อย่า อยู่ อย่าง อยาก - ตอนที่ 1 อย่า (1)
ช่วงเช้าตรู่ อากาศเย็นสบายมีแดดไม่มาก เหมาะแก่การที่จะนอนที่สุด แต่ก็มีนักศึกษาคนหนึ่งได้ตื่นขึ้นมาออกกำลังกายตั้งแต่เช้าตรู่ ตั้งแต่ไก่แจ้ยังไม่ขันด้วยซ้ำ
-มหาวิยาลัยรักษร
ภายในหอพักนักศึกษาชายห้องหนึ่ง ได้มีเสียงดังอึกทึกครึกโครมเกิดขึ้น ความสนั่นของเสียงนั่นราวกับฟ้าที่ผ่าลงมา
อันซึ่งเป็นเรื่องปกติของหอพักชายนี้อยู่แล้ว ที่นักศึกษาผู้อาศัยอยู่ในห้อง 444 จะทำเสียงแบบนั้นออกมาในช่วงเช้า กลางวัน บ่าย ของทุกๆวัน
” โห พี่อินทร์รุนแรงแต่เช้าเลยแฮะ ” นักศึกษาชายที่เดินผ่านหอพักนั้นพูดขึ้นเมื่อมองขึ้นไปยังห้องที่เป็นต้นเหตุของเสียงนั้น
” เหมือนว่าพี่เขาจะไปต่อยกับใครเลยแฮะ “นักศึกษาอีกคนที่เป็นเพื่อนกับนศ.คนนั้นพูดขึ้นต่อ
” คงไม่หรอกม้าง ”
” นั่นน่ะสิ เอาเป็นว่า.. รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะเข้าคณะไม่ทัน”
” โอเค “
และ…
สิ่งที่ทั้งสองได้เดานั้น…
ถูกต้องเลยครับ
อินทร์ หรือว่า ศิวาหัตถ์ พรหมโลก เป็นนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงพอสมควร ในเรื่องของความที่เขามีลุคแบดบอย และเป็นคนที่นับถือในทุกๆศาสนา
กับเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีปัญหาพอสมควรในเรื่องของสารเสพติดต่างๆ หากฟังเรื่องที่เล่ามา จะรู้ได้ว่าเขาเป็นคนไม่ดี ทว่าสิ่งที่เราๆรู้กันนั้นมันค่อนข้างจะต่างจากความเป็นจริงไปมากโข
แม้เขาจะสัก หรือเจาะหูก็ตามเขาก็ยังเป็นคนที่มีจิตใจดี มีเมตตา แต่แค่เขาเข้ากับใครไม่ได้เพราะหน้าตามันไม่ใฟ้ก็แค่นั้น
ซึ่งเหตุผลในการฝึกชกกระสอบทราย หรือฝึกมวยในทุกๆวัน ก็เพื่อที่จะออกกำลังกาย ในส่วนของกล้ามแขน กล้ามขา และหน้าท้อง กับส่วนต่างๆ
เขาฝึกมวย ก็เพื่อที่จะเอาไปต่อยกับ ผี ใช่แล้วครับ ทุกคนฟังถูกแล้ว ผี นั่นเองคือสิ่งที่เขาต้องการจะต่อย แม้ว่าตารางเรียนจะแน่นเอี๊ยด แต่เขาก็ยังแบ่งเวลามาช่วยคน ช่วยเหล่าคนที่ถูกผีร้ายตามรังควานต่างๆ หลายคนจะเรีบกเขาว่า
‘หมอผีจำเป็น’
โดยเฉพาะในรั่วมหาลัยนี่แหละที่เป็นตัวการที่ทำให้งานของเขามีลูกค้าเยอะมากๆ เป็นเพราะว่าเรื่องเล่าของมหาลัยแห่งนี้มันมีมากมาย และความหลอนของมหาลัยก็มีมากตามๆกัน…
” มาพบใครหรือหนู ” คุณครูที่เป็นเวรยามประจำหอพักชาย ได้ถามนักศึกษาหญิงสาวสวย ผมสั้นประบ่าที่ได้มายืนต่อหน้าหอพักแบบนี้
” เอ่อ… ม- หมอผีจำเป็นค่ะ… ” แทนที่จะเรียกชื่อ แต่เธอกลับเรียกฉายาแทน
” อืม อินทร์สินะ มันอยู่ที่ห้อง 444 เดินไปได้เลย ” คุณครูไม่ได้แปลกใจอะไร และทำเหมือนมันเป็นเรื่องปกติที่มีคนมาถามหาอินทร์แบบนี้ เขาบอกเลขห้องและบอกทางเดินไป
นศ.สาวคนนั้นกล่าวขอบคุณ คุณครูก่อนจะเดินไปตามทางที่ครูบอก จนเธอได้เดินมาถึงห้องพักที่มีหมายเลขบอกว่า 444 อยู่หน้าห้อง
ซึ่งหน้าห้อง ห้องนั้นค่อนข้างพิลึก และน่าขนลุกอยู่พอสมควร หน้าห้องของอินทร์นั้นไม่ได้มีเพียงแค่ป้ายหมายเลขห้องอยู่เท่านั้น มันยังมียันต์มากมายแปะติดอยู่หน้าห้อง ทั้งของไทย จีน มอญ
เธอทำใจอยู่สักพักใหญ่ๆ ก่อนจะเคาะประตูห้อง แต่ยังไม่ทันที่มือของเธอจะถึงประตู ประตูห้องก็เปิดออกมา
เผยให้เห็นถึงชายหนุ่มผมสั้นสีดำเจาะหูสูงประมาณ 180 เขามีรอยสักรูปเมฆอยู่ที่คอ และลำตัวมีลวดลายเป็นนกฟีนิกส์ กับบนหลังมีลวดลายของมังกร ที่แขนก็สักลายยักษ์โอนิ
และสาเหตุที่ฉันได้รู้ว่าเขาสักลายอะไร นั่นเป็นเพราะ… เขาไม่ได้ใส่เสื้อ!!!
‘ ก- กล้ามแน่นมาก!! ‘ดวงตาทั้งคู่ของฉันจ้องมองเรือนร่างของเขา ตาไม่กระพริบ
” มาจนได้ รอจนเปื่อยละ ” อีกทั้งน้ำเสียงยังดูน่ากลัวสุดๆ อย่างกับพวกยากุซ่าเลยอ่ะ!!
“ค- คะ …” เขารู้หรอ.. ว่าเราจะมา แต่ก่อนที่เราจะได้คิดอะไร ก่อนอื่นคงต้องเข้าไปรอข้างในห้องก่อน-..
“เดี๋ยว ก่อนจะเข้าห้องช่วยถอดรองเท้าไว้ข้างหน้าด้วย “
“ค- ค่ะ “
” และเคาะประตูก่อนเข้าห้องสามครั้ง “
“โอเคค่ะ ก็อก* ก็อก* ก็อก* ” งืม.. เขาเรื่องมากจังเลยแฮะ แต่ก็เอาเถอะ ถ้ามันช่วยฉันจากสิ่งที่กำลังเจออยู่ในช่วงนี้ได้ล่ะนะ
ทีแรกเราก็ทำไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไร ทว่าเมื่อได้ก้าวเข้าไปในห้องของอินทร์แล้ว ทุกอย่างที่อยู่ในสายตาพลันมืดมิดไปหมด พร้อมด้วยเสียงประตูที่ปิดดังปัง
อาการกลัวเริ่มเกิดขึ้นมาภายในใจ กลัวว่าเขาจะทำมิดีมิร้ายเรา เราหลับตาลงอธิษฐานอยู่ภายในใจ ก่อนที่เสียงเขาจะได้ดังขึ้น
“อธิษฐานไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร “
การมองเห็นเริ่มกลับมาอีกครั้ง รอบๆห้องพักที่ดูธรรมดา เปลี่ยนไปเป็นห้องเรือนไทย พื้นทำจากไม้อัดมันเงา มีเสาไม้เรียงรายกันอยู่นับไม่ถ้วน บรรยากาศภายในห้องที่ดูไร้สิ้นสุดนี้มันอึมครึมอย่างบอกไม่ถูก
ตรงหน้าเราคือโต๊ะพิธีกรรมอย่างหนึ่ง ที่ไม่มีอะไรเลย จะมีก็แค่ดาบไม่กี่เล่มที่วางอยู่บนนั้นกับเทียนไขสองเล่ม หน้าโต๊ะพิธีกรรมเป็นหมอนรองนั่งพื้นสองใบ
อินทร์เดินไปนั่งลงตรงหมอนรองนั่งข้างหน้าโต๊ะพิธีกรรม
” ทีนี้ ก็เล่ามาว่าอยากให้ช่วยอะไร “เขาเชิญเราให้มานั่งข้างหน้า เราทำตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเราไม่รู้จะไปพึ่งใครอีกแล้วหลังจากที่ได้เจอเหตุการณ์ต่างๆมากมายมา
อีกทั้งตอนนี้เรายังรู้แล้วว่าอินทร์นั้นเป็นหมอผีของจริง
“ก็… “ทว่า ยังไม่ทันที่เราจะได้เล่าอะไร ก็เหมือนมีมือเย็นๆของบางสิ่งมาอุดปากเราเอาไว้ไม่ให้พูดมันออกไป
พ- พูดไม่ออกง่ะ
กึก* กึก*
อินทร์ใช้นิ้วชี้เคาะพื้นไม้สองสามครั้ง ดังเป็นจังหวะ พร้อมกับนั่งจ้องมาที่เราด้วยสายตาที่ดูมุ่งร้ายอย่างมาก แต่ว่า.. เมื่อเขาเคาะจบ ความรู้สึกเย็นๆ คล้ายกับมือของบางสิ่งที่อุดปากไว้ก็หายไป ราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น
“พูดได้แล้วล่ะ มันไปแล้ว “
“อ่ะ- ค่ะ! ” เหลือเชื่อเลย… ไม่คิดเลยว่ามันจะไปเร็วขนาดนี้..
ราวกับว่ามันกำลังกลัวเขาคนนี้อยู่! ทีนี้.. ความกังวลใจทั้งหมดที่มีมา จะได้หายไปหมดสักที!
“คือว่า.. เรื่องมันเริ่มจาก ….. “
เมื่อไม่กี่เดือนก่อน
เดือนกุมภาพันธ์ เป็นเดือนแห่งความรัก ในเดือนนี้มักจะมีคู่รักเกิดขึ้นมาใหม่เสมอ ตัวเราเองที่เป็นนักศึกษาปี 3 คณะนิเทศศาสตร์เอง ก็ป๊อบปูล่าร์พอสมควร ในด้านความน่ารัก
วันนั้น เป็นวันที่เราจะไม่มีวันลืมมันลงได้เลย…
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ปี 2565
หนูได้รับอีเมลล์จากบุคคลปริศนา ที่มารู้ทีหลังว่าเป็นรุ่นน้องในคณะ เนื้อความในอีเมลล์บอกไว้ถึงความรักต่างๆนาๆ ที่อ่านดูแล้วน่าขนลุก
หนูเลยเมิน และไม่ได้สนใจอีเมลล์นั้นอีกเลย แต่มันก็ยังถูกส่งมาเรื่อยๆโดยคนเดิมเสมอๆ
“หนูรู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนกับสตอล์กเกอร์เลยค่ะ ..”
” อืม แล้วไงต่อ “พี่อินทร์ท้าวคางฟังอย่างตั้งใจ
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็ถึงวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก ในวันนี้มีคนให้ช็อกโกแลตกับหนูเยอะแยะเลย และยังมีคนมาแปะหัวใจให้เยอะมากอีกด้วย ทั้งเพื่อน ทั้งรุ่นพี่ ทั้งรุ่นน้องเลยค่ะ
” อืม… ” สีหน้าพี่อินทร์เริ่มเปลี่ยนไป จากตอนแรกที่ฟังอย่างตั้งใจ กลายเป็นเบื่อหน่ายและเซ็งกับที่เราพูดซะงั้น
“ต่อเลยนะคะ “
วันนั้นเอง อีเมลล์เดิมที่เคยได้รับก็ถูกส่งมาเช่นกัน และยังส่งมาเยอะมากๆเลยด้วย
หนูเริ่มรู้สึกถึงการถูกคุกคาม ที่น่าจะรู้ตั้งแต่เมื่อไม่กี่วันก่อนแล้ว ตลอดเวลาที่อยู่มหาลัยก็มักจะมีสายตาจ้องมองมาอย่างน่าสะอิดสะเอียนเสมอๆ
“สตอล์กเกอร์สินะ ไอ้คนนั้นน่ะ “
“ค- ค่ะ ใช่ค่ะ “
” แล้วมาถึงช่วงที่สตอล์กเกอร์นั่นตามถึงที่พัก เธอก็โทรตามตำรวจมาจับสินะ สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ได้โดนอะไรอยู่ดี “
“นี่รุ่นพี่รู้ด้วยหรอคะ!?”
” เฮ้อ… จะไม่รู้ได้ไงเล่า ออกข่าวซะใหญ่โตขนาดนั้น “
” หนูไม่คิดว่ารุ่นพี่อินทร์จะอ่านมันด้วย.. ฮะฮะ “
” เอาเถอะ เพื่อนยัดเยียดมาให้ดูอีกที แล้ว- เรื่องที่อยากให้ช่วยน่ะมีอะไร “
” คือว่าอยากให้รุ่นพี่ช่วยหนูจากมันที เหมือนว่าหนูจะโดนรุ่นน้องที่เป็นสตอล์กเกอร์คนนั้น.. ทำของใส่ “
” หืม น่าสนใจดีนี่ ทำของงั้นหรอ “พี่อินทร์นั่งตัวตรง ยืดตัวเล็กน้อย ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไป
อยู่ๆบรรยากาศน่าขนลุกก็เกิดขึ้น กลิ่นสาบของสัตว์เน่าเริ่มโชยมาตามลมที่ไม่ควรจะมีในที่แห่งนี้ พี่อินทร์หลับตาลงวางมือทั้งสองข้างไว้บนหน้าตัก
เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา ร่างกายของเรา ก็สั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัว
” มองตาฉัน “เขาพูดด้วยน้ำเสียงอันเย็นยะเยือก
” …. ” ร่างกายของเราไม่ทำตามที่ตัวเองสั่ง เราไม่สามารถสบตาเขาได้ตามที่เขาบอกให้ทำ อีกทั้งร่างกายมันยังฝืนคำสั่งและยังขยับไปเอง
” อย่าแม้แต่จะคิดว่าจะรอด หลังจากขัดคำสั่งของกูเชียว”
“ค- ค- คุณ.. ต้องการอะไร ” อะไรกัน ปาก- ปากมันขยับไปเอง!
ร่างของเราได้หันไปประจัญหน้ากับพี่อินทร์ รุ่นพี่ในคณะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่เลวร้ายสุดๆ อีกทั้งยังเป็นหมอผีเพียงคนเดียวของสถาบัน
” กูสิต้องถาม มึงต้องการอะไรจากรุ่นน้องกู “
ความรู้สึกหวาดกลัวได้ถาโถมเข้ามาหาอย่างมหศาล จนร่างนี้ของเราตัวสั่นเทาไปด้วยความหวาดผวาต่อชายตรงหน้า
” ไม่- ไม่ได้ต้องการอะไร- แค่เห็นว่าน้องเขาสวยดีเลยตามมาด้วยเฉยๆ-… “
” เรื่องจริง? หรือมึงแค่แต่งเรื่องขึ้นมาหลอก “
พี่อินทร์ในตอนนี้น่ากลัวกว่าตอนปกติมาก เพราะปกติพี่เขาจะเป็นคนอัธยาศัยดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่พอมาตอนนี้.. ราวกับว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จ้องจะจับผิดผู้ร้ายอยู่เลย
“ร- เรื่องจริง.. หนูอาศัยอยู่ที่ต้นไทรข้างหอพักหญิงของมหาลัยนี้เอง.. พี่อินทร์ เชื่อหนูเถอะนะ… ฮืออ… ” แล้วนี่อีผีนี่รู้จักพี่อินทร์ได้ยังไงกันเนี่ย?
” นี่มึงรู้จักกูด้วยเรอะ ” เอ๊ะ.. ทำไมรู้สึกว่าพี่เขามองแรงมากกว่าปกติ
” แล้วที่ว่าทำของใส่นี่ยังไง? “
” เหมือนว่าเขาเอาน้ำมันพราย หรืออะไรสักอย่างมาป้ายหนูน่ะค่ะ “เอ๊ะ พูดได้ตามปกติแล้ว!
” แต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผล.. “
” นั่นแหละ ก็ไปขอบคุณผีที่สิงอยู่ในร่างแกก็แล้วกัน มันช่วยจัดการของนั่นให้แล้ว ส่วนเรื่องที่ว่านอนไม่หลับนี่.. เห้ย แกน่ะ ชื่ออะไร “
” ส- สกายค่ะรุ่นพี่! ” เห๊ะ เปลี่ยนกลับอีกแล้ว?!
” นั่นแหละ สกายมันทำ วันหลังก็เผลาๆบ้างล่ะ ไอ้หนูนี่มันนอนไม่หลับ “รุ่นพี่ก็ยังคุยกะผีอย่างใจเย็นเนาะ หนูนี่สิโคตรกลัว!
“ก็แหม.. รุ่นพี่คะ.. กีตาร์มันสนุกดีนี่นา.. ” สรุปคือ.. เธอเองสินะ! ที่มาเล่นกีตาร์แล้วหนูนอนไม่หลับทุกคืน!
” เรื่องก็จบแค่นี้ล่ะนะ เอาเป็นว่าจะไม่คิดค่าจ้างก็แล้วกัน ถ้าเรื่องจบแล้วก็ไปได้แล้ว! “
” อ๊ะ-.. ค- ค่ะ!! ” แต่ก่อนที่หนูจะได้ออกจากที่นั่น ก็ได้บอกกล่าวส่งท้ายไว้ด้วยความสดใส
” อ้ะ- รุ่นพี่! หนูชื่อ ซัน นะเป็นดาวมหาลัย เบอร์โทรก็ 064..–“
“ไม่อยากได้โว้ย!!! ไม่อยากรับรู้อะไรด้วย!!! ไปไกลๆเลย!!! “พี่อินทร์ไล่หนู หนูเลยรีบกลับไปอย่างไวและทิ้งท้ายไว้ด้วยรอยยิ้ม…
..
หลังจากที่ยัยหนูนั่นไปแล้ว ฉันก็มานั่งคิดเกี่ยวกับของนั่น
” ของงั้นเรอะ เหอะ คำสาปมากกว่ามั้ง จากนี้คงต้องหาวิธีแก้ให้ยัยหนูนั่นก่อนซะแล้วสิ “
จริงๆที่พูดไปเมื่อกี้ว่าไม่เป็นอะไรแล้ว นั่นเป็นการบลัฟเผื่อให้อีกฝ่ายผ่อนคลายลง อีกอย่างไอ้คำสาปอะไรนั่นน่ะ ดูเหมือนมันจะแรงอยู่พอตัว
เพราะนอกเหนือจากสกายแล้ว ก็ยังมีวิญญาณอีกตนที่คอยตามติดและพยายามจะเอาชีวิตแม่หนูนี่อยู่
“ยังไงก็.. จะลองช่วยดูหน่อยก็แล้วกัน ซัน ดาวมหาลัยสินะ “
“หลังจากนี้เรื่องวุ่นคงจะตามมาอีกบานแน่ๆเลย ให้ตายสิ “
หลังจากที่เขตแดนนี้คลายออก ฉันก็เดินไปที่โต๊ะที่วางสมุดแฟ้มบันทึกเคสรายวันเอาไว้
ฉันเก็บมันเข้าใต้เก๊ะ ก่อนที่จะสวมใส่ชุดนักศึกษาเพื่อที่จะไปเรียน ตอนนี้มันก็สายมากแล้วล่ะนะที่จะไปเรียนตอนนี้
แต่ก็ไม่เป็นไร ถือเป็นการสังเกตการณ์ไปด้วย
“อยู่คณะเดียวกันด้วยสิ ค่อยง่ายต่อการตามหาขึ้นหน่อย “
ตัดจบตอน