทั้งหมดที่มีไปในหมัดนี้เพื่อปิดเกม
「เอ้าาาาา!!」
เหมือนถึงจุดปะทะกันหมัดของฉันก็โดนเข้าไปที่ลำตัวของอาชูร่าจัดๆ
จากนั้นฉันก็ทำการถ่ายเทพลังงานเข้าไปยังการโจมตีครั้งนี้เพิ่ม กำปั้นได้เสยทะยานขึ้นไปถึงบนฟากฟ้าสรวงสวรรค์เพื่อปลดปล่อยพลังงานทั้งหมดที่มี
「เทคนิคลับ!! คลื่นปะทะจิตวิญญาณชายชาตรี!!」
『บัดซบที่สุดดดดด……』
แสงสีน้ำเงินทะลุร่างของอาชูร่าขึ้นไปบนท้องฟ้า
และในขณะที่ฉันชูกำปั้นขึ้นฟ้า ก็มีจอภาพโปร่งใสโผล่ออกมาจากด้านหลังของฉัน
『แม้ความรักจะทำให้ดวงตามืดบอด』
『แต่ถนนเบื้องหน้าจักส่องแสงออกมาให้เห็น』
『นี่คือวิถีแห่งหญิงสาวที่แกร่งที่สุด』
「ฟู้ว…จบเสียที」
ฉันที่ปลดปล่อยศาสตร์ลับแห่งสาวน้อยออกไป ได้ทำการลดหมัดลงเมื่อยืนยันแล้วว่าอาชูร่าถูกกำจัดไม่เหลือซาก
『ข้าถามเอ็งจริงๆ เถอะ ว่าไอ้ฉากข้างหลังนี่มันจำเป็นด้วยเหรอ?ไอ้กลอนหลังชนะเนี่ย มันมีไว้เพื่ออะไรฟะ?』
「ในการแข่งขันผู้ที่ได้รับชัยชนะมันก็ต้องมีประกาศอะไรน่ารักๆ หน่อยสิ」
『ก็ได้แต่หวังว่าสักวันเอ็งจะเป็นผู้เป็นคนกับเขาบ้าง……เฮ้อ』
ฉันหัวเราะให้กับคำบ่นของเวอร์โก้ จากนั้นพอไอรีนจังยืนยันแล้วว่าการต่อสู้ของฉันจบลง เธอก็ปลดปล่อยมิติให้สลายไป
ฉันที่กลับมายังตรอกก็พบว่าตอนนี้ ไฮรุ โคโนฮานะ กำลังถูกไอรีนจังกอดจากด้านหลังอยู่
「เสร็จแล้วเหรอ?ลำดับ6ล่ะ?」
「เธอหนีไปตั้งแต่แรกแล้วน่ะ เหมือนจะยังเก็บไพ่ตายเอาไว้ด้วยสิ」
เอาเป็นว่าวันนี้เธอคงจะถอยไปตั้งหลักก่อน
ยังไงเธอก็ไม่ใช่คนโง่ที่คิดจะเผชิญหน้ากับฉันตรงๆ อยู่แล้ว
「งั้นเหรอ」
「อะ เอ่อ คือ……」
「ไม่ต้องห่วงหรอกจ๊ะ ฉันกับคัตสึมิจังรู้จักกันดี」
「โฮมุระคุง……」
ทำไมต้องมามุ่งเป้าที่เด็กคนนี้ด้วยนะ
ทั้งที่เด็กคนนี้เป็นเพียงคนธรรมดาที่อาจจะพิเศษก็ตรงที่เป็นเพื่อนสาวของคัตสึมิจัง
「แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันคะ?ทั้งแม่แล้วก็เพื่อนต่างลืมฉันไปหมดเลย…บางทีโฮมุระคุงก็อาจจะ….」
「ไม่หรอก ฉันมั่นใจว่าหากเป็นเขา ไม่มีทางลืมแน่นอน」
ความสามารถในการเปลี่ยนการรับรู้ของอาสึนั้นทรงพลังก็จริง แต่มันไม่ค่อยจะได้ผลกับคนที่ถือครองแกนพลังงานเอาไว้กับตัว
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกแกนพลังงานจะทนได้ อย่างน้อยๆ ที่ฉันมั่นใจเลยก็มีชิโระจังกับเลโอจังที่น่าจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ไม่สิ หากเป็นคัตสึมิจังละก็ถึงไม่ถือครองแกนพลังงานพวกนี้ก็คงไม่ได้รับผลกระทบอะไร
「อันที่จริงก็อยากจะติดต่อกับคัตสึมิจังทันทีหรอกนะ แต่ว่า….」
「อุ งั้นฉันอาสาไปส่งเอง」
「ฉันว่าถ้าส่งเธอไปมีหวังเธอจะไปมอบตัวให้เขาจับเองน่ะสิ ไม่ไหวๆ!!」
ไอรีนจังอย่ามามองด้วยสายตาคาดหวังสิ
เอาเป็นว่าคนที่น่าจะช่วยเหลือไฮรุจังได้ในตอนนี้น่าจะเป็นอัลฟ่าจังที่มีพลังแบบเดียวกัน…หื้ม
「คงจะไม่ดีนักหากปล่อยเด็กคนนี้ไปที่สำนักงานใหญ่ของจัสติสครูเซเดอร์….」
ฉันได้ข้อมูลสำคัญบางอย่างมาระหว่างคุยกับอาสึก่อนหน้านี้
บางทีอาสึอาจจะไม่รู้ถึงตัวตนของเด็กคนนั้นจริงๆ ก็ได้
การเผยข้อมูลส่วนนี้ให้เธอรู้คงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี แถมมันอาจจะกลายเป็นกุญแจสำคัญในอนาคตก็ได้
「ไม่ควรจะเดินหมากโดยดึงความสนใจของทางนั้นสินะ….」
อาสึน่าจะยังไม่ยอมแพ้ในการจับไฮรุจังเป็นตัวประกัน
การมีอยู่ของเด็กคนนี้สำคัญมากสำหรับคัตสึมิจังจนไม่มีใครมาแทนได้
นอกจากนี้เธอคงไม่คิดจะเล็งเป้าไปหาพวกสาวๆ จัสติสครูเซเดอร์ที่แข็งแกร่งกว่าแน่นอน
หากอาสึพลาดไปแค่นิดเดียว พวกสาวๆ คงได้รุมจัดหนักจัดเต็มให้แหง
「เอาล่ะ ไฮรุ โคโนฮานะ….จากนี้ฉันขอเรียกเธอว่าไฮรุจังเฉยๆ ได้ไหม? 」
「เอ่อ ก็ได้หรอกค่ะ……」
「ต้องขอโทษด้วยนะ แต่ตอนนี้เธอคงจะกลับไปที่บ้านหรือไปหาคัตสึมิจังไม่ได้ซะแล้วสิ ใจจริงก็อยากจะพาไปอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของจัสติสครูเซเดอร์หรอก แต่ตอนนี้ เธอคงต้องมาอยู่ภายใต้การดูแลของฉันไปสักพัก จะยินดีไหม?」
ไฮรุจังเบิกตากว้างกับคำถามของฉัน
พอโดนอาสึเล่นงานไป จะสงสัยพวกฉันก็คงไม่แปลกอะไร
「…จนถึงก่อนหน้านี้ ตัวฉันได้เสียความทรงจำไปจนหมด」
ระหว่างที่กำลังคิด ไฮรุจังก็พูดบางอย่างออกมา
「โฮมุระคุงได้ลบความทรงจำของฉันเพื่อช่วยเหลือฉันเอาไว้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมแม้ความทรงจำของฉันจะกลับมา ฉันก็พยายามห้ามใจไม่ให้ไปพบเขา ฉันไม่อยากจะเป็นภาระให้กับเขาอีกแล้ว……」
「……」
「ทั้งที่คิดว่าตัวเองไม่น่าจะได้ยุ่งเกี่ยวกับอะไรกับโลกที่เขาต้องเผชิญ แต่ตอนนี้ฉันจะไม่หนีอีกแล้วค่ะ」
แม้ว่าจะตัวสั่น แต่คำพูดของเธอก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
มันช่างเจิดจ้าเหนือแสงใดๆ ที่สาดส่อง
ที่ฉันพูดออกมาได้ก็เพราะตัวฉันเป็นร่างจุติแห่งดวงอาทิตย์นี่เนอะ
หลงรักความสดใสของมวลชีวิตเหล่านี้จริงๆ
「ฉันจะไม่ลังเลอีกแล้ว พอถึงเวลาฉันจะไปเจอกับเขาให้ได้เลยค่ะ」
「ตัดสินใจได้แล้วสินนะ」
หากเด็กคนนี้ตัดสินใจได้แล้วก็พาเธอไปยังที่ปลอดภัยดีกว่า
นอกเหนือจากสำนักงานใหญ่แล้วอาจจะนึกออกได้ยากว่ามีที่ไหนปลอดภัยอีก แต่ฉันขอบอกเลยว่าฉันมีในใจอยู่แล้ว
「คงต้องไปบอกเจ็มจังแล้วสินะว่าจะมีผู้ร่วมอาศัยคนใหม่」
「อื้อ ฉันไอรีน เป็นอัศวินดำ」
「อะ เอ่อ ขอฝากตัวด้วยค่ะ อัศวินดำคุง?」
「อัศวินดำเฉยๆ ก็ได้ หรือจะอัศวินดำจังก็ไม่ติด」
「เอ่อ?」
…หวังว่าจะไปรอดนะ
เพราะนอกจากเจ็มจังแล้ว เด็กคนนี้จะรับมือกับพวกที่เหลือไหวไหมนะ?
–จบ–
สรุปคือทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้เอาจริง แต่ก็สมกับเป็นลำดับที่ 3 ส่วนไฮรุน่าจะโดนไอรีนโอ๋เป็นน้องสาวไปละ แถมจากนี้ต้องไปอยู่กับพวกเจ็ม ไม่อยากนึกสภาพพพพพ
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code