หึ! เกมจีบหนุ่ม? เเล้วทำไมตัวประกอบอย่างฉันจะเด่นไม่ได้ล่ะ! - ตอนที่ 10: Route two: สถาบันศึกษาเเอสทาเรีย (3)
- Home
- หึ! เกมจีบหนุ่ม? เเล้วทำไมตัวประกอบอย่างฉันจะเด่นไม่ได้ล่ะ!
- ตอนที่ 10: Route two: สถาบันศึกษาเเอสทาเรีย (3)
(ยัยนี่ คิดจะล่อลวงเรา ด้วยข้อเสนอตื้นๆ สินะ)
สิ่งที่เชอร์เบชพูดออกมานั้นไม่มีความลังเลเลย คงไม่เเปลกเพราะครอบครัวของเธอเป็นถึงตระกูลเเคสโตเวียที่มีโดดเด่นเรื่องเวทมนตร์ชั้นเเนวหน้าของอาณาจักร ดังนั้นชื่อเสียง เเละเงินทองจึงมีอยู่ล้นเหลือ ใครที่เชอร์เบชสนใจเธอก็ใช้สิ่งที่เธอมีดึงดูดพวกเขา
(คำตอบมันเเน่นอนอยู่เเล้ว)
“ชื่อเสียง ฉันไม่ค่อยเเคร์ด้วยสิ อำนาจก็งั้นๆ มีไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรในตอนนี้ ส่วนเงินทอง เธอคิดว่ามีมากพอเหรอ ฉันน่ะค่อนข้างเเพงนะ”
ยังไงข้อเสนอของเชอร์เบชก็ไม่ได้น่าดึงดูดอะไรมาก ชื่อเสียง เเละอำนาจ สำหรับผมที่เเข็งเเกร่งจนยากจะต่อกร สิ่งเหล่านั้นล้วนไร้สาระ
“ถามว่ามากพอไหมเหรอ ตอนนี้ฉันพกมาเเค่ค่าขนมด้วยสิ สกิล คลังสมบัติลี้ลับ”
เชอร์เบชถอนหายใจเล็กน้อย ซิกม่าของเธอส่องเเสงสีทองในมือขวา ไม่นานก็มีกระเป๋าสีดำตกเเต่งด้วยลายดอกไม้ปรากฎออกมาบนมือของเธอ เชอร์เบชเปิดกระเป๋า เเละหยิบเหรียญจำนวนหนึ่งวางบนโต๊ะหน้าผม
“ช่วงนี้ฉันโดนพ่อคุมเรื่องการใช้เงินด้วยสิ ตอนนี้อาจจะมีเเค่นี้ เเต่ถือเป็นค่ามัดจำก่อนได้ไหม”
เชอร์เบชทำหน้าไม่สบอารมณ์เล็กน้อย ซึ่งผิดกลับผมที่ตาโต เเละตกใจเเเบบสุดขีด สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าไม่ใช่เหรียญเงินวาว เเต่มันคือเหรียญทองนับ 10 เหรียญที่วางอย่างไม่เป็นระเบียบ
(เชี้x 10 เหรียญทองค่ามัดจำเนี่ยนะ!)
เชอร์เบชอาจจะไม่รู้ตัวเพราะผมพยายามเก็บรักษาหน้าไว้ เเต่ตอนนี้มือผมสั่นไม่เป็นจังหวะเเล้ว ทอง 10 เหรียญมันตั้ง 100,000 ยูเรเลยนะโว้ย! ถ้าได้เงินก้อนนี้มานี่คือได้กินเเบบราชาไปหลายเดือนเเน่นอน
(เเต่เราจะร้อนรนไม่ได้! ถ้าเเค่ 1 เเสนยูเร ค่อยๆ เก็บสะสมจากเงินสมทบตอนได้เเรงค์เพชรก็ไม่เสียหาย)
“โทษทีนะ เเต่ฉันต้องข-”
“เอ๊ะ ดูเหมือนฉันจะหยิบผิดเหรียญนะ”
“ว่าไงนะ?”
“เหรียญทองนั้นใช้จ่ายค่าอาหารสัตว์เลี้ยง ถ้าเงินใช้จ่ายอิสระ โดยไม่รวมเงินสำรอง คงมีเเค่นี้…”
เชอร์เบชวางเหรียญหนึ่งข้างกองเหรียญทอง มันคือเหรียญทองคำขาวซึ่งผมเเทบไม่เชื่อสายตา ออร่าความรวยของมันสะท้อนเขาตาผมเต็มสองตา
(บ-บ้าหน่า! ทองคำขาวอย่างงั้นเรอะ!!!!!!!!!!!!!!!!)
เหรียญทองคำขาวนั้นเปรียบได้เท่ากับเหรียญทอง 100 เหรียญกองอยู่ตรงหน้าผม ความเย้ายวนของมันทำให้สติของผมกระเจิง บ้าไปเเล้ว! 1 ล้านยูเรนี่ สามารถกินนอนอยู่ในห้องพักหรูหราได้เป็นหลายปีเชียวนะโว้ย! ผมอยากจะเข้าไปสัมผัส เเละกอดมันในอ้อมอกเหลือเกิน เเต่ถ้าทำเเบบนั้นมันจะดูไม่เท่ ผมจึงยังคงทำหน้านิ่ง เเละจิกมือตัวเองให้อยู่นิ่งๆ
“ดูจากท่าทีที่ไม่กระติ่นรือร้นของนาย คงจะไม่สนใจข้อเสนอสินะ”
เชอร์เบชทำหน้าผิดหวัง เเละค่อยๆ หยิบเหรียญทองเก็บลงคลังสมบัติลี้ลับ จนในที่สุดก็เหลือเหรียญทองคำขาว ในขณะที่นิ้วของเธอกำลังจะหยิบกลับ มือของผมก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปเเล้ว!
“อ-อย่าพึ่งสิครับ เรามาคุยข้อตกลงก่อนดีกว่า!”
“เห้~ ตอนเเรกก็นึกว่านายจะเล่นตัวมากกว่านี้อีก”
“ทำไงได้นะครับ คุณหนูอุส่าห์ให้ความเมตตาให้ข้อเสนอดีๆ ผมก็ไม่อยากที่จะรีบปฏิเสธน่ะครับ”
“เเต่ฉันคิดว่า ถ้าไปหาคนอื่น น่าจะประหยัด เเละจงรักภักดีกว่านายนะ”
เชอร์เบชยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เเละกดเเรงลงบนเรียญทองคำขาวมากขึ้นเพื่อที่จะลากกลับมาหาตัวเอง ซึ่งเเน่นอนถ้าวัดกันที่พลังผมจะไม่มีทางมอบคืนให้เธออย่างเเน่นอน
(ขอเถอะ! ขอเถอะ! ถ้าบอกว่าเป็นค่าขนม เเทนที่จะเอาไปซื้อของ จ้างฉันดีกว่า จะทำงานเป็นเบ๊มืออาชีพให้เลย!)
“อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจสิครับคุณหนู! เอาเป็นว่าทำไมเราไม่มาคุยเรื่องสัญญากันก่อนล่ะครับ!”
“เอายังไงดีนะ ปีนี้การเข้าสอบปีนี้ มีผู้เข้าสอบที่น่าสนใจเยอะด้วยสิ”
“เเต่ก็เเค่คนที่น่าสนใจไม่ใช่เหรอครับ ถ้าเทียบกับข้ารับใช้ที่มีการการันตรี เรื่องความเเข็งเเกร่ง เเละความฉลาดล่ะก็ ผมต้องเบอร์หนึ่งเลยนะครับ!”
“เเต่หน้าตาดันเห่ย จนดูไม่เหมาะกับฉันสักเท่าไหร่ เวลาต้องให้ติดตามมาด้วยน่ะสิ”
(ยัยนี้!)
“เเหมๆ การเลือกซื้อ ผลไม้ที่อร่อยเขาไม่ดูกันที่ภายนอกนะครับ เราจะต้องเข้าใจถึงภายใน เเละกระบวณการผลิตที่ประณีต หน้าตาก็เเค่สิ่งดึงดูดลูกค้าจอมปลอมเเหละครับ”
“นายจะบอกว่า ผลไม้ที่อร่อยนั่นคือ นายงั้นเหรอ?”
“ถ้าจะให้เปรียบถึง รูปโฉมจะธรรมดาทรงขี้เหล่ เเต่ภายในเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพเเน่นอนครับ!”
ผมหันมาสำรวม เเละพยายามพูดโน้มน้าวเชอร์เบช ตอนนี้ไม่รู้ว่าเธอคิดจริงหรือกำลังเล่นกับความรู้สึกที่มีต่อเงินของผมกันเเน่ เเต่ผมชักไม่ชอบที่เธอทำหน้าใสซื่อทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ที่่สุด
“ก็ได้ เห็นเเก่ความจริงใจของนาย ฉันจะไม่ปฎิเสธนายเเล้วกัน”
“ขอบพระคุณอย่างสูงครับ คุณหนู”
ผมเอามือค้ำโต๊ะ เเละก้มหัวอย่างสุดใจ ถึงเเม้จะเจ็บใจที่ตัวเองต้องมาศิโรราบต่อพลังเงินตรา เเต่ถ้าได้งานสบายๆ เเละมีที่อยู่ เเละรายได้สูงไปตลอดชีวิตละก็ ใครมันจะไม่เอา!
“เลิกก้มหัวเถอะ เรามารีบทำสัญญากันดีกว่า กรีดเลือดบนนิ้วโป้งขวา เเละนำกำปั้นมาชนกัน”
“เข้าใจเเล้วครับ”
เชอร์เบชเรียกมดที่สลักด้วยดอกกุหลาบกดลงบนนิ้วโป้งของเธออย่างประณีต ตรงกันข้ามกับผมที่คิดว่ามันช้าไป จึงเลือกที่กัดนิ้วโป้งจนเกิดรอยเเผลเเทน หลังจากที่เสร็จสิ้นขั้นตอน กำปั้นขวาของผม เเละเธอก็ชนเข้าหากัน โดยมีนิ้วโป้งที่ชูขึ้นประกบรอยเเผลเข้าหากัน ให้เลือดของสองฝ่ายได้เเลกเปลี่ยนกัน
“ในระหว่างกำลังกำเนินสัญญาห้ามมือนาย เเละฉันออกกันเด็ดขาด เข้าใจไหม”
“รับทราบครับ คุณหนู”
“สกิล สัญญาเเห่งความเท่าเทียม”
ผมรับรู้ได้ถึงพลังเวทย์อันมหาศาลไหลผ่านเส้นเลือดเข้ามาในตัวผม กับเชอร์เบช เลือดของพถวกเรากลายเป็นเส้นฝยเวทมนตร์ที่กำลังท่อตัวเป็นกระดาษสัญญาฉบับหนึ่งเหนือมือของพวกเรา
“การดำเนินสัญญาเป็นไปได้ด้วยดี ต่อไปจะเป็นการร่างกฎ”
“ตามใจคุณหนูเลยครับ”
ผมพยายามลดอคติกับเธอเพื่อให้สัญญานี้ลุล่วง สกิล สัญญาเเห่งความเท่าเทียม เป็นสกิลที่ใช้ในการทำสัญญาเพื่อเฟ้นหาข้ารับใช้ของเพอร์เฟค คิงดอม ซึ่งมันไม่ใช่สัญญาธรรมดา เพราะมันคือการคัดสรรข้ารับใช้ที่จะเป็นมือขวา เเละมือซ้ายของกษัตริย์ผู้นั่งอยู่บนบังลังค์เเห่งชัยชนะ เเต่มีข้อเเม้สองข้อคือ ข้อเเรกต้องได้รับการยิมยอมทั้งสองฝ่าย ไม่งั้นสัญญาเเห่งความเท่าเทียมจะไม่สำเเดงผล เเละข้อสอง…
“ข้อเเรก นายจะต้องทำตามคำสั่งของฉันโดยห้ามขัดขืน”
[ไม่สามารถทำตามเงื่อนไขได้ อำนาจในการครอบครองต่ำเกินไป]
“ถึงจะดูโอ้อวด เเต่ที่พูดมาจริงสินะ”
พลังของผู้คัดสรรบริวารคู่กายจะต้องมีอิทธิพลมากกว่าบุคคลนั้น ในกรณีนี้ผมมีพลังมากกว่าเชอร์เบชอย่างเทียบไม่ติด ดังนั้นเธอจะไม่สิทธิในการบังคับให้ผมทำตามเธอได้ทุกอย่างตามที่เธอตั้งเป้าหมายไว้
“นายจะต้องทำตามคำสั่งของฉันอย่างเด็ดขาด ยกเว้นจะเป็นสิ่งที่นายเห็นว่าไม่ถูกต้อง จะสามารถยื่นความโต้เเย้งได้”
[ไม่สามารถทำตามเงื่อนไขได้ เพราะอำนาจในการครอบครองต่ำเกินไป]
“อืม เป็นข้ารับใช้ที่เอาเปรียบเจ้านายจริงนะ”
“เเฮะๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันสิครับ”
“ถ้าทำตามคำสั่งไม่ได้ ต้องลดความเคร่งขัดลงมาอีกสินะ ถ้างั้นเอาเป็น นายจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของฉัน เเละทำตามคำสั่งตามความเหมาะสม โดยที่ห้ามหักหลังฉันเด็ดขาด”
[กฎข้อเเรก ผ่านตามเงื่อนไขที่กำหนด ดำเนินการสร้างกฎเรียบร้อย]
“เสียดายจัง ที่ควบคุมนายไม่ได้ดั่งใจ ตอนนี้ฉันคงมีพลังเเค่ทำให้นายเชื่อฟังได้สักเล็กน้อยสินะ”
เชอร์เบชถอนหายใจ เเละทำหน้าไม่สบอารมณ์เล็กน้อย ส่วนผมก็ทำหน้านิ่งๆ โดยที่ในใจกำลังกระโดดโลดเต้นดีใจที่ตัวเองไม่ต้องถูกลากโซ่ทำตามคำสั่งของเธอเเบบไร้หนทางขัดขืน
“ห้ามนายสร้างความเดือดร้อนต่อคนรอบตัวฉันเด็ดขาด”
[ไม่สามารถทำตามเงื่อนไขได้ เพราะผู้ทำสัญญาไม่พึงประสงค์เห็นชอบ]
“นี่นายคิดจะทำอะไร ถึงได้ไม่เห็นด้วย”
“ก็เเบบถ้าผมหมั่นไส้ส่วนตัว ก็อยากที่จะส่งหมัดเเห่งความเเค้นซัดหน้าให้หมอบสักทีน่ะครับ”
“ถ้างั้น ห้ามทำร้ายครอบครัวของฉัน เเละต้องปกป้องพวกเขาเมื่อตกอยู่ในอันตราย”
[กฎข้อสอง ผ่านตามเงื่อนไขที่กำหนด ดำเนินการสร้างกฎเรียบร้อย]
“เห้อ คิดถูกไหมนะที่เลือกนาย”
“อย่าพูดเเบบนั้นสิครับ คุณหนู”
เชอร์เบชถอนหายใจ เเละทำสีหน้าหงุดหงิดอย่างชัดเจน ผมทำได้เเค่น้อมหัว ในขณะที่ในใจกำลังเล่นเซิรฟ์ในทะเลเเห่งอิสระภาพ เเละร้อง ไชโย ออกมาอย่างสุดรูดหูรูดตา
“อยากให้มีข้อมากกว่านี้อยู่หรอก เเต่คงมีเเต่เงื่อนไขตามมารำคาญสินะ”
“ถ้าคุณหนูไม่ตั้งเงื่อนไขที่มันออกจะเห็นเเก่ตัวไปบ้าง ผมว่ายังไงก็ผ่านเงื่อนไขนะครับ ไม่ก็ลองลดอะไรที่มันยากๆ ลงหน่อยก็ดีครับ”
“ได้ ถ้างั้นข้อสุดท้ายคือ ในยามที่ฉันตกอยู่ในอันตราย นายจะต้องเข้ามาช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ”
[กฎข้อสาม ผ่านตามเงื่อนไขที่กำหนด ดำเนินการสร้างกฎเรียบร้อย]
“อย่างน้อยก็มีข้อหนึ่งที่ไม่เเย่ล่ะนะ งั้นมาทำมันจบดีกว่า ข้าในนามของ เเคสโตเวีย มิว เชอร์เบช ผู้ครอบครอง เพอร์เฟค คิงดอม ลำดับที่ 12 ขอลงนามในสัญญาเเห่งความเท่าเทียม ขอยอมรับ เอลเดล นอล ในฐานะผู้รับใช้มือซ้าย โล่อันไร้ซึ่งจุดอ่อนเเห่งอาณาเขตเเห่งชัยชนะของข้า เจ้าพร้อมที่จะถวายกายให้ข้ารึไม่”
“ข้าพร้อมที่จะเป็นโล่ที่ไม่มีผู้ใดสร้างรอยเเผลกับท่านได้ กษัตริย์ลำดับที่ 12 เเคสโตเวีย มิว เชอร์เบช”
“ถ้าเช่นนั้นจงเเสดง ประทับตราเเห่งความภักดีลงบนมือของข้าซะ”
มือของเชอร์เบชเเยกออกจากผม เธอคว่ำมือลง เเละมองผมอย่างเย่อหยิ่ง สัญญาที่ล่องลอยอยู่บนอากาศลงดิ้งเข้าไปในมือขวาของเธอ เเละกลายเป็นเต้นใต้ให้ผมประทับรอยจูบลงไป
“Yes, my queen. (รับทราบครับ ราชินีของผม)”
ผมจับมือสีขาวนวลอันบอบบางของเธออย่างเบสมือ เเละลุกขึ้นก้มลงไปจูบบนมือขวาของเธอ ทันใดนั้นผมก็รับรู้ได้ถึงพลังเวทย์เเทรกเเซงเข้าไปในร่างกาย ผมรู้สึกเหมือนไฟฟ้าช็อตที่ไหล่ซ้ายอย่างผิดปรกติ
“ตอนนี้ไหล่ซ้ายน่าจะมีตราประทับสัญญาของเพอร์เฟค คิงดอมอยู่หลังทำสัญญาเสร็จ เพียงเท่านี้นายก็เป็นข้ารับใช้มือซ้ายของฉันเเล้ว เพราะฉะนั้นจะพูดเเบบไม่ต้องเป็นทางการก็ได้นะ เพราะยังไงฉันก็บังคับนายทั้งหมดไม่ได้อยู่เเล้ว”
“ก็นึกว่าจะต้องฝืนพูดสุภาพกับคุณหนูไปเรื่อยๆ เสียอีก เเบบนี้ค่อยโล่งอกหน่อย ความจริงก็เเอบน่าเสียดายนะ นึกว่าตัวเองจะเป็นมือขวาเสียอีก”
“ข้ารับใช้มือขวาเป็น ตัวเเทนของดาบ ผู้มีหน้าที่ทะลวงฝ่าศัตรู เเละสร้างช่องว่างในการพิชิตศัตรูให้กับกษัตริย์ ซึ่งฉันได้เเต่งตั้งให้มิเกลรับหน้าที่นั้นไปเเล้ว ที่สำคัญถ้าฉันเลือกนายเป็นมือขวาละก็ ฉันที่ไม่มีอำนาจห้ามนาย กลัวนายจะไปสร้างเรื่องมากกว่าเดิมมากกว่า เป็นโล่นี่เเหละดีเเล้ว เพราะมันทำให้ฉันมั่นใจว่านายต้องปกป้องฉัน เเละครอบครัวเเน่นอน”
“เเล้วตอนนี้มิเกลหายไปไหนล่ะ ปรกติเขาต้องตามคุณหนูไม่ใช่เหรอ?”
“มิเกลต้องไปทำภารกิจปราบปรามกับหัวหน้าอัศวินเเห่งอาณาจักร ถ้าจบภารกิจนี้ เขาจะไปยื่นเรื่องข้อเข้าสอบเเยกกับสถาบันเอง เเต่ถ้าเขาทำผลงานดีต้องโดนจับตามอง เเล้วได้เหรียญเกียรติยศละก็ คงเข้าเรียนชั้นเรียนพิเศษโดยไม่ต้องมาสอบผ่านสิทธิ์พิเศษได้เอง”
“ถ้าเป็นมือขวาของคุณหนู คงไม่ต้องเป็นห่วงหรอกมั้ง”
ตามความสามารในเกมของมิเกล เขาเป็นคนที่มีทักษะในการใช้ดาบที่ไม่เป็นรองเนลสันที่เป็นตัวละครหลักในเกม เป็นอีกหนึ่งในตัวหมากอันเชอร์เบชที่ขัดขวางความรักของนางเอกจนน่าปวดหัว
“จะเป็นมือไหนก็ไม่สำคัญหรอก ว่าเเต่ฉันจะได้เหรียญทองคำขาวนั่นเเล้วใช่ไหม”
“นายอยากได้มากขนาดนั้นเลยเหรอ เอาไปเลย มันไม่ได้มากมายอะไรหรอก”
“ยะฮู้ว! ขอบคุณครับ คุณหนู!”
ผมยิ้มอย่างมีความสุขทันทีที่เชอร์เบชอนุญาติ ผมรีบคว้าเหรียญลงถงกระเป๋าด้วยความดีใจ ในที่สุดต่แไปนี้ผมก็จะใช้เงินเรื่อยเปื่อยโดยไม่ต้องสนอะไรเเล้ว ผมดีใจสักพักก่อนจะปรับอารมณ์เป็นปรกติ
“ถ้าอยากงั้นผมต้องติดตามคุณหนูเลยไหมครับ”
“ไม่ต้อง สำหรับตอนนี้ ขอให้นายสอบผ่านเข้าสถาบันเเอสทาเรียได้ก่อน ไว้หลังเลิกสอบ ฉันจะพานายไปที่บ้าน เเละเริ่มเเนะนำตัวอย่างเป็นทางการกับครอบครัว”
“ตกลงครับ คุณหนู”
“ถ้างั้นไว้เจอกัน”
เชอร์เบชหันหลังกลับ เเละเดินจากผมอย่างไร้เยื่อใย เธอเดินไปยังโซนขุนนางไปนั่งอยู่ตรงที่ที่เคยนั่งกับกลุ่มของเจ้าชายก่อนหน้านี้ ไม่นานเสียงเเจ้งเตือนก็ดังขึ้น
{อีก 5 นาทีจะสิ้นสุดการสอบภาคทฤษฎี การสอบครั้งถัดไปจะเริ่มต้นขึ้นหลังจบการสอบ 30 นาที ขอให้ผู้เข้าสอบทุกท่านเตรียมตัว เเละตรวจสอบเเวนระบุตัวตนให้เรียบร้อย}
—