จริงๆ เซิน หนิงซิน เคยได้ยินเรื่องผีเรื่องที่ คิว อีไป๋ เล่ามานานแล้ว
มันค้อนข้างจะจำเจจนคุณสามารถเดาเนื้อเรื่องของมันได้เลย แต่เพื่อที่จะให้ความร่วมมือกับเธอ เซิน หนิงซิน ไม่ได้พูดอะไรและฟังเธอต่อไป
ตอนที่ คิว อีไป๋ เล่าประโยคสุดท้ายจบ เซิน หนิงซิน รีบพยักหน้าแล้วพูดไปว่า “มันน่ากลัวมากเลยค่ะ”
เธอเดาว่านี้คงเป็นเป้าหมายของ คิว อีไป๋
มันต้องเป็นเพราะว่าเธออยากจะทำให้เธอกลัว ไม่อย่างนั้นทำไมเธอถึงเล่าเรื่องผีกลางดึกแบบนี้หละ
อย่างที่คิด หลังจากเธอพูดจบ เสียงของ คิว อีไป๋ ก็ดังขึ้นมาจากอีกฝั่งของ “กำแพง”
น้ำเสียงของเธอต่างจากน้ำเสียงมืดมนตอนที่เธอเล่าเรื่องผี ตอนนี้มันเต็มไปด้วยความหยิ่งยโสและการเยาะเย้ย
“มันน่ากลัวหรอ?” เธอบอก “เซิน หนิงซิน เธออายุขนาดนี้แล้วแต่ยังกลัวผีอยู่อีกนะ”
พอฉันเปิดช่องให้เธอก็เอาเลยนะ
(ผู้แปล : ต้นฉบับเป็นสำนวนว่า ยืนเสาให้ก็ปีนเลย แต่ผมหาคำแปลตรงๆไม่ได้เลยแปลแบบนี้แทนครับ)
เซิน หนิงซิน ไม่อยากเถียงกับเธอ เธอเลยตามน้ำไปและพยักหน้าเป็นการยอมรับ “ใช่ค่ะ ฉันกลัวแทบตายเลย”
ประโยคง่ายๆแค่นี้คงทำให้เธอพอใจแล้ว
เธอถอนหายใจ คิดว่ามันเหมือนกับเธอกำลังโอ๋ยัยเด็กนี้อยู่ เซิน หนิงซิน หาวและกอดตุ๊กตาของเธอแน่ขึ้น “ประธานคิว คุณเล่าเรื่องจบแล้ว ฉันจะนอนแล้วนะคะ”
“เธอกลัวไม่ใช่หรอ?” คิว อีไป๋ นึ่งไปเมื่อได้ยินเธอพูด “เธอยังจะนอนหลับอีกหรอ?”
“ฉันโอเคค่ะ” เซิน หนิงซิน พยักหน้า “ประธานคิว ถ้าคุณอยากได้อะไรบอกฉันได้เลย…”
หลังจากพูดไป บทสนทนาก็เงียบลง
หลังจากผ่านไปซักพัก คิว อีไป๋ ก็ลุกขึ้นแล้วหันมาทางเธอ เมื่อเธอเห็นว่าคนคนนี้กำลังหลับอย่างมีความสุข เธอก็เลื่อนสายตากลับรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
เธอส่งเสียง “หึ” เบาๆ ก่อนจะเลื่อนเท้าของเธอที่อยู่ด้านนอกผ้าห่มเข้าไปแล้วหันกลับเพื่อที่จะเตรียมตัวนอนเหมือนกัน
—
เซิน หนิงซิน ตื่นขึ้นมากลางดึก
อาหารเย็นเมื่อคืนมันเค็มไปนิดหน่อยทำให้เธอดื่มน้ำไปเยอะก่อนที่จะนอนเพราะคอแห้ง และตอนนี้เธออยากจะไปเข้าห้องน้ำ
ไม่มีการเคลื่อนไหวมากจากคนที่อยู่ด้านขางของเธอ คงจะกำลังหลับอย่างมีความสุขอยู่ตอนนี้
เซิน หนิงซิน กลัวจะทำให้เธอตื่นเธอเลยไม่ได้เปิดไฟและลุกขึ้นค่อยๆเดินไปในความมืดโดยมีโทรศัพท์อยู่ในมือ
แต่เมื่อเดินไปได้ครึ่งทาง เธอก็สะดุดอะไรบางอย่าง
แล้วเธอก็จำได้ว่าประเป๋าของพวกเธอว่างเอาไว้แถวนี้พอดี
ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เซิน หนิงซิน ทำได้แค่เพิ่มแสงที่หน้าจอโทรศัพท์ของเธอเพื่อใช้มันส่องทาง
เธอเดินมาซักพักแล้ว ตอนนี้เธออยู่ฝั่งที่ คิว อีไป๋ นอนอยู่ เข้าใกล้ห้องน้ำมากขึ้นเรื่อยๆ
เป้าหมายอยู่ใกล้แค่เอื่อมแล้ว!
เธอพ้นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ตอนที่เธอกำลังจะยกเท้าเพื่อเดินต่อนั้นเอง เธอก็เห็น คิว อีไป๋ สะดุ้งอยู่บนเตียง
คิว อีไป๋ ดูจะกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อเพราะเธอ และรีบลุกขึ้นมานั่งเพื่อเปิดไฟ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เซิน หนิงซิน เองก็กลัวเธอ รีบเปิดปากอธิบาย “ประธานคิว นี้ฉันเองค่ะ!”
“โอ๋…” ผ่านไปซักพัก คิว อีไป๋ ก็ตอบมา ก่อนทีเธอจะถามด้วยเสียงเบาๆ “เซิน หนิงซิน เธอกำลังทำอะไร ทำไมไม่นอน?!”
มันมีความไม่พอใจในน้ำเสียงของเธอ
เซิน หนิงซิน ไม่รู้จะขำหรือร้องไห้ดี “ฉันกำลังจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ”
“แล้วคุณหละ ประธานคิว คุณยังนอนไม่หลับหรอ?”
เมื่อได้ยิน คิว อีไป๋ ก็เงียบไปซักพักก่อนจะรีดเค้นคำโกหกออกมา “ฉันหลับไปแล้ว แต่มันมีแมลงกระโดดใส่ฉันและทำให้ฉันตื่นเมื่อกี้”
ในอีกความหมายหนึ่ง ฉันไม่ได้กลัวเพราะเธอ
และมันไม่ใช่เพราะฉันกลัวเกินกว่าจะนอนหลับได้หลังจากอ่านเรื่องผีนั้นไป
ให้ตายสิ
เซิน หนิงซิน ถอนหายใจและไม่เปิดโปงเธอ เธอพยักหน้าแล้วรีบเข้าไปในห้องน้ำ
หลังจากนั้น เธอรีบกลับมาแล้วนอนลงบนเตียงอีกครั้งก่อนจะค่อยๆแหวกกำแพงให้เป็นรูอย่างเบามือ
เธอขยับเข้าไปใกล้ๆและมองไปที่ คิว อีไป๋ ที่อยู่อีกฝั่ง พูดกับเธอเบาๆ “ประธานคิว ถ้ามีอะไรก็บอกฉันได้เลยนะคะ”
“ฉันอยู่ตรงนี้เสมอ”
เพราะงั้น… ไม่ต้องกลัวนะ
คำพูดของเธอช่างยิ่งใหญ่
มันเที่ยงคืนแล้ว รอบข้างนั้นเงียบจนน่าตกใจ เธอได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจของ เซิน หนิงซิน ไม่ต้องพูดถึงคำพูดที่แสนจะอบอุ่นและอ่อนโยนของเธอ
เหมือนกับดอกไม้ไฟ มันระเบิดในหัวใจขอเธอ ทำให้อากาศรอบๆเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ
หูของ คิว อีไป๋ แดงขึ้นโดยไม่สามารถควบคุมได้
ต้องขอบคุณความมืดที่เป็นที่กำบังให้ เธอเลยไม่เสียหายให้กับคนคนนี้
“โอเค โอเค ฉันรู้แล้ว” ผ่านไปซักพัก เธอก็ตอบด้วยใบหน้าที่แดงเล็กน้อย เพื่อปกปิดความเขินอายของเธอน้ำเสียงของเธอแข่งกร่าวขึ้นตอนที่เธอพูด “ไปนอนได้แล้ว”
“รับทราบค่ะ” สังเกตุเห็นความเขินอายของเธอ รอยยิ้มก็ปรากฎขึ้นในดวงตาของ เซิน หนิงซิน
“งั้นฉันจะนอนแล้วนะคะ” เธอพูดต่อ “ฝันดีนะคะ ประธานคิว”
“อือ ฝันดี” คิว อีไป๋ หยักหน้า ก่อนจะยกมือขึ้นมาบังช่องว่างนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
ตอนที่กำลังซ้อมมันไปได้ครึ่งหนึ่งนั้นเอง เธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้และไม่ได้ทำมันต่อ
ก็นะ ปล่อยมันไว้แบบนี้แหละ
มันก็ไม่ได้แย่อะไร
—
คำคืนนั้นช่างยาวนาน
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยและ เซิน หนิงซิน ก็ไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก เธอหลับไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง…เธอฝันแบบนั้นอีกครั้ง
ในฝันนั้น มันมีแม่น้ำแห่งหนึ่ง
แม่น้ำนั้นทั้งเย็นและส่งกลิ้นน่ารังเกียจ เหมือนกับงูแลบลิ้นของมันออกมาตอนที่มันพันไปรอบตัวเธอ บีบรัดแน่ขึ้นเรื่อยๆ ปิดกันลมหายใจและสายตาของเธอ
สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือหูของเธอ
เธอได้ยินแค่เสียงของแม่น้ำที่ไหล่อย่างบ้าคลั้งและเสียงหัวเราะเยาะของคนกลุ่มหนึ่ง
เสียงหัวเราะนั้นไม่น่ารื่นรมมันกำลังเจาะเข้ามาในแก้วหูของเธอเมื่อได้ยิน มันเหมือนกับมีมือที่มองไม่เห็นผลักเธอในความฝันนั้นทำให้เธอจมลึกลงไป
เธอไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้และกำลังจะตาย
เซิน หนิงซิน ไม่สามารถหยุดสั่นได้ในความฝันนั้น และความคิดของเธอก็กำลังอาละวาด
เธออยากจะคว้าอะไรซักอย่างแต่ก็ไม่สามารถทำได้
ตอนที่เธอคง้าอะไรบางอย่างได้นั้นเอง มันเล็กมากเกินไป
เซิน หนิงซิน ยอมแพ้ที่จะดิ้นรนและปล่อยให้ร่างกายของเธอจมลงไปโดยไม่ขัดขื่น ปล่อยให้ความหนาวเย็นกลื่นกินเธอเข้าไป
เยาะเย้ยตัวเธอเอง เธอคิดว่าบางที่เธออาจจะตายในความฝันนี้แล้วก็ได้
ในตอนที่คิดแบบนั้น มีปลายนิ้วของเธอ เธอก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง
เธอผงะไปชั่วครู่ก่อนที่ความปรารถนาที่จะมีชีวิตของเธอจะกลับอีกครั้ง เธอเลยคว้ามันเอาไว้
ครั้งนี้ ในที่สุดเธอก็ได้รับการตอบรับ
มันคือมือข้างหนึ่ง เธอไม่รู้มันเป็นมือของใคร แต่มันช่างอบอุ่นและทรงพลัง แรงมหาสารดึงเธอขึ้นมาพาเธอให้หลุดพ้นจากฝันร้ายที่ไม่สามารถหนีได้
เมื่อเธอขึ้นมาถึงฝั่ง ท้องฟ้าปรอดโปร่ง
แสงแดดสาดส่องลงมา นำพาความอบอุ่นและกลิ่นอันแสนรื่นรมมา
เซิน หนิงซิน ลืมตาขึ้นมาช้าๆ
ตุ๊กตามีอ้อมกอดของเธอนั้นเบี้ยวผิดรูปจากแรงกอดของเธอและนอนกลิ้งอยู่ข้างๆเธอ เหมือนกับกำลังทำให้เธอละลึกถึงความโหดร้ายของความฝันเธอ
ตอนที่เธอหันหน้าของเธอนั้น เธอก็เห็นกำแพงสูงที่ถูกก่อโดย คิว อีไป๋
ทุกๆอย่างเหมือนกันก่อนที่จะเข้านอน
สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปนั้นคือมือของ คิว อีไป๋ ที่เอื่อมผ่านช่องว่างในกำแพงนั้นมาและกำลังกำมือของเธอเอาแน่น
“….”
—
หลัวจากกินอาหารเช้ากันแล้ว ทุกคนก็ขึ้นไปบนรถและเตรียมพร้อมที่จะไปยังชุดต่อไป
เซิน หนิงซิน นอนหลับไม่สนิมเมื่อคืน เมื่อนั่งลงเธอก็หาวออกมาโดยไม่รู้ตัว
เมื่อหันหน้าไปมองเธอก็พบว่า คิว อีไป๋ เองก็กำลังหาวอยู่
เซิน หนิงซิน ผงะไปเมื่อเธอเห็นแบบนั้น และคำขอโทษก็ลอบขึ้นมาในใจของเธอ
เธอเป็นเหตุผลที่ทำให้ คิว อีไป๋ นอนหลับไม่สนิทเมื่อคืน
สำหรับทริปนี้ เธอตั้งใจเอาตุ๊กตาที่เธอมักจะกอดมาด้วย เธอคิดว่าเธอคงจะไม่ฝันร้ายอีกแล้ว แต่โดยที่เธอไม่คาดคิดฝันร้ายก็ยังมาตรงเวลาเหมือนเดิม
บางทีเธอคงจะเสียงดังมากตอนที่นอนและรบกวน คิว อีไป๋ ทำให้เมื่อรุ่งเช้ามาถึง เธอก็พบว่าคนคนนี้กำลังกุมมือเธออยู่
ดูจากท่าทางของ คิว อีไป๋ เธอคงจะตื่นมาซักพักแล้ว ตอนที่เห็น เซิน หนิงซิน ลุกขึ้นมา คิว อีไป๋ ก็เผลอบ่นออกมา บอกว่า เซิน หนิงซิน ทำไมเธอถึงดิ้นเยอะจังตอนเธอนอน
ใต้ตาของนั้นคล้ำเล็กน้อย มันชัดเจนว่าเธอไม่ได้นอนหลับอย่างมีความสุข
เซิน หนิงซิน นั้นเกือบจะตายเพราะความรู้สึกผิด
ไม่รู้ว่า คิว อีไป๋ จะได้ยินอะไรบ้างเมื่อคืน เธอรีบถามคนคนนี้ว่าเธอตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่
แต่มันก็ไม่สำเร็จ คนคนนี้คงกำลังหงุดหงิดเธอจนเธอไม่ยอมพูดอะไรออกมาซักคำ
เซิน หนิงซิน ต้องยอมแพ้และรีบขอโทษเธอหลายครั้งติด ในที่สุดเธอก็สามารถปลอบเธอได้สำเร็จ
วันนี้ไม่ได้มีจุดแวะเยอะมากนัก พวกเธอแค่ไปดูชุดชมวิวไม่กี่จุดแล้วไปแวะจูดซื้อของฝากเพื่อซื้ออะไรกันและทริปก็จบลงแล้วหลังจากนั้น
เพราะว่าเธอนอนไม่ค่อยหลับเมื่อคืน เซิน หนิงซิน นั้นไม่มีแรงที่จะเที่ยวเล่นวันนี้ และ คิว อีไป๋ เองก็เหมือนกัน
เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อเห็นแบบนั้น เธอรู้สึกผิดในใจของเธอ เธอเลยตัดสิ้นที่จะแอบซื้ออะไรให้กับ คิว อีไป๋ จากร้านของฝาก
ในที่สุดเวลานั้นก็มาถึง
เพราะมันเป็นทุ่งหญ้า ร้านของฝากเลยขายพวกของแบบ นมอัดเม็ด ชานม เนื้อตากแห้ง และอื่นๆ เซิน หนิงซิน หยิบของใส่ในรถเข็นของเธอตอนที่เดินไปรอบๆและจบลงที่มีของเต็มรถเข็นโดยไม่รู้
ที่จุดจ่ายเงิน เธอตั้งใจแบ่งของออกเป็นสองถุงเตรียมจะเอามันให้มันเป็นของขวัญกับ คิว อีไป๋ บนรถโดยสาร
คิดแบบนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นมองไปทาง คิว อีไป๋ ที่อยู่ใกล้ๆโดยไม่รู้ตัว
เธอเห็นว่าเธอเองก็พึ่งจะเลือกของเสร็จและกำลังจะจ่ายเงิน
เซิน หนิงซิน เขย่งเท้าของเธอ อยากดูว่าคนคนนี้ซื้ออะไรมาบ้างและมีอะไรซ้ำบ้างไหม
แต่ตอนที่มองนั้นก็พบว่าตรงหน้าของ คิว อีไป๋ นั้นไม่มีอะไรอยู่เลย
ดูเหมือนว่าเธอจะถืออะไรเอาไว้ในมือ แต่ เซิน หนิงซิน มองไม่เห็นว่ามันคืออะไรเพราะว่าเธอถือมันเอาไว้แน่นมาก
แต่ถ้ามันไม่ซ้ำกัน มันก็โอเค
เซิน หนิงซิน หยักหน้าก่อนจะเลื่อนสายตากลับมา
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ทุกคนก็รวมตัวกันที่หน้ารถโดยสารและไม่นานมันก็สตาร์ทเครื่องอีกครั้ง ออกเดินทางกลับบ้าน
บ้านของทุกคนนั้นกระจ่ายอยู่ตามชุมชนต่างๆ ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไปส่งทุกคนที่บ้านที่ละคน ทำให้พวกเธอตัดสินใจกลับไปที่บริษัทก่อน และถ้าใครต้องการจะลงระหว่างทางพวกเขาก็สามารถลงได้
รถโดยสารหยุด และออกตัวอีกครั้งซ้ำไปซ้ำมาก่อนที่พวกเธอจะมาถึงจุดหมาย
ตอนที่ เซิน หนิงซิน ลงจากรถพร้อมกับกระเป๋าในเล็กๆบนหลังของเธอ เธอก็เห็นว่ามันมีคนจำนวนมากมารอรับเพื่อนรวมงานของเธอ ต่อให้ไม่มีใครมาพวกเขาก็ยังมีรถและหลังจากพวกเขาพาลูกๆขึ้นไปนั่งบนรถ พวกเขาก็หายไปจากสายตาอย่างรวดเร็ว
มีแค่เธอที่ไม่มีอะไรเลย
เมื่อเห็นว่ารถโดยกำลังขับออกไปจากสายตาของเธอ เซิน หนิงซิน ก็บอกลาเพื่อนรวมงานของเธอและเดินไปรอรถบัส
แต่ก็ที่เธอจะได้ขยับตัว คิว อีไป๋ ก็เข้ามาหาเธอ
ไม่เหมือนกับปกติ น้ำเสียงของเธอนั้นสงบสุขในตอนที่เธอถาม “เซิน หนิงซิน เธอจะกลับยังไงหรอ?”
“ฉันจะนั่งรถโดยสารกลับค่ะ” เซิน หนิงซินตอบ
เมื่อได้ยิน มุมปากของ คิว อีไป๋ ก็กระตุ๊กด้วยความไม่พอใจ “เธอไม่คิดว่ามันลำบากไปหรอ?”
“ฉันก็กำลังจะกลับบ้านเหมือนกัน” เธอพูด “ไหนๆเธอก็อยู่ใกล้ฉันแล้ว กลับด้วยกันไหม?”
กลายเป็นว่าเธอมาหาเธอเพื่อที่จะช่วนเธอกลับด้วยกัน
คนคนนี้ไม่ได้โกรธเธอแล้ว
เพราะอะไรบางอย่าง เซิน หนิงซิน รู้สึกโล่งใจ
คิดว่าเธอสามารถใช้โอกาศนี้เอาของฝากให้กับ คิว อีไป๋ เซิน หนิงซิน หยักหน้าตอบในที่สุดแล้วก็ขึ้นไปบนรถของเธอ
ไม่นานพวกเธอก็มาถึงจุดหมาย
เซิน หนิงซิน จัดของของเธอจนเสร็จและคิดว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว เธอยื่นถุงของฝากออกไป
เธอเปิดปากของเธออย่างจริงจังและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ขอบคุณที่มาส่งนะนะ ประธานคิว และก็ขอบคุณที่ดูแลฉันในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงเลยซื้อของมาให้คุณค่ะ”
“ถ้าคุณไม่ถือ…ด้วยโปรดรับมันไว้ด้วยนะคะ”
คำพูดของเธอนั้นเต็มไปด้วยความจริงใจ
เมื่อได้ยิน คิว อีไป๋ ก็จ้องเธออยู่พักใหญ่ๆ ท้ายที่สุดเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธเธอแล้วยืนมือของเธอมารับมันไป
เห็นแบบนั้น เซิน หนิงซิน ก็มีความสุขขึ้นมาทันที่ ก่อนจะขอบคุณเธออีกครั้งแล้วหันหลังเพื่อจากออกมา
แต่ก่อนที่เธอจะได้ก้าวไปไหน คิว อีไป๋ ก็เรียกเธอจากด้านหลัง
น้ำเสียงของเธอจริงจังมาก เหมือนกับกำลังจะพูดเรื่องสำคัญ
เซิน หนิงซิน หยุดเมื่อได้ยินเธอ รีบหันกลับมาและตอบไป “ประธานคิว มีอะไรหรอ…”
ก่อนที่จะได้พูดจบเธอก็เหลือบไปเห็นเครื่องร่างที่ทำจากไม้ในมือของ คิว อีไป๋
ในตอนนั้นพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เหลือไว้เพียงแสงบนขอบฟ้า เป็นภาพที่สวยงามเมื่อรวมกับกับก้อนเมฆสีทองอร่ามบนท้องฟ้า
และ คิว อีไป๋ ก็กำลังยืนอยู่ในแสงยามเย็นนั้น เอวและขาของเธอพิงอยู่ที่รถ สวยงามจนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
เซิน หนิงซิน นั้นตกตะลึก และใช้เวลาซักพักก่อนที่เธอจะกลับมามีสติ
เธอกำลังจะพูดแต่ว่า คิว อีไป๋ นั้นเร็วกว่า
เธอพูด “อันนี้สำหรับเธอ”
เมื่อพูดจบ เธอก็ยกมือขึ้นและว่างเครื่องร่างชิ้นเล็กๆบนมือของ เซิน หนิงซิน
เซิน หนิงซิน ก้มลงมองแล้วพบว่ามันคือเครื่องร้างป้องกันภัยที่มัคคุเทศก์แนะนำก่อนหน้านี้ ภาพของวีรบุรุษที่นับถือโดยคนมากมายถุกแกะลักไว้บนนั้น
“ว่ากันว่ามันจะทำให้สุขภาพดี และนำพาความสงบสุข”
เมื่อรู้เรื่องนี้ เซิน หนิงซิน ก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
“มันไม่มีอะไรที่ฉันได้ในตอนนั้น และตอนที่เห็นเจ้านี้ ฉันก็เลยซื้อมันมา คิดว่ามันคงเหมาะกับเธอ” เมื่อเงยหน้าขึ้น คิว อีไป๋ ก็มองมาที่เธอเหมือนกัน
แก้มของเธอมีสีแดงจางๆจากแสงอาทิตย์ และหูของเธอก็แต่งแต้มไปด้วยสีของท้องฟ้ายามสายัณห์ “ฉันหวังว่ามันจะช่วยปกป้องเธอ”
“ไม่ให้เธอฝันร้ายอีก”
—
นอนด้วยกันเพราะเหตุสุดวิสัย…
เช้ามาทั้งสองคนดูเหมือนไม่ได้นอน…
มีการมองหากันตอนซื้อของฝาก…
แถมพอถึงบริษัทก็ช่วนกันกลับบ้านด้วยกัน…
พอถึงบ้านก็ส่งของฝากใหักัน…
แถมพอคนหนึ่งลงรถไปแล้วอีกคนก็ลงรถมาเอาเครื่องร่างให้อีก…
อืม… ไม่น่ามีอะไรน่าสงสัยเกิดขึ้นหรอกเนอะ… ไม่มีหรอก…
-A Cup of Owls
MANGA DISCUSSION