อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 644 ถึงยังไงก็ต้องทน ตอนที่ 645 กลิ้งขอสาว
ตอนที่ 644 ถึงยังไงก็ต้องทน ตอนที่ 645 กลิ้งขอสาว
ตอนที่ 644 ถึงยังไงก็ต้องทน
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังกินอาหารเช้าเสร็จ มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนก็ออกเดินทางกลับเมืองเย่ว์ตู
ขณะอยู่บนเครื่องบินตี้อู๋เปียนก็เริ่มตื่นเต้นแล้ว
“ซาลาเปาน้อย เธอว่าพ่อกับพี่ชายเธอยอมรับฉันแล้วไหม”
“พวกเขาก็ยอมรับมาตลอด ก็แค่ไม่อยากให้ฉันแต่งงานเร็ว”
“งั้นตอนนี้…” น้ำเสียงคาดหวังสุดๆ
“ก็ยังไม่เร็วขนาดนั้น” มู่เถาเยากลั้นขำ
เธอเพิ่งอายุยี่สิบสาม ไม่รีบจริงๆ
ตี้อู๋เปียน “…” นี่เขาดีใจเก้อใช่ไหม
“งั้นเธอว่าเมื่อไรดี”
“อีกสี่ห้าปีแล้วกัน”
“!” ตี้อู๋เปียนอึ้ง
อุ๊บ…มู่เถาเยาอดขำไม่ได้
“…ซาลาเปาน้อย เธอใจร้าย”
“ต่อให้อีกห้าปี ฉันก็เพิ่งยี่สิบแปด”
“แต่พอเธอยี่สิบแปดฉันก็สามสิบสามแล้ว อายุไม่น้อยแล้วนะ”
“สามสิบสามก็ถือว่ายังไม่เยอะ พี่ใหญ่ฉันเกินสามสิบแล้วก็ยังไม่ได้แต่งงาน” สมัยนี้คนอายุสี่สิบที่ยังไม่แต่งงานมีเยอะแยะไป
ตี้อู๋เปียนรีบพูดขึ้น “ซาลาเปาน้อย ฉันไม่ใหญ่เหรอ ยังใหญ่ไม่พอเหรอ บอกมาเลยฉันใหญ่ไม่ใหญ่”
“…”
เธอกับเขาคุยเรื่องอายุอยู่ชัดๆ เขาวกไปไหนแล้วเนี่ย! เล่นเอาสมองเธอมีภาพจินตนาการปรากฏ!
พอไม่ได้คำตอบ ตี้อู๋เปียนก็จับมือมู่เถาเยา
“เอาล่ะๆ คุณใหญ่ ใหญ่ที่สุด”
ถึงจะพูดแบบขอไปที แต่ตี้อู๋เปียนก็ไม่เซ้าซี้ต่อ กลับเข้าเรื่องเมื่อครู่ “ซาลาเปาน้อย ฉันไม่อยากรอนานขนาดนั้น”
“แล้วไง คุณจะไปหารักใหม่เหรอ” มู่เถาเยาเลิกคิ้ว
“จะเป็นไปได้ยังไง!”
“แล้วจะรีบทำไม ตอนนี้พวกเราเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ต่างกับแต่งงานเท่าไร”
“ไม่ดี แต่งงานก็นอนห้องเดียวกันได้ ตอนนี้ได้เหรอ แตกต่างน้อยที่ไหนล่ะ ต่างกันราวฟ้ากับเหว!”
มู่เถาเยาแกล้งเขา “คุณชอบอะไรที่เร้าใจไม่ใช่เหรอ แบบนี้ก็สมดังใจแล้วนี่” แม้แต่จะไปเก็บ ‘สมุนไพร’ ในป่าเซียนโหยวก็คิดออกมาได้!
“เร้าใจบ่อยๆ ก็ไม่เร้าใจแล้ว”
“เดี๋ยวกลับถึงเย่ว์ตูคุณก็กลับเมืองหลวงไปทำงานเถอะ อย่าเอาแต่คิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง”
“ไม่เป็นเรื่องตรงไหน นี่มันเรื่องสำคัญระหว่างสามีภรรยาเลยนะ! อีกอย่าง ฉันทำงานที่ไหนก็เหมือนกัน เมื่อก่อนตอนร่างกายไม่ค่อยดีก็ไม่ได้ไปที่ทำงานเหมือนกัน…” บลาๆ ๆ
มู่เถาเยาเถียงสู้เขาไม่ได้จึงปล่อยเลยตามเลย
อย่างไรเสียเธอก็มีงานต้องทำ เขาอยู่ไหนก็ไม่ส่งผลกระทบต่อเธอ
พอถึงเมืองเย่ว์ตู มู่เถาเยาโทรหาทุกคนเสร็จก็กินข้าวเย็นกับตี้อู๋เปียนก่อนแล้วถึงเข้าห้อง
มู่เถาเยาดึงเสื้อผ้าตี้อู๋เปียน “ขอฉันดูแผลบนตัวหน่อย”
พ่อกับพี่ชายเธอไม่ทำที่หน้าเขา ไม่ใช่ว่าสงสารหรอก แต่กลัวเธอสงสาร ร่างกายมีเสื้อผ้าปิดบัง มองไม่เห็นก็จะคิดว่าไม่มี ไม่เกิดความสงสาร
ตี้อู๋เปียนปล่อยให้เธอถอดเสื้อผ้า
มียาของเธอ บาดแผลก็หายไปเยอะแล้ว มีรอยอยู่บ้าง มู่เถาเยาพอจะเดาได้ว่าบาดเจ็บระดับไหน
“พ่อกับพี่ชายฉันยั้งมือแล้วนะเนี่ย เลือกอัดเฉพาะตรงเนื้อเยอะๆ”
“ไม่ยั้งหรอก เข้าเนื้อเต็มๆ อาจเพราะกินของดีไปเยอะ แผลก็เลยหายค่อนข้างเร็ว”
“…ฉันสงสารคุณจริงๆ”
ตี้อู๋เปียนโอบมู่เถาเยา รู้สึกว่าก็แอบโชคดีเหมือนกัน “ดีนะที่พวกเขาไม่รู้ว่าพวกเราไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันอาจนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปอีกหลายเดือน”
หลังจากโดนอัดเขาก็เข้าใจคำพูดของมู่เถาเยาก่อนหน้านี้แล้ว ขาหักยังถือว่าเบา
“อย่าทำเป็นได้ใจ สักวันก็ต้องรู้”
“…ซาลาเปาน้อย ผู้หญิงชอบเข้าข้างผู้ชาย แต่เธออยู่ข้างไหนเนี่ย”
มู่เถาเยาหัวเราะ สักพักถึงหยุด “พอเถอะ ฉันกลับห้องไปเก็บของก่อน”
“พรุ่งนี้ค่อยเก็บ ตอนนี้…”
มู่เถาเยาผลักเขาออก ทิ้งคำพูดไว้ “เพิ่งกินอิ่มห้ามออกกำลัง” เดินไปทางประตู
“ก็ได้ อีกเดี๋ยวไปห้องเธอนะ”
มู่เถาเยาหันกลับมายิ้มกวนประสาท “โทษทีนะ วันนี้เพื่อนเก่ามาเยือน”
“…ซาลาเปาน้อย เธอจงใจใช่ไหม ทำไมเมื่อกี้ไม่บอก”
“บอกตอนนี้ก็เหมือนกัน คุณนอนคนเดียวนะ ฉันกลับห้องล่ะ”
ตี้อู๋เปียนเห็นเธอไม่หันกลับมาอีกก็ถอนหายใจหนักหน่วง
อดอยากมาสิบกว่าวัน ยังต้องรออีกสองสามวัน! ชีวิตมันช่างยากเหลือเกิน!
เฮ้อ แต่ถึงยังไงก็ต้องทน!
ตี้อู๋เปียนถอนหายใจอีกครั้ง เริ่มจัดข้าวของตัวเอง
หลับยาวตลอดคืน
หลังกินอาหารเช้าเสร็จทั้งสองคนก็ขับรถที่เต็มไปด้วยของของลู่จือฉินกับเสี่ยวลู่ลู่ ไปบ้านตี้อู่
ไม่เจอกันสิบกว่าวัน เด็กน้อยเจ้าเนื้อแถมยังจิ้มลิ้มขึ้น พอเห็นมู่เถาเยาก็ฉีกยิ้มใหญ่
ถึงจะยังยื่นมือออกมาให้อุ้มไม่เป็น แต่ก็โบกมือกับแกว่งขาถี่ขึ้นแล้ว
คุณนายผู้เฒ่าตี้อู่ย่าของเขาพูดด้วยความดีใจ “ดูเด็กคนนี้ดีใจสิ นี่ต้องชอบเสี่ยวเยาเยาขนาดไหนนะ!”
ปู่ของเขายิ้มพูด “เสี่ยวลู่ลู่ก็ดูชอบอู๋เปียนนะ ดูสายตาของเขาสิ มองไปทางอู๋เปียนตลอดเลย”
ทุกคนพากันหันไปมอง จริงด้วย
ลู่จือฉินพูดด้วยความรู้สึกขำ “เด็กคนนี้คงไม่ได้ชอบมองที่หน้าตาใช่ไหม” จุดนี้ไม่เหมือนพ่อเขาเลย
ถ้าพ่อของเขาชอบคนที่หน้าตาก็คงไม่มีทางชอบเธอ อย่างไรเสียหน้าตาเธอก็แสนจะธรรมดา อวัยวะเดียวที่ดูดีบนใบหน้าก็คือดวงตา
ในเมื่อไม่เหมือนพ่องั้นก็เหมือนเธอเหรอ
ร่างเล็กของลู่จือฉินเกร็งขึ้นมาทันที ไม่กล้าเชื่อว่าตัวเองจะเป็นคนมองคนที่หน้าตา!
แต่พอดูใบหน้าหล่อเหลาของตี้อู่เหลียนจิงเธอก็ชักไม่แน่ใจแล้ว ไม่อย่างนั้นคนที่ไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานแบบเธอทำไมถึงได้หลงเสน่ห์จนถึงขั้นแต่งงานได้ล่ะ!
ตี้อู่เหลียนจิงมีเหรอจะรู้ว่าความคิดของภรรยาเตลิดไปไกลจนถึงตัวเขาแล้ว พอเห็นเธอมองเขาจึงพูดขึ้น “เสี่ยวลู่ลู่ของพวกเราหน้าตาดี ต่อให้ชอบมองที่หน้าตาก็ไม่เป็นไร วันหน้าให้ส่องกระจกบ่อยๆ ก็ได้แล้ว”
มู่เถาเยาได้ยินตี้อู่เหลียนจิงพูดแบบนี้สมองก็จินตนาการถึงเด็กผู้ชายที่วันๆ เอาแต่ส่องกระจกไม่ยอมนอน จนโตเป็นวัยรุ่น เป็นชายหนุ่ม…เธออดขำจนตัวสั่นไม่ได้
อันนี้ก็ฮาเกินไป!
ตอนที่ 645 กลิ้งขอสาว
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนอยู่ที่เมืองเย่ว์ตูสองสามวัน พอถึงสุดสัปดาห์ก็กลับหมู่บ้านเถาหยวน
ชาวหมู่บ้านเถาหยวนดีใจกันใหญ่ราวกับเป็นช่วงตรุษจีน! มู่เถาเยาไม่เคยห่างหมู่บ้านเถาหยวนไปนานขนาดนี้มาก่อนยกเว้นช่วงไปเรียนกับฝึกซ้อม
กินอาหารกลางวันกันอย่างครึกครื้นเสร็จไปไม่นาน พวกหนุ่มสาวอย่างมู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน อวิ๋นสุ่ยเหยา น่าหลานอวิ๋นไค ตี้อู๋โยว กู้หาน จั่วอีเหิง โจวซือหย่วน เซี่ยซิงเฉิน เป็นต้น ก็นั่งเครื่องบินของจั่วอีเหิงกลับมากัน
เซี่ยซิงเฉินยังได้เอาช่อดอกไม้นานาชนิดจากสวนบ้านตัวเองกลับมาฝากมู่เถาเยา เช่น ดอกกุหลาบ ดอกทิวลิป ดอกพุดซ้อน และอื่นๆ
ตี้อู๋เปียนหน้าบึ้งขึ้นมาทันที
นี่จะประกาศตีท้ายครัวเขาเหรอ!
แล้วก็ ทำไมเขาไม่เคยคิดเรื่องให้ดอกไม้เลยนะ!
ดูเหมือนว่าเขาไม่เคยให้ของอะไรแก่ผู้หญิงที่เขาชอบเลยยกเว้นสมุนไพร!
ตี้อู๋เปียนรู้สึกไม่พอใจสุดๆ!
แต่เรื่องที่ทำให้เขาโมโหยิ่งกว่าคือหลังจากนั้น โจวซือหย่วนควักแหวนออกมาแล้วถือดอกไม้ของเซี่ยซิงเฉินมาขอซาลาเปาน้อยของเขาแต่งงาน! ไอ้บ้าเอ๊ย!
เซี่ยซิงเฉิน “…” ไอ้บ้าเอ๊ย! ตอนนั้นที่ตกลงกันไม่ใช่แบบนี้! ทำไมเพิ่มบทเองวะ!
ฮึ ทำอย่างกับว่าคนอื่นทำไม่ได้!
ก็แค่แหวน มีเหมือนกัน!
จากนั้น…พวกผู้ชายที่ตามมาอีกหลายคนก็ล้วงกระเป๋า
มู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน กับพวกชาวบ้านต่างพากันหัวเราะเสียงดัง
นี่มันละครฉากใหญ่เลยนะ!
มู่เถาเยาในเวลานี้เพิ่งฝังเข็มให้อดีตผู้ใหญ่บ้านเสร็จ กำลังฆ่าเชื้อเข็มทอง พอเห็นทุกคนทำแบบนั้นก็กะพริบตาปริบๆ ถามด้วยความงุนงง “นี่เล่นเกมอะไรกันอยู่เหรอ”
เซี่ยซิงเฉิน “เกมขอเธอแต่งงาน”
ถ้าสำเร็จมันก็ไม่ใช่เกมแล้ว แต่เขาไม่ได้มีความหวังมากเท่าไร
ตี้อู๋เปียนกระโดดเหมือนแมวถูกเหยียบหาง เข้าไปขวางข้างหน้ามู่เถาเยา พูดกับผู้ชายพวกนั้นด้วยความโมโห “ซาลาเปาน้อยเป็นของฉัน!”
โจวซือหย่วนไม่โมโห ทั้งยังยิ้มตาหยีพูด “ชายหญิงที่ยังไม่แต่งงานกัน ใครๆ ก็มีโอกาส”
หยวนเหยี่ยพูดเหมือนรู้สึกว่ายังสนุกได้กว่านี้อีก “ใช่ๆๆ ยังหนุ่มยังสาวก็มีโอกาสทั้งนั้น”
“ปู่หยวน!” ตี้อู๋เปียนไม่อยากเชื่อว่าหยวนเหยี่ยจะพูดแบบนี้ออกมา ทุกคนก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าเขากับซาลาเปาน้อยคบกัน
อย่างที่คิด เรื่องบางเรื่องต้องประกาศให้ชัดเจนไปเลยถึงจะดี!
“อู๋เปียน บ้านไหนมีลูกสาวใครๆ ก็อยากสู่ขอ เสี่ยวเยาเยาของพวกเราเก่งขนาดนี้ หัวกระไดบ้านจะไม่แห้งก็เรื่องปกติ ใครขอได้ก็เป็นของคนนั้น!”
ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน
ตี้อู๋เปียนดึงมู่เถาเยาขึ้นมาโอบไว้ในอ้อมกอด “ซาลาเปาน้อย พูดมาเลยว่าเลือกใคร!”
“เอ่อ…” ยังจะต้องเลือกอีกเหรอ เขามองไม่ออกเหรอว่าคนพวกนี้แกล้งเขาอยู่ สมองถูกกินไปหมดแล้วเหรอ
“ซาลาเปาน้อย ฉันถูกเธอเห็นหมดแล้ว ไม่สะอาดแล้ว เธอต้องรับผิดชอบฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะกลิ้งจากหน้าหมู่บ้านไปท้ายหมู่บ้าน ให้คนทั้งหมู่บ้านรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดี!” เดิมทีเขาอยากพูดว่าเธอนอนกับเขาแล้ว แต่ตอนนี้มีคนแก่กับเด็กอยู่ด้วยเยอะ…
มู่เถาเยา “!”
ทุกคน “!”
“ซาลาเปาน้อย ถ้าเธอไม่รับผิดชอบฉัน ฉันจะกลิ้งจากหน้าหมู่บ้านไปท้ายหมู่บ้านวันละสามมื้ออาหาร ให้คนหมู่บ้านเถาหยวนรู้ว่าเธอได้แล้วทิ้ง!”
ซย่าโหวโซ่วพูดด้วยความตื่นเต้น “เสี่ยวเยาเยา รีบให้อู๋เปียนกลิ้งให้พวกเราดูสิ”
ตี้อู๋เปียน “…” มีใครเข้าข้างเขาบ้างเนี่ย!
โจวซือหย่วน “ถ้ากลิ้งแล้วเสี่ยวเยาเยาแต่งงานด้วย ผมจะกลิ้งจากหมู่บ้านเถาหยวนกลับเมืองหลวงเลย แถมกลิ้งกลับมาให้ด้วย”
เซี่ยซิงเฉินพูดต่อ “ใช่ๆ! ใครๆ ก็ทำได้”
มู่เถาเยา “…” อยากเล่นก็เล่นกันไป เอาฉันเข้าไปเกี่ยวทำไม
ตี้อู๋เปียนชักร้อนใจ “ซาลาเปาน้อย เธอเคยบอกว่าเรื่องบางอย่างมีแค่ฉันที่ทำ…”
มู่เถาเยารีบเอาเข็มทองที่ฆ่าเชื้อแล้วในมือสกัดจุดปิดปากเขา “อาการกำเริบอีกแล้ว เดี๋ยวฉันรักษาให้นะ” พูดจบก็ลากเขากลับห้อง
เขาจำเป็นต้องได้รับการสั่งสอน! เพราะบางคำพูดห้ามป่าวประกาศต่อหน้าผู้คน!
ทุกคนขำกันจะตาย
โจวซือหย่วน เซี่ยซิงเฉิน และพวกผู้ชายที่เตรียมแหวนมาก็หัวเราะ เพียงแต่รอยยิ้มเจือไปด้วยความขื่นขมและเจ็บปวด
ถึงแม้นี่จะเป็นเกมที่แกล้งตี้อู๋เปียน แต่พวกเขาชอบเสี่ยวเยาเยาเป็นเรื่องจริง และก็จะใช้โอกาสนี้ทำให้ตัวเองตัดใจ ไม่อย่างนั้นต่อไปเป็นเพื่อนกันก็อึดอัด
นับตั้งแต่ทั้งสองคนเที่ยวกลับมา เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว พวกเขาไม่ได้ตาบอด ย่อมมองออกว่าเสี่ยวเยาเยาก็ชอบคุณชายเล็ก
ถ้าทั้งสองคนไม่ชอบพอกัน พวกเขาไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ
ปู่เย่ว์หุบยิ้ม ตบบ่าเซี่ยซิงเฉินเบาๆ พูดปลอบใจ “บนโลกนี้ยังมีสาวๆ อีกเยอะ”
หลานสาวมีคนชอบเยอะเพราะมีเสน่ห์ แต่ก็ไม่เคยให้ความหวังใครนอกจากอู๋เปียน
“ครับ ปู่เย่ว์ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ พวกเรายังทำงาน ใช้ชีวิตเหมือนเมื่อก่อนได้” เพราะเสี่ยวเยาเยาไม่รู้เลยว่าพวกเขาชอบเธอ คิดแค่ว่าเป็นเพื่อนหรือเป็นเพื่อนร่วมงาน
“ปลงได้ก็ดีแล้ว”
ย่าเย่ว์ยิ้มพูด “จัดหาห้องให้พวกเธอก่อน ไปเก็บข้าวของนะ เดี๋ยวมาเตรียมของไปย่างบาร์บีคิวที่ล่างเขากัน” คนเยอะทำกับข้าวลำบาก
พวกเด็กๆ ส่งเสียงร้องด้วยความดีใจ
พวกเด็กๆ ไม่เข้าใจว่าพวกพี่ชายทำอะไรกัน ยกเว้นเยี่ยนหัง พอเห็นพวกผู้ใหญ่หัวเราะพวกเขาก็หัวเราะตามแบบงงๆ
มู่หว่าน “เดี๋ยวฉันหาที่พักให้ทุกคนนะ”
จั่วอีเหิงยิ้มพูด “สาวๆ ไปพักบ้านพี่” บ้านของเธอสร้างเสร็จแล้วพร้อมเข้าพัก
ตี้อู๋โยว “พวกผู้ชายไปพักบ้านอวิ๋นกับพี่ได้ ไม่ต้องแยกกันหรอก”
เจียงเฟิงเหมียนกับอวิ๋นสุ่ยเหยาไปพักบ้านตระกูลเย่ว์
กู้หานกับเย่ว์จือเหิงหมั้นกันแล้ว ย่าเย่ว์ย่อมลากเธอกลับบ้านตระกูลเย่ว์ด้วย
น่าหลานอวิ๋นไคก็ย่อมตามมู่หว่านไป
ตอนที่ตี้อู๋เปียนกับมู่เถาเยาลงมาจากห้อง ภายในห้องรับแขกกับหน้าบ้านก็ไม่มีคนแล้ว แต่มีข้อความในโทรศัพท์มือถือ พวกเขาจึงเหาะจากบ้านไปสนุกสนานกับทุกคนที่ล่างเขา