อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 110 การวิเคราะห์ข้อมูลและไลฟ์สู้กันของพี่น้อง
คัตสึมิกำลังต่อสู้กับฮิลด้าที่สังกัดอยู่ในกลุ่มของเซไคเซ็นไต
ด้วยความสามารถของอัศวินดำและขาวที่เขามี ศัตรูน่าจะพ่ายแพ้ให้กับเขาอย่างง่ายดาย ทว่าฮิลด้ากลับแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนจนผิดหูผิดตา
ยัยนั่นน่าจะอยู่แถวลำดับ 40 แท้ๆ ….แต่หากอิงตามที่เรดบอกเหมือนอีกฝ่ายจะซ่อนความสามารถจริงๆ เอาไว้แต่มันก็น่าจะอยู่แค่ช่วง 2 หลักต้นๆ สิ มันไม่น่าจะแกร่งได้เบอร์นี้เลยนะ
「สูทที่เธอใช้เหมือนจะมีพลังแบบเดียวกันกับพวกสูทของเซไคเซ็นไตแต่ละสี」
นอกจานี้ยังไม่ใช่แค่ใช้พลังของแต่ละคนได้ แต่เมื่อพลังมารวมกันมันดันแกร่งเสียจนแทรกแซงการเปลี่ยนร่างของอัศวินขาวได้
「……ฮิลด้า เป็นใครกันแน่นะ…」
ฉันก็รู้หรอกว่าเป็นอัลฟ่าที่กลายเป็นแกนกลางไปแล้ว
แถมยังวิวัฒนาการได้ประหลาดสุดๆ สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองอีก
「การเร่งความเร็วให้สูงขึ้นด้วยแรงโน้มถ่วง สามารถก่อกวนTruth Driver….พลังในการต่อสู้โดยรวมทัดเทียมกับอัศวินขาว….ให้ตายสิ พลังแห่งดวงดารานี่มันอะไรกัน…..」
พลังแห่งดวงดารา
มันคือพลังที่ไม่ได้มาจากมิตินี้อย่างแน่นอน
ว่ากันตามตรงฉันไม่เข้าใจพลังพวกนี้เลยสักนิด
เซไคเซ็นไตเป็นเพียงนักรบที่ถูกเลือกโดยพลังแห่งดวงดาราก็จริง แต่ต้นกำเนิดของพวกเขาแต่ละคนก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษขนาดให้วิเคราะห์ได้
「ไม่ว่าจะพยายามตรวจสอบสักแค่ไหนก็จับต้นชนปลายไม่ได้เลย ใจก็อยากจะเก็บพลังงานมาวิเคราะห์ แต่ก็ไม่รู้จะต้องใช้อุปกรณ์แบบไหนเก็บมันอีก」
แต่อย่างน้อยบางสิ่งที่มอบพลังนี้ให้จะต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่นอน
นั่นคือสิ่งที่ฉันมั่นใจ
….จากข้อมูลที่กรีนให้มา เธอบอกว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังคอยชักใยพวกเขาอยู่ แต่ว่าฮิลด้าที่เข้าร่วมกับกลุ่มนั้นล่ะจะเป็นยังไง?
「เธอสามารถต่อต้านมันได้?」
หรืออย่างน้อยๆ เธอก็ไม่มีอาการทางจิตบ้าๆ บอๆ กับพวกเซไคเซ็นไต
ก็จริงที่เธอมีความรู้สึกบ้าคลั่งกับคัตสึมิคุง แต่เธอไม่ได้บ้าเหมือนมอทัลเรดหรือจิตใจแตกสลายเหมือนมอทัลบลู
『มาสเตอร์คะ』
「ทาเรีย」
『ขอฉันแสดงความเห็นได้หรือเปล่าคะ?』
「ว่ามาสิ」
ฉันพยักหน้ารับคำพูดของทาเรียแกนพลังงานที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของฉันและสูทสีทองที่ฉันใส่
『มีความเป็นไปได้ที่ฮิลด้าจะรวมแกนพลังงานทั้งหมดของเซไคเซ็นไตเข้าด้วยกันค่ะ』
「……หืม」
『จากที่เห็นยานรูปดาบทั้ง 5 ลำของพวกเขาดูเหมือนจะขับเคลื่อนด้วยแกนพลังงานที่ไม่ต่างกับพวกเราค่ะ』
「แต่มันก็น่าจะถูกทำลายไปแล้วนี่?」
『ลองคิดถึงความเป็นไปได้ที่นั่นคือความตั้งใจของฮิลด้าแต่แรกสิคะ』
…..ก็อาจจะเป็นไปได้
ฮิลด้ามาร่วมการต่อสู้ในคราวนั้นก็จริง
แต่เธอแทบไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย แถมตอนจบก็รอดชีวิตกลับไปสบายๆ
「หมายความว่าตอนนี้เธอครอบครองแกนพลังงานถึง 5 ชิ้นสินะ….」
『ไม่ใช่เพียงแค่ครอบครอง 5 ชิ้นค่ะ แต่เธอยังสามารถดึงพลังงานของมันออกมาใช้ได้ระดับหนึ่งอีกด้วย บางทีเธออาจจะมีความสามารถในการบังคับให้แกนพลังงานให้กันกับตัวเองด้วยก็ได้ค่ะ』
「เป็นศัตรูที่น่าเกรงขามชะมัด ไหนจะเรื่องที่พยายามแทรงแซงโปรโตวันอีก แบบนี้จัสติสสูทจะรอดไหมเนี่ย」
ฉันจำเป็นต้องหาทางรับมือโดยใช้ข้อมูลการต่อสู้ของคัตสึมิคุงกับฮิลด้า
สำหรับพวกเรดถูกขัดการเปลี่ยนโหมดคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่าไหร่ ทว่าศักดิ์ศรีของฉันมันไม่ยอมปล่อยผ่านได้แน่นอน
「……。แต่ที่สำคัญกว่านั้น……」
โปรโตสูทถูกย้อมด้วยสีแดง
ว่ากันตามตรงขนาดฉันเป็นคนสร้างยังไม่รู้เลยสักนิดว่ามันคืออะไร
หากคิดง่ายๆ ว่ามันโอเวอร์ไดรฟ์จนร้อนก็น่าจะพอฟังขึ้น
ไม่สิมันอาจจะเป็นหนึ่งในสาเหตุนั้น แต่ว่า…..
「แกนพลังงานของคัตสึมิคุง….ฝีมือโปรโตเหรอ」
『เพราะเธอคือสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังมากค่ะ แม้แต่ตัวฉันก็ไม่สามารถทำความเข้าใจได้』
「……ฉันว่ามันแปลกนะที่พูดมาจากปากแกนพลังงานเหมือนกัน」
『ตัวเธอและแกนพลังงานของอัศวินขาวเป็นสิ่งที่ถูกพวกองค์กรสร้างขึ้นมาก็จริง แต่ต้นกำเนิดของพวกเราแตกต่างกันค่ะ』
อย่างแรกเลยก็คงจะเป็นพวกเธอคืออัลฟ่าแฝดที่ถือเป็นเรื่องผิดปกติสุดๆ
อัลฟ่าและโอเมก้าสามารถกำเนิดขึ้นมาได้เพียงตัวเดียวต่อดาวหนึ่งดวง
แน่นอนว่าก็มีกรณีที่กำเนิดขึ้นมา 2 แต่ทั้งคู่ก็จะฆ่าล้างกันเองจนให้เหลือเพียง 1 เท่านั้น
「……นับเป็นพรแห่งจักรวาลจริงๆ ที่ความลึกลับไม่เคยหมดไป」
ศักยภาพของคัตสึมิคุงอยู่เหนือความคาดหมายของฉันเสมอ
ความรู้สึกกลัวและตื่นเต้นในฐานะนักวิทยาศาสตร์มันกำลังร่ำร้องอยู่
「พูดถึงแกนพลังงานแล้ว สิ่งนั้น……」
『แกนพลังงานที่มีชื่อว่าอาซาฮีค่ะ』
「อ้า……」
นี่แหละสิ่งที่ฉันตกใจอีกอย่าง
เธอตื่นขึ้นมาตอนไหนกันนะ?
ไม่สิอาจจะตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ เพราะแบบนั้นเหตุการณ์ในตอนทดสอบชุดพวกเรดถึงได้เจอเรื่องแปลกๆ ที่ฉันไม่เคยเจอตอนทดลอง
「แม้ฉันจะพยายามทดสอบแค่ไหน อีกฝ่ายก็ไม่ตอบสนองเลยแท้ๆ」
『แทนที่จะคิดอะไรแบบนั้น ฉันมองว่าอีกฝ่ายคงไม่มีความจำเป็นต้องตอบสนองค่ะ ทว่าความจริงที่เธอปรากฏตัวออกมาทันทีที่ลำดับที่ 1 แสดงตัวขึ้นก็น่าจะบอกได้ชัดแล้วว่าตัวเธอในอดีตเป็นอัลฟ่าที่แข็งแกร่งขนาดไหน』
「อาจารย์…ไม่สิ ลำดับที่ 1 เองก็เหมือนจะมองว่าอาซาฮีคือศัตรูด้วยสิ….」
ความเป็นไปได้ที่เธอคืออัลฟ่าของโลกในอดีตก็ไม่ใช่ศูนย์
เธอน่าจะเป็นอัลฟ่าของโลกก่อนที่จะโดนรีเซ็ต
แต่ยังไงก็คงไม่มีทางตรวจสอบได้นอกจากถามเจ้าตัว…..
「ทั้งหมดที่พวกเรารู้ตอนนี้ก็คือพวกสาวๆ ต่างหวาดกลัวเธอและเธอก็เป็นอาจารย์ของสาวๆ」
พอรู้ความจริงจุดนี้ฉันถึงทำความเข้าใจได้ว่าเหตุใดจัสติสครูเซเดอร์ที่ไม่เคยต่อสู้มาก่อนเลยถึงได้แกร่งขึ้นกว่าเดิมในช่วงเวลาสั้นๆ
『ท่านอาซาฮีคือปีศาจค่ะ เธอเป็นตัวอันตรายที่ชอบฟันหัวคนอื่นทิ้งก่อนซ้ำศพที่ไม่เหลือตัวของอีกฝ่ายอย่างมีควมสุข』
『โรคจิตที่ชอบทรมานฉันด้วยกับดักที่วางเอาไว้ หากเผลอสักนิดหัวได้ปลิวไปพร้อมกับลูกธนู』
『เธอคือคุณพี่สาวที่แกร่งสุดๆ ก็จริง แต่นิสัยเหมือนตาลุงที่ชอบพูดจาล่วงเกินอยู่เป็นประจำค่ะ』
นี่คือสิ่งที่พยานทั้ง 3 ได้บอกกับฉัน
ฉันเริ่มจะเชื่อแล้วสิที่พวกเธอมีความเข้ากันได้จริงๆ
「เรื่องของอาซาฮีนี่ลึกลับเสียจริง」
『นั่นก็จริงค่ะ แต่ทว่า…มาสเตอร์คะ』
「หือ ทำไมเหรอ?」
『ถึงเวลาที่พวกเราควรพักผ่อนแล้วไหมคะ?』
เอ๋
นั่นสินะนี่ก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกัน
ถึงจะยังเหลือหลายอย่างที่ต้องทำ แต่มาพักสมองสักหน่อยคงไม่เลว
「อ้า เดี๋ยวพักสักหน่อยละกัน」
『ได้โปรดทำแบบนั้นเถอะค่ะ เพราะนี่ก็ผ่านมาเป็นเวลา 87 ชั่วโมง 32 นาที 35 วินาทีแล้วที่คุณนอนไปครั้งล่าสุด』
「หายห่วงเพราะฉันคือมนุษย์ต่างดาวยังไงล่ะ」
『……』
ทาเรียไม่ได้พูดอะไรกลับมา แต่มีแขนกลในห้องทดลองกำลังเริ่มเคลื่อนไหวมาล้อมตัวฉันเอาไว้
แถมภายในแขนกลนั้นยังมีปืนไฟฟ้าที่ใช้สำหรับจับกุมหรือยื้อเวลาพวกสัตว์ประหลาดติดเอาไว้ด้วย
「เอ่อ ทาเรีย?ช่วยเอาปืนช็อตไฟฟ้านั่นออกไปหน่อยได้ไหม ฉะ ฉันไปพักก็ได้ ให้เลย 3 ชั่วโมงจุกๆ!!」
『อย่างน้อยต้อง 6 ชั่วโมงค่ะ』
「ไม่มีทางหรอกที่ฉันจะพักนานขนาดนั้น!! เอ่อ ทาเรีย?!ทำไมเสียงชาร์จมันดังขึ้นล่ะ แถมกำลังไฟฟ้าเหมือนจะปรับให้อยู่ระดับสูงสุดด้วยนะ?!เอ้อ ก็ได้ๆๆ พักๆๆ」
ให้ตายสิ ขัดขืนไม่ได้เลยวุ้ย……!!
แขนกลได้กลับไปตรงผนักห้อง ฉันที่เห็นก็ถอนหายใจออกมาแล้วจ้องไปตรงจอเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
「วันนี้คัตสึมิคุงถูกเชิญไปไลฟ์กับฮินาตะคุงสินะ?」
『ค่ะ ตอนนี้กำลังไลฟ์กันอยู่ที่สตูดิโอที่พวกเราดูแล แน่นอนว่าผู้ดูแลคือฉัน ท่านโปรโต ท่านกราท ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะเกิดเรื่องเกินควบคุมขึ้นอีกค่ะ』
…แปลว่าถ้ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นก็คือความตั้งใจของพวกเธอเลยสินะ
เอาเถอะ นี่ก็เป็นงานหนึ่งในการปรับปรุงภาพลักษณ์ของจัสติสครูเซเดอร์และอัศวินดำ
พวกเขาจะต้องทำตัวให้ประชาชนดูเข้าถึงได้ง่ายเพื่อจะถูกยอมรับว่าเป็นมนุษย์เหมือนกัน
『คราวนี้ท่านอาโออิก็บุกเข้ามาเช่นเคยค่ะ』
「ไหนบอกจะไม่มีเรื่องเกินควบคุมไงเห้ย!」
หรือจะบอกว่ามันคือสิ่งที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่าเธอจะต้องบุกเข้ามา?!
โดยปกติแล้ว ฮินาตะคุงจะเป็นวีสายหล่อเท่คูลๆ แต่เมื่อพี่สาวของเธอเข้ามา เธอจะกลายเป็นสาวคลั่ง ที่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ลุกโชนจนเกิดปัญหาบ่อยๆ
「คงต้องไปตรวจสอบไลฟ์สักหน่อย!!」
『ไหนบอกจะนอนคะ?』
「ขออีกนิดเดียวนะขอร้อง!!」
จากนั้นฉันก็เปิดเว็บแล้วเข้าแชแนลของฮินาตะคุงซึ่งกำลังไลฟ์อยู่
–ไลฟ์กับอัศวินดำภาคต่อ—
「……ตั้มเนลมันดูแปลกๆ นะจะรอดไหมเนี่ย? 」
ทำไมฉันรู้สึกเหมือนเดจาวูแปลกๆ
ฮินาตะคุงในไลฟ์ตึงสุดๆ
ชักจะเริ่มกังวลแล้วสิ
「แต่พี่เองโดยพื้นฐานแล้วก็เป็นพวกบ้อบออยู่แล้วไหม」
「นาโอะ เธอก็ไม่ต่างกับฉัน」
–Chat—
โดนยับย๊าบบบบ 555
ไม่รอดว่ะ
อัศวินดำคุงมาทำไมนะแบบนี้
ไลฟ์จะบินไหมเนี่ย?
อย่าลืมอัศวินดำคุงสิพวกหล่อน
5555
5555
จะรั่ววววว
พิลึก VS พิลั่น VS มาทำไม
ใ ห้ มั น สู้ กั น
สองพี่น้องตีกับยับเลยวุ้ย
—–
พอไลฟ์เริ่มไม่นานพวกเธอก็ตีกันทันที
บลูใช้คำพูดโจมตีฮินาตะคุงไม่หยุด
ส่วนคัตสึมิคุงเหมือนจะนั่งเงียบๆ แล้วเฝ้ามองคนกัดกัน
วุ่นวายสุดๆ ….
『ไม่เหมือนกับพี่สักหน่อย ฉันน่ะสามารถรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี อย่ามามั่ว』
『งั้นก็ช่วยหยุดบอกว่าฉันเป็นพวกประหลาดผิดปกติสุดๆ ได้ไหม?』
『เอ่อ』
『….อัศวินดำคุง?เดี๋ยวสิ ทำไมถึงไม่สบตากับฉันกันล่ะ?』
・ก็ประหลาดสุดๆ จริงแหละ
・ประหลาดแหละ……
・จังหวะธรรมชาติสุดๆ ……
ฉันคิดว่าเนื้อแท้ของพวกเธอจริงๆ แล้วน่าจะไม่ต่างกันหรอกเพราะพวกเธอเป็นพี่น้องนี่นา
แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าบลูคือคนที่โดดเด่นขึ้นมาแบบแปลกๆ
『นอกจากนี้การที่สังคมมองว่าฉันประหลาด มันก็เพราะสังคมบิดเบี้ยวไม่ใช่หรือไง?』
『นี่หล่อนหนาขนาดไหนเนี้ย』
『ฉันบอบบางจะตายคัตสึมิน ป้อนข้าวหน่อยสิ』
『ลองนึกถึงเรื่องที่หล่อนเคยก่อบ้างสิเห้ย』
『นั่นสินะ แต่จากนี้ไปมันจะเป็นปัญหาของ พวกเราแทน』
『หนาสุดๆ ……』
・นี่เธอยังเป็นมนุษย์อยู่จริงเหรอ?(สั่นกลัว)
・แข็งแกร่งเกินไปแล้ว
・หยุดหลอนเดี๋ยวนี้เลยนะยะ บลู ** (เรด) **
・จะบุกไปที่สตูเดี๋ยวนี้แหละ ** (เยลโล่) **
・ทำไมมีอยู่พักหนึ่งที่ตูคิดว่าบลูมันเท่ฟะ
・อย่างน้อยเธอก็เป็นคนเดียวที่ด่าสัตว์ประหลาดจนหงอยได้นะเออ
・พวกเอ็ง ในแชทบอสโผล่
『กลับกันน้องสาวของฉันน่ะ……』
บลูหันไปมองฮินาตะคุงที่นั่งข้างๆ
แล้วยิ้มออกมา
『หือ』
ความเงียบงันเกิดขึ้นภายในสตู
คัตสึมิคุงที่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนจะพยายามสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้นมาใหม่ ทว่า———
『จะหัวเราะก็ได้แค่ตอนนี้แหละเฟ้ย!!』
『เอ๋!?』
・แก้วหูตู
・เสียงดังชะมัด 5555
・ก็ ป ก ติ นี่
・หูผมมันไม่ได้ยินนนนน……
・หูจะแตก
・5555
คัตสึมิคุงตกใจกับการตะโกนลั่นสตูของฮินาตะคุงสุดๆ
อวาตาร์อัศวินดำที่ฉันสร้างขึ้นสามารถจับภาพท่าทางสุดประหลาดใจของเขาได้อย่างละเอียดสุดๆ ถึงขนาดเห็นไหล่ของเขาสะดุ้งโหยงขึ้น
「ทดไม่ไหวแล้ว ยัยพี่โง่เง่าคนนี้นี่ ฉันจะทำให้เธอกลายเป็นแค่เศษผ้าต่อหน้าอัศวินดำซังเดี๋ยวนี้แหละ เตรียมใจไว้ได้เลย」
「ทำได้ก็ลองดูสินาโอะคุง」
「คิดว่าจะเหมือนครั้งก่อนๆ งั้นเหรอ อย่าได้ฝัน!!」
อันนี้จะดีเหรอ?
…ไม่สิ ก็ปกติสำหรับสองพี่น้องแหละ
พูดอย่างกับจะเล่นมวยปล้ำใส่กัน
การไลฟ์ทุกครั้งของนาโอะ อาโอฮานะมักจะจบลงด้วยความวุ่นวายเสมอเมื่อบลูเข้ามาเกี่ยวข้อง ฉันเลยไม่ค่อยประหลาดใจนัก
แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่แขกวันนี้คือคัตสึมิคุงไม่ใช่เหรอฟะ
「พี่ รับคอนโทลเลอร์ไปซะ แล้วมาตัดสินกัน」
「กำลังรออยู่เลย……!!」
「อะ เอ่อ เอ๋ ?นี่พวกเธอจะเล่นเกมกันตอนนี้เหรอ แล้วฉันล่ะ?」
・จังหวะธรรมชาติ……
・55555
・อัศวินดำคุงถูกลืมไปแล้วว่ะ 5555
・วันนีพวกเธอก็ร่าเริงกันเช่นเคย
・อัศวินดำกลายเป็นคนมีสามัญสำนึกคนเดียวในห้อง 5555
「ใจเย็นก่อนนะพวกเธอ เดี๋ยวพวกพนักงานก็เดือดร้อนกันหมดพอดีし」
「หือ อัศวินดำคุง นายกลัวที่จะพ่ายแพ้เหรอ?」
「……。เออก็จัดมาสิฟะ พ่อจะทำให้รู้เองว่าใครใหญ่!!」
・5555
・5555
・5555
・ไปเรียกเรดกับเยลโล่มาทีดิ๊
・โดนลากไปเฉย น้องชาย + 5 แต้ม
・โดนยั่วง่ายจัด 5555
・5555
・สุดท้ายก็เข้าร่วม
……。
ดูเหมือนเขาจะสนุกด้วยสินะ
เอาเป็นว่าฉันก็ฝากที่เหลือให้กราทกับทาเรียดูแลไปแล้วกัน
ฉันเอนตัวพิงเก้าอี้แล้วตั้งใจจะนอน
บริเวณเอวกับหลังก็เกิดเสียงร้าวขึ้นราวกับร่างกายผ่านศึกมาหนัก
「เห้อ ไม่ค่อยสบายตัวเลยวุ้ย ท่าทางจะใช้งานหนักไปจริงๆ」
อาบน้ำแล้วค่อยไปนอนละกัน
ว่าแล้วฉันก็ลุกขึ้นแล้วตรงไปที่ประตูห้อง ทว่าโอโมริคุงก็เปิดประตูเข้ามาเสียก่อน
「ขอโทษด้วยค่ะ กำลังจะนอนเหรอคะ?」
「อ้า ไม่หรอก ที่เธอโผล่มานี่ก็หมายความว่า…..ผลการตรวจของ โมโมโกะ คาเสะอุระออกมาแล้วสินะ?」
「ค่ะ」
ฉันรับเอกสารมาจากโอโมริคุงแล้วทำการตรวจสอบข้อมูลข้างใน
โมโมโกะ คาเสะอุระ อายุ 19 ปี
มนุษย์ที่ถูกสิงร่างโดยแกนพลังงานปรสิตที่ชื่อว่าฮิลด้าเป็นเวลาหลายเดือน
เธอเป็นนักศึกษาปี 2 ที่เรียนในโตเกียว
ระหว่างกลับจากมหาลัยเธอได้เจอกับฮิลด้าก่อนจะหายตัวไป
และตอนนี้เธอได้รับการปล่อยตัวแล้วมาพักรักษาที่สำนักงานใหญ่แห่งนี้
「เนื่องจากถูกสิงโดยแกนพลังงานพิเศษ ก็อยากจะตรวจสอบให้ชัด…แต่ผลที่ได้คือไม่มีอะไรผิดปกติค่ะ」
「ส่วนที่น่ากังวลคือเธอยังไม่ได้สติเฉยๆ เหรอ」
「น่าจะเป็นเพราะอาการโคม่าค่ะ อีกสองสามวันคงตื่น….เมื่อถึงเวลานั้น เราจะทำการตรวจร่างกายของเธอใหม่ หากไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จะส่งไปที่โรงพยาบาลในโตเกียวต่อค่ะ」
「เข้าใจแล้ว……คงต้องติดต่อพ่อแม่เธอด้วยสินะ……」
「ค่ะ เรื่องที่จะต้องแจ้งก็มีเพียงเท่านี้」
สมาชิกในครอบครัวที่แสนล้ำค่าหายตัวไปหลายเดือน
เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเราก็จำเป็นต้องช่วยรับผิดชอบดูแลเธอเท่าที่จะทำได้หลังจากนี้ด้วย
「…แต่ก็ดีจริงๆ นะคะที่ไม่มีอะไรผิดปกติ」
「อ้า แต่อย่าได้มองโลกในแง่ดีนักล่ะ ยังไงพวกเราก็ต้องเฝ้าระวัง โมโมโกะ คาเสะอุระกันต่อ」
「เรื่องนั้นฉันรู้ค่ะ」
มนุษย์โลกที่ถูกฮิลด้าสิงสินะ
มองในอีกมุมก็หมายถึงเธอคือคนที่มีศักยภาพเพียงพอในการใช้งานฮิลด้า ความเป็นไปได้ที่เธอจะโดนหมายหัวจากนี้ก็มีไม่น้อยด้วยสิ
แต่ตอนนี้พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเฝ้าดูต่อไป
–จบ–
คุยสั้นๆหลังสู้จบ สองพี่น้องนี่ก็ตีกันไม่เลิกจริงๆ
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code