อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 369 รักเขา?
ตอนที่ 369 รักเขา?
รักเขา?
จิ่งเป่ยเฉินพิจารณาถึงสองคำนี้อย่างละเอียด ในเมื่อรักเขาแล้วทำไมต้องหนีไปตอนที่จะแต่งงานกับเขา!
ภายในใจของเขาเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ นี่โหรวโหรวอยู่ที่นี่หรือเปล่า
เมื่อมองเห็นฉีหย่วนหยางที่อยู่ตรงข้ามเหมือนจะยิ้มออกมา ดูกวนบาทาเสียจริง ๆ
เขาเอ่ยปากขึ้นอย่างเย็นชา “แจกไพ่”
รอบที่สามก็ยังคงเป็นฉีหย่วนหยางที่ชนะ
จู่ ๆ เขาก็เอนตัวไปด้านหน้า “ประธานจิ่ง รอเดี๋ยว!”
จิ่งเป่ยเฉินเคลื่อนไหวเล็กน้อยเพื่อถอดเสื้อสูทออกพลางจ้องมองเขา ภายในใจนั้นรู้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่สามารถที่จะเปลี่ยนความคิดได้ในตอนนี้ เพราะงั้นการเปลี่ยนความคิดนั้นขึ้นอยู่กับใคร?
“ตอนนี้ผมสามารถตอบคำถามของคุณได้หนึ่งคำถาม แต่คุณต้องเลือกผู้หญิงหนึ่งคนมาช่วยคุณถอดเป็นยังไง?” สายตาของฉีหย่วนหยางค่อย ๆ เลื่อนออกจากใบหน้าของเขาไปมองสาว ๆ ที่ล้อมรอบอยู่ และก็ใช้ภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่วถาม
“พวกคุณในนี้มีใครอยากจะช่วยหนุ่มหล่อถอดเสื้อออกบ้าง!”
“ไม่ต้อง!” จิ่งเป่ยเฉินปฏิเสธอย่างเฉยเมย เขาถอดเสื้อสูทสีดำออกด้วยการเคลื่อนไหวที่สง่างาม ก่อนจะพาดเอาไว้ที่เก้าอี้ด้านหลัง
เขาดึงแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นและยกขาขึ้นมองไปที่ฉีหย่วนหยาง “ต่อ”
“ประธานจิ่ง ผมไม่ได้บอกเหรอว่าคืนนี้ดูเหมือนว่าคุณไม่มีดวงเสี่ยงโชค ทางที่ดียอมแพ้ไปตั้งแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า คุณคงไม่อยากอยู่ที่นี่จนแพ้ราบคาบหรอกนะ แบบนั้นคงทำลายภาพลักษณ์ของคุณเอามาก ๆ เลย”
“นายเป็นคนคิดเรื่องนี้เอง” เพราะฉะนั้นจึงแสร้งทำเพื่อประโยชน์ของเขาในตอนนี้
คิดอยากจะให้ผู้หญิงมาช่วยเขาถอดเสื้อเมื่อครู่ ใครคือผู้หญิงที่จะมาช่วยเขา?
หรือว่าโหรวโหรวจะอยู่ที่นี่? เพราะงั้นเขาจึงเจตนาทำแบบนี้เพื่อให้โหรวโหรวเห็นว่าเขาอยู่ใกล้ผู้หญิงคนอื่น แม้กระทั่งตั้งแต่เริ่มถอดเสื้อ?
เมื่อเกิดความคิดนี้ขึ้นมา สายตาของเขาก็เริ่มกวาดตามองไปรอบ ๆ
การเปลี่ยนไปของเขาอยู่ในสายตาของฉีหย่วนหยาง แต่ว่าไม่รู้ว่าเขามองหาอะไร?
หรือว่าจะรู้สึกเสียดาย ตอนนี้เริ่มอยากจะให้สาว ๆ มาช่วยถอดเสื้อผ้าแล้วจริง ๆ งั้นเหรอ?
ถอดเสื้อออกน่าสนใจมากเลยสิท่า?
ไม่คิดเลยว่าจิ่งเป่ยเฉินยังจะชอบความรู้สึกแบบนั้น
แต่ที่น่าเสียดายก็คือ…
ครั้งนี้ฉีหย่วนหยางยังไม่ได้เริ่มความปรารถนาก็สิ้นสุดลงเพราะเขาแพ้
“ประธานจิ่ง คุณต้องคิดให้ดีก่อนจะถามนะ อย่างที่ผมเพิ่งจะสอนคุณไปเมื่อครู่” แม้ว่าเขาจะพูดไปแบบนั้น แต่เขาก็พูดที่อยู่ออกมาไม่ได้
ไม่มีถนน ไม่มีบ้านเลขที่ แน่นอนว่าเขาพูดออกมาไม่ได้
จิ่งเป่ยเฉินมองเขาอย่างเย็นชา เขาถามขึ้นมาหนึ่งประโยคอย่างชัดเจน “โหรวโหรวอยู่ในบ้านพักวิลล่าที่นี่ใช่ไหม?”
“เปล่า” เขารีบตอบคำถามของจิ่งเป่ยเฉินทันที “แต่ว่าคุณไม่คิดเหรอว่ามันเป็นคำถามที่ไม่ควรจะถามผม? คุณเป็นคู่หมั้นของเธอ ไม่สิ อดีตคู่หมั้น ส่วนผมเป็นเพียงบอสเก่าของเธอเท่านั้น ตอนนี้เธอไปอยู่ไหน ผมจะไปรู้ได้ยังไงกัน ประธานจิ่ง ดูเหมือนว่าคุณถามผิดคนแล้ว!”
จิ่งเป่ยเฉินทำเหมือนว่าไม่ได้ยินเสียงด้านหลังของเขา ริมฝีปากของเขาเอ่ยขึ้นมา “ต่อ”
“ได้ ๆ มาต่อกัน! ไม่เปลื้องผ้าจนเปลือย อย่าเรียกฉันว่าฉีหย่วนหยาง!”
“นายคิดมากเกินไปแล้ว ฉันจะจบก็ต่อเมื่อฉันได้รับคำตอบ” หรือยังหวังว่าเขาจะอยู่พนันกับฉีหย่วนหยางที่นี่ต่อจนกว่าจะถอดเสื้อออกหมด?
แน่นอนว่าเขาไม่ทำแบบนั้น
ฉีหย่วนหยางยกไวน์ขึ้นมาดื่มพลางโน้มตัวมองเขา ไพ่ที่วางอยู่ตรงหน้าคือ JQK
เขาเลิกคิ้วขึ้นและหัวเราะ “ประธานจิ่ง เพิ่มการเดิมพันหน่อยเป็นยังไง?”
จิ่งเป่ยเฉินเหลือบมองไพ่ของตัวเอง สำหรับเขาการถอดเสื้อผ้าออกนั้นไม่น่าสนุกเอาเสียเลย
เขาไม่อาจแพ้ได้
ดวงตาสีดำสนิทที่แสนเย็นชาของเขามองไปที่ฉีหย่วนหยางและพูดออกมา “ได้”
“ยังไม่ทันจะถามเลยก็เห็นด้วยซะแล้ว ประธานจิ่งนี่สมกับเป็นประธานจิ่งจริง ๆ รู้ว่าตัวเองจะแพ้จึงรีบถอดเสื้อออกอย่างทนรอไม่ไหว!” ฉีหย่วนหยางจ้องไปที่เขาก่อนจะกวาดตามองไปที่ร่างกายของเขา
เมื่อเห็นสีหน้าแววตาที่เย็นชาของจิ่งเป่ยเฉิน เขาก็ยิ้มออกมา “ตัดสินรอบสุดท้ายแพ้ชนะเลยเป็นไง?”
“ได้”
ฉีหย่วนหยางจ้องมองไปที่ไพ่ทั้งสองของจิ่งเป่ยเฉินที่ใบหนึ่งเป็น 10 อีกใบเป็น J ต้องยอมรับว่าเขานั้นกล้าหาญจริง ๆ
คืนนี้เหมือนว่าตัวเองจะชนะมากกว่า และตอนนี้เขาดูไพ่ในมือของตัวเองก็ดูมีโอกาสชนะมากกว่า
นี่จิ่งเป่ยเฉินอยากจะถอดเสื้อออกหมดจริง ๆ เหรอ? หรือว่าคิดอะไรอยู่?
ไม่นึกเลยว่าไพ่นั้นจะเห็นด้วย
“ประธานจิ่ง คุณคิดอยากจะแพ้จริง ๆ งั้นเหรอ? เธอรู้ว่าความจริงแล้วคุณเป็นคนเปิดเผยแบบนี้ไหม?” ทั้งสองคนต่างรู้ดีว่าใครเป็นใคร
สายตาที่เย็นชาของจิ่งเป่ยเฉินมืดมนลง ร่างกายของเขาก็แสดงความเกลียดชังออกมาอย่างเย็นชา “เล่นต่อ”
เจ้ามือแจกไพ่ต่อ ฉีหย่วนหยางมองไพ่ของตัวเองที่เป็นไพ่ A ใบหน้าของเขาก็พลันยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย “ที่แท้ก็อยากจะแพ้จริง ๆ”
แต่ด้านหน้าของจิ่งเป่ยเฉินคือไพ่ 10
สีหน้าของเขายังคงไร้อารมณ์และนิ่งเฉย ไม่ขยับเขยื้อนราวกับภูเขา
ตอนนี้ต่างคนต่างเหลือไพ่ใบสุดท้ายในมือที่ยังมองไม่เห็น
ชัยชนะครั้งนี้ขึ้นอยู่กับไพ่ 10 ใบสุดท้ายว่าจะอยู่ที่มือของใคร
ฉีหย่วนหยางมองไพ่ของตัวเอง คนที่มีโชคเท่านั้นถึงมีความกล้าหาญ
จิ่งเป่ยเฉิน ผู้ชายคนนี้….
ไม่สามารถประมาทได้
“ประธานจิ่ง ถ้าหากว่าผมชนะ คุณจะบอกผมได้ไหมว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำยังไงถึงได้ฟื้นตัวเร็วในเวลาอันสั้นได้ขนาดนี้ มียาวิเศษงั้นเหรอ? รูปที่คุณนอนอยู่บนเตียงคนไข้บนอินเทอร์เน็ต ดูเหมือนว่าไร้เรี่ยวแรงอย่างกับว่ากำลังจะจากโลกนี้ไปแล้ว”
แต่ว่าตอนนี้………..
เขากลับดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาเป็นอย่างมาก แม้จะมีเส้นเลือดในดวงตาที่ดูเหมือนว่าไม่ได้พักผ่อนมา
แต่หากเทียบกับรูปภาพในอินเทอร์เน็ตแล้วเป็นเพียงการลวงโลกเท่านั้น
อันโหรวที่น่าสงสาร สุดท้ายแล้วหาสามีแบบไหนกันเนี่ย
“ได้” จิ่งเป่ยเฉินยื่นไพ่ใบสุดท้ายในมือและเปิดออกอย่างช้า ๆ ก่อนจะมองหน้าเขาอย่างเย็นชา “ขอเพียงแค่นายไม่มีโอกาสก็พอแล้ว”
ไพ่ในมือของเขาคือ 10
ไพ่ในมือฉีหย่วนหยางก็ไม่จำเป็นต้องเปิดออกแล้ว
“น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นเรือนร่างของประธานจิ่ง น่าผิดหวัง!” สีหน้าของเขาแสดงถึงความผิดหวังออกมาก่อนจะดื่มไวน์และมองไปที่เขาอย่างเกียจคร้าน “ถามมา! ถ้ารู้ก็จะบอก……..”
“อันโหรวอยู่ที่ไหน รายละเอียดที่อยู่”
“ผมไม่รู้ เธอแต่งงานกับคุณไม่ได้แต่งงานกับผม อย่าคิดว่าเมื่อวานผมกลับมาจากเมือง A ด้วยเครื่องบินส่วนตัวเพื่อจะไปรับคนมา? เมื่อวานผมไปรับเกาเซิน คุณไปถามเขาก็ได้ ถามดูว่าเขาได้พาอันโหรวไปหรือเปล่า” ฉีหย่วนหยางวางแก้วไวน์ในมือลงและลุกขึ้นอย่างช้า ๆ ก่อนจะเดินไปโอบเอวผู้หญิงทั้งสองคนที่อยู่ข้างเขา “ประธานจิ่งค่อย ๆ เล่นนะ! ผมขอตัวก่อน! ช่วงเวลานี้มีมูลค่าถึงพันดอลลาร์เชียวนะ………”
จิ่งเป่ยเฉินยังคงนั่งอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ เขาไม่รู้ว่าโหรวโหรวอยู่ที่ไหน
สมควรตาย!
เมื่อฉีหย่วนหยางเดินออกไป เหลือไว้เพียงเขาที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้พนัน สาว ๆ ด้านข้างมากมายต่างล้อมรอบมองมาที่เขาและเดินเข้ามาหาอย่างกล้าหาญ
จิ่งเป่ยเฉินลุกขึ้นและหยิบเสื้อสูทที่พาดอยู่บนเก้าอี้มาพลางมองผู้หญิงเหล่านั้นด้วยสายตาที่เย็นชา ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“ไสหัวออกไป!”
ออร่าของผู้ชายคนนี้มีอิทธิพลมาก เมื่อถูกเขาคำรามใส่ ผู้คนต่างทยอยเดินออกไปทันที จากนั้นก็ทำได้เพียงมองเขาจากไป
เมื่อจิ่งเป่ยเฉินเดินออกมาก็เห็นฉีหย่วนหยางกับผู้หญิงผมทองสองคนกำลังขึ้นรถสีแดงไป ก่อนที่รถด้านหน้าเขาจะขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ฉีเซิ่งเทียนที่นั่งอยู่ในรถมองมายังเขา เมื่อเห็นสีหน้าของเขาก็รู้ว่าไม่ได้ข่าวใด ๆ กลับมา
เขาที่เฝ้าอยู่ด้านนอกตลอดก็ไม่ได้เห็นอันโหรวเดินออกมาจากด้านใน ดูเหมือนว่าเธอจะออกนอกประเทศไปกับฉีหย่วนหยางแล้วจริง ๆ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหน