ตอนที่ 3: การเริ่มต้นที่เป็นไปได้ไม่ค่อยดี (2)
ใจกลางสวนพืชผักเขียวขจีที่มีเเสงอาทิตย์สาดส่อง ผมกำลังใช้บัวรดน้ำพืชผักที่ปลูกอยู่บนเเปลง อากาศตอนนี้ร้อนไม่ต่างจากประเทศไทยในช่วงฤดูร้อน
“นอล เสร็จเเล้ว ช่วยให้ไปให้อาหารวัวหน่อยได้ไหม”
“ครับ เเม่”
ผมปาดเหงื่อที่ไหลเต็มหน้า เเล้วหันกลับไปตอบเเม่ที่กำลังรดน้ำด้วยกัน ผมชักอยากได้ฝนตกฉ่ำๆ มาช่วยเเบ่งภาระงานผมเหลือเกิน
(ร้อนเป็นบ้า ถ้าถอดหมวกนี่หัวคงไหม้ไปเเล้วมั้ง)
หลังจากที่ผมรดน้ำฝั่งตัวเองเสร็จ ผมก็ยืนพักสักพัก เเม้ว่าใจของผมอยากที่จะกระโจนเข้าที่ร่ม เเต่ผมก็ต้องข่มมันไว้
(ชีวิตเกษตรกรนี่มันช่างลำบากจังน้า)
ผมหยิบบัวรดน้ำนำไปเก็บในโกดังเล็กๆ ข้างบ้าน ขนฟางเเห้งที่มัดได้รูปในถังไม้ออกไปด้านนอก เเละพลางคิดเรื่อยเปื่อยกับชีวิตที่ไม่ได้สะดวกสบายอย่างที่หวังไว้
ครอบครัวของผมมีฐานะที่ค่อนข้างยากจน รายหลักมาจากการขายพืชผัก นมวัว อาวุธ เเละเครื่องมือ เเม่เป็นคนรับผิดชอบเรื่องสวน ส่วนพ่อจะมีหน้าที่ตีอาวุธ เเละเครื่องมือ สิ้นสุดสัปดาห์พ่อจะเป็นคนขนของไปขายที่หมู่บ้านเพียงคนเดียว ถ้าขายไม่ออกก็ต้องนำมากิน หรือปล่อยในราคาที่ถูกกว่าตลาด
นับว่าเป็นช่วงเวลาเกือบหนึ่งเดือนที่ผมได้เกิดใหม่ ผมไม่ได้มีชีวิตที่ราบรื่นเท่าไหร่เมื่อชาติก่อน ผมต้องช่วยเเม่ดูเเลสวนท่ามกลางเเสงเเดดร้อนระอุ คอยตรวจสอบสภาพกรงวัว เเละไปล่าสัตว์กับพ่อเป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะราคาเนื้อค่อนข้างเเพง ถ้าไม่ได้จากการล่าสัตว์ มื้อนั้นครอบครัวเราก็ต้องกินอาหารมังสวิรัติเเทน
มอน~
“ฟังกี่รอบ ก็ไม่ชินเสียงเเกจริงๆ”
ผมเเกะเชือกที่มักฟาง เเละใส่ลงบนถาดอาหาร ผมมองดูวัวจากต่างโลกกำลังเคี้ยวฟางอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความสนใจ
“ท่าจะอร่อยนะ”
มอน~
“หึๆ ไม่เอาหรอก เดวฉันก็ท้องเสียหรอก”
มันยืดฟางที่เคี้ยวอยู่ในปากให้ผม ผมขำเล็กน้อย เเละปฏิเสธมันอย่างตรงไปตรงมา เพราะถ้าผมเผลอคล้อยตามมัน พ่อผมคงต้องติดหนี้คุณหมอเพิ่มขึ้นอย่างเเน่นอน
“หัวเราะดังเชียว ลูกคุยกับวัว รู้เรื่องด้วยเหรอจ้ะ?”
“เปล่าหรอกครับ ผมก็เเค่เดาว่ามันต้องการสื่ออะไรเเค่นั้นเอง”
เเม่ของผมเขามาชื่นชมผมที่สามารถคุยกับวัวได้ เเต่เธอไม่รู้เลยว่า ผมก็เดาความคิดมันไปเรื่อยเปื่อย เธอลูบหัวผมเบาๆ เเละยิ้มออกมา
“ไม่เเน่ นี่อาจเป็นลางบอกว่า ลูกได้พรเทมเมอร์ก็ได้นะ”
“ถ้าได้เป็นเทมเมอร์ ผมยอมเเก้ผ้าวิ่งรอบหมู่บ้านเลย”
“เเม่ว่ามันเป็นความคิดที่ไม่ดีเท่าไหร่นะ”
(ก็เพราะมันไม่มีทางอยู่เเล้ว)
วันนี้เป็นวันที่พ่อจะพาผม เเละน้องชายเข้าเมืองเพื่อค้นพบพร พรเป็นสิ่งที่ติดตัวมากับผ่ามนุษย์ตั้งเเต่เกิด เมื่อครบรอบอายุ 8 ปี เราจะสามารถตรวจดูพรของตัวเองได้ พ่อเเม่ตัดสินใจที่จะพาผมไปดูพรพร้อมกับน้องเมื่อายุครบ 10 ปี ทั้งคู่ทุกเดือน 7 ของปีจะมีการส่งตัวเเทนจากวิหารศักดิ์สิทธิ์มาเยือนทุกหมู่บ้านเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบพรของเเต่ละคน
“เรย์ นอล กลับมาเเล้ว!”
ผม เเละเเม่หันไปยีงทิศทางของเสียง ผมเห็นพ่อที่หิ้วกระต่ายเขาเเดงมา พร้อมกับเนฟที่ทำหน้าไม่ค่อยสนุก
“เป็นไงบ้างคะ? การล่าสัตว์ครั้งนี้”
“อย่างที่เห็นเลย วันนี้ได้ เรดฮอรน มาตัวหนึ่ง!”
“ยอดเยี่ยมไปเลย~”
คุณพ่อชูมือขวาที่หิ้วศพของกระต่ายเขาเเดงด้วยความภูมิใจ เเม่ที่ได้เห็นผลงานของพ่อก็ตบมือยิ้มดีใจให้กับความสำเร็จของเขา
“เนฟเป็นไรอ่ะ ทำหน้าตาไม่รับประทานเลยนะ”
“อุตส่าห์ได้ดาบมาทั้งที พ่อไม่ให้โอกาสผมได้ล่าสัตว์เลย ทั้งๆ ที่ผมเจอเรดฮอรนก่อนเเท้ๆ”
เนฟทำหน้าไม่สบอารมณ์ เขาได้ดาบสั้นที่พ่อตีให้เป็นของขวัญวันเกิด 10 ปี เเต่ที่เขาจะได้ใช้ดาบ กลับโดนพ่อตัดหน้าสินะ
“ฮ่าๆๆ เอาน่าเนฟ ไว้ถ้าลูกได้พรเป็นนักดาบ พ่อจะอิสระลูกในการออกไปล่าสัตว์เลย”
“อะเเห่ม เนล…”
ในขณะที่เขาที่เขาให้ข้อเสนอกับเนฟโดยไม่คิดอะไร เเม่ก็ส่งสายตาเตือนเขา จนใบหน้ายิ้มเเย้มเปลี่ยนเป็นสีซีด
“ไม่..สิ ต้องบอกว่า ออกล่าอย่างอิสระโดยมีพ่อจับตามองอยู่ต่างหาก…”
“สัญญานะครับ!”
“อ่า”
พ่อลูบหัวเนฟที่กลับมาร่าเริงอีกครั้ง ผมเเอบขำเล็กน้อย ไม่นึกเลยว่าน้องชายผมจะใสซื่อขนาดนี้ ถ้าพรสามารถเลือกได้ ทุกคนคงเลือกเเต่พรโกงๆ กันหมดเเล้ว
“เเล้วลูกล่ะ นอล คิดยังว่าตัวเองอยากได้พรอะไร”
“ผมเหรอครับ อืม…คงไม่ผมชาวนาหรอกมั้งครับ”
“ฮ่าๆ อย่าถ่อมตัวสิ คนเก่งๆ ขยันทำงานเเบบลูก ต้องได้เป็นนักรบอย่างเเน่นอน”
“ฮ่าๆ นั่นสินะครับ”
(ถ้ามันออกอ่ะนะ)
เเม้คุณพ่อจะตบหลังผมให้กำลังใจ เเต่ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันจะช่วยอะไรด้วยซ้ำ ผมกลับคิดว่า การที่ผมทำงานในสวนได้อย่างราบรื่น ผมน่าจะได้เป็นเกษตกรชั้นเลิศเสียอีก
“ถ้างั้นเราไปกันเถอะ ตามมา”
“ครับ!”
ผม กับเนฟเดินตามคุณพ่อไปที่หน้าโกดัง เขาเข้าไปลากรถเข็นที่มีหลังคาออกมา เเล้วกวักมือเรียกเนฟ กับผม
“ขึ้นรถม้าพลังคุณพ่อเลย!”
“ครับบบ!”
ผม เเละเนฟขึ้นไปนั่งบนรถเข็นไม้โดยที่มีหลังคาที่ตกเเต่งเพิ่มคอยบังเเดด คุณพ่อรับหมวกฟางจากคุณเเม่ เเล้วโบกมือจากลา
“ไปก่อนนะ”
“โชคดีนะ ทุกคน”
“โชคดีครับ เเม่”
พ่อเคลื่อนตัวลากรถเข็นออกไปด้านหน้า ผม เเละน้องชายโบกมือลาคุณเเม่ที่ยิ้มจากลา นี่เป็นครั้งเเรกที่ผมจะได้เข้าหมู่บ้านสักที
“นอล เนฟ ถึงเเล้วนะ”
ผมค่อยๆ ลืมตาเมื่อได้ยินเสียงของพ่อ ผมลุกขึ้นมาฉะเงยหน้ามองดูรอบๆ บ้านหินที่มีโครงสร้างเเข็งเเรง สลับปนบ้านไม้ที่เนื้อบ้านมีความใหม่ ร้านค้าขายของต่างๆ เเละผู้คนพลุกพล่านเดินสวนกันบนถนนเส้นใหญ่ บรรยากาศของที่นี่ไม่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในหมู่บ้านนอกเมืองหลวงเลย
“นี่ใช่หมู่บ้านจริงๆ เหรอครับ”
“ลูกพึ่งเคยเข้ามาครั้งเเรกคงตกใจไม่เเปลก หมู่บ้านนอรทน่ะทำหน้าที่ส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรต้นๆ ของราชอาณาจักรเเอสทาเรีย จึงมีสภาพตัวหมู่บ้านที่ค่อนข้างเจริญ ภายในไม่ช้าหมู่บ้านนี้ก็จะถูกบรรจุเป็นเมือง…อืม ถึงพ่ออธิบายไปลูกก็คงไม่เข้าใจหรอก”
คุณพ่อบรรยายความน่าทึ่งของหมู่บ้านนอรท จนเขาลืมตัวไปว่าผมที่เป็นเด็ก 9 ขวบ นั้นคงไม่สามารถเข้าใจได้
“เเหะๆ ผมไม่เข้าใจเลย”
“ไว้ลูกโตขึ้น ลูกก็เข้าใจเองเเหละ”
“นั่นสิครับ”
(ถึงผมจะเข้าใจปรื้อเเล้วก็เถอะ)
ถ้าผมเข้าใจได้ เขาคงจะคิดว่าผมเป็นเด็กอัจฉริยะเเน่นอน ผมเเสร้งที่จะทำเป็นไม่รู้ เพราะผมไม่อยากให้เขาตั้งความหวังผมมากเกินไป
“ห้าว พี่ครับ…ถึงเเล้วเหยอ”
“ตื่นได้เเล้ว ไอตัวดื้อ”
“รู้เเล้วน่า!”
ผมที่เห็นใบหน้าของเนฟที่กำลังสะลึมสะลือ ผมเลยอมยิ้ม เเละลูบหัวเเกล้งเขาซะหน่อย เนฟที่โมโหจึงเอามือผมออก เเละลุกขึ้นมาดูตัวหมู่บ้าน
“ว้าว~ พี่! พ่อ! ดูนั้นสิ! ทั้งดาบ ทั้งของกิน มีเเต่อะไรน่าสนใจไปหมด!”
เนฟตาลุกวาว เเละชี้ไปรอบๆ เหมือนเด็กที่พบของเล่นใหม่ พ่อที่เห็นก็เเอบอมยิ้ม ในขณะที่ผมก็มองดูรอบๆ เก็บข้อมูลไปตลาดทาง
“อีกนิดเดียว เราใกล้จะถึงโบสถ์เเล้ว”
“ครับ”
ผม เเละเนฟพยักหน้าให้พ่อ จากนั้นเขาก็เริ่มเข็นรถเข็นเร็วขึ้น ผ่านไปไม่นาน พวกเราก็เห็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบไปด้วยกำเเพง พ่อหาที่ว่างสำหรับจอดรถเข็นสักพัก ผม กับเนฟก็ได้ลงมาสักที
“ที่คือกฎที่ลูกต้องทำตามพ่อนะ ข้อเเรกห้ามอยู่ห่างพ่อ ข้อสองลูกห้ามพูดกับคนเเปลกหน้าจนกว่าจะขอคำอนุญาตกับพ่อ เเละข้อสุดท้ายถ้าพวกเราโดนดูหมิ่นจากใครก็ตาม โดยเฉพาะพวกชั้นสูง พ่อขอให้อย่าตอบโต้นะ สัญญานะ”
“สัญญาครับ!”
คุณพ่อนั่งย่อลง เเละชูนิ้วก้อยให้พวกเรา สายตาของเขาจริงจังมากเมื่อพูดถึงกฎเเต่ละข้อ หลังจากที่ผม เเละเนฟพยักหัวเกี่ยวข้องให้สัญญา เขาก็กลับมายิ้มสดใสอีกครั้ง เเละลูบหัวพวกเราด้วยความห่วงใย
“งั้นพวกเรา ไปกันเถอะ!”
“ครับ!”
พ่อจูงมือผมกับเนฟ เเละเข้าไปในลานกว้างของโบสถ์ พวกเราเดินตรงหน้าโบสถ์ มีซิสเตอร์จำนวนหนึ่งนั่งรอต้อนรับพวกเรา
“ยินดีต้อนรับค่ะ มารับคิว ทั้งหมดกี่ท่านคะ”
“เด็กสองคนนี้ครับ”
“2 คน คนละ 2000 ยูเรนะคะ”
(คิดเงินด้วยหรือนี่!)
ผมตกใจที่การดูพรต้องการเสียเงินด้วย ผมนึกว่าดูฟรีเสียอีก ผมหันหน้าไปมองที่พ่อ เขาครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนที่จะหยิบเหรียญเงิน 2 เหรียญในถุงผ้าเก่าๆ ยื่นให้ซิสเตอร์
“นี่ครับ ทั้งหมด 4000 ยูเร”
“ขอบคุณค่ะ งั้นให้คิวเเล้วนะคะ รบกวนหนูทั้งสอง ยืนนิ่งๆ นะคะ”
ผม เเละเนฟยืนข้างกัน ซิสเตอร์จับมือข้างขวาของพวกเรา ไม่นานมันก็มีตัวเลขผุดขึ้นมา ของผมเป็นเลข 399 ส่วนเนฟเป็นเลข 400
“คิวที่ 399 เเละ 400 นะคะ รบกวนเข้าไปรอในโบสถ์เลยค่ะ”
“ขอบคุณครับ ป่ะ นอล เนฟ”
“ครับ พ่อ”
ซิสเตอร์เปิดประตูให้พวกเรา พ่อจูงมือผม เเละเนฟเข้าไปในโบสถ์ พวกเราพบกับคนมากมายที่ยืนชุมนุมกัน พ่อพยายามจูงเราออกไปด้านข้าง ผมพบกับคุณหมอที่ยืนอยู่กับครอบครัวของเขา
“ไง เนลมาช้าจังนะ”
“โทษที เเจ็ค พอดีฉันเสร็จงานช้าน่ะ”
คุณหมอมาในชุดสีขาว เเละสะพายเป้เหมือนเดิม ด้านข้างเขามีผู้หญิงผมสีน้ำตาลอ่อน หน้าตางดงามใส่ไปรเวท เเละเด็กผู้หยิงหน้าตาน่ารัก ซี่งมีสีผมเดียวกับเธอ
“สวัสดีค่ะ คุณเนล วันนี้มากับลูกทั้งสองคนเลยนะคะ”
“สวัสดีครับ คุณเจน วันนี้ก็มากับเจ้าตัวเล็กน่ารักเหมือนกันนะครับ”
ดูเหมือนพ่อ เเละครอบครัวของคุณหมอจะค่อนข้างสนิทกัน เด็กหญิงที่ได้เห็นพ่อผม เธอก้าวเดินออกมา เเละยืนเเขนให้พ่อผม
“คุณลุง เล่นต่อตัวกัน!”
“ได้เลย มิรินจัง~”
พ่อปล่อยมือผม เเละเนฟ เขายกมิรินมาไว้บนท้ายคอ เเละหมุนตัวไปมา ทำให้เธอหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน
“เย้ หนูสูงกว่าพ่อเเล้ว เห็นมะ เห็นม๋า!”
“จ้าๆ พ่อยอมเเพ้เเล้ว”
มิรินยิ้มกอดเอว เเละยิ้มอย่างผู้ชนะบนท้ายคอของพ่อผม เนฟทำหน้าบึ้งหวงพ่อ ในขณะที่ผมมองดูเธอด้วยความเอ็นดู
“ไม่ยุติธรรมเลย เธอขี้โกง! ผมควรขึ้นพ่อคนเเรกสิ! ลงมานะ!”
“พ่อก็อุ้มเเบบนี้ตั้งเเต่เด็กเเล้วนะ เนฟ”
“เด็กน้อยจังนะ นายน่ะ”
“หน็อยเเน่ ลงมานี่เลย ยัยบ้า!”
เนฟโดนมิรินเเลบยิ้มเยาะเย้ย เขาที่โกรธมากจึงเขาไปทุบขาพ่อด้วยเเรงอันน้อยนิดโดยหวังให้พ่อปล่อยเธอ ผมที่เห็นภาพนั้นก็เเอบขำเล็กน้อย
(เด็กน้อยไม่เเพ้กันเลยสองคนนี้)
ผมที่เป็นผูใหญ่ในร่างเด็กจะไม่มีทางทำเรื่องน่าอายเเบบนี้เด็ดขาด เมื่อพวกเขาโตไปคงไม่พ้นโดนล้อเรื่องนี้เเน่นอน
“เนล พอได้เเล้วมั้ง ไม่ให้ลูกของเราทำความรู้จักกันหน่อยล่ะ”
“นั่นสินะ มิรินจัง ไว้มาเล่นกันใหม่นะ”
“ค่า”
พ่อของผมยกมิรินปล่อยลงพื้นอย่างนิ่มนวล มิรินเดินเข้ามาหาเนฟที่ทำหน้าข่มใส่ เเละผมที่ตัวนิ่งสงบ ไม่นานเธอก็ยื่นมือมาทางพวกเรา
“ฉันชื่อ เลวิล มิริน ฝากตัวด้วยนะ”
“ชิ ฉันชื่อ เอลเดล เนฟ”
เนฟทำหน้าไม่ค่อยชอบใจ เเละจับมือเธอเเต่โดยดี หลังจากเธอทำความรู้จักกับเนฟเสร็จ เธอก็ยื่นมือมาที่ผม
“เเล้วนายล่ะ?”
“ฉันชื่อ เอลเดล นอล เป็นพี่ชายเนฟน่ะ”
ผมจับมือเธอตามมารยาท ทันใดนั้นเธอก็ดึงมือผมจนผมกับเธออยู่ใกล้กันมาก เธอจ้องมาที่ดวงตา เเละสีผมของผมอย่างรวดเร็ว
(ใกล้!)
“นายมีสีผม เเละดวงตาเหมือนคุณลุงเลยนะ”
“อ่า เพราะว่าฉัน…เป็นลูกพ่อไง!”
“นั่นสินะ~”
(ยัยเด็กนี่! ถ้าไม่ติดว่าเธอเป็นเด็กนะ…!)
เธอทำหน้าไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่เธอทำลงไป เเละยิ้มโดยไม่รู้สึกผิด เธอไม่รู้เลยว่าเธอเกือบทำให้ผมช็อกตาย ผมเริ่มรู้สึกโกรธเเบบเดียวกับเนฟ ในใจผมคือ อยากเอากำปั้นเขกหัวให้เธอรู้สำนึกผิด เเต่ก็ต้องกลั้นใจไว้ เพราะผมเป็นผู้ใหญ่ที่ดีจะไม่ใช้ความรุนเเรงกับเด็ก…
“เเต่ขี้ก้าง เเบบนี้ก็ไม่ไหวนะ~”
“เห้ย ขอสักหมัดดิ!”
“พี่ใจเย็นๆ ก่อน!”
ในขณะที่ลิมิตความเป็นผู้ใหญ่ของผมระเบิดออก เนฟก็เข้ามาล็อกเเขนหยุดผมไว้ โธ่เอ้ย! ทำไมเขาถึงเเรงเยอะจังนะ อีกนิดเดียวหมัดเเห่งความเเค้นของผมกำลังจะได้เขกหัวเธอเเล้ว
“หืม เป็นครั้งเเรกนะเนี่ย ที่เห็นนอลก้าวร้าว เนล”
“อืม นี่ก็ครั้งเเรกเหมือนกัน ไม่นึกว่า นอล จะเป็นคนไม่ยอมคนนะเนี่ย ปรกติชอบตัวไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาวตลอด”
เนล เเละเเจ็ค มองดูนอลด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เชื่อเลยว่านอลจะด้านที่รุนเเรงเหมือนคนอื่น เพราะปรกตินอลมักจะไม่เเสดงสีหน้าโกรธให้เห็น
[ประกาศ การดูพรกำลังจะเริ่มในไม่ช้า ขอให้ทุกท่านอยู่ในความสงบ]
หลังจากการประกาศจบลง ชายคนหนึ่งก็ได้ปรากฏออกมา เขาใส่ชุดนักบวชสีขาวผสมเเดง หมวกที่มีตราสลักเป็นรูปทรงของเทพธิดาองค์หนึ่ง เขาเดินขึ้นมาบนเวทีด้านหน้าเเถวที่นั่งพร้อมกับคนคุ้มกันที่ใส่ชุดเกราะสีเงินที่มีผ้าคลุมลายเทพธิดาเหมือนกับหมวดของนักบวช
“การดูพรกำลังจะเริ่ม ณ บัดนี้ ขอให้ทุกท่านมาตามคิวอย่างเคร่งครัด ถ้าเช่นนั้นคิวที่ 1 เชิญก้าวออกมา”
Chapters
Comments
- ตอนที่ 13: Route two: สถาบันศึกษาเเอสทาเรีย (6) มกราคม 6, 2022
- ตอนที่ 12: Route two: สถาบันศึกษาเเอสทาเรีย (5) มกราคม 6, 2022
- ตอนที่ 11: Route two: สถาบันศึกษาเเอสทาเรีย (4) มกราคม 6, 2022
- ตอนที่ 10: Route two: สถาบันศึกษาเเอสทาเรีย (3) มกราคม 6, 2022
- ตอนที่ 9: สถาบันศึกษาเเอสทาเรีย (2.5) มกราคม 6, 2022
- ตอนที่ 8: Route two: สถาบันศึกษาเเอสทาเรีย (2) มกราคม 6, 2022
- ตอนที่ 7: สถาบันศึกษาเเอสทาเรีย (1.5) มกราคม 6, 2022
- ตอนที่ 6: สถาบันศึกษาเเอสทาเรีย (1) มกราคม 6, 2022
- ตอนที่ 5: การเริ่มต้นที่เป็นไปได้ไม่ค่อยดี (4) มกราคม 6, 2022
- ตอนที่ 4: การเริ่มต้นที่เป็นไปได้ไม่ค่อยดี (3) มกราคม 6, 2022
- ตอนที่ 3: การเริ่มต้นที่เป็นไปได้ไม่ค่อยดี (2) มกราคม 6, 2022
- ตอนที่ 2: Route two: สถาบันศึกษาเเอสทาเรีย (3) มกราคม 6, 2022
- ตอนที่1: การเริ่มต้นที่เป็นไปได้ไม่ค่อยดี (1) มกราคม 6, 2022
MANGA DISCUSSION