อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 368 มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือตามหาอันหยาพั่น
- Home
- อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด
- ตอนที่ 368 มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือตามหาอันหยาพั่น
ตอนที่ 368 มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือตามหาอันหยาพั่น
มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือตามหาอันหยาพั่น
เธอยิ้มอย่างเย็นชา ตอนนี้เธออยากจะรู้จริง ๆ ว่าเขานั้นบาดเจ็บได้ยังไง?
เมื่อเธอเลื่อนเม้าส์ไปมาก็ปรากฏใบหน้าหล่อเหลาของจิ่งเป่ยเฉินที่มีรอยบาดแผลและผ้าพันแผลพันอยู่รอบหัว สีหน้าของเขาดูไม่ดีเอาเสียเลย ใบหน้าของเขาซีดขาว ริมฝีปากแห้ง หนำซ้ำยังนอนอยู่บนเตียงคนไข้
เขายังคงหลับตาอยู่ดูเหมือนว่าจะสลบไป
“แน่นอนว่าคนชั่วยังไงก็ต้องได้รับผลกรรม!”
เธอปิดคอมพิวเตอร์และลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง
แต่ว่าตลอดทั้งคืนเหมือนว่าฉีหย่วนหยางจะไม่ได้กลับมา
เขาไม่ได้กลับมาคงต้องไปทำธุระเรื่องของตัวเองแน่นอน เธอจึงไม่ได้สนใจเขาและเข้านอนอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เหมือนว่าเธอจะไม่มีเรื่องอื่นให้ทำเสียแล้ว
เธอหวังว่าจิ่งเป่ยเฉินจะเซ็นชื่อในเอกสารใบหย่า ถ้าหากว่าเขาไม่เซ็น เธอจะส่งไปให้เขาอีก จนกว่าเขาจะยอมเซ็น
……
ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ในบ้านพักวิลล่าสไตล์โกธิกในเขตชานเมืองมีการจัดงานเลี้ยงค็อกเทลที่ครึกครื้นอยู่ในขณะนี้
ฉีหย่วนหยางใส่สูทสีแดงเบอร์กันดี ในมือของเขาถือแก้วไวน์และข้างกายของเขาก็มีสาวผมบลอนด์คนหนึ่งยืนอยู่เคียงข้าง พวกเขากำลังพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
ดวงตาสีพีชที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกวาดตามองไปรอบ ๆ และแก้วไวน์ในมือของเขาก็สัมผัสกัน เมื่อถึงเวลาดื่มเฉลิมฉลองอวยพร เขาก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินมาหาเขาจากหางตา
เขายังคงจิบไวน์และมองไปที่เขา เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงแบบนั้นแต่ยังสามารถออกมาจากเมือง A เพื่อ
เข้าร่วมงานเลี้ยง ใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขาไม่มีร่องรอยของการแสดงออกใด ๆ และแน่นอนว่าไม่มีร่องรอยของบาดแผลด้วย
รูปภาพที่นอนบาดเจ็บอยู่ในโรงพยาบาลที่เผยแพร่ลงอินเทอร์เน็ตนั้นไม่นึกเลยว่าจะเป็นของปลอม
แสงออร่าอันบริสุทธิ์ที่ดูสง่าของจิ่งเป่ยเฉินเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ รอบตัวเขาต่างส่งเสียงนิยมชื่นชอบเป็นอย่างมาก การปรากฏตัวของเขานั้นดึงดูดสายตาผู้คนจำนวนมาก
เขาคือใคร ทำไมถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่
แม้แต่ผู้หญิงสองคนที่อยู่ข้างกายฉีหย่วนหยางเองก็มองเขา ผู้ชายคนนี้ดูหล่อเหลาเอาการมากทีเดียว
จิ่งเป่ยเฉินหยิบแก้วไวน์จากพนักงานเสิร์ฟที่เดินผ่านมาและเดินไปทางฉีหย่วนหยาง ใบหน้าที่เย็นชานั้นเผยรอยยิ้มออกมา “ประธานฉี ได้ยินชื่อเสียงของคุณมานาน”
“ประธานจิ่งชมเกินไปแล้ว ได้ยินมาว่าคุณประสบอุบัติเหตุไม่ใช่เหรอ ไม่คิดว่าจะหายไวขนาดนี้!” ฉีหย่วนหยางยื่นแก้วไวน์ขึ้นมาเพื่อชน ก่อนจะดื่มไวน์และเลียริมฝีปากของตัวเอง “รสชาติไวน์ของประธานจิ่งนี่ไม่เลวเลยนะ ธรรมชาติมาก”
เมื่อเขาพูดจบก็ขยิบตา ผู้หญิงทั้งสองก็เดินออกไปอย่างไม่เต็มใจ
พวกเขาไม่ได้พบเจอกันครั้งแรก ประธานจิ่งก็มีข่าวฮอตอยู่ที่ต่างประเทศ เขาเคยเห็นมาหลายครั้งแล้ว
“ประธานฉี เมื่อวานไปรับใครออกจากเมือง A หรือเปล่า?” ภายในใจของจิ่งเป่ยเฉินนั้นโกรธมาก แทบอยากจะระเบิดออกมาทันที แต่ว่าใบหน้าของเขากลับไม่ได้เผยสีหน้าใด ๆ ออกมาเลยแม้แต่น้อย
ฉีหย่วนหยางยิ้มมุมปากและเอนตัวลงพิงกับเคาน์เตอร์บาร์ ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “ประธานจิ่งจะให้ผมตอบคำถามก็ต้องยอมจ่ายค่าตอบคำถามมาหน่อยนะ ในเมื่อคุณถามผมแบบนี้ ดูเหมือนว่าจะดูถูกกันเกินไปหรือเปล่า?”
“ต้องการเท่าไร?”
“เงินผมมีเยอะแล้ว ผมไม่ต้องการมันหรอก!” เขาเหลือบมองไปที่จุดเล่นไพ่ที่อยู่ไม่ไกลและเสนอขึ้นมาว่า “พวกเรามาพนันกันสักแต้มดีกว่า ถ้าคุณชนะผมจะตอบในสิ่งที่รู้ทุกอย่าง แต่ถ้าคุณแพ้………..”
เขาเจตนามองไปที่ใบหน้าที่มืดมนของจิ่งเป่ยเฉินและหัวเราะ “ถอดเสื้อผ้าออกเป็นยังไง?”
จิ่งเป่ยเฉินไม่ได้ตอบอะไรเขากลับไป ให้เขาถอดเสื้อผ้าในสถานที่คนเยอะแยะมากมายแบบนี้เพื่ออะไร?
“ทำไม? ประธานจิ่งไม่กล้าพนันเหรอ? คุณไม่อยากรู้เหรอ…….”
“พนัน ทำไมจะไม่พนัน?” จิ่งเป่ยเฉินพูดจบก็มองไปด้านซ้ายและเดินไป
ฉีหย่วนหยางกระตุกมุมปากยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะเดินตามหลังเขาไป ผู้ชายที่ถูกความรักครอบงำ
เชื่อเลยว่าผู้หญิงที่อยู่ที่นี่ล้วนตั้งตารอที่จะได้เห็นฉากนั้น เมื่อกี้ที่เขาเดินเข้ามา บรรดาสาว ๆ ต่างมองเขาตาเป็นประกาย
แทบอยากจะเอาดวงตาไปอยู่บนตัวของจิ่งเป่ยเฉิน จะได้มองเห็นเขาอย่างชัดเจนในทุก ๆ วัน
หลังจากที่พวกเขาเดินไป คนที่นั่งอยู่บนโต๊ะต่างก็หลบและเดินออกมาจากตรงนั้น ฉีหย่วนหยางนั่งลงพลางเอนหลังพิงกับเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน เหมือนว่าไม่มีกระดูกสันหลังอย่างนั้น เขายิ้มพลางหัวเราะ “เมื่อครู่ที่พวกเราได้พนันกันเอาไว้อาจจะยังไม่ชัดเจน ผมจะพูดให้ฟังอีกครั้ง ถ้าเขาชนะผมจะตอบคำถามที่เขาถามมา หากว่าเขาแพ้หนึ่งครั้งจะถอดเสื้อผ้าออกหนึ่งชิ้น เพราะงั้นพวกคุณน่าจะรู้ว่าควรจะเชียร์ใครใช่ไหม!”
“ฉีหย่วนหยางสู้เขา!” สาวผมบลอนด์นั้นพูดภาษาจีนได้ไม่ค่อยดีนัก
“นั่นเป็นเรื่องปกติ ถ้าหากพวกคุณต้องการเห็นร่างของชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ตรงข้ามกันจริง ๆ ผมจะเดิมพันจนกว่าเขาจะเปลือยกาย!” ฉีหย่วนหยางพูดจบก็เลิกคิ้วขึ้น “ประธานจิ่งยังอยากจะพูดอะไรอีกไหม?”
“เริ่ม” เขาไม่พูดอะไรเลย เพียงแค่อยากจะรู้ว่าอันโหรวอยู่ที่ไหน พวกเขาอยู่ด้วยกันหรือเปล่า
เจ้ามือเริ่มทำการแจกไพ่ ทั้งสองต่างมองฝ่ายตรงข้ามโดยไม่มองไพ่ที่อยู่ตรงหน้าเลยสักนิด
เมื่อแจกไพ่เสร็จจิ่งเป่ยเฉินก็พูดขึ้นก่อน “เปิดได้แล้ว”
“ไม่มีความเห็น” ฉีหย่วนหยางวางไพ่และแก้วไวน์ลง ก่อนจะหยิบไพ่ใบใหญ่ที่สุดออกมา
ไพ่ของทั้งสองคนดูเหมือนว่าจะไม่ต่างกันเท่าไร แต่เมื่อทั้งสองคนเปิดไพ่ออกมากลับเป็นจิ่งเป่ยเฉินที่ชนะ
ผู้คนรอบ ๆ ต่างส่งเสียงผิดหวังออกมา พวกเขานั้นอยากจะเห็นจิ่งเป่ยเฉินนั้นถอดเสื้อผ้าออก!
“ชู่!…..” ฉีหย่วนหยางวางนิ้วเรียวบนริมฝีปากและมองไปด้านข้าง “ไม่ต้องรีบร้อน ใจร้อนเกินไปกินเต้าหู้ร้อนไม่ได้[1] ไม่สามารถแปลให้กับคนที่ฟังไม่รู้เรื่องได้นะ!”
จิ่งเป่ยเฉินที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้สนใจคำพูดของเขาแม้แต่น้อย ก่อนจะเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “อันโหรวอยู่ไหน?”
“ประธานจิ่ง คุณไม่ได้เล่นไพ่เป็นกิจวัตรนี่! คุณควรจะถามคำถามที่คุณเพิ่งถามไปไม่ใช่เหรอ? ผมอุตส่าห์เตรียมคำตอบเอาไว้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนคำถามใหม่ งั้นผมก็ต้องคิดก่อน” เขาพูดได้อย่างมั่นใจว่าเมื่อวานนี้เขาไปรับคนจริง ๆ
เมื่อได้ยินเขาพูด สีหน้าของจิ่งเป่ยเฉินก็ดำดิ่งลงทันที
“ทางที่ดีพูดความจริงมา!” เขาเริ่มคิดว่าคำตอบของเขานั้นเป็นตัวเขาที่พูดขึ้นมาเองหรือไม่
“เธออยู่ที่…….ภูเขาลูกโน้น ทะเลด้านนั้น มีกลุ่มหนึ่ง……….” ฉีหย่วนหยางพูดขึ้น น้ำเสียงก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะมองไปที่ใบหน้าที่เย็นชาของเขาและกดริมฝีปากบาง ๆ ไว้แน่นและพูดว่า “เธออยู่บนโลกใบนี้”
“นี่คือคำตอบของคุณ?” เขากำลังหยอกล้อเขาเล่นงั้นเหรอ
“หรือว่าคำตอบของผมมีปัญหาเหรอ? คุณควรจะถามคำถามให้ละเอียดหน่อยนะ! คุณควรจะถามว่าตอนนี้อันโหรวอยู่ที่ประเทศไหน เมืองไหน เขตไหน ถนนอะไร ถามที่อยู่อย่างละเอียดไม่ใช่ถามโต้ง ๆ มาว่าเธออยู่ที่ไหน! เข้าใจไหม?” ฉีหย่วนหยางหัวเราะออกมา ก่อนจะจิบไวน์ “ต่อ!”
การเดิมพันครั้งที่สองฉีหย่วนหยางชนะ
ทุกคนต่างมองไปที่จิ่งเป่ยเฉินอย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะบรรดาผู้หญิงที่มีความตื่นเต้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเธออย่างไม่สามารถยับยั้งได้ และต่างก็ตะโกนขึ้นมาว่า “หล่อเหลือเกิน! เท่สุด ๆ”
จิ่งเป่ยเฉินเอื้อมมือขึ้นไปปลดกระดุม ก่อนจะถอดสูทตัวเดียวออกและไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรต่อ ใบหน้าที่เย็นชานั้นมองไปที่ฉีหย่วนหยาง “เสมอกัน”
เขาไม่ได้บอกว่าต้องถอดเสื้อผ้าแค่ไหน เขาปลดกระดุมออกหนึ่งเม็ดก็ถือว่าถอดแล้ว
“น่าสนใจดี…….” ฉีหย่วนหยางมองไปที่การกระทำของเขา ก่อนจะหัวเราะออกมา “มิน่าเธอถึงได้รักคุณขนาดนี้!”
[1] ต้องมีความอดทนรอคอย เพื่อที่จะทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จ