อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 408 ทำไมขี้เหร่แบบนี้
ตอนที่ 408 ทำไมขี้เหร่แบบนี้
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ มู่เถาเยากับลู่จือฉินก็ไปเปลี่ยนยาในกล่องยาใบน้อยของตัวเอง
ยาที่จำเป็นสำหรับเข้าเขตป่าชั้นในจะแตกต่างจากที่พกยามปกติ
อาจารย์แม่รองช่วยถังถังกับตี้อู่หลันฉือเตรียมของกิน
เนื่องจากต้องตามเข้าเขตป่าชั้นใน ถังถังกับตี้อู่หลันฉือถึงกลับหมู่บ้านเถาหยวนซานมาด้วย
ปาอินอยากรอกลับไปฉลองตรุษจีนที่เผ่าพร้อมมู่เถาเยา เลยตามกลับมาก่อน
คนตระกูลน่าหลานมองทุกคนที่กำลังงานยุ่ง ราวกับไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรดี
สวีเสี่ยวเจิงถามถังถังที่กำลังเอาอาหารใส่ถุงพลาสติก “เสี่ยวถังถัง ต้องเอาอะไรไปบ้างเหรอจ๊ะ”
“อาใหญ่กับอารองน่าหลานเอาแค่ชุดสำหรับเปลี่ยนของตัวเองก็พอแล้วค่ะ เช็กเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย อย่าให้อวัยวะส่วนไหนพ้นนอกเสื้อผ้ายกเว้นใบหน้า ป้องกันผิวสัมผัสกับพวกแมลงพิษพืชมีพิษ และก็ตรวจเช็กอาวุธพกพาด้วยค่ะ”
“จ้ะ”
สวีเสี่ยวเจิงกับอวี้อวี๋ตรวจเช็กสามีตัวเองกับพวกเสื้อผ้าที่เอาไปอยู่หลายรอบ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอะไรบกพร่องถึงวางใจ
น่าหลานรั่วหงกับน้องชายตรวจเช็กหอกยาวกับมีดพกของตัวเอง
นี่เป็นอาวุธถนัดที่พวกเขาพกมาจากบ้าน
มู่เถาเยากับลู่จือฉินกลับมาจากห้องปรุงยาก็ถามขึ้น “เตรียมเสร็จหรือยังคะ”
ตี้อู่หลันฉือตอบ “พวกเราเสร็จแล้วเสี่ยวเยาเยา”
“ค่ะ ครั้งนี้พวกเราไม่เอาเต็นท์ไปด้วย แต่ละคนสะพายเข่งคนละใบสำหรับใส่สมุนไพร พวกเราจะเก็บสมุนไพรทุกชนิดยกเว้นดอกไม้สองชีวิต หญ้าพิษชีวิต ดอกพันวัน” ใกล้ฉลองตรุษจีนแล้ว เก็บสมุนไพรมากหน่อยไปเป็นของขวัญ
ทุกคนพยักหน้า
พวกเขาไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่สมุนไพรชั้นดีที่มาจากป่าเซียนโหยวใช่ว่ามีเงินก็ซื้อได้ เพราะมันไม่มีขายในตลาด!
พอได้ลองใช้สมุนไพรชั้นดีจากป่าเซียนโหยวเท่านั้นแหละ ก็จะไม่สนสมุนไพรอย่างอื่นอีกต่อไป
“อาใหญ่กับอารองคอยคุ้มกันให้พี่หลันฉือกับพี่ถังถังอยู่ตรงกลาง หนูกับอาจารย์สามจะขนาบข้างค่ะ”
สองพี่น้องพยักหน้าพร้อมกัน
พวกเขาไม่รู้ว่าเขตป่าชั้นในเป็นอย่างไร แต่เชื่อฟังคนมีประสบการณ์ย่อมไม่ผิดแน่
ซย่าโหวโซ่วเอาดาบหลิวอิ่งลูกรักของตัวเองให้มู่เถาเยา
ลู่จือฉิน ตี้อู่หลันฉือ ถังถัง ต่างพกมีดพกที่คมประหนึ่งตัดเหล็กได้
หยวนเหยี่ยลูบผมของลูกศิษย์คนเล็ก “เสี่ยวเยาเยา ระวังตัวกันด้วยนะ”
“พวกอาจารย์วางใจได้ค่ะ อีกหนึ่งสัปดาห์พวกเราก็ออกมาแล้ว วันมะรืนตี้อู๋เปียนจะมาฝังเข็ม วันนั้นอาจารย์ใหญ่อย่าออกไปไหนนะคะ”
“อืม ไม่ต้องห่วงเรื่องในบ้าน ห่วงความปลอดภัยของตัวเองก็พอ”
มู่เถาเยาพยักหน้า จากนั้นก็มองกลุ่มคนที่พร้อมออกเดินทาง “พวกเราไปกันค่ะ”
ทุกคนสะพายเข่งใบน้อย กระโดดขึ้นหลังคาแล้วเหาะไปทางป่าเซียนโหยว
เมื่อคืนหารือกันแล้วว่าจะไปทางตะวันออก มู่เถาเยาจึงเหาะนำไปทางตะวันออก
แม้เมื่อก่อนก็เคยไปทางตะวันออกแล้ว แต่ป่าเซียนโหยวใหญ่เหลือเกิน ต่อให้ไปทางตะวันออกร้อยครั้งก็ไม่มีทางเดินซ้ำทางเดิม ก็แค่ไปทิศทางเดิมเท่านั้น
ฝั่งตะวันออกพวกสัตว์ป่าไร้พิษเยอะ เหมาะที่จะพาคนที่เข้าไปครั้งแรกไปทางนั้น
สองพี่น้องตระกูลน่าหลานมีฝีมือเก่งพอควร หากเกิดการต่อสู้ก็ไม่ต้องกลัว
ถ้าเป็นฝั่งตะวันตกที่แมลงพิษขนาดเล็กกับพืชมีพิษเยอะเป็นพิเศษ พวกเธอยังต้องแบ่งสมาธิไประแวดระวังให้สองพี่น้องที่เพิ่งเข้ามาครั้งแรกด้วย
มู่เถาเยาหาจุดพาทุกคนลงพื้น
“อาใหญ่อารองคะ ทางนี้สัตว์ป่าค่อนข้างเยอะ ถ้าพวกมันไม่โจมตีก่อน พวกเราก็อย่าไปยั่วยุมัน”
สองพี่น้องพยักหน้าพร้อมกัน
“ถ้าเจอสัตว์หรือพืชอะไรที่แปลกประหลาดก็อย่าตกใจ และอย่าแตะต้องดอกไม้ใบไม้ที่ไม่รู้จักส่งเดชด้วยนะคะ”
“ได้ๆ”
“ค่ะ ไปกันค่ะ”
พวกเขาเดินไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงคำรามของเสือและสิงโต
สองพี่น้องน่าหลานมองหน้ากัน
มู่เถาเยาหยุดเดิน “ฟังจากเสียง ข้างหน้าน่าจะกำลังต่อสู้กันอยู่ พวกเราเปลี่ยนทิศทางกันค่ะ” ไม่ใช่เพราะกลัว แต่ถ้าไปเผชิญจะต้องเสียเวลา ไม่มีความจำเป็น
เขตป่าชั้นในใหญ่ขนาดนี้ทำไมจะเลี่ยงไม่ได้ จะเสียเวลาไปเพื่ออะไร
คนอื่นๆ ไม่ขัดข้อง
ไม่มีใครชอบการทะเลาะวิวาท
ฝึกยุทธ์ไม่ได้เพื่อใช้ในการวิวาท
ขณะที่กำลังหันกลับ ทันใดนั้นตี้อู่หลันฉือก็ร้องด้วยความดีใจ “เสี่ยวเยาเยา!”
“ทุกคนมาดูเร็ว นี่โสมหรือเปล่า”
ตี้อู่หลันฉือชี้กองรกๆ เหมือนพงหญ้าตรงหน้าพลางถาม
ถังถังอยู่ใกล้ตี้อู่หลันฉือที่สุดจึงเห็นก่อน “นี่โสมจู๋เจี๋ย”
ลู่จือฉินเดินเข้ามา พอเห็นก็ยิ้ม “เป็นโสมจู๋เจี๋ยจริงๆ”
น่าหลานรั่วหงถาม “โสมจู๋เจี๋ยก็คือโสมไหมครับ”
มู่เถาเยาอธิบาย “โสมจู๋เจี๋ยเป็นสายพันธุ์หนึ่งของโสม แต่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ตอนนี้มีเกษตรกรนำไปปลูกแล้ว เพียงแต่แบบคนปลูกกับแบบที่ขึ้นเองตามธรรมชาติจะให้สรรพคุณที่ต่างกัน”
น่าหลานรั่วเซิงชี้ตรงส่วนกลมๆ ที่เป็นดอกก็ไม่ใช่ ผลก็ไม่เชิง พลางยิ้มพูด “ผมว่าตรงกลมๆ แดงๆ นี่เหมือนโบว์ประดับในงานแต่งงานเลยครับ สวยไม่เบา”
มู่เถาเยา “โสมจู๋เจี๋ยเป็นสมุนไพรอายุหลายปี สภาพอากาศอบอุ่นของทางใต้เหมาะที่จะปลูกมัน ก็ไม่แปลกที่จะพบเจอในเขตป่าชั้นใน ถ้าไม่พบแบบที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ แบบที่คนปลูกก็จะโดดเด่นมาก”
ลู่จือฉินพยักหน้า “ใช่แล้ว โสมจู๋เจี๋ยมีสรรพคุณช่วยเสริมร่างกายให้แข็งแรง บรรเทาอาการปวด ทั้งยังช่วยสลายลิ่มเลือด ห้ามเลือด แก้ไอ กำจัดเสมหะ เป็นต้น สำหรับเกษตรกรที่ร่างกายอ่อนแอจากการทำงานหนัก หรือเคยได้รับบาดเจ็บครั้งใหญ่ ต้องบำรุงเร่งด่วน มันเป็นยาบำรุงชั้นดีเลยล่ะ”
มู่เถาเยา “ใช่ค่ะ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยคงความอ่อนเยาว์ด้วยนะคะ อาใหญ่อารองคะ ลองมองหารอบๆ พวกเราขุดมันออกมาให้หมดค่ะ”
“ได้เลย”
พวกผู้หญิงเริ่มทำงาน
หลังจากขุดเสร็จ น่าหลานรั่วหงก็อดพูดขึ้นไม่ได้ “ทำไมมันดูน่าเกลียดแบบนี้!”
เป็นปูดเป็นปม บิดๆ เบี้ยวๆ ทั้งต้นเหมือนมีแต่ปม!
ถังถังกับตี้อู่หลันฉือพากันหัวเราะ
ลู่จือฉินยิ้มพูด “อาจจะน่าเกลียดไปหน่อย แต่มันเคยถูกยกย่องว่าเป็นราชาแห่งสมุนไพรเชียวนะ สรรพคุณไม่มีลดทอนเพราะหน้าตาน่าเกลียด ก็เหมือนกับแอปเปิลบางสายพันธุ์ ทั้งๆ ที่หน้าตาน่าเกลียด แต่พอได้กินแล้วกลับหวานอร่อยกว่าสายพันธุ์ที่ดูดีมาก”
สองพี่น้องน่าหลานพยักหน้า สะพายเข่งไว้ที่บ่าอย่างอารมณ์ดี
มู่เถาเยายิ้มมุมปาก “ไปเถอะ พวกเราเปลี่ยนทิศทางกัน หวังว่าข้างหน้าจะมีของล้ำค่าอะไรอีก”
พวกเขาเปลี่ยนทิศทางมุ่งหน้าอย่างไม่รีบร้อน
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมาจมูกของมู่เถาเยาก็ได้กลิ่นบางอย่าง
“อาจารย์สามคะ ได้กลิ่นหอมที่คุ้นเคยไหมคะ”
“เหมือนจะมีนิดหน่อยนะ แต่จางมาก ยังมีกลิ่นอื่นปนด้วย”
“ใช่ค่ะ พวกเราลองไปดูหน่อย”
ถังถังถาม “เสี่ยวเยาเยา ได้กลิ่นอะไรที่คุ้นเคยเหรอ”
มู่เถาเยาพูดด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย “กฤษณา”
น่าหลานรั่วเซิง “กฤษณาเหรอ นั่นของดีเลยนะ!”
ยิ่งไปต่อกลิ่นยิ่งแรงขึ้น ทุกคนต่างเริ่มตื่นเต้น
กลิ่นหอมรุนแรงขนาดนี้จะมีไม้กฤษณามากขนาดไหนกันนะ!
เดิมทีไม้กฤษณาที่อยู่ในธรรมชาติจะไม่มีกลิ่นอะไร เว้นเสียแต่อายุยาวนานถึงอาจจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ตอนนี้กลิ่นรุนแรงขนาดนี้…
ทุกคนอดเร่งฝีเท้าไม่ได้
ถังถังตาโตร้องออกมา “โอ้โห! พวกเราเข้ามาอยู่ในโลกของกฤษณาแล้ว!”
มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน “ไม้หอมกฤษณาขาว!”
ไม้หอมกฤษณาเป็นของหายากมาแต่โบราณ ถือเป็นของล้ำค่ามหาศาล สมัยนี้แทบไม่มีให้เห็น
สมัยนี้ ‘ไม้หอมกฤษณา’ ที่เห็นตามท้องตลาดส่วนใหญ่เป็นของปลอม
ไม้หอมกฤษณาเก่าอาจมีอยู่บ้างในมือนักสะสม หรือวัดที่อายุพันปีขึ้นไปก็อาจจะมีเก็บสะสมไว้
น่าหลานรั่วหงพูด “ได้ยินมาว่ากลิ่นของไม้หอมกฤษณาขาวหอมสดชื่นมาก เหมือนกลิ่นสะระแหน่แต่ก็ไม่เชิง จะว่ากลิ่นน้ำผึ้งก็ไม่ใช่ พอได้กลิ่นถึงเข้าใจ”
มู่เถาเยาพยักหน้า
เมื่อชาติก่อนเธอเคยครอบครอง ย่อมรู้ว่ากลิ่นของไม้หอมกฤษณาขาวเป็นอย่างไร
น่าหลานรั่วเซิงถามด้วยความสงสัย “เสี่ยวเยาเยา ไม้หอมกฤษณาขาวรักษาโรคอะไรได้เหรอ” ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ตื่นเต้นขนาดนี้
“ไม้หอมกฤษณาขาวเป็นชนิดที่มีพลังสูงทะลุทะลวงเก่งในบรรดากฤษณาหลายชนิด มันเป็นยาวิเศษในการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจค่ะ”
“ในบรรดากฤษณาหมื่นต้นอาจมีไม้หอมกฤษณาแค่ต้นเดียว และหนึ่งต้นนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไม้หอมกฤษณาขาว ไม้หอมกฤษณาขาวถึงได้เป็นของหายากและล้ำค่ามาก นึกไม่ถึงว่าที่นี่จะมีเป็นดง! พวกเราดวงดีมากเลยนะ!” ลู่จือฉินก็ดีใจมาก
มู่เถาเยามองป่ากฤษณา ค่อยๆ ผุดรอยยิ้ม เวลานี้เหมือนสาวน้อยทั่วไปที่รู้จักยิ้มซื่อบื้อเป็นแล้ว