อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 91 คุณจับตาดูฉันให้ดี ๆ ล่ะ + ตอนที่ 92 เหอเฉ่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
- Home
- อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด
- ตอนที่ 91 คุณจับตาดูฉันให้ดี ๆ ล่ะ + ตอนที่ 92 เหอเฉ่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
ตอนที่ 91 คุณจับตาดูฉันให้ดี ๆ ล่ะ
หากพูดตามหลักของเหตุการณ์ที่สำคัญแล้ว ทางบริษัทต้องส่งหนังสือไปแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อยประมาณสองสัปดาห์ เพื่อให้พนักงานสามารถเตรียมพร้อมล่วงหน้าได้
แต่เธอกลับไม่รู้อะไรเลย ต่อให้แผนการของเธอไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลง แต่เวลาของเธอก็ค่อนข้างที่จะเร่งด่วนอยู่ดี
จิ่งเป่ยเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่ดวงตาจะฉายแววอารมณ์ที่มืดมนออกมา “ผมบอกเรื่องนี้กับทางหัวหน้าของทุกแผนกตั้งแต่สองสัปดาห์ที่แล้ว แผนกวางแผนไม่มีใครบอกคุณเลยเหรอ?
เมื่อเขาเอ่ยคำพูดนั้นออกมา อันโหรวก็กัดฟันด้วยความโกรธ บอกกับทางหัวหน้าแผนกงั้นเหรอ ฉิวซีไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเธอเลยสักนิด!
ตอนนี้อันโหรวเริ่มเข้าใจทุกอย่างแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดต้องเป็นฝีมือของฉิวซีแน่ ๆ ส่วนเรื่องแผนงานของเธอที่ถูกแก้ไปกว่าครึ่งก็คงเป็นฝีมือเธอเหมือนกัน
“เท้าของคุณเป็นยังไงบ้าง?” จิ่งเป่ยเฉินถาม ก่อนจะค่อย ๆ ก้มหน้าต่ำลง ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาทำงานแบบนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นอยู่เสมอ
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกค่ะ” อันโหรวส่ายหน้า ตอนนี้เธอกำลังคิดถึงเรื่องการวางแผนอยู่ เธอถอยหลังออกไปสองสามก้าว ก่อนจะทำหน้าจริงจังและพูดว่า “ท่านประธานจิ่ง ฉันรายงานหมดแล้ว ฉันขอตัวไปทำธุระก่อนนะคะ แถลงข่าวพรุ่งนี้ฉันจะไม่พลาดเรื่องแผนงานอย่างแน่นอน”
คำพูดนี้ถือเป็นสัญญา
เมื่อพูดจบ เธอก็เดินกะเผลก ๆ ไปยังประตู ก่อนจะเปิดประตูและเดินออกไป
เมื่อกลับไปที่แผนกวางแผน อันโหรวก็ไม่ได้ถามอะไรฉิวซี เธอเดินไปที่โต๊ะและเปิดไฟล์ในคอมพิวเตอร์ พร้อมกับตรวจสอบไฟล์เอกสารนั้น ทุกอย่างยังคงอยู่ในดิสก์เหมือนเดิม ไม่มีร่องรอยของการบันทึกประวัติข้อมูลในไฟล์แต่อย่างใด
แต่เมื่อเปิดไฟล์ขึ้นมา เนื้อหาในไฟล์ล้วนผิดพลาดไปหมด ไม่ได้โดนแก้แค่คำหรือสองคำ แต่ทุกอย่างกลับถูกแก้ใหม่เกือบทั้งหมด นั่นทำให้งานดูไม่มีความไหลลื่นเลยสักนิด
“เจ็บแล้วยังมาทำงานด้วยเหรอ? อันอีหาน เธอนี่มันขยันจริงๆ!” ฉิวซีเดินเข้ามาพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ย เธอวางมือลงบนโต๊ะคอม ก่อนจะมองไปที่คอมพิวเตอร์ของอันโหรวและเลิกคิ้วขึ้นอย่างมีชัย “เร่งมือหน่อยนะ งานแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ ในฐานะที่เธอดูแลเรื่องโฆษณาคงจะจัดการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
อันโหรวกัดฟันและหันหน้าไปมองเธอ ใบหน้าของเธอยังคงนิ่งเฉยเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย “เรื่องงานแถลงข่าวทำไมคุณไม่บอกฉันเลย นี่คุณไม่ได้กำลังจะกำจัดฉันหรอกนะ แต่คุณกำลังทำลายผลประโยชน์ของบริษัทอยู่ต่างหาก”
ฉิวซียืดตัวขึ้นก่อนจะกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา “นี่ฉันไม่ได้บอกเธอเหรออันอีหาน แต่ฉันจำได้แม่นเลยนะว่าบอกเธอไปอย่างชัดเจนแล้ว ไม่ใช่ว่าเธอลืมไปเองหรอกเหรอ?”
น้ำเสียงที่ดูไร้เดียงสา แต่สายตากลับดูถูกเยาะเย้ยเป็นอย่างมาก มีแต่คนตาบอดเท่านั้นแหละที่ไม่เห็นการกระทำแบบนี้
อันโหรวกำมือตัวเองที่อยู่บนแป้นพิมพ์แน่น ฉิวซี ความสามารถของเธอคนนี้ก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย แถมยังชอบวางกลอุบายลับหลังและหาเรื่องให้คนอื่น ๆ อยู่เสมอ
“ถ้าหากไม่มีเพชรงาม ๆ ก็อย่าได้คิดรับงานผลิตภัณฑ์พวกนี้ งานแถลงข่าวพรุ่งนี้ ฉันจะรอดูว่าเธอจะถูกไล่ออกจากบริษัทจิ่งยังไง” ฉิวซีพูดพลางแสยะยิ้มอย่างพอใจ
“ฉิวซี คุณคิดจะให้ฉันออกจากแผนกวางแผนของบริษัทจิ่ง เลยไม่บอกฉันเรื่องงานจัดแถลงข่าวสินะ คุณคิดว่าฉันจะโดนไล่ออกเพราะเรื่องแค่นี้ยังงั้นเหรอ?” อันโหรวหัวเราะด้วยน้ำเสียงเย็นชา พลางดันตัวลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับเธอตรง ๆ โดยไม่แสดงความอ่อนแอให้เห็นแม้แต่น้อย “พรุ่งนี้คุณจับตาดูฉันให้ดี ๆ ล่ะ”
ฉิวซีไม่ได้สูงกว่าอันโหรวมากนัก ท่าทางที่อันโหรวตอบกลับมานั้นจึงทำให้เธอเสียการทรงตัวเล็กน้อย เธอลอบกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะส่งเสียงเย็นชาออกมาและเดินออกไปพร้อมรองเท้าส้นสูงแปดเซนติเมตรของเธอ
ในเมื่อพูดออกไปแบบนั้นแล้วก็ต้องทำมันอย่างเต็มที่ เวลาเหลือน้อยลงทุกทีแล้ว แน่นอนว่าเธอต้องแข่งกับเวลาเท่านั้น
โฆษณาตัวนี้จะเป็นโฆษณาเกี่ยวกับจิ่งเป่ยเฉินในช่วงครึ่งปีหลัง ถ้าหากทำพลาดขึ้นมา ชีวิตของเธอคงจบไม่สวยแน่ ๆ แต่ถึงยังไงก็ต้องทำให้เสร็จเท่านั้น
หลังจากที่คิดเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตัดสินใจที่จะเชิญเหอเฉ่ามาเข้าร่วมงาน เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นโฆษกในครั้งนี้
เมื่อนำรายชื่อศิลปินออกมาจากลิ้นชักก็เปิดไปที่หน้าของเห่อเฉ่า ไล่ดูข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ
อันโหรวโทรไปที่หมายเลขโทรศัพท์ที่เขียนไว้ รอสายอยู่นานพอสมควรถึงมีคนกดรับ เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเหอเฉ่าค่ะ”
“คุณเหอสวัสดีค่ะ ฉันอันอีหานจากแผนกวางแผนของบริษัทจิ่งนะคะ….” อันโหรวพูดอย่างตรงไปตรงมา พลางมือเคาะลงบนโต๊ะเบา ๆ “พูดตามตรงเลยนะคะคุณเหอ ตอนนี้คุณว่างหรือเปล่าคะ ช่วยมาที่บริษัทจิ่งได้ไหมคะ”
คำพูดของอันโหรวทำให้เหอเฉ่าแทบอยากจะกรีดร้องออกมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เธอเม้มปากแน่น น้ำตาใสสะอาดไหลรินจากดวงตาอย่างไม่อาจจะห้ามได้
……………….
ตอนที่ 92 เหอเฉ่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
“ฉัน…ฉันถูกเลือกเหรอคะ?” เหอเหมียวแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน ก่อนที่น้ำเสียงจะเปลี่ยนเป็นสะอึกสะอื้น มือทั้งสองสั่นเทาอย่างไม่อาจจะควบคุม เธอไม่ได้ตั้งความหวังไว้มากนักเกี่ยวกับเรื่องนี้
อันโหรวยกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย พลางใช้มือดันโต๊ะและลุกขึ้นยืน ก่อนจะพูดประโยคต่อไปว่า “แน่นอนว่าเป็นความจริงค่ะ คุณเหอคะ พรุ่งนี้จะมีงานแถลงข่าวโฆษณาผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทจิ่ง ไม่ทราบว่าคุณช่วยมาเร็วหน่อยได้ไหมคะ?”
“ได้ค่ะ ฉันจะรีบไป”
เหอเหมียวเช็ดน้ำตาที่หางตา ก่อนจะมองไปยังแม่ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล เมื่อวางสายเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกไปที่ประตูอย่างเงียบ ๆ พลันเห็นนางพยาบาล เธอจึงเอ่ยทักทายขึ้นว่า “เหยียนเหยียน ช่วยดูแลแม่ให้ฉันสักครู่นะ ฉันจะออกไปข้างนอกหน่อย”
หลังจากที่พูดจบ เธอก็ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบกลับ พลันรีบลงลิฟต์ไปทันที จิตใจของเธอตอนนี้สับสนและวุ่นวายไปหมด จากนั้นจึงรีบเรียกรถให้ไปส่งที่บริษัทจิ่ง
ระหว่างทางเธอคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นเป็นแค่เพียงความฝัน
อันโหรวที่กำลังรออยู่ชั้นหนึ่งตรงล็อบบี้ของบริษัทจิ่ง เมื่อเห็นเหอเฉ่าลงมาจากรถจึงรีบเดินออกไปหาทันที
“คุณเหอเฉ่า?” อันโหรวแสร้งทำเป็นไม่แน่ใจ
เหอเฉ่ามองคนตรงหน้า ก่อนจะพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น “ใช่ค่ะ ฉันเอง”
“ฉันคืออันอีหาน ผู้รับผิดชอบด้านการวางแผนโฆษณา คุณเหออย่าเพิ่งกังวลไป เชิญตามฉันมาทางนี้ค่ะ”
เหอเหมียวสงบสติอารมณ์ได้มากขึ้นแล้ว จึงส่งยิ้มให้อันโหรวและเดินตามเธอเข้าไปในบริษัทจิ่ง
อันโหรวไม่ได้แสดงท่าทางอะไรมาก แค่ยิ้มตอบกลับและพาเธอไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องรับรองของแผนกวางแผน
“คุณเหอ เชิญนั่งค่ะ” อันโหรวผายมือของเธอไปยังฝั่งตรงข้าม ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบแก้วน้ำและยื่นให้กับเหอเฉ่า “เดินทางมาคงจะเหนื่อย ดื่มน้ำก่อนค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” เหอเฉ่ารับแก้วน้ำมาจิบหนึ่งอึกก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ
อันโหรวมองเหอเฉ่า ตั้งแต่ที่เห็นเธอครั้งแรกที่สวนสนุก ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองที่ได้เจอเธออีกครั้ง ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ เธอไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ดวงตาคู่นั้นยังคงฉายแววความสดใสเช่นเคย
เหอเฉ่ามัดผมหางม้าเรียบ ๆ หน้าผากก็ดูสดใส ดวงตาก็กลมโตชัดเจน ให้ความรู้สึกที่อ่อนโยนเป็นอย่างมาก นี่คงเป็นเอกลักษณ์ของเธออย่างหนึ่ง
ด้วยผิวสีขาวของเหอเฉ่า ใบหน้าเล็ก ๆ ที่มีมือใหญ่ ราวกับเป็นดารายังไงยังงั้น การใส่เสื้อสีขาวทับไว้ข้างในกางเกงยีนฟอกสีขาวแบบนั้นก็ไม่ทำให้คนมองรู้สึกว่าตัวของเธอนั้นโทรมเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ยิ่งทำให้คนมองรู้สึกว่าเธอสะอาดสะอ้านเสียด้วยซ้ำ
ต้องบอกเลยว่าอันโหรวชอบลุคนี้ของเธอมาก ๆ เธออยากได้เหอเฉ่าก็เพราะท่าทางเช่นนี้แหละ
นอกจากภาพลักษณ์ที่น่าพอใจแล้ว แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ต้องมีก็คือการมีน้ำใจ
อันโหรวเขียนสคริปต์ไว้เรียบร้อยแล้ว จึงหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมายื่นให้เหอเฉ่า “พรุ่งนี้ในงานแถลงข่าว คุณจะเป็นพิธีกรโฆษณาของผลิตภัณฑ์ใหม่ ต้องอยู่บนเวทีใหญ่แบบนั้น อย่าตื่นตกใจบนเวทีนะ”
เหอเฉ่าหยิบกระดาษขึ้นมาดูสองสามครั้ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างใจเย็น “แม้ว่าเวลาจะค่อนข้างน้อย แต่ฉันก็มั่นใจว่าฉันทำได้แน่นอนค่ะ คุณอันไม่ต้องห่วงนะคะ”
อันโหรวพยักหน้าตอบรับ พลางเม้มริมฝีปากเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาหลินจือเซี๋ยว “จือเซี๋ยว เธอรู้ไหมว่าบริษัทจิ่งเลือกซื้อเสื้อผ้าได้ที่ไหน”
ทุกบริษัทจะมีร้านค้าเฉพาะไว้สำหรับซื้อเป็นประจำเพื่อรับประกันในคุณภาพและความสะดวกสบายต่าง ๆ บริษัทจิ่งเองเช่นกัน
หลินจือเซี๋ยวเป็นเลขา เธอย่อมรู้เรื่องพวกนี้ดี แม้ไม่ทันจะได้คิดอะไรก็เอ่ยบอกชื่อร้านกลับมาทันที “ม่อหวน”
ม่อหวน อ๋อ ร้านนั้นนี่เอง
ไม่แปลกใจที่ครั้งที่แล้วจิ่งเป่ยเฉินไปที่ร้านนั่น แถมเขายังเดินทุกซอกทุกมุม ที่แท้ก็คุ้นเคยกับที่นั่นนี่เอง
หลังจากวางสาย อันโหรวก็รีบลุกขึ้นและดึงเหอเฉ่าให้ลุกตาม “ฉันจะพาคุณไปเลือกชุดสำหรับงานวันพรุ่งนี้”
เหอเฉ่ากำลังรู้สึกมึนงง เธอไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไง แต่ไม่ทันได้คิดอะไร อันโหรวก็ลากเธอออกไปเสียแล้ว
ด้านหน้าร้าน “ม่อหวน” อันโหรวจ่ายเงินให้กับคนขับรถแท็กซี่ ก่อนจะลงจากรถมายืนอยู่ที่หน้าร้าน พร้อมกับเหอเฉ่า
เหอเฉ่ามองร้านค้าที่สวยงามตรงหน้าเธอ “ม่อหวน” นี่เป็นชื่อร้านที่เธอเคยได้ยินมาจากเพื่อน มันค่อนข้างพิเศษเป็นอย่างมาก
“ไม่ต้องมองหรอก ตามฉันเข้าไปเถอะ” อันโหรวตบที่ไหล่ของเหอเฉ่าเบา ๆ ก่อนจะเดินนำเธอเข้าไปในร้าน
“คุณหนูสวัสดีครับ ยินดีต้อนรับ” ครั้งนี้ชายในชุดสูทไม่ใช่คนเดิม สุภาพบุรุษตรงหน้าโค้งคำนับอย่างสุภาพ ก่อนจะพูดว่า “เชิญด้านในร้านครับ”
อันโหรวเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะเผยท่าทีที่เกรงใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “ฉันเป็นพนักงานของบริษัทจิ่ง มาที่นี่เพื่อเตรียมชุดสำหรับเปิดตัวโฆษณาใหม่ของบริษัทจิ่งในวันพรุ่งนี้ค่ะ”