หึ! เกมจีบหนุ่ม? เเล้วทำไมตัวประกอบอย่างฉันจะเด่นไม่ได้ล่ะ! - ตอนที่1: การเริ่มต้นที่เป็นไปได้ไม่ค่อยดี (1)
- Home
- หึ! เกมจีบหนุ่ม? เเล้วทำไมตัวประกอบอย่างฉันจะเด่นไม่ได้ล่ะ!
- ตอนที่1: การเริ่มต้นที่เป็นไปได้ไม่ค่อยดี (1)
“บาดเเผลยังไม่หายดีเท่าที่ควร เเต่ถือว่ารอดจากวิกฤตได้อย่างหวุดหวิด ยินดีด้วยนะ เนล”
“ขอบใจมาก ขอบใจมากจริงๆ นะเพื่อนรัก”
“พอๆ หยุดกอดได้เเล้วโว้ย!”
ผมจ้องมองชายสองคนที่กอดกันข้างเตียงผม โดยที่ตัวเองไม่สามารถออกเเรงได้มากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้บาดเเผลฉีกเพิ่มขึ้น
(ไม่รู้เลยเกิดอะไรขึ้น)
ผมเท้าคางมองไปรอบตัวด้วยความสงสัย ผู้ชายวัยผู้ใหญ่ที่ทำตัวอย่างกับเด็ก ผู้หญิงที่ค่อยจับมือผม เเละร้องไห้ดีใจ เด็กอีกคนที่สูงไล่เลี่ยผม เขาเอาเเต่มุดหน้าชิดขอบเตียง พูดเเต่คำว่า ขอโทษ เพียงอย่างเดียว
“คือว่า?”
เพียงเเค่ผมเปล่งเสียง สายตาของทุกคนก็จับจ้องมาที่ผม ชายสองคนทำหน้าตกใจ ผู้หญิงหยุดร้องไห้ ส่วนเด็กที่ก้มหน้าก็เงยมองมาให้ผมเห็นหน้า
“ที่นี่…คือที่ไหนครับ?”
ผมอยากไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ผมไม่รู้ว่าพวกเขาคือใคร สิ่งเเรกที่ผมต้องการมากที่สุดคือ ข้อมูล เพื่อปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์
“ความทรงจำเสื่อมด้วยเหรอ!? ท่าจะอาการหนักเเล้ว!”
ชายใส่ชุดขาวจ้องมองผมด้วยท่าทางที่เคร่งเครียด เขาปรับองศาเเหวนตา เเละมองผมเเบบไม่กะพริบตา ผมค่อนข้างตกใจกับปฏิกิริยาของเขา เเต่มันก็ทำให้ผมได้ข้อมูลมา
(ความทรงจำเสื่อม? พูดบ้าๆ เรายังสติปรกติดีอยู่เลย…)
ผมวิเคราะห์ความเป็นไปได้จากคำตอบที่ได้ภายนเสี้ยววินาที ผมมั่นใจว่าตัวเองยังมีสติครบไม่บิดเบือน พอผมคิดลงลึกขึ้นผมก็ได้นึกถึงคำสัญญาก่อนหน้านั้น
(ช่วยทำให้คำปรารถนาของฉันเป็นจริง…อย่าบอกนะว่า มันคือการให้เรามาเกิดใหม่ในร่างนี้?)
เป็นทฤษฎีที่ไม่น่าเชื่อถือ เเต่มีความเป็นไปได้เหมือนกัน ถ้าผมรอดจากเหตุการณ์รถชนจริง ผมควรอยู่ที่โรงพยายามพร้อมกับเจอครอบครัว เเต่สถานที่ที่ผมนอนพักฟื้นอยู่คือบ้านไม้ที่สภาพค่อนข้างเก่า เตียงที่เเข็งกระด้างเเทบไม่น่าเชื่อ เเละรอบตัวที่เต็มไปด้วยคนเเปลกหน้า
(ถึงจะเคยดูอนิเมะพวกเเนวต่างโลกก็เถอะ พอตัวเองได้ไปเกิดใหม่เเบบนี้ ไม่รู้สึกดีใจเลยเเหะ)
ผมรู้สึกผิดหวังค่อนข้างมาก ถึงเเม้ว่าเคยคิดสักครั้งว่าอยากไปต่างโลก เเต่ไม่อยากมาในสภาพที่เกิดใหม่เลย มันทำให้ผมสูญเสียอะไรมากมายที่อยู่ในโลกเดิม…
“ทำไงดี เนล…ล-ลูกเรา ลูกเรา…!”
“ใจเย็นๆ เรย์”
“เเงๆ พี่เขา พี่เขา…!”
(ก่อนจะมานั่งเสียใจ คงต้องเเก้ไขสถานการณ์นี้ก่อน)
ผมที่เห็นสภาพอันเเตกตื่นของพวกเขา จึงต้องหยุดย้อนคิดความหลัง เเละหันมาสนใจกับปัจจุบัน
“ล้อเล่นน่ะครับ เเหม ทำไมเป็นกลัวไปได้ ฮ่าๆๆ”
ผมยิ้มกลบเกลื่อนความตึงเครียด เเละหัวเราะเเบบคนไม่สนใจอะไร โดยหวังว่ามันจะทำให้พวกเขาสงบลง
“ลูกพ่อ!/นอล!/พี่ชาย!!!”
พวกเขาทั้งสามสวมกอดผมเเบบไม่ทันตั้งตัว เเม้ว่ามันจะเป็นฉากที่สวยงาม เเต่มันไม่ได้ช่วยให้บาดเเผลผมหายเจ็บเลย กลับเจ็บกว่าเดิมด้วยซ้ำ
(ถึงจะเจ็บไปหน่อย เเต่เเบบนี้ก็ดีเหมือนกัน)
ผมกัดฟันทนความเจ็บปวดที่ได้รับจากบาดเเผล โดยหวังให้พวกเขาได้ดีใจกับการกลับมาของเจ้าของร่างนี้ให้มากที่สุด
(อย่างน้อย นายควรส่งฉันมาเกิดใหม่ในสภาพที่ดีกว่านี้นะ เอลเดล นอล)
ผมมองออกไปนอกหน้าต่างอยู่อยู่ข้างเตียง เฝ้ามองทิวทัศน์ที่ต่างจากโลกเดิมภายใต้รอยยิ้มกว้าง เเละความรู้สึกเเปลกประหลาดที่ไม่อาจบอกได้
3 วันผ่านไป
“เป็นยังไงบ้าง วันนี้”
“อืม ไม่ได้ออกเเรงนาน ผมรู้สึกไม่ค่อยชินเลย เเต่หายเจ็บเเล้วครับ”
“ดีเลย หมอคงไม่ต้องมาดูอาการอีกเเล้ว พอได้เห็นเธอเเข็งเเรงเเบบนี้”
“ครับ”
คุณหมอคลายผ้าพันเเผลของผมออก ในขณะที่ผมลองขยับตัวเล็กน้อยเพื่อดูอาการ ตอนนี้ร่างกายของผมกลับมาเเข็งเเรงปรกติเรียบร้อย
“เเต่ยังไงก็ตาม หมอคงต้องรักษาเธอให้เเน่ใจก่อน”
หลังจากที่คุณหมอถอดผ้าพันเเผลเสร็จ เขาก็วางมือบนบ่าผม เเสงสีเขียวอ่อนอันอบอุ่นออกมาจากมือของเขา ผมรู้สึกถึงพลังกายที่ฟื้นฟูกลับมาจนเต็ม
“เรียบร้อย เท่านี้เธอก็สามารถออกไปวิ่งเล่นได้เเล้ว”
“ขอบคุณมากครับ คุณหมอ”
ผมลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ ไม่น่าเชื่อเลยว่า เพียง 3 วัน จากสภาพร่างกายเจียนตาย จะสามารถกลับมาเเข็งเเรงได้เหมือนปรกติ
(เวทมนตร์นี่มันสุดยอดไปเลย)
ผมเลี่ยวมองที่มือของคุณหมอ มันเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมาก เเม้ว่าโลกเดิมจะมีวิทยาการทางการเเพทย์ที่ล้ำหน้ากว่า เเต่ก็ไม่อาจเทียบกับพลังเหนือธรรมชาติเเสนขี้โกงที่สามารถรักษาชีวิตภายในช่วงเวลาสั้นๆ
“เนล นอลหายดีเเล้ว นายอย่าลืมค่ารักษาล่ะ”
“ไม่ลืมหรอก ฉันขอเวลาเดือนหนึ่ง ฉันจะหาเงินมาคืนนายเเน่นอน!”
“เห้อ ความหลังดูเเล ลูกตัวเองดีๆ ล่ะ ครั้งนี้เด็กคนนี้โชคดี ถ้าเป็นในคนทั่วไป คงลงไปนอนในหลุมเเล้ว”
“ดูเเลตัวเองด้วย อาค”
“นายก็เหมือนกัน เนล”
คุณหมอเก็บผ้าพันเเพลใส่กระเป๋าสะพาย เขาคุยกับคุณพ่อสักพักก่อนที่จะประตูจากไป คุณพ่อหลังจากโบกมือส่งเพื่อนเขาก็นั่งลงกุมขมับอยู่บนพื้น
“เห้อ เดือนนี้คงไม่ได้พักเเหงๆ”
เขาส่งเสียงถอนหายใจด้วยความสิ้นหวังสักพัก ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินมาหาผม ผมที่เห็นร่างกายสูงกว่าผมกำลังเดินเข้ามาใกล้ก็รู้สึกกลัวนิดๆ
“นอล ลูกรัก ไหนๆ ลูกก็หายดีเเล้ว สนใจล่าสัตว์กับพ่อไหม~”
คุณพ่อจับไหล่ เเละชูนิ้วโป้งให้ผม เขายิ้มอย่างใสซื่อพยายามชักชวนผมออกไปสูดบรรยากาศข้างนอก เเต่ผมไม่ค่อยอยากออกไปตอนนี้สักเท่าไหร่
“ไม่เอาครับ ผมขอนั่งอ่านหนังสือในบ้านเงียบๆ ดีกว่าวันนี้”
“เอ๋!”
เขาช็อกกับคำตอบของผมจนหน้าค้างเหมือนหิน ผมที่ไม่ได้ใส่ใจจึงเดินตรงไปหยิบหนังสือตรงชั้น เเละกลับมานอนบนเตียงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ขอให้โชคดีกับการล่าสัตว์นะครับ คุณพ่อ”
“อ่า…”
คุณพ่อคอตก เเละเดินออกจากห้อง เเต่ทันใดนั้นเขาก็กลับมาชำเลืองมองผมด้วยสายตาอ้อนวอน ก่อนที่เขาจะจากไปจริงๆ
“ไม่ไปล่าด้วยกันเหรอ?”
“ครับ ไว้ครั้งหน้านะครับ”
“เข้าใจเเล้ว…”
สุดท้ายเขาก็ต้องผิดหวัง เเละปิดประตูจากไปอย่างโดยดี ผมเเอบขำเล็กน้อยกับท่าทีของเขา ยังไงก็ตามผมก็มีสิ่งสำคัญที่ต้องทำก่อน
หลังจากที่ผมไม่ได้ไปไหนนอกจากนอนพักฟื้นบนเตียงนอนกว่า 3 วัน ผมก็พยายามฟังบทสนทนาต่าง ค่อยๆ ปรับตัวกับสภาพเเวดล้อมใหม่ จำสิ่งที่มีประโยชน์ เเละนำมาใช้ประกอบกับทฤษฎีของผม
ผมมั่นใจว่าตัวเองเกิดใหม่ในครอบครัวผมเอลเดล ซึ่งประกอบด้วย ผม (นอล) พ่อ (เนล) เเม่ (เรย์) เเละ น้อง (เนฟ) จากร่างกายที่ตัวเล็กกว่าพ่อ เเม่ เเละคุณหมอกว่าครึ่งตัว ทำให้ผมคาดการณ์ว่าตัวเองน่าจะอยู่ในช่วงวัยเด็ก ที่สำคัญโลกนี้เป็นโลกเเฟนตาซีของเเท้ ทุกครั้งที่ผมมองออกไปหน้าต่าง ผมก็พบเเต่เรื่องเหนือสามัญสำนึก วัว 8 เขา นกยักษ์ ดวงจันทร์สีเเดงคู่น้ำเงิน พระอาทิตย์ 2 ดวง เเละอื่นๆ ซึ่งไม่มีทางพบในโลกเดิมได้อย่างเเน่นอน
(หวังว่าหนังสือ เล่มนี้จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์นะ)
ในช่วงเวลาที่ผมพักฟื้น ผมก็เหลือบไปเห็น หนังสือที่มีชื่อว่า โลกของเรา ซึ่งนับว่าเรื่องโชคดีที่ผมสามารถเข้าใจตัวอักษรที่ไม่เคยเห็นได้ ผมเล็งไว้ว่าจะอ่านหนังสือในชั้นหัลงจากที่ร่างกายกลับมาเป็นปรกติ ซึ่งมันก็ถึงเวลาเเล้ว
ผมใช้เวลาอ่านหนังสือไปค่อนข้างนาน จากเเสงอาทิตย์ในยามเช้า ตอนนี้หลงเหลือเพียงเเสงอาทิตย์อ่อนๆ ในยามเย็น เเน่นอนว่าผมไม่ได้อ่านหนังสือเล่มเดียว ผมทยอยอ่านหนังสือในชั้นไปเรื่อยๆ ในชั้น จนกองกันข้างเตียง 2 เล่ม เเละในที่สุดผมก็อ่านตำนานทวยทูต ซึ่งเป็นหนังสือเล่มสุดท้ายจบ
“เอาจริงเหรอวะเนี่ย?”
ผมโยนหนังสือเล่มท้ายลงบนพื้น เเละกุบหัวด้วยความเครียด หลังจากที่ผมได้ผ่านหนังสือ โลกของเรา ต้นกำเนิดเเห่งพลัง เเละตำนานทวยทูต ผมถึงกับรับรู้ได้ถึงสิ่งที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยว
“นี่เรามาเกิดในโลกของเกมจีบหนุ่มเนี่ยนะ!”
ผมอ่านหนังสืออย่างละเอียด เเทบทุกตัวบรรจงของอักษร ย้ำเเล้วย้ำอีก ทำให้ผมได้รับรู้ถึงความเลวร้ายในอดีต ใช่เเล้ว ทั้งองค์ประกอบของโลก พลังเหนือธรรมชาติ เเละตำนานหลากเรื่องราว มันคือสิ่งที่มีอยู่ในเกม Ufolan ทั้งหมด
“จะบ้าตาย อย่างจะกรึ้ดเหมือนคนบ้าชะมัด”
ผมเอนตัวนอนบนเตียง เเละปิดตาคร่ำครวญอย่างเสียสติ ผมยิ้มอย่างสิ้นหวังเหมือนคนบ้า ให้ตายเถอะพอผมรู้ว่าตัวเองต้องมาใช้ชีวิตในโลกเเบบนี้ ผมก็รับไม่ไหวจริงๆ
“ทั้งระบบเกมห่วยเเตก ตัวละครที่เเสนยุ่งยาก เเละความน่าเบื่อเเบบรกโลก ขอร้องเถอะ จะเกิดใหม่ทั้งทีขอเป็นโลกที่ดีกว่าเกมบ้านี่ไม่ได้เหรอ”
อย่างจะตะโกนส่งเสียงโวยวายเหมือนคนบ้า ระบายความในใจออกมาให้หมด เเต่สิ่งที่ผมทำได้คือ การดำเนินชีวตในฐานะของ เอลเดล นอล ให้เป็นไปตามที่เขาปรารถนา
(จะว่าไปเเล้ว นายปราถนาอะไรกันนะ เอลเดล นอล)
เมื่อผมนึกถึงความปรารถนาของเขาก่อนที่จากไป ผมก็รู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ชักจูงผม ตัวของผมลุกจากที่นอน เดินออกไปจากห้องนอน ตรงไปยังห้องเเห่งหนึ่งที่อยู่ลึกลงไปในบ้าน
ผมเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเเค่ห้องอาบน้ำเเบบโบราณ อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อท่อในการใส่เเร่ยูไนตเพื่อให้เกิดความน้ำอุ่น ชั้นวางเสื้อด้านไว้สำหรับวางเสื้อผ้า เเสงอาทิตย์ยามเย็นสอดดส่องมาจากหน้าต่างเหนืออ่างอาบน้ำสาดส่องให้เห็นถึงรอยสลักข้อความ
ฉันจะเป็นที่หนึ่ง! โดดเด่นกว่าใคร! ฉันนี่เเหละจะเป็นคนเเรกของหมู่บ้านนอรท! ที่จะสร้างความภูมิใจโดยการเป็นนักเรียนชั้นเพชรนิลของโรงเรียนเเอสทาเรียเอง!
(นี่คือความปราถนาของนายสินะ)
มันเป็นร่องรอยสลักที่อยู่มานาน ผมรับรู้ได้เมื่อใช้นิ้วสัมผัสมัน ผมรำลึกถึงความทรงจำของเจ้าของร่าง นี่คือคำสัญญาในวัยเด็กของเขากับครอบครัว โดยมีผู้เป็นพ่อเป็นคนเเกะสลักร่างสัญญา
“นายนี่บ้าจริงๆ…”
เเสงอาทิตย์ยามเย็นตกกระทบกระจกที่อยู่ด้านข้าง จนผมได้เห็นใบหน้า เเละเรือนร่างของตัวเองครั้งเเรก มันช่างเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจจนผมเเอบเเค้นเจ้าของร่างคนก่อนเหลือเกิน
(เกิดในหมู่บ้านเเดนไกล ร่างกายก็อ่อนเเอเท่าขี้ก้าง หน้าตาก็หน้ากลัว เเถมขี้เหร่อีก ไม่มีคำว่าดูดีเลย)
หน้าตาที่ไม่ได้รูปทรงออกทางอัปลักษณ์ เเววตาปลาตายที่ไม่น่าคบหา ร่างกายสุดบอบบางที่สามารถโดนลมพัดได้ มีเพียงเส้นผมสีฟ้าครามที่เป็นจุดเด่น
(การออกคาเเรคเตอร์ไม่ลวกๆ เเบบนี้มีเพียงอย่างเดียว)
“นี่มันตัวประกอบชัดๆ”
สิ่งที่ตัวเกมใส่มาเเบบหยาบๆ โดยไม่ได้มีการดัดเเปลงอะไรมาก เป็นเพียงเเค่สิ่งประดับฉากให้ตัวเกมดูมีสีสันขึ้น หรือที่เราชอบเรียกว่า ตัวประกอบ นั่นเอง
“เป็นการเริ่มต้นที่เป็นไปได้ไม่ค่อยดีเลย”
เเม้ว่าในนิยาย ตัวเอกจะได้เป็นเกิดเป็นตัวละครเก่งๆ หรือพวกที่มีบทบาทสำคัญ เเต่สำหรับผมที่ไม่ได้โชคดีเหมือนกับเขา คงเป็นได้เเค่ตัวประกอบที่มีไว้ประดับฉาก
“ยังไงก็เถอะ เเม้ว่าจะเกิดในโลกบัดซบ หรือ มีชีวิตเเบบตัวประกอบนอกสายตา…”
รอยยิ้มอันเเสนชั่วร้ายปรากฏบนกระจกเหมือนคนบ้า ผมรู้เเก่ตัวว่า ตัวเองมันอับโชคมาตั้งเเต่เกิด เเต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ผมก็ไม่คิดจะคืนคำหรอก เพราะผมมันพวกหัวรั้นไม่ยอมเเพ้ง่ายๆ
“ความปรารถนาของนาย ฉันจะเป็นคนทำมันให้เป็นจริงเอง เกินกว่าที่นายคิดอย่างเเน่นอน!”