อหังการซาตานเถื่อน ซีรีส์ชุด ซาตานเมดิเตอเรเนียน - ตอนที่ 48
แสนดีวิ่งเข้าไปกอดร่างของโสภาด้วยความดีใจเมื่อเห็นมารดาได้กลับมาที่ดาร์กอน คาสเทลโลอีกครั้ง “แม่จ๋า… แม่…”
โสภาถอนใจยาวๆ รู้สึกขัดแย้งกันเองในอก “ไม่ต้องกอดแน่น ข้าหายใจไม่ออก”
“แซนดี้คิดถึงแม่… คิดถึงแม่ที่สุดเลยค่ะ”
คนเป็นแม่พยายามเข้มแข็งแต่น้ำตากลับคลอเบ้า นั่นเพราะ เพเรอคลิสบอกเหตุผลที่ทำให้หล่อนได้กลับมาที่นี่อีกครั้งให้รับรู้เรียบร้อยแล้ว
“แกน่าจะดีใจน่ะแซนดี้ที่ข้าไม่อยู่ เพราะจะได้ไม่ถูกตียังไงล่ะ”
แสนดีส่ายหน้าทั้งน้ำตา “ฉันยอมถูกแม่ตี ให้แม่ตีฉันทุกวันเลย แต่อย่าให้แม่ไปไหนเลย ฉันคิดถึงแม่”
โสภาตาแดงก่ำ น้ำตาไหลออกมาอย่างสุดจะกลั้น “นังลูกโง่ ทำไมเจ็บแล้วไม่รู้จักจำนะ”
ในที่สุดโสภาก็กอดตอบลูกสาว แสนดีร้องไห้ด้วยความดีใจเหลือเกิน เดลล่าที่ยืนอยู่ด้วยก็พลอยน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งใจไปด้วย
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
โสภากลับมาถึงดาร์กอน คาสเทลโลก็ขอเข้าพบเพเรอคลิสทันที ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้ขัดข้อง
“ดิฉันขอบคุณที่คุณชายใหญ่ยกเลิกคำสั่งค่ะ”
“ก็อย่างที่บอก ผมไม่ได้เห็นแก่คุณ แต่ทั้งหมดที่ผมทำลงไปก็เพราะแซนดี้ ออกไปซะ ผมจะทำงาน”
สองวันสองคืนที่ถูกกักขังอยู่ในเกาะมืดทำให้โสภาเริ่มคิดได้ ในชีวิตที่เหลืออยู่ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับหล่อนในตอนนี้ก็คือแสนดี ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติของซาเวลลาสอย่างที่เคยเข้าใจ
“เรื่องระหว่างคุณชายใหญ่กับแซนดี้…”
“ผมรู้ว่าต้องทำยังไง อย่ามาข่มขู่ผมอีก เพราะผมไม่ชอบ”
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ ดิฉันแค่อยากจะบอกว่า… คุณชายใหญ่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแซนดี้มันหรอกค่ะ ดิฉันไม่เรียกร้องอะไรทั้งนั้น เพราะดิฉันรู้ดีว่าแซนดี้มันไม่ได้คู่ควรกับผู้ชายอย่างคุณชายใหญ่”
กรามแกร่งของเพเรอคลิสขบแน่นจนขึ้นสันนูน เขาพยายามบอกตัวเองแบบนั้นเช่นกัน บอกเป็นร้อยครั้งพันครั้ง แต่เขาก็ยังต้องการแสนดี ต้องการเหลือเกิน
“ผมจะตัดสินใจด้วยตัวเอง คุณแม่บ้านใหญ่ออกไปได้แล้ว”
“ขอบคุณนะคะที่ส่งดิฉันไปเกาะมืด เพราะการได้อยู่ที่นั่นทำให้ดิฉันคิดถึงแซนดี้มาก ทั้งคิดถึงทั้งเป็นห่วง”
เพเรอคลิสตวัดตาคมกริบจ้องหน้าโสภา “คิดได้ก็ดีแล้ว เพราะถ้าคุณตบตีทำร้ายเมียของผมอีก ผมจะส่งคุณแม่บ้านใหญ่ลงไปในนรกแทนที่จะเป็นเกาะมืด จำเอาไว้”
“นี่คุณชายใหญ่เรียกแซนดี้ว่าเมียเหรอคะ”
“ออกไปได้แล้ว ผมจะทำงาน”
โสภาระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะถอยหลังออกไปจากห้องทำงานของเพเรคลิสเงียบๆ
เจ้าของห้องหนุ่มระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อไป
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
กี่วันแล้วนะที่หล่อนถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้ามาวุ่นวายในห้องอาหาร กี่วันแล้วนะที่หล่อนไม่มีโอกาสได้เฝ้ามองเพเรอคลิสมีความสุขกับอาหารเบื้องหน้าแบบนี้ แสนดีระบายยิ้มมีความสุข ช่วยเพื่อนร่วมอาชีพจัดวางอาหารลงบนโต๊ะอย่างประณีตที่สุดเท่าที่จะทำได้
สักพักหนุ่มๆ ซาเวลลาสก็เดินเรียงหน้ากันเข้ามาภายในห้องอาหาร ขาดแค่คนเดียวนั้นก็คือลาซาลอส แต่มันก็เป็นปกติอยู่แล้วที่คุณชายสามมักจะกลับมาไม่ทันมื้อเย็นเสมอ
แสนดีก้มหน้าขยับตัวไปยืนชิดกับริมผนังห้อง แต่ก็อดที่จะลอบมองผู้ชายในฝันไม่ได้
เพเรอคลิสดูดีเสมอไม่ว่าจะอยู่ในชุดอะไร ความมีเสน่ห์เซ็กซี่เหลือร้ายของเขาทำให้หล่อนมองไม่เห็นหนุ่มซาเวลลาสคนอื่นในสายตาเลย ทั้งๆ ที่อีกสองคนก็หล่อลากดินไม่ต่างกัน
“อ้าว แซนดี้ พี่เพนน์อนุญาตให้เธอเข้ามาในนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
มาริออสหยุดทักทาย
แสนดีเงยหน้าขึ้น แต่สายตาก็อดที่จะมองเลยไปถึงพ่อรูปหล่อราวกับเทพบุตรอย่างเพเรอคลิสไม่ได้ มองแล้วก็แก้มแดงระเรื่อเมื่อคิดถึงฉากรักที่เขาทำให้เนื้อตัวของหล่อนบิดเกร็งระเบิดในหัว ภาพที่สองร่างกำลังสอดใส่กันอย่างเมามัน
“เอ่อ…”
แสนดีรีบเสหลบสายตาเมื่อเพเรอคลิสจ้องมองมา หันมาจ้อง มาริออสและตอบเสียงอ่อยแทน
“คือแม่… แม่พึ่งกลับมาน่ะค่ะ อ่อนเพลียจากการเดินทาง แซนดี้ก็เลยมาทำหน้าที่แทน”
“ขึ้นมาทุกเย็นก็ได้ พี่เพนน์คงไม่ว่าอะไรหรอก”
มาริออสหัวเราะร่วน เดินไปนั่งข้างพี่ชายและมองอย่างรู้ทัน “จริงไหมครับพี่เพนน์”
เพเรอคลิสที่ถูกความทรงจำเร่าร้อนเล่นงานไม่แตกต่างจากแสนดีจำต้องควบคุมตัวเองเอาไว้อย่างสุดกำลังแต่ให้ตายเถอะ พอเงยหน้าขึ้นมาทีไรก็เห็นแม่สาวหน้าหวานในสายตาเสียทุกครั้งไป และนั่นก็ยิ่งทำให้เขาแทบจะรอคอยเวลายามค่ำคืนต่อไปไม่ได้ เขาต้องการจะฝากฝังจิตวิญญาณแห่งบุรุษเพศลงไปในหลืบชุ่มฉ่ำของแสนดีอีกครั้ง และอีกครั้ง บ้าชิบ แค่คิดก็อึดอัดจนต้องขยับเปลี่ยนท่านั่งเสียแล้ว
“กินไปเถอะน่า อย่าพูดมาก”
“แหม ผมแซวนิดแซวหน่อยก็ไม่ได้” มาริออสตัดพ้อ ก่อนจะหันไปหาเนโลคลิสที่ตักอาหารใส่ปากเงียบๆ “เลขาพี่เนลบอกว่าพี่เนลจะเดินทางไปเมืองไทยจันทร์หน้าหรือครับ”
“ใช่”
“ไปทำไมหรือเนล หรือว่าโรงแรมที่นั่นมีปัญหาอะไร”
เพเรอคลิสบังคับตนเองให้มุ่งความสนใจมาที่น้องชายคนรองแทน เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องร้อนของแสนดีอย่างเดียว
“ที่โรงแรมไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกครับ แต่ผมนัดกับภรรยาเอาไว้”
“ภรรยา? อ๋อ… ผมนึกออกแล้ว” มาริออสดีดนิ้วเมื่อคิดได้ ในขณะที่ผู้เป็นพี่ชายถามต่อ
“เด็กผู้หญิงที่นายจดทะเบียนสมรสด้วยเมื่อแปดปีที่แล้วน่ะหรือ”
“ครับพี่เพนน์ เธอโทรมาหาผม บอกว่าต้องการจะหย่า”
“เยี่ยมไปเลย” มาริออสดีดนิ้วเสียงดังอย่างถูกใจ “แบบนี้พี่เนลก็จะได้เป็นอิสระแล้วสินะครับ ไว้กลับมาผมจะพาไปเที่ยว สาวเพียบและสวยมากด้วย ผมคอนเฟิร์มครับ”
เนโลคลิสยิ้มบางๆ ไม่ตอบโต้ ก่อนจะตัดบทด้วยการก้มหน้าก้มหน้าจัดการกับอาหารตรงหน้า เพเรอคลิสกับมาริออสจึงไม่รู้จะถามอะไรออกมาอีก จำต้องก้มหน้ากินข้าวเงียบๆ เช่นกัน
“สวัสดีค่ะพี่เพนน์ พี่เนล…”
พิมรักปรากฏตัวขึ้นภายในห้องอาหาร
“สวัสดีครับ มากินข้าวด้วยกันก่อนครับ” เพเรอคลิสเอ่ยชวนตามมารยาท พิมรักกำลังจะเดินมานั่งร่วมวง แต่พอสายตาเหลือบไปเห็น มาริออสที่นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ก็ชะงักเท้า
“ขอบคุณค่ะ แต่แพทกินมาแล้วค่ะพี่เพนน์”
เพเรอคลิสผงกศีรษะรับทราบ “ว่าแต่น้องแพทมีธุระอะไรด้วยหรือเปล่าครับ ถึงมาค่ำๆ มืดๆ แบบนี้”
พิมรักสูดลมเข้าปอดลึก ราวกับกำลังเรียกสติของตัวเอง “แพทขอคุยกับพี่เพนน์เป็นการส่วนตัวได้ไหมคะ”
มาริออสที่นั่งนิ่งอยู่กำช้อนแน่น แต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป
“ได้สิครับ”
เพเรอคลิสลุกขึ้น และเดินนำพิมรักออกไปจากห้องอาหาร ท่ามกลางสายตาไม่พอใจของมาริออส และสายตาที่เต็มไปด้วยความน้อยใจของแสนดี
“ยายเด็กประสาทนี่ยังไม่เลิกตามตื้อพี่เพนน์อีกหรือนี่” กรามแกร่งของมาริออสขบแน่น “ทั้งๆ ที่เป็น…”
“เป็นอะไรหรือมาร์ซ”
“เปล่า… เปล่าหรอกครับพี่เนล”
เนโลคลิสมองน้องชายอย่างสงสัย “อ้าว แล้วนั่นอิ่มแล้วหรือ พึ่งกินไปนิดเดียวเอง”
“ผมกินไม่ลงน่ะครับ ขอตัวนะครับพี่เนล”
แล้วมาริออสก็กระชากผ้าเช็ดปากขึ้นวางกับโต๊ะ และเดินกระแทกเท้าออกไปอย่างอารมณ์เสีย
“เมื่อกี้ยังหัวเราะร่วนอยู่เลย เป็นอะไรไปอีกล่ะ เจ้ามาร์ซ”
คุณชายรองของซาเวลลาสส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะรับประทานอาหารต่อไปเงียบๆ เพียงลำพัง