เซิน หนิงซิน รู้สึก คิว อีไป๋ เป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำลายบรรยากาศ
เธอยังรู้สึกซาบซึ้งอยู่เลยก่อนหน้านี้ แม่แต่ภาพลักษณ์ของคนคนนี้ในใจของเธอก็ดูดีขึ้นมาก
แต่เธอคิดแบบนั้นได้ไม่ถึงสองวิด้วยซ้ำเธอก็ได้ยินคนคนนี้บอกว่าเธอป่วย
“……”
ตอนนี้ความรู้สึกที่กำลังก่อขึ้นในใจของเธอได้หายไปแล้ว
เซิน หนิงซิน ถอนหายใจ ไม่สามารถสรรค์หาคำอะไรออกมาพูด
แต่คนคนนี้เป็นห่วงเธอจริงๆ และหันกลับมามองเธอเรื่อยๆ เธอถึงกับเปิดปากของเธอแล้วถาม “เป็นอะไรไป? มันหนักมาเลยหรอ? เธออยากไปโรงพยาบาลไหม?”
ค้อนข้างมีความสามารถในการเป็นห่วงเธอเลย
“ไม่เป็นไรหรอ” เซิน หนิงซิน รีบสายหน้าให้กับคำถามของเธอ “ฉันโอเค”
“แน่ใจนะ” คิว อีไป๋ ไม่เชื่อเธอ ยังคงมีความกังขาอยู่ในสายตาของเธอ
“แน่ใจค่ะ” เซิน หนิงซิน ไม่คิดที่จะพยายามเถียงด้วยเหตุผลกับคนเมาและตอบกลับไป “มันไม่ใช่เพราะว่าฉันมีไข้หรอกค่ะ มันแค่… คุณเดินเร็วมากตอนนี้และฉันก็จับไว้ไม่แน่นเท่าไหร่ ฉันเลยกลัวนิดหน่อย”
เธอไม่ได้พูดความจริง และเธอก็เขินเกินไป เธอเลยโกหกออกไปมั่วๆ
มันไม่ได้น่าเชื่อนัก แต่มันก็มากพอสำหรับ คิว อีไป๋
ถึงแม้ว่าคนคนนี้จะดูไม่เมาเลยตอนนี้ แต่จริงๆแล้วเธอเมาสุดๆเลย เธอตอบสนองช้ามากกว่าปกติและใช้เวลาซักพักกว่าจะเข้าใจว่า เซิน หนิงซิน พูดอะไร
แล้วเธอก็ตอบ น้ำเสียงของเธอเบาลง บอกให้เธอมั่นใจว่า “เข้าใจแล้ว ฉันจะเดินให้ช้าลงนะ…”
หลังจากพูดจบ เธอก็ช้าลงแม้แต่ความเร็วการเลี้ยวของเธอ
เป็นอะไรไป?
เห็นเธอเป็นแบบนี้ เซิน หนิงซิน ก็ชะงักไปซักพัก แล้วการคาดเดาก็เกิดขึ้นในหัวของเธอ
เธอคงจะไม่ได้… อารมณ์เสียหรอก ใช่ไหม?
ตอนที่เธอกำลังกังวลอยู่นั้นเอง เธอก็ได้ยินเสียงคนคนนี้สูดหายใจเบาๆ เหมือนกับพยายามแอบทำมัน
เธอไม่ได้ใช้แรงมากนัก แต่มันก็ดังชัดเจนในคำคืนที่เงียบสงบ ทำให้ เซิน หนิงซิน รู้สึกกังวลขึ้นมาเมื่อได้ยิน
“ประธานคิว คุณ…” เซิน หนิงซิน หยุด ตอนที่กำลังจะพูดต่อนั้นเอง
แต่เธอก็พูดไม่ออก ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรต่อ เธอก็รู้สึกว่า คิว อีไป๋ ขยับตัว
ตอนแรกเธอปรับท่าทางของตัวเองแล้วทำแขนข้าสงหนึ่งให้ว่าง ก่อนจะยกมันขึ้นมา การเคลื่อนไหวของเธอเชื่องช้าในตอนที่เธอเช็ดหน้าของเธอ
ตอนที่ คิว อีไป๋ เลื่อนมันกลับมาที่ขาของ เซิน หนิงซิน อีกครั้ง ความรู้สึกที่สัมผัสได้ทันทีคือความหนาวเย็น
เย็นและเปียก
ให้ตายสิ เธอกำลังร้องไห้!
เซิน หนิงซิน ตื่นตระหนก
“เป็นอะไรไปคะ ประธานคิว?” เมื่อรู้ตัว เซิน หนิงซิน ก็รีบถาม “คูรไม่พอใจหรอ?”
“เป็นเพราะฉันหรือเปล่าค่ะ? ไม่ร้องนะคะ ไม่ร้อง ฉันขอโทษคุณนะคะ”
หลังจากพูดจบ คิว อีไป๋ ก็หันมามองเธอซักพัก แต่ไม่ได้พูดอะไรและทำแค่สายหน้า
น้ำตาของเธอยังไม่หยุดยังคงไหล่ลงมาเงียบๆเป็นหยดใหญ่ๆ เธอแบก เซิน หนิงซิน มาตลอดทางเป็นเหมือนกับก็อกน้ำที่กำลังไหล่
ทั้งสองออกมาจากซอยแล้วและเข้ามาถึงถนนย้านการค้าที่คึกคัก
มันมีร้านค้าหลายร้านบนถนน และการตกแต่งก็สวยงาม ส่วนใหญ่แล้วเป็นประตูแก้วที่สะท้อนภาพจางๆของคนที่ผ่านไปมา
เซิน หนิงซิน สังเกตุเห็นพวกมันแล้วความคิดหนึ่งก็ลอยขึ้นมาในหัวของเธอ เธอรีบใช้โอกาศหันมองด้านข้าง สงสัยว่า คิว อีไป๋ กำลังอยู่ในสภาพแบบไหนตอนนี้
สิ่งที่เธอเห็นนั้นสุดยอดมาก
เซิน หนิงซิน เห็นเปลือกตาของเธอตกลง คิ้วของเธอขมวดเข้าด้วยกัน ฟันของเธอกัดริมฝีปากอยู่ และความเร็วที่ช้าปกติครึ่งเท่า
ปกติแล้วเธอจะดูเย็นชา และมีสติ แต่ตอนนี้เธอเหมือนคนตัวเล็กๆที่น่าสงสารที่ไม่มีใครรัก
ยัยเด็กขี้แย่นี้กำลังถูกรังแกจนถึงตาย!
เซิน หนิงซิน เกือบจะกลัวจนตายเพราะเธอ ด้วยตัวของเธอที่แข็งทื่อ เธอรีบหยิบเอาชิดชู่ออกมาจากกระเป๋ษของเธอ มือของเธอสั่นในตอนที่เธอยื่นออกไปเพื่อเช็ดน้ำตาของ คิว อีไป๋
แล้วเธอก็ต้องปลอบเธอไปด้วย บอกกับเธอว่า “เป็นอะไรไปคะประธานคิว? เป็นเด็กดีนะ ประธานคิว ไม่ร้องแล้วนะ ประธานคิว”
มันเป็นแบบนั้นอยู่นานเลย
แต่ คิว อีไป๋ ก็ไม่ได้พูดอะไร
เธอร้องไห้หนักมากและเมื่อรวมกับการที่เธอเหนื่อยจากการเดินมานานโดยมี เซิน หนิงซิน อยู่บนหลัง เธอแทบจะไม่เหลือแรงแล้วตอนนี้
กลัวว่า คิว อีไป๋ จะไม่ไหวจริงๆ เซิน หนิงซิน รีบบอกว่าขาของเธอดีขึ้นแล้วเธอจะได้รีบปล่อยเธอลง
น้ำเสียงของเธอนั้นอ่อนโยนมาก
แต่เพราะอะไรบางอย่าง คิว อีไป๋ ร้องไห้หนักกว่าเดิมเมื่อได้ยิน ถึงแม้ว่าเธอจะฟังแล้วว่างเธอลงที่พื่น เธอก็เดินหลบไปข้างๆตลอดทาง
เหมือนกับเธอกำลังตีตัวห่างจากเธอ
เซิน หนิงซิน งุนงง
เธอมึนงง ไม่รู้ว่าจะทำให้เธอมีความสุขได้ยังไง เธอครุนคิด ตอนที่ เซิน หนิงซิน เงยหน้าขึ้น เธอก็พบคนคนนี้กำลังมองเธออยู่เหมือนกัน
ถึงแม้ว่ามันจะมืดแล้ว ไฟตามสองข้างถนนก็สว่างพอที่จะทำให้เธอเห็นสีหน้าของ คิว อีไป๋ ได้
มันดูจะ… โดดเดี่ยวและไม่สบายใจ นอกจากจะดูน่าสงสารแล้ว มันจะมีแววของความรู้สึกผิดในดวงตาของเธอ เธอดูจะไม่สบายใจ
เคยเห็นหัวใจของ เซิน หนิงซิน ก็รู้สึกเจ็บปวดไปกับเธอ
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เซิน หนิงซิน กังวลมาก และเธอก็ก้าวออกไป เตรียมพร้อมจะถามเธอ
แต่ก่อนที่เธอจะได้ขยับตัว เธอก็เห็น คิว อีไป๋ เอาโทรศัพท์ออกมา
เช็ดน้ำตาของเธอแล้วขยับนิ้วเริ่มแตะโทรศัพท์ของเธอ เธอดูจะไม่พอใจ
เธออยู่บนเวย์ปั๋วหรอ?
เซิน หนิงซิน นิ่งไปก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา หลังจาก คิว อีไป๋ หยุดพิมพ์ เซิน หนิงซิน ก็กดเข้าไปในเวย์ปั๋วเพื่อดู
แล้วเธอก็เห็นประโยคแบบนี้
“ฉันทำ เซิน หนิงซิน กลัวอีกแล้ว ฉันรู้สึกผิดจัง เธอคงเกลียดฉันแล้ว เธอไม่ยอมให้ฉันแบกเธอแล้วด้วยซ้ำ
มันจะดีกว่าไหมถ้าฉันเดินออกไปห่างๆ?”
มันตามด้วยใบหน้าร้องให้จำนวนมาก
ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างทันทีที่เธอเห็นข้อความนั้นอยู่ๆ เซิน หนิงซิน ก็รู้สึกเจ็บปวดในหัวใจของเธอ
“….”
คิว อีไป๋ คงจะเป็นห่วงเรื่องเท้าของ เซิน หนิงซิน ดูจากการที่เธอบอกว่าจะอยู่ห่างๆแต่เธอก็ไม่ได้เดินห่างไปมากเกินไปและมองกลับมาทาง เซิน หนิงซิน เรื่อยๆ
ตอนที่เธอมองมา เธอก็ร้องไห้ น้ำตายังคงไหล่ลงมา ส่องประกายตามแสงของเสาไฟ
เธอโตมากแล้วแต่เธอก็ยังร้องไห้แบบนี้ ตามจริงแล้วมันก็ไม่ได้ดูแปลกอะไร แต่มันคงทำให้คนอยากหัวเราะ
แต่ เซิน หนิงซิน ไม่คิดว่ามันตลกเลยตอนนี้ หัวใจของเธอกำลังเจ็บปวด
เรื่องนี้… สาเหตุทั้งหมดมันมาจากเธอ
ไม่ว่าจะฝันร้ายที่เธอมี หรือการที่เธอรู้สึกตื่นตันใจก่อนหน้านี้ มันเพราะเธอไม่อธิบายออกไปให้ชัดเจนทำให้ คิว อีไป๋ ร้องไห้แบบนี้
คนคนนี้ไม่มีความสุขอยู่แล้ววันนี้ แต่เธอก็ยังทำให้เธอร้องไห้
เซิน หนิงซิน รู้สึกผิดมากตอนนี้
เธอคิด มันจะถูกแก้ไข
ด้วยการตัดสิ้นใจแบบนั้นในใจ เซิน หนิงซิน ก้าวออกไป
ริมฝีปากของเธอเปิดเล้กน้อยตอนที่เธอกำลังเดิน เธอพยายามทำให้น้ำเสียงของเธออ่อนโยนที่สุดที่จะเป็นไปได้ เรียกเธอเบาๆ “ประธานคิว ไม่หนีแล้วนะคะ ฉันมีอะไรที่อยากจะบอกคุณ”
หลังจากเห็นว่าเธอยังเดินหนีอยู่ เธอก็พูดเสียงดังขึ้น บอกเธอไปว่า “อย่าคิดมากนะคะ ฉันไม่ได้เกลียดคุณเลย!”
เมื่อได้ยินครั้งนี้ คิว อีไป๋ ก็หยุดแอบแล้ว
ใบหน้าที่ก้มอยู่เงยขึ้น และเธอก็ยกคิ้วขึ้นเหมือนไม่เชื่อ
เหมือนกับถามเธอว่า เธอพูดจริงหรอ?
เซิน หนิงซิน รีบพยักหน้า “ใช่ค่ะ มันเป็นเรื่องจริง ฉันไม่โกหกคุณหรอก”
หลังจากพูดจบ คิว อีไป๋ ก็บังเอิญเดินมาถึงสุดทางเดิน
เธอหนีไปไหนไม่ได้แล้ว!
เซิน หนิงซิน สายหน้า เปิดปากของเธอและอธิบายอย่างใจเย็น
น้ำเสียงของเธอนิ่มนวล และถึงกับพูดสิ่งที่ คิว อีไป๋ ของฟัง บอกเธอว่าทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจผิด ว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด ในความจริงแล้วเธอเป็นคนที่ดีมากเลย และเธอไม่ได้เกลียดเธอเลยแม้แต่น้อย
ประธานคิวของเรานั้นสุดยอดที่สุด ใครจะเกียดคุณได้ลงกัน!
เธอพูดซะจนเธอเริ่มจะอายแล้ว
แต่ เซิน หนิงซิน ไม่มีเวลาให้คิดอะไรอย่างอื่น กลัวว่า คิว อีไป๋ จะยังเข้าใจผิด เธอรีบสังเกตุท่าทางของ คิว อีไป๋ หลังจากพูดจบ
แล้วเธอก็พบว่าน้ำตาของ คิว อีไป๋ หยุดลงแล้ว!
มันได้ผล!
เซิน หนิงซิน พ้นลบหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและรีบตามความสำเร็จนั้นไป กล่าวชื่นชมเธอต่อไป
เธอชื่นชมจนเธอแทบจะไม่เหลือคำมาใช้แล้ว และในที่สุด คนคนนี้ก็เริ่มเดินมาทางเธอ
เธอถึงกับถามตอนที่เธอมาว่า “เธอพูดจริงหรอ? ฉันดีขนาดนั้นเลยหรอ?”
“เธอไม่ได้เกลียดฉันหรอ?”
เซิน หนิงซิน รีบพยักหน้า “ค่ะ”
ดวงตาของ คิว อีไป๋ เปร่งประกาย
เซิน หนิงซิน เสริม “คุณนะสุดยอดมากเลย ไม่มีใครเกลียดคุณหรอก”
ประกายในดวงตาของ คิว อีไป๋ ส่องสว่างยิ่งขึ้น
เห็นว่าเธอเหมือนจะอยากจะอยากให้เธอพูดต่อ เซิน หนิงซิน ถอนหายใจและทำได้แค่เริ่มพูดชื่นชมเธออีกครั้ง “ประธานคิวของเรานั้นสวยที่สุดและส่องประกายที่สุด และยังมีความสามารถอย่างเหลือเชื่อ การที่ได้เป็นลูกน้องและเพื่อนของคุณนั้นเป็นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!”
เธอพูดเยอะมากครั้งนี้ และ คิว อีไป๋ ก็ไม่ได้ตอบสนองทันที หันหน้าหนีแล้วคิดอยู่ซักพัก
เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ แล้วตอนที่ เซิน หนิงซิน เริ่มจะกังวลอีกครั้งนั้นเอง คิว อีไป๋ ก็เงยหน้าขึ้นและดูเหมือนจะมีความสุข
เธอคงจะอายนิดหน่อย เลยยิ้มเขินๆ
“….”
ดูเหมือนเธอจะใจเย็นลงแล้ว
เซิน หนิงซิน ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะลูบหลังเธอ ยิ้มแล้วบอกกับเธอ “กลับบ้านกันเถอะค่ะ”
เอาจริงๆนะ รีบกลับบ้านเถอะ
เธอสายหน้า รู้สึกว่าหัวใจของเธอเหนื่อนล้าเหลือเกิน
ยัยขี้เมานี้ต้องรีบไปนอนได้แล้ว
—
เท้าของ เซิน หนิงซิน ไม่เจ็บอะไรมากอีกแล้ว คิดว่าคนคนนี้ยังเมาอยู่ เธอก็เป็นห่วงมาก เธอเลยตัดสิ้นใจไปส่ง คิว อีไป๋ ที่บ้านก่อน
เธอพาคนคนนี้ขึ้นลิฟต์และจนกว่าเธอจะเห็น คิว อีไป๋ ไปยืนหน้าประตูและปลดล็อคมัน เซิน หนิงซิน ถึงจะรู้สึกโล่งใจ
หลังจากยกมือขึ้นมาโบกมือลา เซิน หนิงซิน ก็หันหลังและเตรียมตัวกลับบ้าน
แต่ก่อนที่จะได้ก้าวไปไหน เธอก็รู้สึกว่าชายเสื้อของเธอโดนดึง
เมื่อหันกลับมามอง เธอก็เห็นคนคนนั้นยืนอยู่ที่ประตู กระพริบตาที่กำลังแดงเพราะร้องไห้ในตอนที่ถามเธอว่า “เธอจะไม่อยู่ด้วยหรอ?”
เธอเริ่มจะเกาะติดเธออีกแล้ว!
แต่พอแล้ว…
เซิน หนิงซิน สายหน้าและกำลังจะปฎิเสธ
แต่หลังจากจำบนเรียนจากครั้งก่อนได้ เธอกลัวว่า คิว อีไป๋ จะเข้าใจเธอผิดอีก เธอเปลี่ยนคำที่กำลังจพูดและหาวิธีที่อ่อนโยนกว่านี้ที่จะปฎิเสธ
“ฉันไม่ได้ค้างคืนด้วยนะคะ” เธอบอก ริมฝีปากของเธอยกขึ้นมาเป็นร้อยยิ้มที่จริงใจ “มันมีเรื่องที่ฉันต้องกลับไปทำที่บ้าน และฉันก็ไม่ทำมันไม่ได้”
เธอพูดต่อด้วยว่า “ประธานคิว พักผ่อนนะคะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะคะ”
เธอไม่เคยพูดอย่างอ่อนโญนแบบนี้มาก่อนตลอดทั้งชีวิตของเธอ
เมื่อได้ยิน คิว อีไป๋ ก็ไม่เข้าใจผิดอีกแล้วครั้งนี้ และพนักหน้าอย่างเชื่อฟัง
แต่มือของเธอยังคงจับอยู่ที่ชายเสื้อของ เซิน หนิงซิน โดยไม่มีท่าทางที่จะปล่อยเลย
เซิน หนิงซิน และเธอ จ้องหน้ากันอยู่ซักพัก และหลังจากผ่านไปอีกซักพัก เธอก็ถาม “มีอะไรหรือเปล่าคะ ประธานคิว?”
หลังจากพุดเธอ เธอก็ไม่ได้รับคำตอบ
คิว อีไป๋ ดูเหมือนจะคิดอะไรอยู่และเงียบไป
เห็นแบบนั้น เซิน หนิงซิน ไม่ได้รู้สึกกังวล และมองเธอต่อไปอย่างใจเย็น
เธอรออยู่แบบนี้ซักพัก และในที่สุด คิว อีไป๋ ก็เริ่มพูด
ท่าทางของเธอยังเต็มไปด้วยความเขินอาย และเสียงของเธอเบากว่าปกติ ไม่ดูดดุดันแม้แต่น้อย เธอถามเธออย่างนิ่มนวล “ถ้างั้นหลังจากวันพรุ่งนี้ เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ไหม?”
ทำไมเธอถึงถามอะไรแบบนั้นหละ?
เซิน หนิงซิน งุนงงเมื่อได้ยิน และใช้เวลาซักพักในการได้สติกลับมา แล้วเธอก็รีบพยักหน้าแล้วสัญญากับเธอ “แน่นอนสิค่ะ”
“ประธานคิว ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันไม่กลับคำของฉันหรอก”
น้ำเสียงของเธอหนักแน่นเพื่อทำให้เธอมั่นใจ
หลังจากผ่านไปซักพัก คิว อีไป๋ ก็พยักหน้าและตอบเบาๆว่า “อือ”
ตอนนี้เธอกลับได้แล้วใช่ไหม?
เซิน หนิงซิน หายใจเข้าลึกๆและกำลังจะหันหลังกลับ
แต่ก่อนที่จะได้ขยับตัวเธอก็เห็นคนคนนี้เดินเข้ามาช้าๆ
เธอขยับเข้ามาใกล้ขึ้น และใกล้ขึ้นและหลังจากนั้นก็ยืนมือของเธอขึ้นมาและกอดเธอเบาๆ
ตัวของเธอนั้นมีกลิ่มหอมที่ดีเสมอ
มันน่าจะเป็นกลิ้มหอมของดอกไม้อ่อนๆ เธอบอกไม่ได้เหมือนกันว่าเธอใช้น้ำหอมแบรนอะไรแต่กลิ่นของมันนั้นน่ารื่นรมมาก
ปกติแล้ว เซิน หนิงซิน ก็สามารถได้กลิ่นมันถ้าเธอเข้าไปใกล้เธอนิดหน่อย
ตอนนี้มันแทบจะไม่มีระยะห่างระหว่างเธอสองคนแล้ว กลิ่นหอมนั้นลอยลอยเข้าไปในจมูกของเธอโดยตรง
มันเป็นกลิ่นที่ดีมากจน เซิน หนิงซิน นิ่งไปหลายวินาที
ก่อนที่จะกลับมาได้สติ เธอก็ได้ยินยัยเด็กขี้แย่นี้ คนที่กำลังกอดเธออยู่เปิดปากพูดเบาๆอีกครั้ง
เธอไม่ได้ฟังเหมือนจะร้องไห้แล้วครั้งนี้ แต่ฟังดูมีความสุข
เธอยังยกมือขึ้นมาตบหลัง เซิน หนิงซิน สองครั้ง เหมือนกำลังเป็นคนปลอบเธออยู่
“ถ้างั้นสัญญานะ” เธอพูดอย่างจริงจังและตั้งใจ “พรุ่งนี้ เราจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่”
เด็กน้อยจริงๆ
แต่ เซิน หนิงซิน ไม่ได้ไม่ชอบมัน หลังจากเงียบไปหลายอึดใจ เธอก็ยกมือขึ้นมาตบหลัง คิว อีไป๋ เบาๆ เหมือนกัน สัญญากับเธอเหมือนกำลังปลอบเด็ก “ค่ะ”
เมื่อเห็นเธอสัญญา คิว อีไป๋ ก็พูดขึ้น “งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ”
“ได้ค่ะ ได้ค่ะ” เซิน หนิงซิน ตกลงต่อไป
ยังไงเธอก็ต้องไปทำงานพรุ่งนี้ เพราะงั้นพวกเธอจะเธอกันแน่นอน
ดูเหมือนคนคนนี้จะเมามาก มากจนเธอลืมไปแล้วว่าเธอเป็นใคร
ตอนที่เธอกำลังคิดในใจนั้นเอง ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรอีก คิว อีไป๋ ก็คล้ายอ้อมกอดของเธอ
แล้วเธอก็ยิ้มช้าๆ ยื่นมือของเธอออกมาและมองมันก็จะค่อยๆกางนิ้วก้อยของเธอออกมา
เธอบอก “เกี่ยวก้อยสัญญากันนะ”
—
อยากมีประธานคิวเป็นของตัวเอง
เห็นชื่อตอนแล้วนึกถึงเพลง 勾指起誓(เกี่ยวก้อยสัญญา) เลยถึงจะไม่ค่อยตรงกับเนื้อหาตอนนี้เท่าไหร่ก็เถอะ
เดียวแปะไว้ในคอมเม็นนะครับ
-A Cup of Owls
MANGA DISCUSSION