อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 317 การลบล้าง
ตอนที่ 317 การลบล้าง
“โหรวโหรว เมื่อถึงเวลาเธอจะค่อย ๆ คิดถึงฉัน อดีตของพวกเรา ความรักวัยเยาว์กว่าสิบปีจะไม่ถูกลบล้างได้ง่าย ๆ”
เขารู้ว่าอันโหรวนั้นฉลาดมาก เขาจะบอกจุดประสงค์ไปได้ยังไง บอกเพื่อให้เธอส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นงั้นเหรอ?
คนอื่น ๆ คงจะยุ่งวุ่นวายเรื่องของจิ่งเป่ยเฉินกันอยู่ จะคงไม่มีเวลามาสนใจเธอ!
“ความจริงนั้นไม่อาจลบล้างกันง่าย ๆ เพราะงั้นนายทำอะไรกับฉันไว้ ฉันจำมันได้เสมอ อย่างเช่นตระกูลอันที่ล่มสลายภายในชั่วพริบตา นายก็ไปแต่งงานกับผู้หญิงอื่นทันที ช่างเป็นความประทับใจที่ไม่มีวันลืม งั้นนายก็คงจะจำของขวัญที่ฉันให้ได้สินะ! ซองแดงนั่น” เธอพิงไปที่กระจกหน้าต่างพลางมองเขาด้วยท่าทางระวัง
ยังมีผู้ชายคนอื่นอีกที่มาด้วย เขาคิดจะทำอะไรที่ไร้ยางอายอีก และคิดว่าเธอจะทำอะไรหรือเปล่า เพราะงั้นเธอจึงไม่ได้กังวลในการลงมือตอนนี้
ตอนนี้เธอคิดแค่เพียงเรื่องของจิ่งเป่ยเฉินว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
“เธอดูโกรธขนาดนี้แปลว่าเธอสนใจฉันอยู่นะ!” เธอไม่ได้โกรธสักหน่อย!
อันโหรวขบริมฝีปากของเธออย่างเฉยเมย ตอนนี้โอวหยางลี่กำลังหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเองอย่างไม่สามารถคลี่คลายได้
เธอค่อย ๆ แอบกดโทรศัพท์ แต่ทันใดนั้นกระเป๋าของเธอก็ถูกดึงออกไป โทรศัพท์ของเธอเองก็ถูกดึงออกไปในชั่วพริบตา กระเป๋าและโทรศัพท์ของเธอนั้นอยู่ในมือของเขา
ร่างกายของเธอไม่มีของอะไรหลงเหลือ
“โหรวโหรว ต่อไปจะเป็นช่วงเวลาของพวกเราทั้งสองคน ฉันไม่อยากถูกคนอื่นรบกวน” โอวหยางลี่เอาโทรศัพท์ของตัวเองใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะขยับตัวเข้ามาใกล้เธอ
“นายทนรอไม่ไหวที่อยากจะได้แม่ม่ายลูกติดงั้นเหรอ? ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คุณชายโอวหยางอดอยากจนกินไม่เลือกแบบนี้?” ไม่มีของอยู่ในมือ เธอคิดภาพว่าหากเปิดประตูลงจากรถก็คงพบว่าประตูนั้นล็อกอยู่ เธอไม่มีทางกระโดดลงจากรถได้
“แม่ม่าย? เธอยังไม่ได้แต่งงานกับเขาจะเป็นแม่ม่ายได้ยังไง!” โอวหยางลี่ก้มลงมองที่มือของเธอ แหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายส่องเป็นประกาย
ในใจของเขานั้นนึกถึงวันนั้นขึ้นมา ท่ามกลางผู้คนมากมาย เธอตอบรับคำขอแต่งงานจากผู้ชายคนนั้น
น่ารังเกียจ!
โอวหยางลี่ดึงมือของเธออย่างแรง แต่กลับถูกเธอต่อต้านอย่างรุนแรงเช่นกัน
“นายจะทำอะไร? ปล่อยนะ!” เธอกระชากแขนกลับ มือซ้ายนั้นถูกเขาบีบจนรู้สึกเจ็บปวด เขาพยายามดึงแหวนออกจากนิ้วนางของเธอ
“โอวหยางลี่ เอาคืนมานะ!” เธอพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา ในที่สุดก็โมโหที่ถูกเขาลงมือทำแบบนี้
“ไม่มีทาง เธอจะใส่ของที่เขาให้ได้ยังไง!” โอวหยางลี่มองไปที่แหวน ก่อนจะเปิดหน้าต่างและโยนมันทิ้ง!
อันโหรวมองเขาโยนแหวนออกไปกลางอากาศพลางจ้องเขาตาเขม็งและไม่พูดอะไรออกมา
ระหว่างเขาสองคนไม่มีอะไรต้องพูดดีต่อกันอีกแล้ว!
แหวนได้ลอยหายไปแล้ว ลมที่พัดเข้ามาจากหน้าต่างรถ โอวหยางลี่กลับไม่ได้สนใจมัน เขาเพียงแค่มองเธอเท่านั้น
อันโหรวคิดว่าโอวหยางลี่จะพาเธอไปถนนเซียงเจียงเพราะเธอชอบวิวที่นั่น พวกเขาเคยไปด้วยกันอยู่หลายครั้ง แต่ไม่คิดว่าเขาจะพาเธอไปที่โรงเรียนด้วย
ตอนช่วงมหาวิทยาลัย เขาอยู่ปีสาม
และจิ่งเป่ยเฉินจบการศึกษาแล้ว
มหาวิทยาลัยยังไม่ได้เปิดภาคเรียน แม้บริเวณรอบ ๆ มหาวิทยาลัยนั้นหนาวเย็น แต่วิวทิวทัศน์ยังคงสวยงาม
เพราะไม่มีการทำความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นถนนใหญ่หรือถนนเล็ก ๆ ตามซอยก็ล้วนมีหิมะปกคลุมอยู่เต็มไปหมด เหมือนกับอยู่ในโลกน้ำแข็ง
เธอค่อย ๆ เดินไปด้านหน้า โอวหยางลี่ก็เดินตามหลังมา บางครั้งก็อยู่ข้างเธอ สำหรับบอดี้การ์ดก็อยู่ด้านหลังห่างจากพวกเขาออกไปห้าสิบเมตร
เขตมหาวิทยาลัยที่หนาวเย็นไม่มีผู้คนเดินผ่านจึงเป็นเรื่องยากที่จะขอความช่วยเหลือ
หากวิ่งไปก็คงจะไม่ดี แต่หากไม่วิ่งแล้วถูกจับไปจะยิ่งแย่กว่านี้แน่
“โหรวโหรว เธอยังจำที่นี่ได้ไหม?” เสียงของเขาดังเข้ามาในหูอย่างกะทันหัน
อันโหรวหันไปมองทะเลสาบด้านซ้ายมือเขาที่ตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็งบาง ๆ เป็นทะเลสาบรูปพระจันทร์เสี้ยว บริเวณโดยรอบของทะเลสาบเต็มไปด้วยต้นหลิวในฤดูร้อนที่กำลังพลิ้วไหวอย่างสวยงาม
เพราะว่าวิวสวยมาก ๆ เธอจึงชอบมาเดินเล่นที่นี่ เมื่อก่อนพวกเขาชอบมาด้วยกันบ่อย ๆ
ครั้งหนึ่งในวันเกิดของเธอ โอวหยางลี่เองก็มาเซอร์ไพรส์เธอตรงทะเลสาบแห่งนี้ เวลานั้นเธอดีใจเอามาก ๆ
แต่ว่าตอนนี้เธอจำได้ว่าเธอบอกเรื่องที่ดีใจนี้กับจิ่งเป่ยเฉินไป แล้วเขาก็พูดออกมาอย่างเย็นชาว่า ‘น่าเสียดายที่ทำไมไม่กระโดดลงไปในน้ำเพราะความตื่นเต้น’
ท่าทางของเขาที่ดูผิดหวังนั้นน่าเกลียดและเกินไปจริง ๆ
เหมือนกับว่าโอวหยางลี่นั้นทนรอต่อไปไม่ไหว เธอจึงตอบกลับไปว่า “จำได้ ฉันมาบ่อย”
“ฉันยังจำได้ว่าเธอชอบที่นี่มาก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลงมาก
“ตอนนี้ไม่ชอบแล้ว”
น้ำเสียงที่นุ่มนวลของเธอราวกับกิ่งไม้ที่บินได้ แม้จะอ่อนแรงแต่กลับกระทบจิตใจของเขาเป็นอย่างมาก
เขามองไปที่ใบหน้าที่สง่างามของเธอ หัวใจของเขาก็พลันรู้สึกเจ็บปวด การสนทนานั้นเปลี่ยนไป “ฉันอยากรู้ว่าตอนที่พวกเธออยู่ด้วยกัน”
“ไม่เกี่ยวกับนาย” ตอนนี้เธอไม่ต้องการให้เขาเชื่อหัวใจของตัวเอง เขาคิดยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเธอเลยสักนิด แม้จะเชื่อว่าเธอนอกใจเขา เธอก็ไม่สน
เพราะตอนนี้คนที่สนใจนั้นไม่เคยมีโอวหยางลี่เลยตั้งแต่แรก!
“อันโหรว ตอนนี้เธอต้องรู้สถานะตัวเองที่ชัดเจนหน่อยนะ!” ตอนนี้เธออยู่ในกำมือของเขา ไม่ยอมคุยดีกับเขาแล้วยังพูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้นอีก
อันโหรวไม่สนใจเขาและค่อย ๆ มองไปที่ทะเลสาบใกล้ ๆ
โอวหยางลี่เห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปหา “เธอจะทำอะไร?”
“สังเวยรัก” เธอตอบอย่างใจเย็น
“เธอบ้าไปแล้วเหรอ มานี่นะ!” เขาเอื้อมมือไปคว้า แต่อันโหรวกลับวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
“อันโหรว เธอกล้ากระโดดงั้นเหรอ! บอดี้การ์ด!” โอวหยางลี่หันไปมองเธอที่วิ่งไปและตะโกนเรียกคนอย่างดัง
ร่างนั้นวิ่งลงไปต่อหน้าต่อตาเขา เหมือนว่าหายไปจากสายตาของเขาอย่างรวดเร็ว
“เขาที่สำคัญขนาดนั้นตายไปแล้ว เธอเลยไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่องั้นเหรอ? อันโหรว เธอนี่ไม่มีอนาคตเลยจริง ๆ ไม่อนุญาตให้หนี ไม่ยอมให้โดดหรอก!” เขาที่ดูเหมือนจะบ้ามองดูเธอกำลังจะโดด
ตูม!
เสียงน้ำแข็งแตกกระจายอึกทึกดังลั่น โอวหยางลี่ไล่ตามเธอไป แต่กลับไม่ทันเพราะความช้าทำให้ตกลงไปในทะเลสาบ
อันโหรวไม่ได้คิดที่จะกระโดดลงทะเลสาบ เพราะเธอไม่แน่ใจว่าเกิดเรื่องขึ้นกับจิ่งเป่ยเฉินจริงหรือไม่ เธอจะทำอะไรโง่ ๆ แบบนั้นได้ยังไง
เธอหันตัวและวิ่งไป ด้านหลังนั้นมีบอดี้การ์ดวิ่งตามเธอมา ส่วนหนึ่งเข้าไปช่วยโอวหยางลี่ อีกส่วนก็วิ่งไล่ตามเธอ
ไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์! เวลานี้ควรจะสนใจช่วยชีวิตโอวหยางลี่ก่อนสิ สนใจเธอทำไม?
วิ่งไปได้ไม่นานเธอก็หยุดลงและขยับมือหันไปมองคนที่ไล่ตามมา “เพราะวิ่งมาร่างกายเลยอบอุ่นขึ้นหรือเปล่า? เมื่อกี้ยังหนาวอยู่เลย ถือว่าได้ออกกำลังกาย”
คนที่ไล่ตามเธอมานานขนาดนี้กลับหน้าไม่แดงและไม่หอบ เมื่อมองการฝึกฝนของบอดี้การ์ดนั้น ร่างกายของเขาแข็งแรงกว่าเธอมาก
เธอจึงค่อย ๆ เดินกลับไปอย่างช้า ๆ ส่วนโอวหยางลี่ก็กำลังขึ้นมาจากทะเลสาบที่น้ำแข็งแตกออกเป็นแผ่น ๆ