ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน - บทที่327 รับญาติ
ไอ้คนเลว รู้จักแต่รังแกนาง!
อวี้ถังแอบด่าเขาในใจ แต่กลับไม่รู้ว่ามุมปากของตนยกขึ้นน้อยๆ โค้งเป็นรอยยิ้มหวาน
วันนี้เป็นวันที่ต้องทําพิธีรับญาติ นางไม่อาจวิ่งหนีเผยเยี่ยนไปจริงๆ ได้
นางวิ่งออกมาไม่กี่ก้าว ก็ค่อยๆ ผ่อนฝีเท้าลง
เผยเยี่ยนเห็นดังนั้นก็ลอบหัวเราะ รีบสาวเท้าเข้าไปหา ตัดสินใจไม่แกล้งนางต่อ ก่อน
เอ่ยแผนของตนให้นางฟัง “ไปไหว้บรรพบุรุษกับรับญาติที่เรือนท่านแม่ทางนั้น ตอนเที่ยงก็กิน
ข้าวกับท่านแม่ด้วยเลย พอกลับมาแล้วเจ้าลองดูว่าอยากพักสักหน่อยก่อนหรือไม่ หากว่าจะพัก
พวกเราก็นอนกลางวันสักงีบ หากว่ายังมีแรงเหลือไม่อยากพักละก็ ออกไปเจอเหล่าข้ารับใช้ข้าง
กายข้าเสียหน่อย ตอนเย็นคงต้องไปกินข้าวกับท่านแม่อีก ส่วนตอนคํ่ากลับมาพวกเราจําต้อง
เตรียมของสําหรับไปเยี่ยมบ้านวันรุ่งขึ้น พรุ่งนี้พวกเราต้องตื่นกันแต่เช้า ไปตรอกชิงจู๋ด้วยกัน
เจ้าคิดว่าอย่างไร?”
ทั้งหมดนั้น เขาล้วนใช้นํ้าเสียงเชิงหารือพูดกับนาง
อวี้ถังจ้องมองเผยเยี่ยนอย่างประหลาดใจ
เผยเยี่ยนอดจะหัวเราะออกมาไม่ได้ “ก็มันเป็นเรื่องของพวกเราสองคนมิใช่หรือ?
แน่นอนว่าพวกเราต้องตัดสินใจร่วมกัน?”
ตอนที่บิดาของเขายังอยู่ ก็มักจะจัดการเรื่องราวในจวนกับมารดาเช่นนี้
อวี้ถังรู้สึกชื่นใจไม่น้อย
นางยิ้มตาหยีพลางพยักหน้า
เผยเยี่ยนนึกถึงท่าทางเขินอายเมื่อครู่ของนาง กลัวว่าอีกเดี๋ยวเมื่อเจอคนในสกุลแล้วจะ
รู้สึกอึดอัด จึงปลอบใจนางว่า “คนในสกุลนั้นเจ้าไม่ต้องสนใจมากหรอก สุดท้ายคนที่เจ้าต้องใช้
2602
ชีวิตร่วมด้วยจริงๆ ก็คือข้ากับท่านแม่ คนอื่นๆ หากเจ้าคบหาแล้วสบายใจ ก็ไปมาหาสู่กันได้
หากว่าคบหาไม่สบายใจ ก็แค่รักษาหน้าตากันไว้ก็พอ ส่วนคนนอกสกุลเผย ยิ่งไม่จําเป็นต้องใส่
ใจเข้าไปใหญ่ ตอนนี้เจ้าเป็นสะใภ้บ้านหลักสกุลเผย เป็นตัวแทนของสกุลเผย หากใครไม่เคารพ
เจ้า ก็เท่ากับไม่เคารพสกุลเผยเช่นกัน ถ้าเจ้าเจอคนเลอะเลือนเช่นนั้น เจ้าไม่จําเป็นต้องใส่ใจ
หากมีเรื่องอะไร ให้พวกเขามาหาข้าก็พอ”
พอถึงประโยคท้ายๆ นํ้าเสียงของเขาก็ยิ่งเย็นชา ทําให้อวี้ถังคิดถึงครั้งแรกที่ได้เจอเผย
เยี่ยน เขาก็ดูห่างเหินและเย่อหยิ่งแบบนี้
นี่คงเป็นความคิดเห็นจริงๆ ของเผยเยี่ยนกระมัง?
อวี้ถังคาดเดา ความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาจากกลางใจ
คนผู้หนึ่งที่สามารถใช้ชีวิตตามแต่ใจที่ตนปรารถนาได้นั้น จะต้องเก่งกาจมากจริงๆ
สินะ!
นางเอื้อมมือไปเกี่ยวนิ้วของเผยเยี่ยน จากนั้นตอบว่า “อืม” เสียงเบา
นิ้วมือของเผยเยี่ยนสัมผัสได้ถึงความอุ่นละมุนที่แผ่ซ่าน พลันรู้สึกว่าหัวใจได้รับการเติม
เต็ม
บางทีนี่อาจเป็นความสุขของคู่แต่งงานใหม่กระมัง?
เขาคิด
ก่อนแต่งงานเขายังกลัวว่าตนเองจะรังเกียจเรื่องอย่างว่าของสามีภรรยา ใครจะคิดว่า
พอหลังแต่งงานเขากลับเหมือนได้ของเล่นถูกใจชิ้นหนึ่ง รู้สึกชื่นชอบจนวางไม่ลงเสียอย่างนั้น
คงต้องโทษที่ภาพวาดพวกนั้นวาดได้น่าเกลียดเกินไป
หากว่ามีโอกาส เขาคิดว่าตนก็จะวาดออกมาสักเล่มหนึ่ง
โดยใช้อวี้ถังเป็นแบบ
2603
เขาหันไปมองอวี้ถัง
อวี้ถังก็ส่งยิ้มหวานลํ้ามาให้เขาอย่างไม่ประสา
ท่าทางเช่นนั้น ดูใสซื่อบริสุทธิ์
จนไม่รู้จะเทียบกับสิ่งใดดี
เผยเยี่ยนเองก็ส่งยิ้มกลับไปให้
ทันใดนั้นเขาก็คิดได้ว่าการวาดภาพคงมิใช่ความคิดที่ดีเท่าไร
ตอนที่เขายังมีชีวิตย่อมมีเพียงเขาคนเดียวที่สามารถชื่นชมได้ แต่หากเขาไม่อยู่แล้ว
หรืออาจมีข้อผิดพลาดจนภาพถูกแพร่ออกไป…แค่เขาคิดถึงตรงนี้ ก็รู้สึกไม่สบอารมณ์แล้ว
ไว้คิดหาวิธีอื่นจะดีกว่า!
เผยเยี่ยนเบื้องหน้าวางท่าเคร่งขรึม แต่กลับเดินไปยังเรือนท่านแม่เฒ่าพร้อมอวี้ถังด้วย
หัวใจที่พันกันยุ่งเหยิง
หอบรรพชนของสกุลเผยอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไร
พวกเขาเข้าไปคารวะท่านแม่เฒ่าก่อนเป็นอันดับแรก
ท่านแม่เฒ่าสกุลเผยแม้ตนจะเป็นม่าย แต่วันนี้เป็นวันแต่งงานใหม่ของเผยเยี่ยน นาง
ใส่เสื้อกันหนาวตัวบางสีแดงพุทราขลิบทองเป็นครั้งแรก คาดด้วยผ้าคาดประดับหินหยกสีเขียว
ดูแล้วภูมิฐานงดงาม สุภาพเยือกเย็นยิ่งนัก
นางมองคู่สามีภรรยาเบื้องหน้าพลางคลี่ยิ้มออกมา รอให้พวกเขาคารวะเต็มพิธีเสร็จก็
กวักมือเรียกอวี้ถัง แล้วดึงมือนางมาจับไว้ ก่อนหันไปกําชับเผยเยี่ยนว่า “บัดนี้เจ้าก็เป็นผู้ใหญ่
เต็มตัวแล้ว ต่อไปจะทําอะไรนอกจากสุขุมหนักแน่น ยังต้องคิดถึงภรรยาและลูกๆ ในเรือนด้วย”
เผยเยี่ยนตอบรับอย่างนอบน้อมทุกคํา
2604
ท่านแม่เฒ่าถามพวกนางว่ากินข้าวเช้ามาแล้วหรือยัง พอรู้ว่าทั้งสองคนจัดการตัวเอง
เรียบร้อยแล้วถึงเอ่ยว่า “ไปเถอะ! ใกล้จะถึงเวลามงคลแล้ว พวกเจ้าไปจุดธูปไหว้บรรพบุรุษก่อน
แล้วค่อยมาหาข้าใหม่”
พิธีรับญาติจะจัดที่เรือนของท่านแม่เฒ่า
สองคนเอ่ยรับ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังหอบรรพชนเล็กของสกุลเผยซึ่งห่างออกไปไม่มาก
ท่านผู้เฒ่าสกุลอี้รอพวกเขาอยู่ทางนั้นก่อนแล้ว พวกเขาล้วนเปลี่ยนมาใส่ชุดทางการ
โดยมีท่านผู้เฒ่าสกุลอี้นําทางพาพวกเขาเข้าไปจุดธูป
เมื่อกลับไปหาท่านแม่เฒ่าสกุลเผยที่เรือน เหล่าสตรีและญาติสนิทในสกุลต่างก็มา
เกือบครบแล้ว เสียงจ้อกแจ้กจอแจดังไปทั่วลาน เด็กหลายคนวิ่งซุกซนไปทั่ว แม่นมไม่ก็สาวใช้
ประจําตัวของคุณหนูคุณชายแต่ละคนต่างก็วิ่งไล่ตามพวกเขาจนเหงื่อโชก ภาพที่ปรากฏ
ตรงหน้า ไม่ต่างอะไรกับวันปีใหม่เลย
แต่ในสายตาของเหล่าผู้อาวุโสสกุลเผย นี่เป็นสัญลักษณ์ของลูกหลานเต็มสกุล
ท่านผู้เฒ่าสกุลอี้ลูบเคราไปมาแล้วหัวเราะ “คอยดูให้ดีล่ะ อย่าให้พวกเขาสะดุดล้มเอา
ได้”
ผู้ดูแลข้างกายประสานมือตอบคํา “ขอรับ”
ทุกคนเตรียมจะเดินตัดลานเพื่อไปยังห้องโถง เด็กหลายคนวิ่งกรูเข้ามาหาอย่างไม่เกรง
กลัว ไม่ก็กอดขาท่านผู้เฒ่าสกุลอี้ ไม่ก็กอดขาเผยเยี่ยนเอาไว้ ร้องเรียก ‘ท่านอาสาม’ ไม่ก็ ‘ท่าน
ปู่ สาม’ ให้แจกอั่งเปา
ท่านผู้เฒ่าสกุลอี้อ้าปากหัวเราะลั่น อุ้มหนึ่งในบรรดาเด็กๆ ที่กอดขาเอาไว้ขึ้นมา แล้ว
เอ่ยกับเด็กอีกสองคนที่เกาะขาเขาเอาไว้อย่างใจดีว่า “พวกเจ้ามากอดผิดคนแล้ว วันนี้ท่านอา
สามเจ้าแต่งงาน มากอดท่านปู่ สามไม่ได้หรอกนะ”
2605
พวกเด็กๆ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง มองไปทางคนโน้นทีคนนี้ที สองตาโตสีอ่อน ใส
บริสุทธิ์เหมือนกับท้องฟ้า ทําให้คนเห็นต้องใจอ่อนยวบทันที
อวี้ถังรีบหันไปมองซิ่งเอ๋อร์ที่เดินตามอยู่ข้างหลัง
ซิ่งเอ๋อร์พลันก้าวขึ้นมาแล้วส่งซองแดงปึกใหญ่ให้
อวี้ถังกําลังจะแจกอั่งเปาให้เด็กๆ คนละซอง แต่กลับได้ยินเสียงเด็กที่อายุมากสุดใน
กลุ่มตะโกนขึ้นมาว่า “แต่งงานต้องสวมชุดสีแดง ต้องไปรับอั่งเปาจากท่านอาสามที่ใส่ชุดแดง”
เด็กน้อยคนอื่นพอได้ยินดังนั้น ก็เลิกสนใจท่านผู้เฒ่าสกุลอี้ที่อยู่ในชุดสีม่วงลายอู่ฝู
แล้วเฮโลไปล้อมเผยเยี่ยนเอาไว้
เด็กน้อยที่ถูกท่านผู้เฒ่าสกุลอี้อุ้มอยู่ก็ดิ้นรนจะลงจากอ้อมแขนบ้าง
ท่านผู้เฒ่าสกุลอี้ได้แต่หัวเราะแห้งเหอะๆ
ข้ารับใช้ข้างกายเขารีบเข้ามารับตัวเด็กน้อย
หนูน้อยซอยขาสั้นๆ คู่นั้นไปทางเผยเยี่ยนทันที
อวี้ถังเม้มปากหัวเราะ ก่อนจะเร่งส่งซองแดงไปให้เขา
พวกเด็กๆ ถูกอบรมมาอย่างดี หนึ่งคนรับอั่งเปาไปหนึ่งซอง เมื่อได้รับแล้วยังพูดด้วย
นํ้าเสียงน่ารักน่าชังว่า “ขอบคุณท่านอาหญิงสาม” ไม่ก็ “ขอบคุณท่านย่าสาม”
อวี้ถังอยู่ในเรือนตนเป็นคนที่อายุน้อยที่สุด นางเพิ่งจะแต่งเข้ามา เมื่อถูกคนเรียกว่า
‘อาหญิง’ ยังพอรับไหว แต่ ‘ท่านย่า’ นี้ออกจะทําร้ายกันไปหน่อยกระมัง
นางหันไปมองเผยเยี่ยนอย่างกระดาก
เผยเยี่ยนก็หันมาส่งยิ้มน้อยๆ ให้นางพอดี
อวี้ถังจึงได้แต่ก้มหน้างุด แล้วลูบศีรษะของเด็กน้อยเบาๆ
2606
พวกแม่นมและหญิงรับใช้ของเด็กๆ ต่างเข้ามาอุ้มเจ้านายน้อยของตนออกไป
ท่านผู้เฒ่าสกุลอี้พาพวกนางเดินเข้าไปที่ห้องโถง
กลางห้องมีตั่งยาววางอยู่ ท่านแม่เฒ่าสกุลเผยนั่งลงที่ตําแหน่งประธานด้านขวา ส่วน
ตําแหน่งประธานด้านซ้ายยังว่างเปล่า ท่านแม่เฒ่าคนอื่นนั่งเรียงรองจากท่านแม่เฒ่าสกุลเผย
ลงไป ส่วนเหล่าสตรีสกุลเผยคนอื่นๆ ก็เรียงตามลําดับอาวุโสนั่งลงที่ด้านหลังท่านแม่เฒ่าสกุล
เผย พวกบุรุษนั้นก็จัดการให้นั่งทางฝั่งซ้ายมือ
เพราะท่านผู้เฒ่าสกุลอี้พาสองสามีภรรยาเผยเยี่ยนไปที่หอบรรพชนเล็ก เก้าอี้ฝั่งขวาที่
ถัดลงมาจึงว่างอยู่เช่นกัน นายหญิงใหญ่นั่งคุยเป็นเพื่อนอยู่กับเหล่าท่านแม่เฒ่า นายหญิงรอง
กําลังสั่งงานสาวใช้ให้ยกขนมนํ้าชาเข้ามา เพื่อต้อนรับเหล่าญาติๆ ในสกุล
ตอนที่อวี้ถังผ่านเข้าประตูมา นางเหลือบขึ้นมามองแวบหนึ่ง มุมปากยกเป็นยิ้มเย็น
จากนั้นก็หันไปสนทนากับท่านแม่เฒ่าคนอื่นต่อ ราวกับว่ามองไม่เห็นอวี้ถัง
ส่วนนายหญิงรองนั้นวุ่นวายจนปลีกตัวมาไม่ได้ ได้แต่หันมาพยักหน้าส่งให้อวี้ถัง
เท่านั้น
อวี้ถังกวาดตาครั้งเดียวก็เห็นลําคอยืดยาวที่พากันชะเง้อชะแง้อยู่
เป็นพวกคุณหนูห้านั่นเอง
อวี้ถังอดจะหน้าแดงไม่ได้
นับแต่ที่นางหมั้นหมายกับเผยเยี่ยนอย่างเป็นทางการ พวกนางก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย
คุณหนูห้ากับคุณหนูสี่ส่งยิ้มมาให้อย่างร่าเริง
อวี้ถังจึงส่งยิ้มตอบกลับไปอย่างอายๆ
พวกนางจึงหัวเราะด้วยความชอบอกชอบใจ
2607
อวี้ถังไม่มีเวลาส่งสายตาพูดคุยกับพวกนางแล้ว ผู้นําพิธีเริ่มร้องบทกวี นางกับเผยเยี่ยน
ก็ต้องไปคารวะนํ้าชาให้กับผู้อาวุโสในสกุลเผย
ท่านแม่เฒ่าสกุลเผยให้ของขวัญรับญาติเป็นตั๋วเงินหนึ่งใบ อวี้ถังไม่กล้าเปิดดูว่าเป็น
มูลค่าเท่าไร
นายหญิงใหญ่มอบเครื่องประดับผมหินสีนํ้าเงินให้หนึ่งชุด นายหญิงรองมอบ
เครื่องประดับผมอําพันให้หนึ่งชุด มูลค่าไม่หนีห่างกันสักมากน้อย
ส่วนสตรีในสกุลเผยคนอื่นๆ หากมิใช่ปิ่นหยก ก็เป็นกําไลทองหนึ่งคู่ เทียบกับครอบ
ครับทั่วไปแล้ว แน่นอนว่าสูงค่ากว่ามาก แต่หากเทียบกับสกุลใหญ่อื่นๆ ในเจียงหนาน นับว่า
เป็นข้าวของที่สามัญยิ่ง
สิ่งนี้ทําให้อวี้ถังถอนหายใจโล่งอก
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สิ่งของเหล่านี้นับว่านางได้รับเอาไว้แล้ว นางรับมาเท่าไร ก็ต้องคืน
ให้ผู้อื่นไปเท่านั้น
สกุลเผยมอบของขวัญเป็นการภายในให้กันตามสบายเช่นนี้ ทําให้นางไม่ต้องรู้สึก
กดดันมากเกินไปนัก
ของขวัญตอบแทนที่นางเตรียมมาให้คนสกุลเผยล้วนเป็นรองเท้าสองคู่และถุงเท้าสอง
คู่เหมือนกันทั้งหมด นอกนั้นก็อาจเพิ่มผ้าคาดผมหรือไม่ก็พวกพัดพับให้ตามลําดับอาวุโส
ญาติพี่น้องของสกุลเผยเยอะมาก บรรยากาศคึกคักวุ่นวาย ไม่นานเวลาช่วงเช้าก็
ล่วงเลยไปเสียแล้ว
ทุกคนอยู่กินข้าวเที่ยงที่เรือนของท่านแม่เฒ่าสกุลเผย
เด็กหนุ่มในสกุลเผยหลายคนต่างถือสุรามาหาเผยเยี่ยน พลางโวยวายว่า “เมื่อวาน
ปล่อยอาสามหนีไปได้ วันนี้จะต้องชดเชยให้ครบ”
2608
เผยเยี่ยนก็ปล่อยเลยตามเลย ใครมาก็ไม่ปฏิเสธ สองฝ่ ายต่างฟาดฟันกันไปมา
กลายเป็นการมอมเหล้ากัน เจ้ากล้าท้าข้าก็กล้าดื่ม
อวี้ถังเห็นว่าน่าสนุก แต่นายหญิงรองกลับหัวเราะแล้วบอกอวี้ถังอย่างจนปัญญาว่า
“ตอนนั้นอารองของเจ้าก็ถูกมอมเหล้าเช่นนี้แหละ เจ้าก็ระวังให้ดี พวกเจ้าพรุ่งนี้ยังต้องกลับ
บ้านเก่าอีกนะ!”
“เช่นนั้นทําอย่างไรดีเจ้าคะ?” อวี้ถังเองก็คิดไม่ออก
นี่ล้วนเป็นเรื่องของธรรมเนียม ทุกคนต่างก็ฉวยโอกาสนี้หยอกล้อกันสนุกสนาน หากว่า
ตีหน้าขรึมไม่ยอมตอบรับ มีแต่จะทําให้เสียบรรยากาศเปล่าๆ
นายหญิงรองเองก็ไร้หนทาง “ข้าจะสั่งห้องครัวทํานํ้าแกงสร่างเมามาให้อาสามก็แล้ว
กัน ถึงเวลานั้นเจ้าก็อย่าลืมป้อนเขาด้วยล่ะ”
อวี้ถังพยักหน้าอย่างซาบซึ้งใจ
นายหญิงใหญ่เหลือบดูคนทั้งสองอย่างเงียบเชียบ แล้วมองพวกเผยฉานกับบุตรชายที่
ช่วยกันมอมเหล้าเผยเยี่ยนด้วยท่าทีครุ่นคิด
เผยเยี่ยนแกล้งทําเป็นเมาแล้วหนีรอดจากกลุ่มหลานๆ ได้อีกครั้ง แต่อย่างไรก็รู้สึกมึนๆ
ไม่น้อย พอกลับไปถึงเรือนหอจึงเอาแต่เรียกหาอวี้ถัง เดี๋ยวก็อยากดื่มนํ้า เดี๋ยวก็อยากกิน
ลูกกวาด เดี๋ยวก็อยากล้างหน้า ให้คนอื่นดูแลก็ไม่ได้ จะต้องเป็นอวี้ถังคนเดียวเท่านั้น ตอนที่อวี้
ถังคอยดูแลเขา เขาก็จับมืออวี้ถังไว้ไม่ยอมปล่อย แค่อวี้ถังทําท่าจะดึงมือออกเขาก็จะทําเสียง
ฮึดฮัด ทําเอาอวี้ถังตึงเครียดไปหมด จนนางแทบจะไปเรียกท่านหมอมาแล้ว
เผยเยี่ยนเอ่ยอย่างเกียจคร้านว่า “แม่หมอที่พวกเจ้าพูดถึงครั้งก่อน ภายหลังได้เชิญ
นางไปที่คฤหาสน์นอกเมืองแล้วรมยาให้หรือไม่? หากคิดว่านางซื่อตรงมีความสามารถ ก็รั้งนาง
ให้อยู่ที่นี่สิ ต่อไปหากว่าเจ้าปวดหัวตัวร้อน จะได้เรียกใช้งานสะดวกหน่อย”
2609
คนในสกุลเผยมีไม่น้อย ทุกคนต่างอาศัยอยู่ร่วมกัน บางเรื่องก็เลี่ยงไม่ได้ที่ทุกคนจะรู้
กันทั่ว โดยเฉพาะเรื่องเชิญท่านหมอเป็นต้น
เมืองหลินอันมีหมออยู่เพียงไม่กี่คน หากที่วิชาสูงส่งหน่อยก็ยิ่งมีน้อยลงไปอีก สกุลเผย
เป็นสกุลที่ใหญ่สุดในหลินอัน พอมีใครไม่สบายก็เรียกหาท่านหมออยู่ไม่กี่คนเท่านั้น คนเรือน
ไหนป่ วยเป็นอะไร ต่อให้ไม่รู้ในทันที แต่สองวันผ่านไปก็รู้กันทั่วแล้ว
เผยเยี่ยนไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของอวี้ถัง