“คุณว่ามา หากมีอะไรที่ผมช่วยได้ ผมยินดีช่วยแน่นอนครับ”
ฉันยังไม่ทันบอกเลยว่าจะให้ช่วยอะไร ชวี่ชิงหนานก็ตอบรับกลับมาด้วยความเต็มใจ เขาที่เป็นแบบนี้มันทำให้ฉันซาบซึ้งใจยิ่งนัก: “ขอบคุณคุณมากค่ะ ชวี่ชิงหนาน”
เขายิ้มบางๆ: “คุณลองพูดมาว่าอยากให้ผมทำอะไร”
ฉันไม่เขินอายอีกแล้ว จึงพูดออกไปตามตรง: “เรื่องที่ฉันถูกทำร้ายเมื่อคืนวาน คนที่ทำร้ายฉันเป็นแฟนเก่าของฉันเองค่ะ ฉันอยากให้คุณช่วยหาวิธีทำให้เขายอมรับว่าเหตุการณ์เมื่อคืนเป็นเขาวางแผนทำขึ้นมาน่ะค่ะ” ถันฮ่าวอวี่ทำร้ายฉันเช่นนี้ ความเจ็บช้ำในคราวนี้ฉันจะต้องเอาคืนให้ได้
ส่วนที่ว่าทำไมจะต้องให้ถันฮ่าวอวี่ยอมรับในสิ่งที่กระทำในคืนนั้นก็เพราะฉันได้ตัดสินใจแล้ว ในเมื่อลู่จือสิงไม่ได้รักฉันเลย ฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำตัวเยี่ยงมนุษย์โง่งมอีกต่อไป แต่สำหรับเรื่องนี้ ฉันจะต้องทวงคืนความบริสุทธิ์ของตัวเองกลับมาให้ได้
“ผมเข้าใจแล้วครับ”
คุยกับคนฉลาดมันก็ช่างง่ายเหลือเกิน ชวี่ชิงหนานคงจะเดาออกว่าฉันคิดจะทำอะไร
ฉันมองเขาแล้วยิ้มฝืนๆ: “ฉันอยากจะรีบ……”
“แต่สุขภาพคุณในตอนนี้……”
“ชวี่ชิงหนาน บางเรื่่องสำคัญกว่าสุขภาพค่ะ”
ฉันกลัวว่าเมื่อเวลาผ่านไป ตัวฉันเองอาจจะไม่มีความมุ่งมั่นเช่นนี้อีกแล้ว เพราะถึงอย่างไรฉันก็รักลู่จือสิงมากจริงๆ
แต่ฉันก็มีเกียรติมีศักดิ์ศรี เขาพูดกับฉันอย่างโหดร้ายแบบนั้น ฉันอุตส่าห์ไปพบเขาโดยที่ยังมีไข้อยู่ เขากลับไปรักใคร่สนิทสนมกับจ้าวชิงหราน
ถึงฉันจะรักเขา แต่ฉันก็รักเกียรติรักศักดิ์ศรีของตัวเองเช่นกัน!
ชวี่ชิงหนานมองฉันอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พูดอย่างประนีประนอม: “งั้นรอให้น้ำเกลือคุณเสร็จก่อน แล้วผมจะหาคนไปจัดการให้ครับ”
ฉันเกรงใจจนไม่กล้าขอความช่วยเหลืออะไรอีกแล้ว ได้แต่ก้มศีรษะซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความซาบซึ้งใจ: “ขอบคุณค่ะ”
เขาไม่พูดอะไร จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกไปคุยข้างนอก
ชวี่ชิงหนานทำอะไรรวดเร็วมาก ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็มาบอกกับฉันว่าจัดการให้เรียบร้อยแล้ว
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ฉันก็ยื่นมือออกไปเพื่อจะเร่งการไหลของน้ำเกลือให้เร็วขึ้น เขายกมือมาขวางฉันไว้: "ซูยุ่น หากคุณยังล้อเล่นกับร่างกายของคุณแบบนี้อีก ผมจะสั่งให้คนปล่อยตัวถันฮ่าวอวี่ทันที"
คำพูดของเขาทำให้ฉันเกือบจะร้องไห้ออกมา นานแล้วที่ไม่มีใครมาเป็นห่วงเป็นใยฉันแบบนี้
ภายใต้ความขึงขังของชวี่ชิงหนาน ฉันรออย่างขมขื่นราวๆ หนึ่งชั่วโมงกว่า ในที่สุดก็ให้น้ำเกลือเสร็จเสียที
เป็นเวลาอาหารกลางวันพอดี ชวี่ชิงหนานตั้งเงื่อนไขให้ฉันทานอาหารกลางวันเสร็จก่อนแล้วเขาจะพาฉันไป
ฉันรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ฉันต้องฟังสิ่งที่เขาพูด ต้องทานอาหารกลางวันกับเขา แล้วรีบไปในที่ที่ถันฮ่าวอวี่อยู่
“คุณชวี่ เขาอยู่ด้านในแล้วครับ”
ชวี่ชิงหนานพาฉันเข้าไปในบ้านพักตากอากาศ แล้วยืนอยู่ตรงทางเข้าประตู ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมากดปุ่มบันทึกเสียง
เขาก้มศีรษะลงมามองฉัน: “คุณพร้อมแล้วหรือยังครับ?”
ฉันพยักหน้า: “ฉันพร้อมแล้วค่ะ”
ชวี่ชิงหนานพยักหน้าเล็กน้อยสั่งให้คนเปิดประตู
“ปล่อยฉันออกไป พวกนายจะทำอะไรกันแน่!”
เมื่อฉันและชวี่ชิงหนานเดินเข้าไป ก็ได้ยินเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวของถันฮ่าวอวี่
เขาถูกจับมัดติดกับเก้าอี้ตัวหนึ่ง พอเห็นฉันก็ถึงกับผงะไป: “ซูยุ่น เธอจะทำอะไรกันแน่?”
ฉันยิ้มเยาะ: “คำถามนี้ควรจะเป็นฉันถามถึงจะถูก จริงมั้ย? คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ ทำไมถึงต้องวางยาฉัน?!”
ไม่คาดคิดว่าถันฮ่าวอวี่จะยืนกรานปฏิเสธ: “ฉันไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดอะไร ฉันไม่ได้เป็นคนวางยาเธอสักหน่อย!”
“คุณยังไม่ยอมรับอีกหรือ! คุณอย่านึกว่าฉันจะไม่รู้ว่าคุณคิดจะทำอะไร คุณคิดจะให้ลู่จือ
สิงทิ้งฉันใช่มั้ย? แต่คุณไม่ควรเลย คุณไม่ควรจะดึงคุณชวี่มาร่วมด้วย!”
สีหน้าของถันฮ่าวอวี่เปลี่ยนไป เห็นได้ชัดว่าฉันพูดถูก แต่เขาก็ยังไม่ยอมรับ: “ซูยุ่น เธอคิดจะใส่ความกันก็ช่วยหาเหตุผลที่มันดูดีกว่านี้หน่อยซิ เราเลิกกันไปแล้ว ฉันอยู่ด้วยกันกับตันตัน ไม่ว่าเขาจะเอาอะไร มีอะไร หรือจะไปขโมยใครมา ฉันก็ควรจะไปแก้แค้นเขาซิ ไม่ใช่มายุ่งกับเธอ!”
ถันฮ่าวอวี่ทำให้โกรธฉันจนตัวสั่น ในขณะที่ฉันกำลังหมดหนทาง ชวี่ชิงหนานก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา: “ถ้าผมจำไม่ผิด คุณพ่อของคุณถันกำลังเตรียมการผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาลที่สามใช่มั้ยครับ? โชคไม่ดีมากครับที่ผมบังเอิญรู้จักกับคุณลุงของคุณหมอเจ้าของเคส คุณถันคิดจะทำอะไรผมไม่ยุ่งครับ แต่เมื่อคืนคุณเล่นงานผม สำหรับเรื่องนี้ผมคงต้องคิดให้ชัดเจนแล้วครับ”
ถันฮ่าวอวี่ใบหน้าค่อยๆ ซีดลงๆ พอชวี่ชิงหนานพูดจบ เขาก็ลุกลี้ลุกลน: “ประธานชวี่ เรื่องนี้เป็นผมทำคนเดียว ผมยอมรับผิดครับ คุณพ่อผมท่านอายุมากแล้ว ขอประธานชวี่เมตตาปล่อยท่านไปเถอะครับ!”
“พูดมา ตกลงคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
หลังจากที่ถูกชวี่ชิงหนานข่มขู่ ถันฮ่าวอวี่ก็ไม่กล้าปิดบังอีกแล้ว: "เรื่องมีอยู่ว่าหยาวตันตันคบชู้ แต่ก็ยังจะให้ผมรับสิ่งนี้ให้ได้ เรื่องนี้เป็นผู้ชายคนไหนก็ต้องโกรธครับ ซูยุ่นทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าหยาวตันตันมีชู้แต่ก็จงใจไม่บอกผม เขาเป็นแฟนเก่าของผมครับ พอเลิกกับผมไม่นานก็ไปคบกับลู่จือสิงในเวลาอันรวดเร็ว จากนั้นผมก็ถูกเพื่อนยุให้ตกหลุมพลางเขา โดยในคืนนั้นมีอยู่เพียงสองทางเลือก คือเป็นผมนอนกับซูยุ่น หรือเป็นคุณ …..”
“เพียะ!”
ฉันอดไม่ได้จึงตบถันฮ่าวอวี่ไปหนึ่งที: “ต่ำช้า!”
“ต่ำช้าก็ยังดีกว่าผู้หญิงหลายใจอย่างพวกเธอ!”
ฉันยกขาเตะเขาไปทีหนึ่ง “ถันฮ่าวอวี่ นายมันเลวจริงๆ”
เขาหัวเราะเยาะ: “เราคบกันมา 4 ปี ฉันจะจูบเธอซักทีเธอก็เอาแต่เขินอาย แล้วเธอคบกับลู่จือสิงมานานแค่ไหนกัน พวกเธอถึงขั้นขึ้นเตียงกันมาแล้ว! ซูยุ่น เธอบอกว่าฉันเลว แล้วเธอล่ะเป็นอะไร? เธอก็แค่ดูถูกฉัน พอขาดผู้ชาย ไม่มีคนมาจีบเข้าหน่อยก็มาคบกับฉัน ทำไมต้องเสแสร้งแกล้งทำตัวราวกับเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง เธอดูซิ ดูว่าตอนนี้เธอกับลู่จือสิง กับ——”
เขายิ่งพูดก็ยิ่งฮึกเหิม แต่พอเห็นชวี่ชิงหนาน สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดคำที่แย่ไปกว่านี้ออกมาอีก
แต่ฉันโกรธจนเจ็บไปถึงหน้าผาก ชวี่ชิงหนานเรียกฉัน: “เราออกไปกันเถอะครับ”
ฉันเตะไปตรงกลางลำตัวของถันฮ่าวอวี่ เขาร้องครวญครางอย่างน่ากลัว แล้วฉันก็หันหลัง เดินตามชวี่ชิงหนานไป
“ประธานชวี่!”
ถันฮ่าวอวี่ก้มศีรษะเรียกชวี่ชิงหนานให้หยุดเดิน ฉันไม่ได้หันหลังกลับ เพราะกลัวว่าตัวเองจะอดไม่อยู่ถีบเขาจนตาย
“คุณถันไม่ต้องเป็นกังวลไป อีกซักพักจะมีคนมาปล่อยคุณออกไปเองครับ”
“แล้วเรื่องคุณพ่อของผม——”
ชวี่ชิงหนานมองฉันซักพักหนึ่ง: “ต้องดูคุณหมอเจ้าของเคสแล้วครับ” เขาพูดจบก็ตบฉันเบาๆ: “เราไปกันเถอะ”
ออกมาจากบ้านพักตากอากาศแล้ว ฉันก็มองดูมือถือที่บันทึกเสียงไว้แล้วบนมือฉัน แต่กลับยิ้มไม่ออก เพราะฉันรู้ว่าต่อจากนี้ไปฉันจะต้องไปจัดการอีกเรื่องหนึ่งให้เรียบร้อย
ฉันวางโทรศัพท์ดีๆ จากนั้นก็หลับตาพิงพนักเก้าอี้: “ชวี่ชิงหนาน รบกวนช่วยส่งฉันกลับบ้านทีค่ะ”
เขาเหมือนจะหันข้างมามองฉันครู่หนึ่ง: “คุณคิดดีแล้วหรือครับ ซูยุ่น?”
ดวงตาฉันแสบร้อน ฉันอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาปิดไว้: “ฉันคิดดีแล้วค่ะ”
"ตอนนี้ในมือคุณมีหลักฐานที่จะพิสูจน์ว่าเหตุการณ์เมื่อคืนเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด อันที่จริงไม่……”
ชวี่ชิงหนานพยายามเกลี้ยกล่อมฉัน แต่มีเพียงฉันเท่านั้นที่รู้ว่า ความไม่ไว้วางใจในชีวิตสมรสเป็นเรื่องยากที่จะรักษาเอาไว้ได้จริงๆ
“ชวี่ชิงหนาน ฉันคิดไตร่ตรองดีแล้วค่ะ”
น้ำตาที่ไหลออกมาจากหางตา ก็เหมือนกับเลือดที่ไหลออกมาจากหัวใจฉัน
MANGA DISCUSSION