อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 106 การสนทนาที่คาดไม่ถึง
สำนักงานใหญ่จัสติสครูเซเดอร์ที่ 2
เดิมทีเหมือน
ดูเหมือนว่าตอนแรกสถานที่นี้จะเป็นจุดในการทดลองและพัฒนายานซีรีส์พวกเรด 1 และทดลองการประกอบร่างกัน ทว่าตอนนี้มันได้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นสำนักงานใหญ่แห่งที่ 2 ซะแล้ว
พื้นที่ส่วนอยู่อาศัยที่ฉันอยู่มันค่อนข้างแตกต่างจากของพวกพนักงานทั่วไปนิดหน่อย ตรงที่โซนของฉันมันมีอยู่ด้วยกันแค่ 4 คน นั่นก็คือฉัน ฮาคัว อัลฟ่า คอสโม่
「คัตสึมิ คุ้นกับที่นี่หรือยัง?」
「ก็ไม่เชิง ยังไงฉันก็ไม่ค่อยชินกับห้องใหญ่ๆอยู่ดี」
วันนี้พวกอากาเนะนัดฉันให้ไปเจอที่เซอไซนัสซึ่งเชื่อมประตูมิติกับสำนักงานใหญ่ บางทีคงจะมีเรื่องที่จำเป็นต้องคุยกันละมั้ง ทางฉันก็ไม่มีอะไรต้องทำเป็นพิเศษเลยตอบรับไป
สภาพคงไม่ต่างอะไรกับการไปนั่งคุยเล่นกันในห้องขังเดียวฉันเมื่อก่อนมั้ง
ตอนเช้าระหว่างเดินไปตามโถงก็เจอเข้ากับอัลฟ่าและฮาคัว ก็เลยได้จังหวะคุยกันระหว่างเดินนิดหน่อย
「หากจะให้พูดฉันสบายใจกับห้องขนาดเท่าอพาร์ตเมนต์เก่าที่เคยอยู่มากกว่า พอมาอยู่ห้องใหญ่ๆมันรู้สึกโล่งแปลกๆ」
ในห้องถูกแบ่งเป็นด้วยกัน 4 โซน วิวก็สวยมองเห็นทั้งป่า แม่น้ำ ว่ากันตามตรงมันเกินตัวสำหรับฉันสุดๆ
「งะ งั้นให้ฉันไปอยู่ห้องเดียวกับนายดีไหม?」
「ขอปฏิเสธ」
「เอ๋ ไหงงั้น」
「เธอมาอยู่ด้วยเดี๋ยวก็วุ่นวายพอดี!」
ฉันดันอัลฟ่าท่าเกาะกันเหมือนจะสิงออกขณะบ่น
ถึงจะเคยอยู่ด้วยกันมาแล้ว แต่ก็ต้องปฏิเสธเพราะไม่อยากยุ่งยาก
「ฉันอายุแค่ 3 ขวบเองนะ ส่วนฮาคัวก็ขวบเดียว นายไม่คิดว่ามันโหดร้ายบ้างหรือไงที่ให้เด็กอย่างพวกเราต้องนอนแยกห้องคนเดียว?」
「กับไอ้คนที่เคยลากฉันไปเป็นน้องชายน่ะขอร้องเลย」
「เดี๋ยวเถอะพี่ อย่าลากฉันไปยุ่งด้วยสิ……」
ฮาคัวพูดด้วยน้ำเสียงอันสั่นเทาเหมือนจะน้ำตาซึมด้วยวุ้ย
ถึงจะยกโทษให้เธอแล้วแต่บางครั้งมันก็อดไม่ได้ที่จะยกขึ้นมาแซว
「ไม่ต้องห่วงนะ ฉันว่าจะไปคุยกับเรมะเรื่องที่จะจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลพวกเธอด้วย」
「ถามจริง น่าอายสุดๆเลยนะนั่น!?」
「เห็นพวกเราปัญญาอ่อนขนาดนั้นเลยเหรอยะ?!」
「ล้อเล่นหรอกน่า」
อันที่จริงก็แอบคิดไว้เหมือนกันแหละ
แต่ก็อย่างว่าจะฝากยัยพวกนี้ให้คนอื่นดูแลมันก็แปลกๆไปหน่อย
สุดท้ายก็คงไม่พ้นมือฉันอยู่ดีแหละมั้ง
「ว่าแต่ ฮาคัวเธอกำลังอ่านดาต้าอะไรอยู่น่ะ?」
「อ้อ อันนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับพวกยานและอุปกรณ์ใหม่น่ะ」
「เจ๋งชะมัด จากนี้จะเบนไปทางสายเทคนิคเหรอ?」
「ก็ฉันไม่ใช่พวกสู้เก่งอะไร ดังนั้นหากอยากจะช่วยคัตซึนก็ต้องหาทางอื่นแหละ พี่เองก็เหมือนจะเรียนรู้หลายๆอย่างจากโอโมริซังอยู่ด้วย」
อัลฟ่าพยักหน้าให้กับคำพูดของฮาคัว
「เพราะฉันแทบจะไม่มีโอกาสออกจากสำนักงานใหญ่เลย ก็เลยคิดว่าต้องหาอะไรสักอย่างทำน่ะ」
「อย่าไปสร้างปัญหาให้โอโมริซังเขาล่ะ」
「รู้หรอกน่า ฉันก็หาทางช่วยคัตสึมิกับคนอื่นอยู่นี่ไง」
หากเป็นเรื่องความฉลาดฮาคัวกับอัฟฟ่านี่ไม่ต้องห่วงเลยสักนิด
แต่ที่ฉันกังวลก็คงจะเป็นการฝืนตัวเองเกินไปนี่แหละ
「…. งั้นฮาคัวเธอจะแยกกับเราตรงนี้สินะ」
「อื้อ」
「แล้วเจอกันตอนมื้อเย็น」
「คัตซึน ฝากทักทายพวกอากาเนะกับคนอื่นๆด้วยล่ะ」
หลังแยกกับพวกฮาคัวฉันก็มุ่งหน้าไปยังจุดที่มีอุปกรณ์วาร์ปติดตั้งไว้
***
ร้านกาแฟเซอไซนัส
เป็นร้านที่สร้างขึ้นมาใหม่โดยได้ความร่วมมือจากสำนักงานใหญ่จัสติสครูเซเดอร์ โดยชั้นสองของร้านจะเป็นจุดที่พวกอากาเนะพักผ่อนกัน
พอฉันเขาไปก็พบกับโต๊ะวงกลมและเก้าอี้ขนาดใหญ่
การตกแต่งภายในห้องให้บรรยากาศย้อนยุค มีโปสเตอร์เก่าๆเยอะเลย น่าจะเป็นงานอดิเรกของมาสเตอร์เขา รวมๆก็ไม่ต่างอะไรกับร้านเก่าที่โดนพวกเซไคเซ็นไตระเบิดไป
「โอ๊ะ อรุณสวัสดิ์ คัตสึมิคุง!」
「โอ้ มาละบ่นิ」
ประตูมิติข้างหลังปิดลง อากาเนะกับคิราระที่มาก่อนแล้วโบกมือต้อนรับฉัน
ฉันก็โบกมือให้พวกเธอแล้วนั่งตรงเก้าอี้ที่ว่าง จากนั้นอากาเนะก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปตรงบันได
「คอสโม่จัง! อยู่หรือเปล่าเอ่ย?」
พออากาเนะตะโกนออกมา คอสโม่ เด็กสาวผมสีเขียวสวมผ้ากันเปื้อนก็ปรากฏตัวขึ้น
「ร้านยังไงเปิดเลยนะ รีบมากันไปไหนเนี่ย!!」
「คือ ฉันอยากจะได้กาแฟสัก 3 ที่น่ะ」
「ฉันไม่ใช่คนรับพวกพวกเธอนะ!」
「ไม่ได้สิ คอสโม่จังเป็นพนักงานร้านนะ」
「เฮ้อ ก็ได้ๆ……กาแฟ 3 ที่!!」
ว่าแล้วคอสโม่ก็กลับไปข้างล่าง
แม้จะอยู่ในสภาพวุ่นๆ แต่ก็แอบโล่งใจที่เธอปรับตัวได้ดี
นอกจากนี้เธอก็สวมผ้าพันหัวที่ปิดบังผมสีเขียวเอาไว้ด้วย น่าจะไม่มีใครจับได้
หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที คอสโม่ก็นำกาแฟมาให้พวกเราพร้อมด้วยใบหน้าอันบูดบึ้งก่อนจะจากไป
「ว่าแต่ อาโออิยังไม่มาเหรอ?」
「ยังเลยนะ แต่เห็นว่าจะพาฮารุจังมาด้วย」
「ฮารุ….」
ก็จริงอยู่ที่ได้ยินว่าน้องสาวของอาโออิอย่างฮารุก็มีสิทธิ์ไปมาได้ แต่พอมาลองนึกดูตำแหน่งของเธอนี่คงสำคัญสุดเหมือนกันสินะ
หน้าที่ในการประชาสัมพันธ์……สำหรับตัวตนของนาโอะ อาโอฮานะที่รู้จักไปทั่วโลกแล้วก็คงได้รับการปฏิบัติประมาณนี้แหละมั้ง
「…ว่าแต่วันนี้เรียกฉันมาทำไมเหรอ?」
「หือ ก็ไม่ได้มีอะไรนะ」
……。
「โย้ช โปรโต ชิโระ กลับไปฝึกกันที่สำนักงานใหญ่ดีกว่า」
『เห็นด้วย』
『โฮก!!』
「เดี๋ยวก่อนสิ!! อย่างน้อยก็นั่งคุยอะไรกันหน่อยเถอะ!! โอกาสจะได้มานั่งชิลสบายๆแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆสักหน่อย!!」
ฉันถอนหายใจออกมาก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิมโดยมีอากาเนะจับแขนเอาไว้ไม่ให้จากไปไหน
ล้อเล่นหรอกน่ายัยนี่ก็จริงจังไปได้
เอาเป็นว่าระหว่างนี้ก็นั่งฆ่าเวลาด้วยการหาอะไรดูจนกว่าอาโออิกับฮารุมาถึงละกัน
「พอได้เห็นคัตสึมิคุงนั่งเล่นโทรศัพท์แบบนี้แล้วรู้สึกแปลกใหม่ดีจัง……」
「ก็นะพอได้ลองใช้ดูมันสะดวกสุดๆ」
น่าทึ่งชะมัด ไหนจะดูวิดีโอ ทำนั่นนี่อย่างกับทีวีขนาดจิ๋วเลย
คนบนโลกพกของสะดวกขนาดนี้ไปไหนมาไหนตลอดเลยสินะ
「คัตสึมิคุงกำลังดูอะไรอยู่เหรอ?」
ในขณะที่ฉันกำลังนั่งดูวิดีโอในโทรศัพท์ที่เรมะให้มา อากาเนะก็เดินมาอยู่ข้างหลังฉันแล้วถาม
「เอ๋ นี่มัน บันทึกประจำวันของพี่สาวไร้ประโยชน์เหรอ??」
「อ้า ฉันก็กำลังมาตามเอาสักพักนี่แหละ แอบชอบตรงที่มันบันทึกการใช้ชีวิตของพี่สาวที่ไร้ประโยชน์ชะมัด」
「ทั้งที่แชแนลก็เปิดได้ไม่นานแต่เป็นที่นิยมจริง」
ทางฉันเองก็กดเข้าไปดูเพราะมันขึ้นมาในหน้าแนะนำ แถมไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนกับว่าเคยเจอพี่สาวไร้ประโยชน์ในวิดีโอมาก่อน
น้ำเสียงลักษณะการพูดของเธอก็คุ้นหูชะมัด
「……」
「เป็นอะไรไปเหรอ?」
「อ๊ะ เปล่า ฉันคิดอะไรไปเรื่อยน่ะ」
ส่วนตัวก็ไม่เคยเจอใครที่มีความสามารถในการดำรงชีวิตอยู่ต่ำต้อยไปกว่าอัลฟ่ากับฮาคัวอีกแล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าได้พบเจอกับพี่สาวในวิดีโออีกเลยละกัน
แอบเห็นใจน้องชายของเธอที่เอาวิดีโอมาลงเหมือนกันวุ้ย
「….ได้ยินจากเรมะว่า อากาเนะกับคิราระจะเรียนต่อมหาลัยใช่ไหม?」
พอนึกขึ้นมาได้ก็เลยถามอากาเนะกับคิราระออกไป
ทั้งสองก็พยักหน้าแล้วยิ้มแห้งๆออกมา
「ถ้าเป็นแผนเก่าก็ใช่หรอก แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้คงไม่ได้เรียนต่อแล้วแหละ ฉันน่าจะออกมาทำงานที่นี่เลย」
「ทางฉันเองก็น่าจะเข้าบริษัทนี้เลย」
ฟังแล้วก็น่าเศร้าวุ้ย
อากาเนะกับคิราระไม่สามารถเรียนต่อได้เพราะพวกเอเลี่ยน
หากเป็นไปได้ก็อยากจะจัดการกับรูอินให้มันจบๆโดยเร็วที่สุด….
「……」
「มันไม่ใช่เรื่องที่คัตสึมิคุงต้องรู้สึกผิดหรอก」
「หล่อนเป็นเอสเปอร์เหรอเห้ย?」
「เห็นหน้านายก็รู้แล้วไหมว่าคิดอะไรอยู่」
หน้าของฉันมันอ่านง่ายขนาดนั้นเลยเรอะ
หรือเป็นเพราะนี่คืออากาเนะกันหว่า….
「โอ้ส」
「อรุณสวัสดิ์ค่ะ ทุกคน!」
อาโออิกับฮารุน้องสาวของเธอมาถึงแล้ว
ความแตกต่างของสามัญสำนึกเห็นได้ชัดจากการทักทายของ 2 พี่น้องที่ไม่เหมือนกันสักนิด
「อรุณสวัสดิ์ คัตสึมิน」
「อย่ามาเรียกชาวบ้านว่าคัตสึมินสิเห้ย」
「เรียกแบบนี้ จะไม่ถูกเมิน」
「หล่อนนี่นิสัยเสียชะมัด」
มาตั้งชื่ออะไรให้ชาวบ้านเขากัน
เรียกแบบปกติก็ได้ไม่ใช่หรือไงฟะ
「ขอโทษที่พี่ทำให้ปวดหัวค่ะ…」
「เธอเองก็ลำบากตลอดเลยนี่เนอะ」
「ม่ะ ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ คัตสึมิซัง」
จากนั้นฮารุก็พูดขึ้นเหมือนนึกอะไรออก
「ว่าแต่จริงเหรอคะที่พี่สาวฉันเป็นคนสอนภาษาแปลกๆให้?」
「อย่างคุสะ(草)หรือขรรม(ワロタ)น่ะเหรอ?」
「อ่ะ เฮือก……」
「ฮารุ!?」
อยู่ดีๆฮารุก็จับหน้าอกแล้วแสดงท่าทางทรมานออกมา
กะ เกิดอะไรขึ้นกับเธอกัน?!
「ยัยพี่สาวงี่เง่า เข้าใจบาปของตัวเองบ้างไหม….」
「บาปที่ทำให้คัตสึมิคุงใช้ภาษาเดียวกับฉันไม่ได้หนักหนา」
「อากาเนะซัง คิราระซัง เหมือนว่ายัยพี่คนนี้จะไม่สำนึกเลยค่ะ」
「ทำไมถึงไปลากยัยสองคนนี้มาร่วมด้วยล่ะ? รู้หรือเปล่าฮารุจัง ว่าฉันกำลังสร้างสมดุลให้กับกลุ่มอยู่ พวกเราแต่ละคนต่างก็ทำอะไรทำนองนี้กันเพื่อให้กลุ่มอยู่รอดต่อไปนะ 」
ฉันเองก็รู้อยู่แล้วว่าคำที่อาโออิสอนมันเป็นแสลง ดังนั้นจึงไม่นำมาใช้ในชีวิตปกติเลย
———เอาเป็นว่าตอนนี้ก็เฝ้าดูอาโออิถูกพวกอากาเนะที่จับมือกับฮารุรุมโจมตีละกัน
พอผ่านไปสักพักฉันก็ถามกับอาโออิบ้าง
「อาโออิว่าแต่เธอจะเอายังไงต่อกับการเรียน?」
「อุ หลังเรียนจบ ฉันวางแผนจะเป็นมิโกะของศาลเจ้าพร้อมกับทำงานVtuber 」
「ถามจริง เธอจะเอางั้นจริงดิ….โฮ่ย มองตากันสิเห้ย คงไม่ได้คิดจริงจังใช่ไหม?」
ยัยนี่เอาจริงเหรอฟะ?
ก็รู้อยู่หรอกว่ามีเงินเก็บจากการทำงานเป็นจัสติสครูเซเดอร์อยู่แล้ว แต่อย่าทำอะไรที่มันแปลกๆได้ไหม
「พี่คะ ถ้าอยากจะเป็นมิโกะสืบทอดต่อศาลเจ้าจริงๆ ยังไงก็ต้องไปเรียนมหาลัยเกี่ยวกับด้านนั้นอยู่ดีนะไม่รู้หรือไง?」
「……ไม่จริงน่า มีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ」
「นี่พี่ของฉันฉลาดหรือปัญญาอ่อนกันแน่เนี่ย」
หืม ว่าแต่มันมีมหาลัยที่เรียนเรื่องพวกศาลเจ้าอะไรงี้ด้วยเหรอเนี่ย
「โห มีด้วยเหรอ ฉันเองก็กำลังรู้」
「ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คัตสึมิซัง คนเราก็ย่อมมีสิ่งที่ไม่รู้กันบ้างอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลค่ะ」
「อากาเนะ น้องสาวฉันน่ากลัว」
ทำไมมันต่างจากอาโออิจังฟะ?
…หรือเพราะเป็นคนในครอบครัวด้วยกันเลยถูกปฏิบัติต่างจากชาวบ้าน
「เอ่อ คัตสึมิคุง」
「หือ?」
ก่อนจะรู้สึกตัวว่าสภาพตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับตอนอยู่ในห้องขังเดี่ยวเลย คิราระก็ทักฉัน
「นายรู้จักผู้หญิงที่ชื่อ ไฮรุ โคโนฮานะบ่?」
「!」
ฉันตกใจไม่น้อยที่คิราระพูดชื่อนั้นขึ้นมา
แต่คงไม่แปลกมั้งเพราะพวกเธอก็เรียนอยู่โรงเรียนและชั้นเดียวกัน
ไฮรุ โคโนฮานะ
ผู้หญิงที่เคยนั่งข้างๆฉันและพวกเรายังเป็นเพื่อนที่เคยพูดคุยกันอีกด้วย
「คัตสึมิคุง……?」
「….อ้า รู้จักสิ เธอเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างๆฉันตอนเรียนน่ะ แล้วก็เป็นเพื่อนเพียงไม่กี่คนของฉันด้วย」
「เพื่อน……」
「เพื่อน……」
「เพื่อน……」
「เฟรน……」
「พวกหล่อนจะพูดตามเพื่อ」
ทั้ง 4 คนรวมถึงไฮรุพูดขึ้นมาพร้อมกัน
มันแปลกมาเลยหรือไงฟะ ทำไมแสดงสีหน้าตกใจสุดๆเหมือนฉันเป็นพวกไม่มีใครคบ?
ว่าแต่ทำไมอยู่ดีๆถามกัน?
「คือว่า นายอยากจะเจอเธอบ่? หากคัตสึมิคุงต้องการเดี๋ยวฉันจะพาเธอมาเจอ…แน่นอนว่า จะต้องปรึกษาประธานก่อน」
「อย่าเลยดีกว่า หากเธอมาเกี่ยวข้องกับพวกเราอาจจะเกิดอันตรายขึ้นก็ได้」
เมื่อก่อนชีวิตฉันมักจะตกเป็นเป้าของพวกตัวปัญหา
ก็จริงว่าพวกสัตว์ประหลาดมันไม่เหลือแล้ว
แต่ว่า…..
「นอกจากนี้เธอก็จำเรื่องของฉันไม่ได้ด้วย」
「……หา?」
「หมายความว่ายังไงกัน คัตสึมิคุง?」
ฉันยิ้มแห้งๆให้กับอากาเนะ ที่ถามเรื่องนี้ บรรยากาศชวนให้อึดอัดใจชะมัด
「เพราะเมื่อก่อนเคยเกิดเรื่องขึ้นน่ะ ฉันเลยขอให้อัลฟ่าลบความทรงจำของเธอไป ดังนั้นเธอเลยจำเรื่องของฉันไม่ได้หรอก」
「เอ๋ แต่ว่า..ไฮรุ…ยังพูดถึงเรื่องของนาย…」
「ก็เพราะพวกเรานั่งติดกันนี่นา ยังไงก็ต้องมีเรื่องเล็กๆน้อยๆที่จำได้แหละ」
ไม่มีทางที่เธอจะจำเรื่องราวทั้งหมดได้หรอก
การทำงานของพลังอัลฟ่าคงไม่ต้องมีอะไรน่าเป็นห่วง
นอกจากนี้ถึงความทรงจำของเธอจะกลับมาได้จริงๆ ฉันก็ไม่มีความตั้งใจจะไปเจอเธอ
เหมือนกับตอนที่พวกสัตว์ประหลาดยังอยู่ ตอนนี้พวกเอเลี่ยนมันเข้ามารุกรานแล้ว
「ขอบคุณนะ คิราระ」
「….แต่จะไม่เป็นไรจริงๆเหรอ? ไฮรุเธอ…」
「แค่นี้ก็พอแล้ว」
ฉันตอบกลับคิราระที่แสดงท่าทางกังวลออกมา
ให้มันจบแค่นี้ดีกว่า
เพราะว่า———、
「อึก!!?」
พอฉันสังเกตเห็นใครบางคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ฉันก็ส่งเสียงตกใจออกมา
พวกอากาเนะมองไม่เห็นเหรอ?
ไม่สิ จากท่าทางของพวกเธอ ฉันเป็นคนเดียวที่เห็นสินะ?!
ในขณะที่ฉันกำลังคิดว่าจะทำยังไงดี ฉันก็ได้ยินเสียงวิ่งของคอสโม่มาจากทางชั้นแรก
「ฮะ โฮ่ย พวกเธอลงมาข้างล่างเดี๋ยวหนึ่งสิ!!」
「เอ๋?มีอะไรเหรอคอสโม่จัง」
「กะกะเกิดเรื่องแย่ขึ้นแล้ว!!」
ดูเหมือนจะมีเรื่องเกิดขึ้นที่ชั้น 1 แต่ยังไงก็ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าฉันแน่ๆ
ในขณะที่ฉันมองพวกอากาเนะกับคนอื่นๆลงไปข้างล่าง คอสโม่ก็เดินเข้ามาหาฉันที่ยังไม่ลุกไปจากที่นั่ง
「นี่ โฮมุระ!! นายเองก็ลงมาด้วยสิ!!」
「ไว้จะตามไป」
「หา?! ไม่ได้สิ ตอนนี้คือ พ่อของฉันปรากฏตัวขึ้นที่ชั้น 1 ของร้านแล้วนะ…ลำดับที่ 1 น่ะ!!」
「คอสโม่」
ฉันพูดโดยไม่ละสายตาจากคนตรงหน้าฉัน
「ตอนนี้ยังไม่ได้ เธอลงไปก่อน」
「โฮก!! โกร๊วววว……!!」
「เลโอ!?」
พอเห็นว่าเลโอแสดงท่าทีระวังและแตกตื่นสุดๆ คอสโม่ก็เริ่มจะสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่แปลกไป
「นะ นี่มันเรื่อง……、อึก!」
「ฉันไม่เป็นไร เธอรีบลงไปเถอะ」
「……ขะ เข้าใจแล้ว นายเองก็ระวังตัวด้วยล่ะ」
「อ้า」
พอสัมผัสได้แล้วว่าสายตาของฉันกำลังจับจ้องสิ่งใดอยู่ ใบหน้าของเธอก็ซีดยิ่งกว่าเก่า
「ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเยอะเลยนะตั้งแต่ตอนที่ฉันอัดแกไปล่าสุด」
เมื่อคอสโม่จากไปแล้ว บนชั้นสองก็เหลือเพียงแค่ฉันกับคนตรงหน้า
「….ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่ได้ รูอิน」
「ก็อยากจะพบกับแกสักหน่อยน่ะ จะมีเหตุผลอะไรเสียอีกเล่า คัตสึมิ?」
เหลือจะเชื่อชะมัด
ทว่าเธอก็ปรากฏตัวขึ้นมาแล้วจริงๆ รูอินยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะวางข้อศอกเอาไว้บนโต๊ะ
สิ่งที่นั่งตรงข้ามฉันด้วยท่าทางสุดหยิ่งผยอง ตัวตันที่ไม่ควรจะอยู่บนโลกนี้
ฉันก็รู้หรอกว่าระยะทางไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับเธอเลย รูอินที่โผล่มาตอนนี้ก็ไม่น่าจะใช่ร่างจริงด้วย
「ร่างที่ปรากฏออกมาให้แกเห็นตอนนี้จะคิดว่าเป็นร่างจิตก็ได้นะ พอดีคิดว่าถึงเวลาที่ต้องคุยกับแกสักหน่อยน่ะ」
「แต่ฉันไม่อยากเว้ย」
「รู้หรอกน่าว่าอยากจะคุยสุดๆ แต่ทำใจแข็ง เห้อ น่ารักเสียจริง」
「……」
ไม่สบอารมณ์เลยสักนิด ท่าทางที่เหมือนมองทะลุทะลวงทุกสิ่งได้
แต่ฉันก็มีเรื่องจะถามยัยนี่อยู่จริงๆ
「ลำดับหนึ่งที่มานั่นมันอะไร แกเป็นคนสั่งเหรอ?」
「เปล่าหรอก ไม่ใช่คำสั่งของฉัน บางทีอาจจะอยากมาเยี่ยมเยือนลูกบุญธรรมตัวเองมั้ง」
「……ลูกบุญธรรม?คอสโม่น่ะเหรอ?」
จะว่าไปคอสโม่เองก็บอกว่าพ่อตัวเองมานี่หว่า….
เธอเป็นลูกบุญธรรมของไอ้เวรนั่นเองสินะ
มันคือภาพของของลำดับ 1 ที่ฉันเห็นตอนเป็นคัตสึกิ ชิราคาวะ
ถึงจะเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว แต่ก็มั่นใจว่าฝีมืออยู่ในระดับเดียวกับซันนี่ ไม่ก็เหนือกว่า
「แต่ไม่ต้องเป็นห่วง ตาแก่นั่นไม่คิดจะสู้กับพวกแกหรอก」
「จะเป็นงั้นจริงเหรอ? ลำดับสูงสุดมาเพียงเพราะอยากเจอกับลูกตัวเองเนี่ยนะ?」
「แค่นั้นจริงๆ」
ท่าทางจะไม่ได้โกหก
แต่แค่นั้นมันก็สร้างความตื่นตระหนกให้คอสโม่ได้มากพอแล้ว
「รู้สึกยังไงบ้างล่ะที่ความทรงจำกลับมาทั้งหมดแล้ว?」
「ห่วยแตกสุดๆ รู้บ้างไหมว่ามันรู้สึกยังไงที่ความจำตัวเองแตกออกเป็นสองส่วนน่ะ」
「แต่แกก็มีความสุขดีไม่ใช่หรือไง?」
ความสุข?
ถามจริง สมองยัยนี่คิดยังไงถึงบอกว่ามีความสุข
「เพราะสูญเสียครอบครัวไปตั้งแต่ยังเด็กเลยไม่มีโอกาสได้สัมผัสมันนี่นา ซิกม่าถึงจะเป็นพี่สาวปลอมๆของแก แต่ฉันมันใจว่านั่นก็ส่งอิทธิพลเชิงบวกให้แกนะ」
「อย่ามาทำตัวเป็นผู้ปกครองหน่อยเลย เป็นเพราะแกขโมยความทรงจำฉันไม่ใช่หรือไง」
「ว่ากันตามตรงฉันก็สนุกไม่น้อยเลยนะ ที่ได้เห็นแกในสภาพไร้เดียงสาเหมือนเด็กหนุ่มทั่วไป」
「หยุดล้อเล่นแล้วเข้าเรื่องสักทีสิเว้ย!!」
น่าขนลุกชิบ!!
ยัยนี่กำลังเล่นกับสมองของฉันแล้วเฝ้าดูสภาพฉันตอนความทรงจำหายไปอย่างสนุกสนาน
นอกเสียจากยัยคนที่อ้างว่าเป็นพี่สาวของฉัน ไม่คิดบ้างหรือไงว่าต้องมีคนเดือดร้อนมากขนาดหลังฉันเสียความทรงจำไป
จะคิดบัญชีทบต้นทบดอกกับยัยนี่ให้ได้เลยคอยดู!!
「ถ้าจะมาพูดแค่นี้ก็รีบๆหายไปซะ」
「ดูจากสภาพแล้วตอนนี้แกก็กลับมาในสภาพที่สมบูรณ์สุดๆ แถมยังแกร่งกว่าเก่าอีก」
เธอพูดต่อโดยไม่สนใจฉัน
「ว่าแล้วเชียวแกนกลางที่ถูกสร้างขึ้นมาจากอัลฟ่าแฝดที่ไม่น่าจะกำเนิดขึ้นมาได้มันเข้ากันกับแกได้ดีสุดๆ จะเรียกว่าเป็นความโชคดีของฉันหรือเปล่านะที่ทุกอย่างมันนำพาให้แกแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ ไม่เคยสงสัยบ้างเหรอแกเป็นตัวตนจนโลกจริงไหม」
กำลังพูดถึงโปรโตกับชิโระเหรอ
ไม่ว่ายัยนี่จะพูดยังไง ฉันก็เป็นชาวโลกแน่นอน
ไม่เห็นจะมีความทรงจำว่าพ่อแม่ของตัวเองเป็นเอเลี่ยนเลยสักนิด นอกจากการที่ฉันเข้ากันได้กับสูทของโปรโตกับชิโระ ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
「สำหรับดาวโลกอันต่ำต้อยนี้มันไม่ได้มีค่าอะไรกับฉันเลยสักนิด จะอัลฟ่า จัสติสครูเซเดอร์ โกลดี้ องค์กรอันโนว หรือลำดับแห่งดวงดารา…ทุกสิ่งไม่ได้สำคัญอะไรเลยหากมาเทียบกับตัวของแก」
「ถ้าอยากจะมายุ่งวุ่นวายก็แค่กับฉันพออย่าไปยุ่งกับคนอื่น」
「ฮ่าๆ แกนี่มันน่าสิ้นหวังจริงๆ โลกใบนี้คงสำคัญกับแกมากเลยสินะ?」
รูอินยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ตรงข้ามกับฉันที่หงุดหงิดชิบ
เธอวางมือเอาไว้บนคางแล้วสบตาฉัน
「รู้นะว่าแกอยากจะเสียสละตัวเองให้มันจบๆ แต่ไม่มีประโยชน์หรอก」
「หมายความว่ายังไง?」
「คนเรามันจะแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไงกันหากยอมแพ้ให้กับทุกสิ่ง? อย่างน้อยก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันคิด」
「แกจะไปรู้อะไรเกี่ยวกับฉันกัน」
「โถ คิดแบบนั้นจริงเหรอ? ฉันว่าฉันรู้จักแกดีกว่าตัวของแกเองอีกนะ คัตสึมิ」
「……อึก」
มันน่าหงุดหงิดตรงที่ฉันไม่คิดว่าเป็นเรื่องโกหกนี่น่ะสิ
ยัยนี่คงจะได้เห็นทุกซอกทุกมุมของฉันตั้งแต่ที่ทำให้ฉันกลายเป็นคัตสึกิ ชิราคาวะไปแล้ว
สักวันหนึ่งปลายทางของพวกเราทั้งสองคนก็มีแต่ต้องฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง
「ตัวตนของอัลฟ่าที่หาได้ยาก…..ความสำเร็จของโอเมก้าในการสร้างตัวตนอย่างซิกม่า….มนุษย์โลกธรรมดาที่นั่งอยู่ข้างๆแก…..พวกที่สามารถเข้ากันกับสูทที่โกลดี้สร้างขึ้น….แกน่ะพยายามแข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องพวกมันไม่ใช่หรือไง」
「……จะจับคนทั้งโลกเป็นตัวประกันสินะ」
นิสัยเสียชะมัด
ยัยนี่มันรู้ดีว่าจะทำยังไงให้ฉันสู้ต่อไปได้
แม้จะไม่สบอารมณ์ แต่มันเข้าใจในตัวของฉันดีสุดๆ
「แกคิดจะทำลายโลกนี้ทิ้งหากฉันทำให้แกผิดหวังเหรอ?」
「……?」
รูอินเอียงหัวด้วยความสงสัย
จากนั้นไม่กี่วินาทีเธอก็หัวเราะออกมา
「ฮ่าๆๆๆ!! ผิดหวังในตัวแกงั้นเหรอ? โถ คัตสึมิ แกจำเป็นต้องถามอะไรแบบนั้นด้วยหรือไง?」
「ทำไมถึงจะไม่ได้ละเห้ย?」
「แกไม่ได้ตระหนักเลยสักนิดว่าแกเป็นตัวตนแบบไหน การที่แกยังคุยกับฉันในสภาพที่มีสติครบถ้วนได้แบบนี้มันก็มากพอแล้ว」
ดูเหมือนยัยนี่จะให้ค่าฉันสูงลิบ
น่ารำคาญจริงวุ้ย
「แกเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันของฉันเลยสักนิด」
「แกแค่ยังหาไม่ทั่วจักรวาลหรือเปล่า」
「หึหึ คิดว่าแกกำลังคุยกับใครอยู่กัน?」
นั่นสินะ ยัยนี่เป็นถึงวายร้ายที่ปกครองจักรวาลนี่หว่า
「นี่คัตสึมิ โลกใบนี้มันสำคัญกับแกมากเลยเหรอ?」
「……」
「แกอยากจะปกป้องพวกขยะนี่ต่อไปใช่ไหม?」
รูอินมองใบหน้าของฉันแล้วยิ้มออกมา ใบหน้าของฉันที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ฉันจ้องมองยัยนี่โดยไม่พูดอะไรออกมา
ไม่มีประโยชน์ที่จะลงมือตอนนี้
ร่างที่ยัยนี่ส่งมาไม่ใช่ร่างจริง ถึงจะโมโหอะไรไปก็มีแต่จะทำให้ยัยนี่สนุกกว่าเดิม
ฉันเลยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องอดทนเงียบให้เรื่องมันจบ
「หากโลกมีความสำคัญกับแกขนาดนั้นจริง ก็รีบแข็งแกร่งให้มากพอจนฆ่าฉันได้ซะ ฉันเชื่อว่าแกคงไม่ทรยศต่อความคาดหวังของฉันหรอก」
「หา?」
ยัยนี่มันพูดบ้าอะไรกันฟะ
ความโกรธของฉันมันพุ่งขึ้นสูงกว่าเดิมจนแทบทนไม่ไหว
ที่ทำไปทั้งหมดนี้ก็เพื่ออยากให้ฉันฆ่าทิ้งเนี่ยนะ
คิดบ้างหรือเปล่าว่าโลกต้องเดือดร้อนมากแค่ไหน
ก็จริงอยู่ว่ามันเป็นความผิดของฉันส่วนหนึ่ง แต่ยัยนี่มันเกิดเยียวยาสุดๆ
「จริงอยู่ว่าแกน่ะแกร่งสุดๆ……」
แต่อย่าคิดเชียวว่าจะอยู่ตรงนั้นไปได้ตลอด!! ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าไอ้แกร่งที่สุดในจักรวาลมันยิ่งใหญ่ขนาดไหน แต่คอยดูเถอะฉันจะแสดงให้แกเห็นเองว่าฉันทำอะไรได้บ้าง!!
ฉันจ้องมองไปยังรูอินด้วยดวงตาอันแดงก่ำ เพราะโกรธสุดๆ
「แต่ฉันจะทำให้แกได้รับรู้จนไม่สามารถแสดงรอยยิ้มอันน่ารังเกียจออกมาได้เอง!!」
พอรูอินได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีสุดๆ
「……ว่าแล้วเชียวแกนี่มันน่ารักจริงๆ」
「หา?」
「พอได้คุยกับแกแล้วมันรู้สึกดีสุดๆไปเลย ทั้งสายตา ท่าทาง คำพูดพวกนี้」
เธอเอนตัวพิงเก้าอี้ด้วยความพึงพอใจ
ทำไมยัยนี่ถึงอารมณ์ดีเพราะโดนพูดแย่ๆใส่ฟะ
「ไม่ไหวๆ ถ้าอยู่นานกว่านี้ คงทนไม่ได้แน่」
「……」
ฉันรีบเอามือไปแตะที่ข้อมือซ้ายซึ่งสวมโปรโตอยู่ทันทีที่สัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่า
จากนั้นรูอินก็สงบสติตัวเองลงแล้วพูดต่อ
「ถึงเวลาจะต้องไปแล้วสิ」
「อย่าคิดว่าชาวบ้านเขาจะยินดีให้แกมาอีกครั้งสิเห้ย」
「ไว้คราวหน้าจะมาในแบบอื่นละกัน」
「ฟังที่คนอื่นพูดบ้างสิเห้ย———หายไปแล้ว……」
เธอหายไปก่อนที่ฉันจะพูดพบ
แค่คุยก็แทบหมดแรงแล้ววุ้ย ว่าแล้วฉันก็หยิบกาแฟขึ้นมาจิบ
「อย่ามาล้อกันเล่นนะเห้ย」
ฉันไม่ได้โง่พอจะไม่เข้าใจถึงความต่างของพลังที่มีตอนนี้
ทว่าถึงจะเป็นแบบนั้นฉันก็จะสู้ต่อไปโดยมีเป้าหมายว่าต้องชนะเท่านั้น ถึงจะไม่สบอารมณ์สุดๆก็ตาม
「เห้อ……」
ฉันเผลอถอนหายใจออกมา ก่อนที่ประตูมิติจะเปิดขึ้นข้างหลังฉัน
เป็นร่างของเรมะที่โผล่ออกมาด้วยความตื่นตระหนก ก่อนจะชนเข้ากับโต๊ะจนเกิดเสียงดังลั่น
「เรมะ!?」
「คะ คัตสึมิคุง!! ดะ ได้ยินว่าลำดับที่ 1 โผล่มาแล้วงั้นเหรอ!!」
「…ก็ใช่อยู่หรอก พอดีเจอเรื่องที่น่าตกใจจนลืมไปเสียสนิทเลย」
「มันจะมีเรื่องไหนน่าตกใจกว่าลำดับที่1 โผล่มากัน?!?! ไม่สิ เอาเป็นว่ารีบลงไปกันเถอะ!!」
「อะ อ้า」
เพราะการปรากฏตัวของยัยรูอินมันกินแรงเยอะเลย ก็เลยลืมเรื่องของชั้น 1 ไปเสียหมด
จากนั้นฉันก็ตามพวกอากาเนะกับเรมะลงไปที่ชั้น 1 ทันที
***
รูอินมีความสุขสุดๆที่ได้พูดคุยกับคัตสึมิ แถมยิ่งคัตสึมิโมโหแล้วพ่นคำหยาบคายออกมาเธอก็ยิ่งสนุกยิ่งกว่าเดิม
–จบ–
คัตซึมิน่าจะได้เจอกับไฮรุเร็วๆนี้แหง ว่าแต่ทำไมรูอินถึงได้ทิ้งปมให้คิดว่าคัตสึมิอาจจะไม่ใช่มนุษย์โลกน้อ ไหนจะเรื่องที่ลำดับ 2 บอกอีก ปริศนายังเยอะไม่หาย
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code