คิว อีไป๋ จริงๆแล้วมีภาวะไม่รู้ใบหน้า
เซิน หนิงซิน สาบานเลยว่านี้เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อที่สุดที่เธอได้ยินมาในปีนี้
เมื่อเห็นเธอทำหน้าตกตะลึง ผู้ช่วยฯ ฮั๋น โบกมือไปมา “แต่มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรหรอกนะ แค่แย่กว่าคนทั่วไปนิดหน่อย แล้วก็นะเธอมีวิธีพิเศษสำหรับช่วยจำคนอื่นอยู๋”
“แล้วเท่าที่ฉันจำได้ เธอไม่เคยพลาดเลย”
งั้นประธาน คิว ผู้ไม่เคยพลาดมาก่อน ก็ทำพลาดแค่เฉพาะกับเธองั้นหรอ?
เซิน หนิงซิน พูดอะไรไม่ออกเธอทำได้แค่สลายความอึดอัดด้วยรอยยิ้ม
“ฟังจากที่เธอพูด เธอน่าจะจำเธอบนรถโดยสาร กับเธอที่บริษัทเป็นคนละคนกัน” ผู้ช่วยฯ ฮั๋น หยุดแล้วพูดต่อ “ลองนึกดูสิว่าเธอมีอะไรที่แตกต่างกันระหว่างบนรถกับในบริษัท?”
“ฉันปล่อยผมกับมัดผม” เซิน หนิงซิน พูดหลังจากคิดซักพัก
“ไม่น่าใช่เรื่องนั้น” ผู้ช่วยฯ ฮั๋น สายหน้า “ประธาน คิว ไม่ทำพลาดเพราะความแตกต่างแค่นั้นหรอก”
“นอกซะจากว่าเธอไม่ได้จำหน้าเธอ แต่จำจากอย่างอื่น”
หลังจากได้ยิน เซิน หนิงซิน ก็เงียบไป
ผ่านไปซักพักก่อนที่เธอจะดึงพวงกุจแจน้องหมาที่แขวนอยู่บนกระเป๋าเธอออกมา
แก้มของเธอแดงและน้ำเสียงของเธอก็เต็มไปด้วยความเขินอาย “ฉันคิดว่าประธาน คิว คงจำฉันได้เพราะ เข็มกลัดที่เบี้ยวของฉัน กับน้องหมา”
แล้ว….
บรรยากาศก็เริ่มดีขึ้น
ผู้ช่วยฯ ฮั๋น ยังนั่งอยู่ที่เดิมและพูดคุยเรื่องทั่วไปกับ เซิน หนิงซิน อยู่ซักพักก่อนจะลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินจากไป ก่อนจะไปเธอย้ำว่าอย่าเอาเรื่องในคืนนี้ไปบอกใคร
“เข้าใจแล้วค่ะ” เซิน หนิงซิน ตอบด้วยความจริงใจ “ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่พูดอะไร”
เมื่อผู้ช่วยฯ ฮั๋น รู้สึกโล่งอกเธอก็โบกมือลา เซิน หนิงซิน หยิบกระเป๋าของเธอและเดินจากไป
ด้วยเอวที่โค้งน่ามอง ร่างกายที่น่าหลงไหล่ของเธอค่อยๆไกลออกไป
มันต่างกับท่าทางจริงจังที่เธอมีเมื่อตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง
เซิน หนิงซิน มองเธอเดินจากไปก่อนจะหันกลับ
ทุกๆคนต่างก็มีความลับเป็นของตัวเอง เหมือนผู้ช่วยฯ ฮั๋น กับ คิว อีไป๋
มันไม่ได้ผิดหรือแปลกอะไร เธอสามารถเก็บความลับให้คนอื่นได้อยู่แล้ว
เมื่อคิดแบบนั้น เซิน หนิงซิน ก็ยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มจนหมด หลังจากนั้นก็หยิบกระจกใบเล็กขึ้นมาจากกระเป๋าเพื่อตรวจสอบใบหน้าของเธอ
ดวงตาเมล็ดซิ่งกลมสวย จมูกโด่งเข้ารูป ริปปีฝากสีกุหลาบ ผิวขาวผ่อง และลักยิ้มสองก้อนที่เห็นได้ชัดเจนบนแก้มของเธอเวลายิ้ม
มันไม่ใช่ว่าเธอไม่มีจุดเด่น
แต่ว่า คิว อีไป๋ ประธาน คิวคนนั้นกลับจำเธอจากน้องหมากับเข็มกลัดเท่านั้น
เธอถอนหายใจและเอือมมือไปจับน้องหมาแล้วเริ่มพูดกับมัน แต่ในใจของเธอนั้นกำลังนึกภาพของ คิว อีไป๋ อยู่
“เธอมันน่ารำคาญจริงๆ” เธอพึ่มพำแล้วเงียบไป มุมป่กของเธอยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว “แต่มันก็ไม่เป็นไร”
“อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เกลียดฉัน เธอทำฉันตกใจ…”
—
มันเป็นอีกเช้าที่วุ่นวาย
เซิน หนิงซิน เก็บข้าวของเธอแล้วขึ้นรถโดยสารไปทำงาน
ก่อนจะขึ้นรถเธอแอบกลัวว่าจะได้เจอกับ คิว อีไป๋อีก เธอไม่รู้ว่าจะเจอท่าทางแบบไหนจากเธอในครั้งนี้
โชคดีที่เธอกังวลไปเอง วันนี้ไม่มีใครที่หน้าตาคุ้นเคยบนรถโดยสาร
เธอถอนหายใจแล้วเดินไปหาที่นั่งด้านหลัง เธอมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วคิดถึงเรื่องเมื่อคืน
มันเป็นตอนที่เธอรู้ว่า คิว อีไป๋ มีภาวะไม่รู้ใบหน้า ตอนแรกเธอตกใจแล้วก็ดีใจ นึกสงสัยว่า คิว อีไป๋จะจำเรื่องน่าอายที่เธอทำได้ไหม
“เธอพูดอะไรนะ?” ผู้ช่วย ฮั๋น ขำหลังจากได้ยินสิ่งที่เธอคิด “เธอแค่จำหน้าคนไม่ได้ ไม่ได้ความจำเสื่อมนะ”
“นอกจากนั้นเธอเจอกันหลายครั้งแล้ว เธอต้องจำเธอได้บ้างแล้วหละ แล้วก็นะไม่ใช่ว่าเธอโดนเรียกชื่อแล้วตอนที่เจอที่ลิฟต์หรอ?”
เซิน หนิงซิน พยักหน้าอย่างหมดทางสู้ “ก็จริง”
“งั้นก็ไม่มีปัญหาแล้วหละ” ผู้ช่วย ฮั๋น ตบบ่าเซิน หนิงซิน แล้วจิ๊บเครื่องดื่มของเธอ “เธอต้องระวังหน่อยนะเวลาจะทำอะไร”
“ประธาน คิว ของพวกเราดุมากนะ”
“…..”
เซิน หนิงซิน สายหน้านั่งพิงเก้าอี้แล้วคำรามเบาๆ
อนาคตคงไม่ง่ายเท่าไหร เธอคิด
วันนี้เธอมาเช้ากว่าปกติ รถบนถนนและคนบนทางเท่าดูน้อยกว่าปกติ รถโดยสารสายไปมาเมื่อมันขยับและมาถึงป้ายของเธอยย่างรวดเร็ว
เซิน หนิงซิน ขึ้นไปข้างบนและแม้จะหลังจากลงเวลาทำงานแล้วในออฟฟิศก็แทบไม่มีใครเลย
เธอไปที่ห้องชงกาแฟเพื่อหากาแฟดื่ม เมื่อเธอกลับมาที่โต๊ะของเธอโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
มันเป็นสายจากฉาง เจ๋ เธอบันทึกเบอร์ของเธอไว้ไม่กี่วันก่อน
เซิน หนิงซิน กดรับสายอย่างรวดเร็ว
“เธอไปถึงบริษัทหรือยัง?” เสียงของฉาง เจ๋ ดังมาจากอีกฝั่ง มีเสียงของรถไฟเหาะกับเสียงเด็กกรี๊ดดังเข้ามาด้วย “ญาติของฉันแต่งงานกันวันนี้ ฉันเลยไปทำงานไม่ได้ ฉันเลยจะรบกวนเธอช่วยอะไรหน่อย”
“…..”
ถ้าเธอจะออกไปเที่ยวก็คือเธอจะออกไปเที่ยว ช่วยหาเหตุผลที่เป็นมืออาชีพมากกว่านี้ไม่ได้แล้วหรอ!
เซิน หนิงซิน ถอนหายใจในใจ แต่เธอก็ตอบตกลงด้วยร้อยยิ้มบนหน้า “ได้ค่ะ”
“มันมีใบสั่งผลิตในคอมพิวเตอร์ของฉัน ช่วยตรวจสอบแล้วส่งพวกมันไปที่โรงงาน แล้วก็เปลี่ยนวันที่เป็น 7 พฤษภาคมให้หน่อย” ฉาง เจ๋ อธิบาย “แล้วก็จะมีใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าของลูกค้าจากเกาหลี ไปขอให้ฝ่ายจัดการเอกสารช่วยเธอนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ” เซิน หนิงซิน ตอบหยิบกระดาษเปล่าขึ้นมาจดทุกอย่างที่ ฉาง เจ๋ บอกเอาไว้
หลังจากนั้นเธอก็ถาม “มีอะไรอีกไหมคะ?”
“มันมีเอกสารอีกแผ่นหนึ่งบนโต๊ะฉัน” ฉาง เจ๋ บอก “เอามันไปส่งให้ประธาน คิว ด้วยนะ เดียวฉันจะส่งวีแชท (แอปแชทที่นิยมในต่างประเทศ ประมาณไลน์) ของประธานให้เธอ”
ประธาน คิว
หลังจากได้ยินชื่อของ คิว อีไป๋ เซิน หนิงซิน อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
แต่ยังไงก็ตามมันคืองานเธอจึงไม่สามารถปฏิเสธได้ หลังจากวางสายเธอก็ทำการเพิ่มเพื่อนประธาน คิว ในวีแชท
รูปของ คิว อีไป๋ เป็นโลโก้ของเค๋ารุ่น ไอดีของเธอเป็นชื่ออังกฤษที่ตามด้วยตัวพินอินของเค๋อรุ่ย มันค้อนข้างจะเรียบง่าย (คนจีนมักจะมีชื่ออีกชื่อเป็นภาษาอังกฤษเอาไว้ติดต่องานต่างประเทศ)
แต่ เซิน หนิงซินกลับรู้สึกกลัวอย่างอธิบายไม่ได้
“มันอ่านว่าแคทเทอรีนใช่ไหม?” เธออ่านชื่อของ คิว อีไป๋ ก่อนจะคลิกเพิ่มเพื่อนเธอไป และในช่องข้อความเธอเขียน “ประธาน คิว ฉันคือ เซิน หนิงซิน จากฝ่ายขายต่างประเทศ ฉันมีเอกสารที่อยากให้คุณตรวจสอบ พวกเราสามารถเพิ่มเพื่อนกันได้ไหม?”
มันเป็นแค่ไม่กี่คำ แต่ตอนเธอพิมพ์มันรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปเป็นปี
เซิน หนิงซิน หายใจเข้าลึกๆ แล้วกดปุ่มส่ง เธอรีบเก็บโทรของเธอไปแล้วเริ่มจมดิ่งเข้าไปในงานของเธอ
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมามองอีกครั้ง คิว อีไป๋ ก็ได้กดรับเพื่อนเธอแล้ว
เซิน หนิงซิน เปิดแชทขึ้นมาและพบข้อความ “ส่งมาให้ฉัน”
เธอดูจะใช้คำตามปกติ ไม่ได้ดูเข้มงวดอะไร
เซิน หนิงซิน ถอนหายใจอย่างโล่งอกและรีบส่งเอกสารไป หลังจากนั้นเธอก็รู้ตัวว่ามันใกล้จะบ่ายแล้ว เธอส่งข้อความแสดงความเอาใจใส่ไปว่า “อย่าลืมอาหารให้ตรงเวลานะคะ ประธาน คิว”
เธอไม่ได้รับข้อความตอบกลับเป็นเวลานาน
เซิน หนิงซิน ไม่ได้สนใจมากนัก และทำงานของเธอต่อไปจนถึงเวลาพักเที่ยง
ช่วงพักเที่ยง เซิน หนิงซิน ลงเวลาออกและเดินไปที่โรงอาหาร
เป็นอย่างที่คิด วันนี้โรงอาหารก็มีเมนูใหม่อีกแล้ว เซิน หนิงซิน ได้กลิ่นหอมในอากาศแล้วเดินไปหยิบถาดอาหาร หลังจากนั้นเธอก็นั่งลงในที่นั่งที่ว่างและกำลังจะคีบอาหารคำแรกเข้าปาก ก่อนที่โทรศัพท์ของเธอจะดังขึ้น
คิว อีไป๋: [รูปภาพ] [รูปภาพ] [รูปภาพ]
มันคงจะเป็นรูปเอกสารที่ตรวจสอบแล้ว
เซิน หนิงซิน คิดก่อนจะว่างตะเกียบลงแล้วเปิดวีแชทขึ้นมา
แล้วเธอก็เบิกตา และเกือบจะลืมหายใจ
ไม่ใช่ผลการตรวจเอกสาร คิว อีไป๋ ส่งรูปอาหารที่น่ากินมากมาให้เธอ!
ชาชิมิที่ดูราคาแพง บาบีคิวที่เคลื่อบไปด้วยซอสสีสวย ขนมหวานที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย และไวน์แดงคุณภาพสูง
“ตอนนี้ฉันกำลังกินอยู่”
คิว อีไป๋ ส่งข้อความมาอีกอัน
“แค่กินของที่มี”
ห่ะ?
เซิน หนิงซิน พูดอะไรไม่ออก ในใจก็เกลียดตัวเองที่ไปห่วงใยว่าเธอจะได้กินอะไรหรือเปล่า ส่วนมือของเธอก็ตอบกลับไปว่า “ทานให้อร่อยนะคะ”
เธอวางโทรศัพไว้ที่มุมโต๊ะ ไม่อยากจะเห็นขอความที่ คิว อีไป๋ส่งมาอีก
ในขณะเดียวกันอาหารตรงหน้าเธอก็ไม่ได้ดูน่ากินอีกแล้ว
“….”
—
อย่าพึ่งเกลียดประธานกันนะครับ เดียวพอเริ่มรู้นิสัยกันแล้วพอกลับมาอ่านรับรองเลยว่าจะต้องแอบอมยิ้มกันแน่นอน
-A Cup of Owls
MANGA DISCUSSION