ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน - บทที่344 ลําบาก
อวี้ถังไม่รู้ถึงความคิดของกู้ซี ทั้งไม่อยากจะรู้ความคิดนางเช่นกัน
2738
นางพอใจกับการใช้ชีวิตตอนนี้ที่สุดแล้ว
คนในเรือนล้วนอยู่อย่างราบรื่นสุขสบาย ทั้งนางก็ไม่เหมือนกับชาติก่อนแล้ว ไม่เพียงได้
แต่งกับสามีที่สมใจหวัง ยังสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากเผยเยี่ยนหลาย
อย่าง เพิ่มพูนทักษะความรู้ขึ้นมาไม่น้อย
นี่จึงนับว่าเป็นการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดแล้ว
กู้ซีคิดอย่างไร? ล้วนไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลหรืออยู่ในขอบเขตความสนใจของนางอีก
แล้ว
หากมีเวลานางมิสู้ไปคิดว่าจะทําอะไรอร่อยๆ ให้เผยเยี่ยนกินเสียดีกว่า!
มุมปากของอวี้ถังแฝงด้วยรอยยิ้ม ปรึกษาเรื่องเสื้อผ้าเครื่องประดับที่จะสวมใส่ไปเป็น
แขกที่สกุลจางกับสวีเซวียน คิดว่านางและตัวเองคงจะมีความคิดไปทางเดียวกัน
เสื้อกั๊กยาวผ้าหังโฉวสีนํ้าเงินเลี่ยมขอบสีเหลืองปักลายก้านลูกพลับ เครื่องประดับ
ศีรษะลายนกและบุปผาฝังหยกเหอเถียน ต่างหูไข่มุกหนานจู ดูผ่าเผยและสง่างามอย่างยิ่ง
สวีเซวียนกัดผิงกั่ว เอ่ยอย่างอู้อี้อยู่บ้าง “ความจริงข้าคิดว่าเสื้อคลุมสีขาวอมเงินปัก
ลายก้านดอกตัวนั้นของเจ้าดูดีกว่า แต่พวกท่านน้าท่านป้าสกุลพวกเรา พิถีพิถันเรื่องพวกนี้ ข้า
กลัวว่านางจะรู้สึกว่าเสื้อตัวนั้นของเจ้าดูราบเรียบเกินไป นางเห็นแล้วจะคิดเรื่อยเปื่อย เกิด
ปัญหาไม่จบไม่สิ้น”
อวี้ถังตระหนักถึงบุตรชายคนโตของสกุลจางเพิ่งจากไปได้ไม่นาน ทั้งกลัวว่าผู้อาวุโส
บางคนจะพิถีพิถันเรื่องนี้ จึงตัดสินใจไม่ได้อยู่บ้าง เชิญสวีเซวียนมาช่วยออกความคิดเห็น
นางฉวยโอกาสถามความชื่นชอบของฮูหยินจางผู้เฒ่าเล็กน้อย
สวีเซวียนถอนหายใจ เอ่ยว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าของสกุลพวกเราคนนี้นับว่าสายตาดีอย่าง
แท้จริง ยามนั้นนางมีชื่อเสียงอย่างยิ่ง ผู้ที่มาสู่ขอหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย นางเป็นคนเลือกใต้
เท้าจางด้วยตัวเอง เดิมทีในสกุลก็ไม่เห็นด้วยเท่าใด คาดไม่ถึงว่าใต้เท้าจางจะประสบ
2739
ความสําเร็จในเวลารวดเร็ว ดังนั้นชั่วชีวิตนี้ของนางจึงไม่เคยพบเจอความลําบากอะไรมาก่อน
ทําให้มีนิสัยเจ้าอารมณ์อยู่บ้าง” พูดมาถึงตรงนี้ นางก็ส่งสายตาให้อวี้ถัง กล่าวตามตรงว่า “ข้า
จะพูดเป็นการส่วนตัวกับเจ้า”
อวี้ถังรู้นิสัยของนาง รีบไล่คนข้างกายออกไปทันที
ยามนี้สวีเซวียนค่อยเอ่ยเสียงเบากับนางว่า “ตั้งแต่เล็กข้าก็ได้ยินคนอื่นล้วนแต่พูดว่า
นางวาสนาดี แต่ท่านย่าของข้ากลับกล่าวว่า มนุษย์ไม่อาจสมบูรณ์ได้ทั้งหมดหรอก หากยามนี้
ดี ก็ย่อมต้องมีเรื่องไม่ดีรอคอยอยู่เบื้องหน้านาง ฮูหยินผู้เฒ่าของสกุลพวกเราคนนี้ เพียงแค่
เสวยสุขไปก่อนเท่านั้น” พูดจบ นางก็เลิกคิ้วให้อวี้ถัง
ความนัยของวาจานี้คือ ฮูหยินจางผู้เฒ่าในยามนี้เป็นดั่งคําพูดที่ท่านย่าของนางว่าไว้
จริงๆ
อวี้ถังอดจมดิ่งในความคิดไม่ได้
โชคชะตาของนางดูเหมือนจะเป็นแบบนี้เช่นกัน
เลวร้ายจนถึงที่สุด กลับสามารถเกิดใหม่ได้อีกครั้ง
หลังจากเกิดใหม่ ราวกับสวรรค์จะชดใช้ให้กับนาง แม้ว่านางจะพบเรื่องราวมาไม่น้อย
กลับไม่ได้เจ็บหนักร้ายแรงแต่อย่างใด
อวี้ถังคิดคล้อยตาม เอ่ยทั้งพยักหน้า “เจ้าพูดมีเหตุผล หากวันไหนว่างพวกเราไปเที่ยว
เล่นที่วัดด้วยกันสักหนเถิด!” พูดจบ ก้มหน้าก็เห็นท้องโตของสวีเซวียน รีบเปลี่ยนคําพูดใหม่
“เจ้าพักอยู่ที่เรือนดีกว่า รอเจ้าออกเดือนแล้ว พวกเราค่อยนัดกันอีกครั้ง”
สวีเซวียนไม่คิดมากกับคําพูดของนางแต่อย่างใด เอ่ยว่า “รอจนข้าออกเดือน กว่าจะไป
จุดธูปไหว้พระที่วัดได้ คาดว่าคงจะเป็นฤดูใบไม้ผลิปีหน้าแล้ว เจ้าจะยังอยู่ในเมืองหลวงหรือไม่
ล้วนพูดยาก” พูดมาถึงตรงนี้ นางก็ถามจุดประสงค์ที่อวี้ถังมาเมืองหลวง “ก็ไม่รู้ว่าเจ้าจะ
สามารถอยู่ที่นี่ได้นานเท่าใด?”
2740
อวี้ถังมาเป็นเพื่อนเผยเยี่ยนโดยสิ้นเชิง เอ่ยทั้งใบหน้าแดงกํ่า “เป็นใต้เท้าจางผู้เฒ่า
เรียกนายท่านสามเข้ามา กลับไปยามใด ยังต้องดูว่าใต้เท้าจางผู้เฒ่าต้องการให้เขาทําอะไร?”
สวีเซวียนก็มองออก อวี้ถังนั้นมีความเชื่อใจเผยเยี่ยนอย่างหูหนวกตาบอดอยู่บ้าง เผย
เยี่ยนทําอะไรนางล้วนไม่คิดเห็นต่าง ไม่เหมือนนาง อินหมิงหย่วนทําอะไร นางจําต้องรู้เรื่อง
ทั้งหมดให้ได้
สามีภรรยามีหลายพันแบบ นางไม่อาจพูดว่าตัวเองที่เป็นเช่นนี้ดีที่สุด หรืออวี้ถังที่เป็น
เช่นนั้นไม่ดี
“ไม่อย่างนั้น พวกเราไปวัดถานเจ้อ?” สวีเซวียนออกความเห็น “เส้นทางยังนับว่า
สะดวกราบรื่น ที่พักห้องหับและอาหารก็ดีไม่น้อย ยามนี้บรรยากาศกําลังดีเช่นกัน หลังจาก
ออกไปข้างนอกครั้งนี้ ข้าคงต้องพักอยู่ที่เรือนเตรียมคลอดดีๆ แล้ว” พูดถึงตรงนี้ แววตานางก็
ปรากฏความหม่นหมองวาบผ่านขึ้นมา
อวี้ถังละลํ่าละลักเอ่ยว่า “เจ้าเป็นอะไรรึ?”
สวีเซวียนครุ่นคิดเล็กน้อย ยามนี้ค่อยเอ่ยกับอวี้ถังด้วยใจจริง “ความจริงข้ากลัวอยู่บ้าง
ข้าได้ยินว่าผู้หญิงคลอดบุตรนั้นเหมือนเดินผ่านประตูผี…ทุกคนเอาแต่จับจ้องท้องของข้า เมื่อ
วานฮูหยินหลียังให้คนส่งเครื่องลางมงคลมาให้ข้า กล่าวว่านางไปขอพรที่วัดหงหลัวให้ข้า
โดยเฉพาะ”
วัดหงหลัวอยู่นอกเมือง นั่งรถม้าก็ยังต้องใช้เวลาเกือบครึ่งวัน
บางที สวีเซวียนอาจจะไม่เพียงแค่อยากไปเที่ยว
หากสามารถปลอบประโลมจิตใจได้ ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องแย่เสมอไป
อวี้ถังเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นพวกเราก็ไปวัดถานเจ้อสักเที่ยวเถิด ได้ยินว่าเซียมซีที่นั่น
ศักดิสิทธิ ์ ์
ไม่น้อยเช่นกัน”
2741
สวีเซวียนรู้สึกผ่อนคลายอย่างแปลกประหลาด เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ได้สิ! ถึงเวลานั้นพวก
เรานัดลี่หวาไปด้วย นางก็ใช้ชีวิตอย่างยากลําบากเช่นกัน ญาติผู้พี่ใหญ่สกุลจางจากไป เกี่ยว
อันใดกับนางกัน? ลําพังย่านางก็ดี แม่นางก็ดี มักจะดึงนางไปพูดเรื่องพวกนี้ นางไม่อาจทําเป็น
เพิกเฉยได้ ในใจต้องทนทุกข์ไม่น้อยเช่นกัน”
อวี้ถังมีความประทับใจที่ดีต่อคุณหนูใหญ่สกุลจางอย่างยิ่ง ร้องว่า ‘อ่อ’ อย่างไม่เข้าใจ
เท่าใด
สวีเซวียนจึงบอกนาง “ปัญหาหลักอยู่ที่ผู้ชายในบ้านใหญ่เพียงคนเดียว จัดอยู่ในลําดับ
ที่สองของหมู่ญาติพี่น้อง นอกจากหลานคนโตจะเกิดจากบ้านรอง ยามนี้สกุลจางยังมีนายท่าน
รองของสกุลจางเป็นผู้ดูแล มารดาของลี่หวาไม่มีความคิดจะแทนที่บ้านใหญ่ แต่ไม่อาจทน
ความกังวลของผู้ใหญ่ในเรือนได้ จึงแบกรับความไม่เป็นธรรมเอาไว้”
อวี้ถังไม่อาจพูดอะไรได้
สวีเซวียนเอ่ยทั้งทอดถอนหายใจ “ดังนั้นงานแต่งของลี่หวาจึงสําคัญอย่างยิ่ง แต่งกับ
สกุลที่สูงไป ก็กลัวจะก่อให้เกิดความไม่พอใจระหว่างสองบ้าน แต่งให้สกุลที่ตํ่าไป มารดาของ
นางย่อมไม่เต็มใจ เมื่อวานมารดาของนางยังไปหามารดาของข้า พูดคุยกันอยู่ค่อนวัน มารดา
บอกให้ช่วงนี้ข้าไปสกุลพวกนางน้อยๆ หน่อย จะได้ไม่ถูกฮูหยินผู้เฒ่าลากไปพูดคุยเรื่องในเรือน
หากตอบได้ไม่ดี คงมิวายจะโดนตําหนิเสียเอง”
อวี้ถังชะงักไป เอ่ยว่า “เช่นนั้นเจ้ายังจะไปเป็นแขกที่สกุลจางเป็นเพื่อนข้าอีก?”
“ข้าไม่ใช่เห็นว่าเจ้าออกไปเป็นแขกครั้งแรกหรอกรึ?” ขณะที่สวีเซวียนเอ่ย ก็ยิ้มอย่าง
เจ้าเล่ห์ “ฮูหยินผู้เฒ่าของสกุลพวกเราคนนี้รักหน้าตาอย่างยิ่ง ไม่อาจพูดเรื่องในเรือนต่อหน้า
เจ้าที่เพิ่งพบกันครั้งแรกได้หรอก”
แต่ครั้งนี้ สวีเซวียนกลับเดาผิด
2742
ฮูหยินจางผู้เฒ่าไม่เพียงลากอวี้ถังมาเอ่ยถึงเรื่องในเรือน ยังพูดอีกเรื่องหนึ่งกับอวี้ถัง
“เด็กคนนั้น ปีหน้าก็จะครบแปดขวบแล้ว สยากวงนับว่าเห็นเขาเติบโตมาเช่นกัน ข้าตระหนักได้
ว่าสยากวงมีสหายมาก ไม่รู้ว่าพอจะช่วยแนะนําอาจารย์คนแรกให้สักคนได้หรือไม่”
อวี้ถังตกใจไม่น้อย คิดว่าสกุลอย่างสกุลจาง คงไม่อาจรอให้ลูกชายของจางเซ่าอายุ
แปดขวบแต่ยังไม่มีอาจารย์คนแรกได้หรอก
ฮูหยินจางผู้เฒ่ากลับร้องไห้ออกมา “เดิมทีมารดาของเขาก็เป็นอาจารย์ให้เขามาโดย
ตลอด ก่อนหน้านี้บิดาของเขากล่าวไว้ว่า รอจนยามที่เขาเจ็ดขวบ จะเชิญอาจารย์มาให้เขา
อย่างเป็นทางการ ใครจะรู้ว่า…เด็กคนนี้กลับไม่มีวาสนา ปีนั้นสยากวงและบิดาของเขาราวกับ
เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน เขาก็ไม่เหมือนอาทั้งสองของเด็กคนนี้ ไม่ชอบปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
นอกจากคนของศาลาว่าการของตัวเองแล้ว ก็แทบไม่รู้จักใครเลย ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ในเจียง
หนานพวกนั้น ใครบ้างจะไม่รู้จักสยากวง ข้าก็ไม่ได้ให้สยากวงไปเชิญคนอื่นถึงหน้าประตู เพียง
อยากให้เจ้าช่วยถ่ายทอดคําพูด ดูว่าใครเหมาะสม แนะนําให้ท่านผู้เฒ่าของสกุลพวกเราเท่านั้น
ท่านผู้เฒ่าของสกุลเราไปออกหน้าเชิญด้วยตัวเองก็เพียงพอแล้ว”
อวี้ถังคิดว่าฮูหยินจางผู้เฒ่าคนนี้สร้างความลําบากให้คนอื่นอยู่บ้าง
พบหน้ากันครั้งแรกก็วานให้นางทําเรื่องเสียแล้ว
ควรรู้ว่า ไม่ว่าศิษย์จะเรียนได้ไม่ดีหรือว่าอาจารย์สอนไม่ดี คนที่แนะนําล้วนแบกความ
รับผิดชอบอย่างใหญ่หลวงทั้งสิ้น
หากลูกชายของจางเซ่าเรียนได้ไม่ดี หรือเผยเยี่ยนยังต้องแนะนําอาจารย์ให้เขาต่อ
คอยดูแลเขาจนสอบจิ้นซื่อได้อย่างนั้นรึ?
นึกมาถึงตรงนี้ อวี้ถังก็ใจเต้นระรัว เงยหน้ามองไปทางฮูหยินจางผู้เฒ่า
แววตาของฮูหยินจางผู้เฒ่ามองมายังนางอย่างระยิบระยับพอดี
2743
ชั่วขณะนั้นอวี้ถังก็ใจเย็นลงมา นางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เรื่องของนายท่านสามสกุลพวก
เรา ข้าก็ไม่ค่อยรู้เท่าใด ยามที่อยู่ในเรือน เขาพูดอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น ในเมื่อท่านฝากข้า
ถ่ายทอดคําพูด ข้าไปบอกเขาให้ก็เพียงพอแล้ว” พูดจบ ยังทําท่าประหนึ่งกังวลว่าเผยเยี่ยนจะ
ตําหนินาง
สวีเซวียนตกตะลึง คล้อยหลังแววตาก็ปรากฏความชื่นชม มองอวี้ถังทั้งยิ้มมุมปาก
กลับเป็นฮูหยินจางผู้เฒ่าที่เหนือความคาดหมายอย่างยิ่ง แต่นางอาบนํ้าร้อนมาก่อน
ยามที่คิดจะปิดบังความคิดสีหน้า ปกติย่อมไม่มีใครดูออก
นางคาดไม่ถึงว่าอวี้ถังจะทําเรื่องได้ไร้ช่องโหว่เพียงนี้
นางหัวเราะออกมา ก่อนจะขอบคุณอวี้ถัง รอจนยามที่ต้องไปฟังงิ้วที่เรือนหลัง นางไป
เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องอุ่น ก็อดเอ่ยกับนายหญิงสามสกุลจางไม่ได้ “เดิมทีข้าคิดจะหยั่งเชิงนาง
เล็กน้อย ยามนี้ดูแล้ว สาวน้อยผู้นี้ไม่เพียงหน้าตางดงาม ยังรู้จักขบคิดวางแผน นับว่าหาได้ยาก
จริงๆ ช่างน่าเสียดาย หลานคนโตและคนรองของสกุลพวกเราล้วนอายุไม่เหมาะสมกับสกุล
พวกเขา ไม่อย่างนั้นได้เกี่ยวดองกับสยากวงคงจะดีไม่น้อย”
นายหญิงสามสกุลจางเก็บคําพูดไว้ในใจ นึกถึงลูกชายทั้งสองคนของตัวเอง ยามนี้ลูก
คนเล็กเพิ่งจะอายุสามขวบเท่านั้น!
นางหัวเราะออกมา ก่อนจะพยุงฮูหยินจางผู้เฒ่าไปฟังงิ้วที่ศาลา ทั้งกระตือรือร้นกับอวี้
ถังยิ่งกว่าเมื่อก่อน ถึงกระทั่งหลังจากนั้นยังไปมาหาสู่กับอวี้ถังอย่างเป็นทางการ นี่ทําให้อวี้ถัง
งุนงงอย่างยิ่ง ยังถามเผยเยี่ยนว่า “นางมีเรื่องอะไรอยากให้เจ้าช่วยใช่หรือไม่?”
เดิมทีจางอิงอยากให้เผยเยี่ยนช่วยเกลี้ยกล่อมเฟ่ ยจื้อเหวิน ใครจะรู้ว่าเฟ่ ยจื้อเหวินได้
ตัดสินใจแล้ว วางแผนรอให้เรื่องทางสกุลจางสงบลง เขาก็จะลาออกกลับบ้านเกิด จางอิงอับจน
หนทาง จึงโน้มน้าวเผยเยี่ยนให้รับราชการอีกครั้ง ยังนําเผยโย่ว พี่ใหญ่ของเขามายกตัวอย่าง
“ปีนั้นเขาก็เป็นบ้านหลัก ไฉนจึงเข้าสู่ราชสํานักเป็นขุนนางได้ล่ะ? เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าเรื่องอะไร
ล้วนไม่มีกําหนดที่ตายตัว เจ้าเอาแต่หลบอยู่ในหลินอันเช่นนี้ น่าเสียดายเกินไปแล้ว”
2744
เผยเยี่ยนปฏิเสธจางอิงอย่างตรงไปตรงมาอีกครั้ง
จางอิงทําได้เพียงลดความต้องการลง ขอเผยเยี่ยนให้ช่วยโจวจื่อจินอาศัยเส้นสายของ
ใต้เท้าเสิ่น หาวิธีโยกย้ายไปสํานักตรวจการ ชดเชยส่วนของซุนเกา “สกุลเผิงย่อมไม่ยินดีจะละ
ทิ้งทางกรมอาญา แต่ทางพวกเรา มีเพียงโจวจื่อจินที่มีความสามารถเช่นนี้”
โจวจื่อจินเคยเป็นขุนนางมาก่อน เพียงแต่เขาลาออกกลางคันโดยใช้เหตุผลกลับไป
ดูแลบิดาที่ชรา ในแวดวงบัณฑิตจึงขึ้นชื่อเรื่อง ‘ความกตัญ�ู’ หากใช้ประโยชน์ได้เหมาะสม
ย่อมกลายเป็นความได้เปรียบของโจวจื่อจิน แต่โจวจื่อจินเย่อหยิ่งถือดีเกินไป ไม่ยินยอมจะใช้
ประโยชน์เรื่องชื่อเสียงนี้ ยิ่งไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปจัดการเรื่องราว
จางอิงทําได้เพียงขอให้เผยเยี่ยนช่วยออกหน้า
เผยเยี่ยนคิดว่าฮูหยินจางผู้เฒ่าคงได้ยินอะไรมา ดังนั้นจึงให้นายหญิงสามสกุลจาง
ตั้งใจสร้างความสนิทสนมกับอวี้ถัง แต่เขารู้สึกว่าเช่นนี้ก็หาได้มีอะไรไม่เหมาะสม ภรรยาพึ่ง
บารมีของสามี เขามีความสามารถนี้ คนอื่นจึงได้เห็นความสําคัญของอวี้ถังเป็นพิเศษ อวี้ถัง
ไหนเลยต้องสนใจมากมายเพียงนี้ รับการประจบประแจงจากคนอื่นก็เพียงพอแล้วมิใช่รึ?
เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หรือเหตุผลจะเป็นเพราะเจ้ายอดเยี่ยมอย่างยิ่งไม่ได้เชียวรึ?”
อวี้ถังไม่เชื่อ นางเอ่ยว่า “หลายวันนี้ข้าก็ไปเยี่ยมเยียนมาหลายสกุล พบว่าพวกเขาล้วน
ยอดเยี่ยม ทั้งดูสงบเสงี่ยม สกุลใดมีความสัมพันธ์กับสกุลใด ควรใช้ท่าทีอย่างไร ล้วนกระจ่าง
ใจดี เจ้าอย่าได้ยกยอข้าเชียว ข้าย่อมรู้เรื่องของตัวเองดีที่สุด”
พูดถึงตรงนี้ เผยเยี่ยนก็ไม่พอใจอยู่บ้าง เอ่ยว่า “เช่นนั้นเจ้ายังจะไปค้างแรมที่วัดกับ
ภรรยาของอินหมิงหย่วนอีก!”
เขาไม่ชอบให้อวี้ถังออกจากเรือน ไม่ชอบที่กลับเรือนมาแล้วไม่เจออวี้ถัง ทั้งไม่ชอบอยู่
ในห้องหนังสือทําธุระสะสางงานเพียงคนเดียว