"ลู่จือซิง ได้โปรดอย่าทำกับฉันแบบนี้…"
"ขอร้องผมเหรอ ตอนที่คุณเริ่มกินยานี้ ทำไมไม่คิดว่ามันจะมีวันนี้ฮะ"
ขณะลู่จือซิงแผดเสียงใส่ ก็พุ่งเข้าใส่อย่างกับจะฉีกฉันเป็นชิ้นๆ
ฉันรู้ ไม่ว่าฉันจะพูดยังไงเขาก็ไม่เชื่อฉันอยู่แล้ว
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความอีก ความอัปยศอดสูนี้ทำให้เขาคิดว่าฉันกำลังแสดงอยู่
ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาที่ไม่เคยโหดเหี้ยมก็เหมือนกับหมาป่าที่หิวกระหายมานานที่กำลังฉีกเหยื่อเป็นชิ้นๆ
มือเขาจับเอวฉันไว้จนแทบจะหัก ฉันกัดฟันไม่เปล่งเสียงออกมาแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลริน
หลังจากความเจ็บปวดที่แสนยาวนาน เขาผละออกจากตัวแล้วนั่งสูบบุหรี่บนโซฟา
ฉันกัดฟันและพาร่างตัวเองลุกขึ้นนั่งพร้อมสวมใส่เสื้อผ้า ยกมือปาดน้ำตาแล้วมองตรงไปที่เขา"ประธานลู่ ฉันไปได้หรือยังคะ"
เขาเงยหน้าแล้วมองมาที่ฉัน แววตาเต็มไปด้วยความประชดประชัน "พอใจไหมซูยุ่น เธอยังจะมายั่วฉันอีกไหม"
ฉันมองที่เขาหัวใจฉันเจ็บอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กัดฟันแล้วยิ้ม "ฉันพอใจมาก ต้องขอบคุณประธานลู่แล้ว จากนี้ฉันคงไม่มารบกวนคุณอีก"
สิ้นเสียงฉัน เหมือนมีบรรยายกาศเย็นยะเยือกทั่วตัวลู่จือซิง เขายื่นมือกวาดของลงพื้น"ไส้หัวไป"
ฉันไม่อยากจะพูดอะไร เพียงแค่อยากกลับไปอาบน้ำแล้วนอนให้สบาย แล้วลืมสิ่งที่บ้าบอของปีนี้ออกไป
“ ปัง!”
ฉันพึ่งเดินออกประตูมาได้ไม่กี่ก้าวข้างหลังฉัน ก็เกิดเสียงดังขึ้น ฉันตัวแข็งทื่อแต่ก็ยังคงเดินจากโดยไม่หันกลับมามอง
เขาให้ฉันไส้หัวไป ฉันไส้หัวไปแล้วจะไม่ไส้หัวกลับมาอีก
ความสัมพันธ์ฉันกับลู่จือซิงไม่เหมือนกัน เขาเหมือนกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และฉันเป็นเพียงแค่ทาสที่คอยรับใช้เขาอยู่ใต้ฝ่าเท้า
และฉันเริ่มต้นด้วยเจตนาแอบแฝง ในท้ายที่สุดเขาก็ไม่เชื่อฉัน
เมื่อฉันกลับมาฉันก็เข้าใจ คนที่ขีดเขียนเรื่องนี้ก็คงเป็นลู่เว่ยกั๋ว
ทุกอย่างเขาวางแผนไว้เป็นอย่างดีโดยยัดเงิดให้หมอแล้วให้ฉันกินยานั้น ฉันเชื่อว่าลู่จือซิงต้องตรวจสอบมาแล้ว แต่ถ้าหมอปฎิเสธว่าจ่ายยาให้ฉัน ฉันก็หมดคำพูดแล้ว
เรื่องนี้ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือลู่จือซิงเดิมไม่เคยคิดจะเชื่อฉัน
ไม่มีใครผิดใครถูก พูดได้แค่เพียงว่าโชคชะตาฉันกับเขาไม่มากพอจึงเดินมาจนสุดทางวันนี้
ไม่มีแล้วความรัก ฉันยังมีคุณยาย
หลังจากออกจากคอนโดลู่จือซิง ฉันเริ่มส่งเรซูเม่หางานทางอินเตอร์เน็ต หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปในที่สุดฉันได้งานที่ดี
เจ้านายและเพื่อนร่วมงานดีมาก เมื่อวันศุกร์มีงานเลี้ยงที่แผนก ฉันที่พึ่งเริ่มงานบริษัทก็ไม่สามารถปฎิเสธได้ ทำได้เพียงตามพวกเขาไป
หลังจากทานอาหารเสร็จพวกเขาว่ายังต้องการไปร้องเพลงคาราโอเกะ ฉันรู้สึกไม่สนุกคิดว่าจะนั่งสักพักแล้วค่อยไป
ตอนทานข้าวฉันดื่มเบียร์ไปแล้วขวดหนึ่งแล้วถูกลากให้เล่นลูกเต๋าในห้องส่วนตัว ฉันที่เล่นไม่เป็นพึ่งเล่นได้สามตาก็ดื่มเบียร์แล้วอีกขวด
ฉันเริ่มไม่ไหวแล้ว ฉันหาข้ออ้างไปห้องน้ำแล้วคิดอีกสักสิบนาทีค่อยออกไปบอกกับพวกเขาว่าฉันต้องดูคุณยายแล้ว
"ซูยุ่น เธอไปเข้าห้องน้ำเหรอ รอฉันด้วย"
ฉันเพิ่งเปิดประตูห้องส่วนตัว เพื่อนร่วมงานผิงผิงเรียกฉันไว้
"ซูยุ่น เธอดื่มไปเท่าไหร่เหรอ ทำไมฉันรู้สึกว่าสีหน้าเธอไม่เปลี่ยนนะ ดูไม่เห็นเมาเลย"
ผิงผิงพูดพล่าม ดูก็รู้ว่าเธอเมาแล้ว ฉันพยุงเธอตลอดทางไปที่ห้องน้ำ
เมื่ออกมา ผิงผิงพิงอยู่กำลังแพงมองที่ฉันแล้วยิ้ม "ซูยุ่น เธอโตแล้วสวยมาก"
ฉันยิ้มเล็กน้อย"ผิงผิง เธอต้องการล้างหน้าไหม"
เพียงไม่กี่นาทีผิงผิงก็เมามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เธอส่ายหน้า"พวกเรากลับกันเถอะ"
เห็นเธอส่ายหน้าฉันพยุงเธอกลับไป
ผิงผิงใส่รองเท้าส้นสูงแล้วยังเมาเดินเซไปเซมา ฉันพยุงไม่มั่นคงไม่ทันระวังชนคนเข้า
ฉันขอโทษทันที"ขอโทษค่ะ เพื่อนฉันเมาแล้ว"
ผิงผิงพูดแทรกขึ้มาในเวลาเดียวกัน"ฉันไม่ได้เมา เป็นพวกเขาเดินไม่ดูตาม้าตาเรือ"
ฉันรีบยื่นมือปิดปากของผิงผิง แต่มันสายไปแล้วผู้ชายสองคนตรงหน้าก็เมาแล้ว ยกมือผลักผิงผิงไปตรงๆ ฉันพยุงผิงผิงไม่ทันระวังหลังถูกกระแทกกับราวบันได เจ็บจนทนไม่ไหวร้องออกมา
"เธอว่าใครเดินไม่ดูตาม้าตาเรือฮะ ฉันว่าเธอต่างหากที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ"
คนเมาพูดอย่างไร้เหตุผล ฉันไม่สนใจเอวที่เจ็บปวดจากการชน ฉันรีบขอโทษ: "ขอโทษด้วยค่ะ เป็นความผิดเราเอง"
"ขอโทษเหรอ ขอโทษก็จบเหรอ"
แต่ว่าชายสองคนนั้นกลับไม่ยอมแล้วดึงฉันกับผิงผิง
ถ้ามีแค่ฉันคนเดียวยังสามารถวิ่งหนีได้ แต่ว่าเวลานี้ยังมีผิงผิง ฉันหนีไปแล้วผิงผิงก็แย่ล่ะสิ ฉันทำได้แค่พยายามบอกพวกเขาอย่างนิ่ง ๆ ว่า "แล้วพวกคุณจะเอาอะไร เพื่อนฉันเมามากเป็นพวกเราที่ผิดเอง"
"เมาก็สามารถชนคนได้เหรอ พวกเธอหน้าตาสวยไม่เบา มาดื่มกับพวกเราสักแก้วเป็นไง"
ขณะที่ผู้ชายพูดก็เอื้อมมือไปแตะผิงผิง ฉันรีบดึงผิงผิงกลับมา: "คุณผู้ชาย เพื่อนของฉันยังรอฉันอยู่ ฉันขอตัวก่อนล่ะ"
พูดจบ ฉันก็ไม่สนใจไรมากลากผิงผิงหนีไป
“ตุบ——”
พึ่งหนีเพียงสองก้าวก็ชนไปที่หน้าอกของคนคนหนึ่ง หน้าอกนั้นแข็งชนจนหน้าผากฉันเจ็บ
ฉันเงยหน้าที่จะขอโทษ คาดไม่ถึงกลับพบดวงตาสีดำที่แสนเย็นชาของลู่จือซิง
ฉันอึ้งสักครู่ แล้วจับมือผิงผิงจนแน่นและเม้มริมฝีปาก แล้วลากผิงผิงเดินต่อไปอย่างเงียบๆ
กลับถึงห้องส่วนตัว ฉันบอกว่าฉันต้องไปก่อน พวกเขาไม่ได้พูดไรมาก เพียงแค่ให้ฉันบอกให้เดินปลอดภัย
พึ่งเดินออกจากประตูสีทึบ ฉันก็เห็นลู่จือซิงกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ทางออกแล้ว
ดูเหมือนว่าเขากำลังรอฉันอยู่ เขาสวมเสื้อคลุมกันลมสีดำทำให้เขาดูน่ากลัวมากยิ่งขึ้นและดวงตาสีดำที่จ้องมาที่ฉัน
ฉันหยุดฝีเท้าแล้วมือกำกระเป๋าไว้แน่ แต่สุดท้ายแกล้งทำเป็นไม่เห็นอะไรแล้วก้าวเท้าเดินต่อไป
เมื่อเดินผ่านไหล่ ฉันเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น ได้ยินเสียงฝีเท้าด้านหลังฉันวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดอะไร
แต่ฉันก็ยังถูกลู่จือซิงจับเอาไว้ เขาบีบข้อมือฉันแรงจนข้อมือฉันแทบจะหักเป็นเสี่ยงๆ มองมาที่ฉันอย่างเย็นชา"ซูยุ่น คุณไม่อยากเห็นหน้าขนาดนี้เลยเหรอ"
เขาก้มลงมองมาที่ฉัน ดวงตาสีดำที่แสนเย็นชาเหมือนมีดแทงเข้าไปนัยตาฉัน และความรู้สึกฉันที่ปั่นป่วน
ฉันเม้มริมฝีปากแล้วข่มความรู้สึกมากมายในใจ เงยหน้าขึ้นมองเขาโดยไม่แสดงความอ่อนแอ"ฉันกลัวทำให้ประธานลู่รังเกียจ"
MANGA DISCUSSION