พวกเธอสองคนเดินไปด้วยกัน แล้วตอนที่พวกเธอกำลังจะไปถึงลายกว้างนั้นเองพวกเธอก็สังเกตุเห็นร้านขายของที่ขายลูกโป่งลายการ์ตูนและที่คาดผมหูสัตว์อยู่ใกล้ๆ
ที่คาดผมเป็นแบบที่มีไฟหลากสีอยู่ มันมีความสว่างหลายระดับ ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ด้วยการกดปุ่ม
พวกมันระยิบระยับและดูสวยมากในที่มืดๆ
มันทำให้คนหันไปมองกันเยอะมาก
เซิน หนิงซิน มองไปทางนั้นและเห็นเพื่อนร่วมงานของเธอ เซี่ยว หยาง ในกลุ่มนั้นด้วย
เขาที่ปกติจะเป็นชายชาตินิยกำลังส่วมที่คาดผมหูหมีและส่วมปีเรื่องแสงไว้บนหลังของเขา ยื่นนึ่งไปขยับไปไหนเหมือนกำลังถ่ายรูปอยู่
เขาดูมีความสุขยิ่งกว่าแฟนสาวของเขาอีก
มันสนุกหรอนั้น
เซิน หนิงซิน รู้สึกตื่นตันใจ และเธอก็หันไปมอง คิว อีไป๋ ที่อยู่ข้างเธอโดยไม่รู้
คนคนนี้กำลังเล่นโทรศัพท์ของเธออยู่ คงเพราะได้แรงบรรดาลใจจากสิ่งที่เห็นแล้วกำลังแอบเขียนมันลงไปในเวย์ปั๋วอยู่
“….”
เธอจนบันทึกเรื่องของทั้งวันแล้วนะ
ประธานของเราโพสต์เกี่ยวกับดอกไม้สวยๆที่เจอ
ตอนที่เธออารมณ์ดีเธอจะเพิ่มรูปเข้าไปด้วย มันยังคงเป็นรูปเซลฟี่ในมุมแปลกๆพร้อมกับท่าชูสองนิ้วประจำตัวของเธอ
ทุกครั้งที่ เซิน หนิงซิน เห็นโพสต์พวกนั้น เธอก็ร่าเริงอยู่พักใหญ่ๆ
ตอนที่กำลังคิดนั้นเอง คิว อีไป๋ ก็โพสต์เวย์ปั๋วเสร็จ
หลังจาก คิว อีไป๋ ออกมาจากแอปแล้วมองเวลา เธอก็พบว่ายังมีเวลาอีกประมาณ 20 นาที่ก่อนที่การแสดงจะเริ่ม เธอถอนหายใจแล้วคิดว่าทำไมเวลาถึงผ่านไปช้าจังนะ
และเมื่อเธอหันหน้าของเธอก็พบว่า เซิน หนิงซิน กำลังจ้องมองเธออยู่โดยมีร้อยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของเธอ
เมื่อเห็นแบบนั้น คิว อีไป๋ ก็ผงะไปแล้วรีบถาม “ทำอะไรของเธอนะ?”
“ประธานคิว เราควรซื้อมาเหมือนกันนะคะ” เซิน หนิงซิน ยืนมืออกมาแล้วชี้ออกไป “ที่คาดผมพวกนั้นมันสวยมากเลยค่ะ”
เธอรู้ว่า คิว อีไป๋ ต้องชอบพวกมันแน่ๆ
ยังไงซะ คนคนนี้ก็คือเด็กน้อยขี้แย่ที่เลือกขี่ม้าหมุ่นที่สวยที่สุด เลือกนั่งแก้วหมุ่นน่ารักๆ และยังชอบน้องหมาอาจิด้วย
แน่นอนเมื่อได้ยิน ดวงตาของ คิว อีไป๋ ก็เป็นประกาย
ริมฝีปากของเธอขยับนิดนห่อยเหมือนอยากจะพูดอะไร
เซิน หนิงซิน รู้ว่าความหยิ่งยโสของเธอจะพูดอะไรที่ไม่ต้องความคิดของเธอออกมาอีก เธอเลยไม่ให้โอกาศเธอได้พูด ดึงชายเสื้อของเธอแล้วรีบเดินไปที่ร้าน
มันต่างกับตอนที่พวกเธอจับตัวกันที่สวนสนุก นิ้วมือของ เซิน หนิงซิน ตอนนี้เย็นมาก
ถึงแม้ว่า คิว อีไป๋ จะใส่เสื้อโค๊ทอยู่ ความเย็นของนิ้วมือเธอก็ยังส่งเข้าผ่านเนื้อผ้าเข้ามา มันเย็นมากจนยากที่จะไม่สนใจ
เธอกำลังหนาว
คิว อีไป๋ นึกไป ไม่นานเธอก็หยิบเอาขวดน้ำร้อนออกมาจากกระเป๋าของเธอแล้วส่งมันให้ เซิน หนิงซิน
แล้วเธอก็ยกคิ้วของเธอขึ้น น้ำเสียงของเธอชัดเจนแต่ก็ยังเงอะงะ บอกกับเธอว่า “ถ้าเธอช่วยฉันถือเจ้านี้ ฉันจะไป มันหนักเกินไปทำให้ฉันไม่อยากเดิน”
“ได้ค่ะ ได้ค่ะ” เซิน หนิงซิน ตอบยืนมืออกมาไปเพื่อรับขวดน้ำมา ก่อนจะกอดมันเอาไว้ด้วยมือข้างซ้ายของเธอ
มันอุ่น เหมือนกับถุงน้ำร้อนใบใหญ่
อุ่นมากจนหัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่น
“…”
เธอซื้อที่คาดผมมาสองอัน
กลัวว่า คิว อีไป๋ จะไม่ยอมใส่ เซิน หนิงซิน บอกว่าซื้อมันให้ตัวเอง แต่พอ คิว อีไป๋ ไม่ระวังตัว เธอก็เอื่อมมือออกไปแล้วส่วนอันหนึ่งบนหัวของ คิว อีไป๋
มันเป็นหูน้องหมา
มันกลมๆน่ารัก และหลังจากใส่มัน เธอก็ดูเหมือนกันกับคนขี้เล่นที่ชอบทำตัวตลกๆ
มันชัดเจนว่ามันไม่เหมาะกับภาพลักษณ์ของ คิว อีไป๋ แต่ เซิน หนิงซิน กลับคิดว่ามันไม่มีอะไรจะเข้ากันไปมากกว่านี้แล้ว
เห็นแบบนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วรีบเอาที่คาดผมดูจิ้งจอกของเธอขึ้นมาสวม เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อเซลฟี่กับ คิว อีไป๋
“ประธานคิว” เธอยิ้มแล้วขยับเข้าไปใกล้ คิว อีไป๋ เอียงคอของเธอไปด้านข้าง “ขยับเข้ามาใกล้ๆฉันะคะ”
คำพูดนั้นเป็นอย่างที่ คิว อีไป๋ ต้องการ
เธอกำลังกังวลที่ไม่มีกระจกเพื่อดูตัวเองตอนนี้ เธอเลยตกลงอย่างว่าง่ายและขยับเข้าไปใกล้ๆ ขยับหัวของเธอเข้าไปในหน้าจอ
ก่อนที่เธอจะได้ชื่นชมความสวยงามของที่คาดผม เธอก็พบว่าเธอดูจะเตี้ยไปนิดหนึ่งในหน้าจอ
เพราะมันต้องเดินเยอะมากในทริปนี้ เธอใส่ร้องเท้าที่ไม่มีส้นสูง และเมื่อเธอเอาแผ่นเสริมความสูงออก เธอก็เตี้ยลงหลายเซนติเมตรเลย
เห็นว่า เซิน หนิงซิน กำลังจะกดถ่ายรูป เธอรู้สึกกังวลและเขย่งเท้าของเธอขึ้น
เมื่อเสียงคลิกดังขึ้น เธอก็สูงกว่าเธอเยอะ
เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะหันไปมอง เซิน หนิงซิน บอกเธออย่างจริงจัง “ส่งรูปมาให้ฉันด้วยนะ”
เซิน หนิงซิน ไม่ได้พูดอะไรและยิ้ม ทำแค่พยักหน้าของเธอ
แต่เมื่อ คิว อีไป๋ ไม่ระวังตัว เธอก็แอบถ่ายรูปของเธอ
อุป ประธานคิวของเราถูกเปิดเผยแล้ว
—
ในที่สุดการแสดงก็เริ่มขึ้น
ฉากเปิดตัวนั้นอลังการ ในตอนเริ่มต้นนักแสดงในชุดสวยงามหลายคนเดินมารวมกลุ่มกันแล้วเต้นไปกับเสียงเพลงภายใต้แสงไฟ
หลังจากนั้นไฟก็เปลี่ยนไปและคนในชุดทหารก็เดินออกมา
ข้อความกำลังไหล่ลงมาในหน้าจอที่ติดไว้ทั้งสองข้างพวกเขากำลังเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของทุ่งหญ้าแห่งนี้
มันช่างน่าหลงใหล ทำให้ผู้คนลืมเวลาได้ง่ายๆ
หลังจากนั้นก็เป็นการแสดงดอกไม้ไฟเหล็ก การแสดงดอกไม้ไฟ…
เซิน หนิงซิน เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและคิดถึงคำพูดที่เธอเคยเห็นบนเวย์ปั๋ว
“ไม่มีอะไรโรแมนติกไปกว่าการได้ดูดอกไม้ไฟกับคนที่คุณชอบ”
โดยไม่รู้ตัว เธอหันหน้าแล้วก็เห็น คิว อีไป๋ ยืนอยู่ข้างๆเธอ ยืนมือออกไปลูบหูหมาบนหัวของเธอ ร้อยยิ้มอันสวยงามประดับอยู่บนหน้าของเธอ
“…..”
เธอชอบเธอไหม? เธอคงจะชอบแหละ ใครจะไม่ชอบหัวหน้าที่ทั้งหน้าตาดีและไว้ใจได้หละ?
ส่วนเรื่องโรแมนติกนั้น…
ไม่มีทางซะหละ
เธอถอนหายใจก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ๆ คิว อีไป๋ หยิบลูกอมรสนมออกมาแล้วส่งให้เธอ
ริมฝีปากของเธอยกขึ้นจนกลายเป็นร้อยยิ้มโดยไม่รู้ตัว
แค่ว่านะ ได้ออกมาเที่ยวกับยัยเด็กขี้แย่นี้ก็สนุกดีนะ
—
ตอนที่การแสดงจบลงมันก็เกือบจะ 4 ทุ่มแล้ว
ยังมีกิจกรรมต้องทำอีกเยอะในวันพรุ่งนี้ และเด็กๆก็เริ่มเหนื่อยหลังจากเล่นมาทั้งวันแล้ว ทุกคนเลยกลับไปที่โรงแรมที่จองเอาไว้แล้วพักผ่อนในคืนนี้
มันเป็นฤดูท่องเที่ยว ทำให้ทุกโรงแรมใกล้ๆนั้นเต็มไปหมดแล้ว ผู้ช่วยฯฮันทำได้แค่จองโรงแรมอยู่ไกลออกไปต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะมาถึง
ระยะเวลาไม่ได้นานหรือเร็ว แต่มันก็เหมาะมากที่จะงีบหลับ
เพราะงั้นบนรถเลยเงียบมากในตอนนี้ เกือบทุกคนหลับตาเพื่อพักผ่อน
ยกเว้น คิว อีไป๋ ที่อยู่ข้างเธอ…
เซิน หนิงซิน มองไปด้านข้างของเธอและพบว่าคนคนนี้กำลังดูรูปภาพในโทรศัพท์ของเธออย่างมีความสุขโดยไม่แสดงว่าง่วงออกมาเลยแม้แต่น้อย
บางทีอาจจะเพราะเธอทำงานล่วงเวลาบ่อยๆ
เซิน หนิงซิน ถอนหายใจแล้วปล่อยเธอเล่นต่อไป ก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วหลับตาไปซักพัก
พอเธอลืมตาขึ้นมาอีกที่ พวกเราก็มาถึงโรงแรมแล้ว
ข้างนอกนั้นมืดนิดหน่อยและนอกจากผู้ช่วยฯฮันที่ลงไปก่อนเพื่อรับการ์ดสำหรับเข้าห้อง ทุกคนก็ค่อยๆลงมาตามลำดับ
เซิน หนิงซิน และคนบางคนนั่งอยู่ด้านหลัง พวกเขาได้ลงไปช้าเล็กน้อย แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปในโรงแรมพวกเขาก็พบว่าผู้ช่วยฯฮันยังคุยกับพนักงานไม่เสร็จ
หลังจากพยายามจับใจความจากเรื่องที่พวกเขาคุยกัน เซิน หนิงซิน เข้าใจอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าพนักงานได้ทำผิดพลาดตอนรับจองห้อง พวกเขาลืมจองห้องเดียวคนไว้สองห้อง และตอนนี้มันก็ไม่มีห้องเดียวเหลือแล้ว
ตอนนี้มันดึกมากแล้วห้องพักที่เหลืออยู่ก็คนเข้าไปอยู่เรียบร้อยแล้ว เมื่อถามไปก็กลายเป็นว่าตอนนี้มีเหลือแค่ห้องเดียวแบบดีลักซ์เท่านั้น
เซิน หนิงซิน เผลอเหล่ไปมอง คิว อีไป๋ ที่อยู่ข้างเธอ
มีแค่พวกเธอสองคนที่มาคนเดียว ซึ่งห้องเดียวสองห้องจะตรงกับพวกเธอพอดี
แต่ว่าตอนนี้มันไม่มีห้องแล้วนั้นหมายความว่า…พวกเธอต้องนอนในห้องเดียวกัน
ภาพใบหน้าของ คิว อีไป๋ ที่กำลังร้องไห้ลอยขึ้นมาในหัวของเธอ มันรบกวนจิตใจของ เซิน หนิงซิน และทำให้ปฏิกิริยาของเธอช้าลง
ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร เธอเห็น คิว อีไป๋ เดินออกไปแล้วพยักหน้า
“ฉันไม่มีปัญหา” เธอพูด “มันดึกมากแล้ว อย่ามีปัญหากับมันแล้วช่างมันเถอะ”
“แบบนั้นก็โอเคค่ะ” ผู้ช่วยฯฮันตอบและหยุดเถียงกับพนักงาน ก่อนจะมองมาทาง เซิน หนิงซิน “แล้วธอละว่าไง เซี่ยวเซิน?”
หัวหน้าโอเคเซี่ยวเซินก็ต้องโอเคด้วยแหละค่ะ
เซิน หนิงซิน ทำได้แค่พยักหน้าตอบว่าเธอโอเคกับมันเหมือนกัน
หลังจากคุยกันจนปัญหาก็ได้รับการแก้ไข
บัตรเข้าห้องถูกแจกจ่ายอย่างรวดเร็วและทุกคนก็ลากกระเป๋าเดินทางไปที่ห้องของตัวเองอย่างมีความสุข คนที่อยากจะอาบน้ำก็อาบ คนที่อยากจะพักก็พัก
มีแค่ เซิน หนิงซิน ที่ยังยืนอยู่เหม่อที่เดิม
เธอจะทำยังไงดี
ครั้งที่แล้ว คิว อีไป๋ กำลังเมา ร้องไห้และทำตัวเหมือนเด็ก และเพราะว่ามองเธอเหมือนเด็กเธอเลยสามารถอนด้วยกันได้
แต่วันนี้….
เซิน หนิงซิน รีบเหล่มองและเห็น คิว อีไป๋ กำลังสั่งงานอะไรบางอย่างกับผู้ช่วยฯฮันด้วยสีหน้าจริงจัง ดวงตาของเธอใส่แจ่วและเธอก็ดูไม่ง่วงเลย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเมา
เซิน หนิงซิน ทำได้แค่ถนหายใจ
เธอต้องทำยังไงดี อ่า
—
เธอลากกระเป๋าของเธอเข้ามาในห้องด้วยความอึดอัด และหลังจากที่เธอตั้งตัวได้แล้ว เธอก็มองด้านข้างและพบกับ คิว อีไป๋ ที่กำลังมองไปที่เตียงด้วยใบหน้าจริงจัง
เธอจะทำอะไรของเธอ?
เซิน หนิงซิน สงสัยนิดหน่อย และตอนที่เธอกำลังจะถามออกมานั้น เธอก็เห็นคนคนนี้เริ่มขยับตัว
คิว อีไป๋ เปิดกระเป๋าของเธอออกคุ้ยหาของอยู่ซักพักก่อนจะหยิบเสื้อผ้าออกมาแล้วโยนพวกมันไปบนเตียงเหมือนกับเศษผ้า
แล้วเธอก็นั่งลงบนเตียงแล้วเริ่มจัดผ้า เมื่อเธอทำเสร็จเธอก็สร้างเส้นแบ่งขึ้นมา
She then sat on the bed and began to fix the clothes. When she finished, she created a whole straight line.
เส้นแบ่งเขตหละ!
ในที่สุด เซิน หนิงซิน ก็เข้าใจ
เธอพึ่งจะแบ่งอนาเขต
เธอถอนหายใจ ไม่คิดว่าคนคนนี้จะโอเวอร์ขนาดนี้ ตอนที่เธอกำลังจะพูดอะไรนั้นเองเธอก็สังเกตุอะไรบางอย่างและพบว่าหูของเธอกำลังแดง
ดูเหมือนว่าก็รู้จักอายเหมือนกัน
เซิน หนิงซิน ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี หลังจากเห็นแบบนั้นความกังวลของเธอหายไปเกือบครึ่ง
ตอนที่เธอพยายามสะกดจิตตัวเองว่าคนคนนี้มีวุฒิภาวะของเด็กสามขวบและมันไม่แย่อะไรที่จะนอนกับเธอ เธอก็เปิดกระเป๋าของเธอแล้วหยิบชุดนอนออกมา
ก่อนที่จะเปิดปากแล้วถาม คิว อีไป๋ ว่าใครจะอาบน้ำก่อน
“เธอเข้าไปก่อนเลย” คิว อีไป๋บอก โบกมือเพื่อแสดงความเมตตากรุณาของเธอ
“รับทราบค่ะ” เซิน หนิงซิน ขี้เกียจจะเถียงกับเธอและพยักหน้า เดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับชุดนอนและอุปกรณ์อาบน้ำ
ตอนที่ออกมาอีกที่เธอก็พบว่าเส้นแบ่งเขตสูงขึ้นมาอีกชั้นแล้ว โดยมีหมอนสองใบว่างเอาไว้ในจุดเดียวกัน
เธอพูดอะไรไม่ออก
เธออึ่งจนความกังวลของเธอหายไปหมดแล้ว
“….”
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโฒง ทั้งสองคนปิดไฟและนอนลงบนเตียง
ไม่ได้พูดเล่นนะ คิว อีไป๋ ดูเหมือนจะมีความสามารถในการสร้างปราสาท ด้วยกองผ้าและหมอนตรงนั้น เซิน หนิงซิน ไม่สามารถมองเห็นอะไรที่ฝั่งตรงข้ามได้เลย บอกจากความเคลื่อนไหวตอนเธอหมุนตัว เธอไม่รู้สึกถึงอะไรเลย
มันเหมือนกับเธอนอนในห้องเดียว
เซิน หนิงซิน อดไม่ได้ที่ยิ้ม คิดว่า คิว อีไป๋ นี้สุดยอดไปเลยนะ เธอกอดตุ๊กตาตัวน้อยที่เธอเอามาด้วยและเริ่มหลับตาของเธอลง
แต่ตอนที่เธอกำลังจะหลับตานั้นเอง อยู่ๆ คิว อีไป๋ ก็เรียกเธอจากอีกฝั่ง
เสียงของเธอค้อนข้างเบาและน้ำเสียงของเธอก็เต็มไปด้วยปริศนา เธอจะทำอะไรละนั้น?
“มีอะไรหรือเปล่าคะ ประธานคิว?” คิดว่าเธอคงไม่สบายใจ เซิน หนิงซิน จึงรีบถาม
เมื่อได้ยินเสียงของเธอ เธอได้ยินคนคนนี้ถามกลับมา “เธอนอนหลับไหม?”
เธอต้องการอะไรอีกหละรอบนี้?
เซิน หนิงซิน ไม่มีทางเลือกจากจะตอบคำถามของเธอ “ฉันโอเคค่ะ มีอะไรหรือเปล่า?”
“เปล่า” คิว อีไป๋ตอบ “ฉันแค่อยากเตือนเธอให้ตั้งนาฬิกาปลุกเธอจะได้ไม่ตื่นสายพรุ่งนี้”
“รับทราบค่ะ” เซิน หนิงซิน พยักหน้าตอบ ก่อนจะถาม “มีอะไรอีกไหมคะ?”
คิว อีไป๋ ถามต่อ “น้ำของฉันอยู่บนโต๊ะข้างๆเธอใช่ไหม? ฉันอาจจะตื่นมาเพื่อดื่มน้ำตอนกลางคืน ฉัยกลัวว่าฉันจะหามันไม่เจอ”
เซิน หนิงซิน ลุกขึ้นแล้วเปิดเพิ่มแสงของโทรศัพท์เธอเพื่อดูแล้วหยักหน้า “ไม่ต้องห่วงนะคะ มันอยู่ตรงนั้น”
รู้สึกว่าเป้าหมายจริงๆของเธอไม่ใช่เรื่องนี้ เธอเลยถาม “มีอะไรอีกไหมคะ? ถ้าไม่มี ฉันจะนอนแล้วนะคะ”
อยู่ๆ คิว อีไป๋ ก็เงียบไป และผ่านไปนานกว่าเธอจะตอบ “ไม่มีอะไรหรอก แค่ผู้ช่วยฯฮันส่งเรื่องเล่ามาให้ฉันนะ และมันก็น่าสนใจดี”
เธอถาม “อยากฟังไหม?”
อาหะ นี้คือเป้าหมายของเธอสินะ
ดูเหมือนว่าความเป็นเด้กน้อยของเธอจะออกมาอีกครั้ง เธอตื่นเต้นเกินกว่าจะนอนและอยากจะหาเพื่อนคุย
“ได้ค่ะ” เมื่อรู้เรื่องนี้ เซิน หนิงซิน ก็พยักหน้าอย่างอ่อนโยน
อีกอย่างปกติแล้วมันก็เวลาซักพักก่อนเธอจะหลับ ไหนๆเธอนอนหลับทันทีไม่ได้อยู่แล้ว มันคงไม่แย่อะไรที่จะคุยกับใครซักคน เธอเลยตอบรับคำชวนของ คิว อีไป๋
เซิน หนิงซิน ขยับหมอนของเธอให้นอนได้สบายขึ้นแล้วขยับเข้าไปใกล้กำแพงก่อนจะพูดเบาๆว่า “คุณเริ่มได้เลย”
เมื่อได้ยิน คิว อีไป๋ ก็เปิดโทรศัพท์ของเธอและเริ่มอ่าน “มันเป็นคืนที่มืดมิดท่ามกลางพายุ มีเสียงบางอย่างมีเสียงบางอย่างดังออกมาจากห้องน้ำห้องสุดท้ายของน้ำหญิงที่ชั้นสาม…”
เซิน หนิงซิน “????”
—
ประธานจะมาเล่าเรื่องผีตอนนี้ไม่ได้…
-A Cup of Owls
MANGA DISCUSSION