เมื่ออาหารยาวนานกว่าหนึ่งชั่วโมง
ความจริงแล้ว เซิน หนิงซิน อารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ตั้งแต่มีปัญหากับ เป๋ย ฉิง
เธอกินไม่ค่อยได้นนอนไม่ค่อยหลับเป็นเวลานานมาก
ตัวอย่างเช่น เมื่อคืนเธอไม่ได้กินอะไรแล้วเข้านอนเลยหลังจากอาบน้ำเสร็จ
เมื่อเช้านี้เองก็เหมือนกัน เพราะงั้นมั่วแต่เหม่อคิดเรื่องต่างๆอยู่ เธอเกือบจะไปทำงานสายแต่กินแค่ขนมปังก้อนเล็กๆเพื่อเติมเต็มท้องของเธอ
เพราะงั้นมื้อเย็นคืนนี้เป็นมื้ออาหารที่เธอรู้สึกผ่อนคลายที่สุดในช่วงที่ผ่านมา
เสียงย่างและบาบีคิวมันเยิ่มนั้นกลิ่นหอมมาก เมื่อนำมันเข้าปากของเธอและเคี้ยวมัน เธอรู้สึกความสุขกำลังพลุ่งพลานไปทั่วทำให้เธออารมณ์
เครื่องปรับอากาศในห้องส่วนตัวนั้นถูกเปิดเอาไว้ ลมเย็นๆและความร้อนจากเตาย่างพัดใส่พร้อมๆกันทำให้อากาศที่เย็นกำลังดีพัดใส่หน้าของเธอ
มันทั้งเงียบสงบและผ่อนคลาย
เซิน หนิงซิน ก้มหน้าย่างเนื้อและขณะที่กำลังคิดเธอก็หัวเราะออกมา
“เธอหัวเราะอะไรของเธอละนะ?” คิว อีไป๋ เงยหน้าขึ้นมาเห็นเธอที่ทำตัวแปลกๆ
คิว อีไป๋ กำลังอารมณ์ดีในวันนี้ เพราะงั้นเธอเลยสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากพนักงานเสริฟ
มันเป็นไวน์ผลไม้ เพราะงั้นปริมาณแอลกอฮอล์เลยไม่ได้มากนัก ทำให้หลักจากผ่านไปหลายแก้ว เธอก็แค่รู้สึกมึนๆเท่านั้น
เธอดูไม่ต่างจากปกติเท่าไหร่
แต่ในความเป็นจริง แก้มของเธอแดงนิดหน่อยและเธอก็พูดเยอะกว่าปกติ ความตนที่แท้จริงของเธอที่มักจะปกปิดเอาไว้กำลังถูกปลดปล่อยออกมา
เห็น เซิน หนิงซิน หัวเราะกับตัวเอง เธอคิดว่าคงจะมีอะไรตลกๆและขยับหัวของเธอเพื่อจะดู
ฉากแบบนี้จึงเกิดขึ้น
คนหนึ่งกำลังหัวเราะใส่บาบีคิว และอีกคนก็เงยหน้ามองพยายามทำความเข้าใจว่ามีอะไรที่ตลกกัน
หลังจากที่ไม่สามารถหาอะไรได้ เธอก็ถอยกลับอย่างเงอะงะ เปิดปากปล่อยเสียง “ฮะฮะ” ออกมาสองสามครั้งตามเธอ
มันน่ารักแบบแปลกๆ
เซิน หนิงซิน มองเธอ ร้อยยิ้มของเธอกว้างขึ้นเรื่อยๆ
ความคิดบางอย่างก่อตัวขึ้นในหัวของเธอ
พูดตรงๆ….ทุกๆครั้งที่เธอออกไปไหนกับ คิว อีไป๋ เธอค้อนข้างมีความสุขเลยหละ
—
หลังจากกินกันเสร็จ เซิน หนิงซิน ลุกขึ้นเพื่อไปเข้าห้องน้ำ
ก่อนที่เธอจะออกมา เธอรู้สึกกังวลนิดหน่อย กลัวว่ายัยเด็กขี้แย่นี้จะแอบร้องไห้อีกหลังจากดื่มไปเยอะขนาดนั้น
แต่ต้องขอบคุณที่ คิว อีไป๋ ไม่ได้ดูแตกต่างจากปกติเท่าไหร่
เธอรู้สึกโล่งอกและรีบไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะลงไปที่เค้าเตอร์ชั้นล่างเพื่อจ่ายเงิน
แต่เมื่อเธอลงไปถามเธอก็พบว่า คิว อีไป๋ ได้จ่ายเงินไปก่อนแล้ว
เธอจ่ายไปตอนไหนกัน?!
เธอตกใจนิดหน่อยและรีบถามพนักงานสาวที่เค้าเตอร์
“เพื่อนของคุณลงมาจ่ายหลังจากที่พวกคุณสั่งอาหารกันแล้ว” พนักงานสาวเล้าย้อนกลับไปและถึงกับเอาใบเสร็จที่เก็บออกมาให้ดู
มันลงเวลาไว้ว่า 6.30
มันเป็นช่วงเวลาหลังจากที่พวกเธอสั่งอาหารเสร็จไม่นาน
เซิน หนิงซิน ผงะไปเมื่อเห็นแบบนั้น ก่อนจะคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะสรุปในหัวของเธอ
ไม่น่าหละอยู่ๆ คิว อีไป๋ ก็บอกเธอว่าเธอจอดรถไม่ดีเท่าไหร่และต้องไปขยับมัน กลายเป็นว่าเธอลงมาจ่ายเงินลับหลังเธอนี้เอง
นึกย้อนกลับไปอีก ตอนที่เธอบอกว่า “เลือกที่เธออยากกินเลย” มันคงมีความหมายซ้อนอยู่
ดูเหมือนเธอจะว่างแผนเอาไว้แล้ว
เมื่อรู้ตัวหัวใจของ เซิน หนิงซิน ก็อุ่นขึ้น
หลังจากขอบคุณพนักงานที่เค้าเตอร์ เซิน หนิงซิน ก็หันหลังและรีบกลับไปที่ห้องส่วนตัว เมื่อเธอดันประตูเข้าไปเธอก็พบว่า คิว อีไป๋ ยังคงดื่มอยู่
เซิน หนิงซิน นิ่งไป รีบเลื่อนสายตามองและเห็นว่า คิว อีไป๋ ดื่มแอลกอฮอล์จนเกือบจะหมดเหยือกแล้ว
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ไวน์ผลไม้ เธอก็ไม่ควรจะดื่มมันต่างน้ำแบบนั้น!
เธอถอนหายใจแล้วรีบเข้าไปห้ามเธอ ก่อนจะถามอย่างอ่อนโยนว่า “ไม่ใช่ว่าเราคุยกันไว้ว่าฉันจะเลี้ยงข้าวคุณหรอคะ ทำไมคุณถึงเป็นคนจ่ายเงินหละประธานคิว?”
เมื่อได้ยิน คิว อีไป๋ ก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอ
ผ่านไปซักพักเธอก็พึมพำ เหมือนกับเยาะเย้ยเธอ “เด็กฝึกงานแบบเธอมีรายได้เท่าไหร่กันในแต่ละเดือน”
“เอาไว้คร่าวหน้านะถ้าเรามีโอกาสอีก มื้อนี้ให้ฉันจัดการเอง”
หลังจากพูดจบ คงเพราะเห็นว่า เซิน หนิงซิน กำลังจะปฏิเสธ เธอเลยโบกมือด้วยความไม่พอใจ
“ฉันรวย” เธอพูด ลดเสียงของเธอลงเหมือนกับกำลังบอกความลับบางอย่าง “รวยเกินกว่าที่เธอจะจินตนาการได้”
สุดท้ายแล้วเธอก็เมาอยู่ดี
เซิน หนิงซิน พูดอะไรไม่ออกและทำได้แค่ยิ้มตอบเธอ
น้ำเสียงของเธออ่อนโยนลงโดยไม่รู้ตัว เธอตอบอย่างใจเย็น “ช่าย ช่าย ช่าย ประธานคิว ของเรานั้นรวยที่สุด”
“….”
คนคนนี้ไม่สามารถขับรถกลับไปหลังจากดื่มไปขนาดนั้น และ เซิน หนิงซิน เองก็ขับรถไม่เป็น สุดท้ายแล้วเธอเลยโทรเรียกคนขับรถมาแทน
หลังจากเฝ้าดูให้ คิว อีไป๋ ขึ้นไปบนรถแล้ว เซิน หนิงซิน ก็ตามขึ้นไป
รถออกตัวอย่างรวดเร็วและไม่นาน เซิน หนิงซิน ก็สังเกตุเห็นว่า คิว อีไป๋ กำลังคุ้ยหาอะไรในกระเป๋าของเธอแล้วหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา
แล้วเธอก็เปิดเวย์ปั๋วขึ้นมาอย่างจงใจ
เธอเอาอีกแล้ว!
เธอจะโพสต์อะไรอีกแล้ว!
เมื่อเห็นแบบนั้น เซิน หนิงซิน ก็รู้สึกกังวล กลัวว่าคนคนนี้จะต่อว่าเธอในโพสต์อีกครั้ง เธอเลยแอบหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาแล้วเปิดเวย์ปั๋วขึ้นมา
ทันทีที่ คิว อีไป๋ โพสต์เสร็จ เธอก็รีบกดเข้าไปเพื่อดู
ในที่สุดโพสต์บนสุดก็ไม่ใช่ถุงน้ำร้อนหมูอีกต่อไป มันถูกแทนที่ด้วยโพสต์ใหม่ที่ คิว อีไป๋ พึ่งจะโพสต์
“ฉันผู้มีเงินเลี้ยงบาบีคิวสุดแสนอร่อยให้กับ เซิน หนิงซิน ผู้ไม่มีเงิน”
“เธอติดหนี้ฉันอีกอย่างแล้ว”
หลังจากนั้นเธอก็ใส่สติกเกอร์ อาจิ ที่กำลังท้าวเอวอยู่
เซิน หนิงซิน ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้อีก
คนคนนี้บันทีกทุกอย่างที่เกิดขึ้นจริงๆ
พอเห็นคำว่า “สุดแสนอร่อย” หัวใจของ เซิน หนิงซิน ก็พองโต แล้วเธอก็ขยับเข้าไปใกล้ คิว อีไป๋ มองรูปร่างของเธอจากด้านข้าง
หลังจากผ่านไปซักพัก เธอก็เปิดปากแล้วถามอย่างอ่อนโยนไปว่า “ประธานคิว คุณคิดว่าบาบีคิวอร่อยไหม?”
เมื่อได้ยิน คิว อีไป๋ ก็สายหน้าแล้วแสดงความเห็นอย่างจริงจัง “ไม่ มันไม่ได้อร่อยเท่าไหร่”
“มันไม่ดีกับสุขภาพเลย”
เซิน หนิงซิน “…..”
เธอไม่ได้พูดแบบนั้นในเวย์ปั๋วนะ
เซิน หนิงซิน ไม่สามารถทำอะไรกับยัยเด็กขี้แย่สองหน้าคนนี้ เธอเลยยิ้มให้แล้วขยับกลับมา
ผ่านไปซักพัก เธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ คุ้ยหาของในกระเป๋าของเธออยู่ซักพักก่อนจะหยิบลูกอมรสนมออกมา
“งั้นฉันจะเลี้ยงของอร่อยๆกับคุณตอนนี้เลย” หลังจากพูดจบ เธอก็ว่างลูกอมลงบนมือของ คิว อีไป๋
เหมือนกับว่าเธอกำลังปลอบเด็ก
—
ยัยเด็กขี้แย่พัฒนาขึ้นเยอะมกาเมื่อคืน เธอไม่ได้ร้องไห้ไม่ให้เธออยู่ต่ออีกแล้ว
เซิน หนิงซิน รู้สึกชื่นชมมาก แล้วเธอก็รีบกลับบ้านหลักจากส่งเธอเสร็จ
หลังจากอาบน้ำร้อนให้สบายตัว เธอก็โดดขึ้นเตียงกลิ้งไปคว้าเอาตุ๊กตากระต่ายข้างๆเธอมากอด
เธอได้นอนหลับสนิกอย่างที่หาไม่ค่อยได้
เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วมองไปยังกระจกแม้แต่รอยดำใต้ตาของเธอก็จางลง
ด้วยอารมร์ที่ดีจนน่าตกใจเธอลุกขึ้นจากเตียง ตรงที่ห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาแล้วกินมื้อเช้าดีๆ เมื่อเธอมองเวลาอีกครั้ง มันก็ยังเช้าอีก
เธอเลยขึ้ยรถบัสไปบริษัทอย่างสบายๆ
เมื่อมาถึงเธอบังเอิญเจอกับผู้ช่วยฯฮันที่หน้าลิฟต์
เซิน หนิงซิน รีบทักทายเธอ “อรุณสวัสดิ์ค่ะ ผู้ช่วยฯฮัน”
“อรุณสวัสดิ์” ผู้ช่วยฯฮัน ยกริมฝีปากแล้วยิ้มให้เธอ ดูเหมือนจะเป็นห่วงเธอ เธอเลยถาม “อารมณ์ดีหรอ?”
“ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ” สังเกตุเห็นถึงความใจดีของเธอ เซิน หนิงซิน รีบตอบกลับด้วยร้อยยิ้ม
ในช่วงเวลาที่พวกเธอคุยกัน ลิฟต์ก็มาถึง
เซิน หนิงซิน เดินตาม ผู้ช่วยฯฮัน เข้าไปในลิฟต์ เมื่อเช้าไปในลิฟต์ ผู้ช่วยฯฮันก็เริ่มพูดอีกครั้ง
“อ่อ เซี่ยวเซิน ส่งข้อมูลส่วนตัวของเธอมาให้ฉันหลังจากนี้ด้วยนะ พวก ไอดี และเบอร์โทรศัพท์” เธอพูด “ช่วงนี้อากาศเริ่มดีและอุณหภูมิก็กำลังดีบริษัทเลยตัดสินใจจัดทริปในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นะ”
พวกเขาว่างแผนจะพาพวกเราไปออกทริป
สวัสดิการของบริษัทใหญ่ๆดีมันดีจริงๆ
เซิน หนิงซิน รีบพยักหน้าเป็นการตกลง ก่อนจะเปิดวีแชทและส่งข้อมูลของเธอให้กับผู้ช่วยฯฮัน
หลังจากพิมพ์ไปสองสามคำ เธอก็ได้ยินผู้ช่วยฯฮัน พูดต่อ “เธอสามารถพาคนในครอบครัวมาร่วมทริปด้วยได้นะ เฮ้อ”
“ลูกชาย และลูกสาว พี่น้อง หรือ แฟน จะใครก็โอเค ถ้าเธอจะพาไปด้วยส่งข้อมูลของพวกเขามาให้ด้วยนะ”
หลังกจาพูดจบลิฟต์ก็มาถึงชั้น
ผู้ช่วยฯฮันกำลังยุ้งอยู่กับอะไรบางอย่าง หลังจากที่บอกลา เซิน หนิงซิน เธอก็รีบเดินจากไปทิ้ง เธอยืนอยู่คนเดียว
เซิน หนิงซิน พูดอะไรไม่ออกซักพัก ท่าทางของเธอดูเหม่อลอยขึ้นมาทันที
อนุญาติคนในครอบครัวไปด้วยมันก็เป็นเรื่องที่ดี
แต่ว่านะ ถึงมันจะดูดี แต่เธอ….ไม่มีครอบครัวที่สามารถพาไปด้วยได้
—
วันหยุดสัดสัปดาห์มาถึงอย่างรวดเร็ว
เซิน หนิงซิน ได้ถามเพื่อร่วมงานก่อนหน้านี้แล้วและพบว่าส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะพาครอบครัวหรือญาติมาด้วย แล้วก็มีบางคนที่พาแฟนมาด้วย
แม้แต่ผู้ช่วยฯฮันที่เปิดเผยรสนิยมทางเพศกับเธอเมื่อนานมาแล้วก็ยังพาน้องสาวมาด้วย
ไม่มีใครพาเพื่อนมาเลย…..
เซิน หนิงซิน ถอนหายใจ รู้สึกอายที่จะบอกผู้ช่วยฯฮัน สุดท้ายเธอเลยแค่ส่งข้อมูลของเธอไปเท่านั้น
เวลาห้านาฬิกาในตอนเช้าของวันเสาร์ พนักงานบริษัททุกคนจากฝ่ายขายมารวมตัวกันที่ด้านหน้าบริษัท
เพราะว่าฝ่ายขายมีคำมากที่สุด คิว อีไป๋ เลยมารวมกับพวกเขา
ครั้งนี้เธอไม่ได้ใส่ชุดสุภาพ
เธอใส่เสื้อผู้หญิงสีฟ้าโดยไม่ติดกระดุมข้อมือทำแค่พับแขนขึ้นนิดหน่อยเผยให้เห็นข้อมือผอมบางของเธอ
ครึ่งล่างของเธอใส่กางเกงสีดำ มันไม่ได้มีดีไซน์อะไรเป็นพิเศษแต่มันก็ยังเน้นให้เห็นขาตรงยาวของเธอได้เป็นอย่างดี
ถึงแม้ว่าท้องฟ้าตอนตีห้าจะยังไม่สว่างเท่าไหร่ เซิน หนิงซิน ก็สังเกตุเห็นเธอในฝูกคนได้ทันที
เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ สวยจริงๆเลยน้า
“….”
รถโดยสารที่ถูกติดต่อไว้ก่อนหน้านี้มาถึงในเวลาไม่นาน
เพราะว่ามันมีเด็กด้วย ขั้นตอนการขึ้นไปบนรถเลยวุ้นวายมาก กลัวว่าจะเดินไปชนพวกเขาเข้า เซิน หนิงซิน จึงไม่รีบและรอขึ้นรถที่หลัง แต่เมื่อเธอขึ้นมาเธอก็พบว่าที่นั่งนั้นเต็มเกือบหมดแล้ว
ถึงมันจะมีที่อยู่บ้างแต่มันก็ถูกเติมเต็มด้วยกระเป๋าของคนอื่นไปแล้ว
มันก็สมเหตุสมผล เพราะคนส่วนใหญ่นั้นมากับครอบครัว ไม่เหมือนเธอที่มาคนเดียว
ถอนหายใจอย่างหมดหนทาง เซิน หนิงซิน ทำได้แค่เดินตรงต่อไป
ตอนที่เดินอยู่นั้นเธอก็เห็นที่นั่งที่ว่างอยู่ หัวใจของเธอเต็มถูกเติมเต็มไปด้วยความดีใจทันที
เมื่อเธอเลื่นอสายจาขึ้นมามองเธอก็เห็นว่าคนที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างๆนั้นคือ คิว อีไป๋
เซิน หนิงซิน “….”
แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ ดูเหมือนว่าคนคนนี้ก็มาคนเดียวเหมือนกัน
ตอนที่เธอลังเลอยู่ว่าจะนั่งลงตรงนี้ต่อหน้าทุกคนดีไหม คนขับรถก็เร่งทุกคน บอกให้พวกเรารีบเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงรถติด
เมื่อได้ยิน ความสับสนก็เกิดขึ้นบนรถ คนที่ยังไม่ได้นั่งรีบเดินไปหาที่นั่งของตัวเอง
“เซี่ยวเซิน นั้งตรงนั้นนั้นแหละ” เจ้ฉาง ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมองมาทางเธอ “รถจะออกแล้วมันจะไม่ดีถ้าเธอยังเดินไปมา”
หลังจากพูดจบเธอก็ตบแขนของ เซิน หนิงซิน เบาๆ แล้วกระซิบ “อีกอย่างพวกเรามาเที่ยวกัน มีความสุขคือเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะงั้นไม่ต้องกังวลหรอกนะ”
ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ว่าเธอกังวลเรื่องอะไรอยู่
เมื่อเห้นแบบนั้น เซิน หนิงซิน ก็ยื้ม แล้วตอนที่เธอกำลังจะตอบนั้นเอง ก็มีมือยืนมาจากด้านข้างของเธอ
เขาใช้แรงพอสมควร และ เซิน หนิงซิน ก็เซเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงบนที่นั่งพอดี
“เธอโง่หรือเปล่า?” เธอได้ยินเสียงคนด้านข้างพูดอย่างรวดเร็ว “มันมีที่นั่งแต่เธอไม่นั่ง เธอจะไปที่ไหนกันห่ะ?”
เซิน หนิงซิน เงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยิน แล้วเธอก็เจอกับสายตาของ คิว อีไป๋ ที่กำลังมองมาทางเธอ
เธออ่านความหมายที่ซ้อนอยู่ในสายตานั้นได้ทันที
“เธอไม่ยอมนั่งลงอยู่นานเลย เธอคิดว่าฉันไม่มีค่าพอจะให้นั่งกันงั้นหรอ?”
เซิน หนิงซิน ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี แล้วรีบพยักหน้าและตอบไปว่า “ฉันจะนั่งค่ะ ฉันจะนั่ง”
หลังจากพูดจบ เธอก็หันหาไปพูดคุบกับเจ้ฉางนิดหน่อย
รถโดยสารออกตัวในเวลาไม่นาน
จุดหมายของพวกเราในครั้งนี้คือทุ่งหญ้าและมันก็ไม่ได้อยู่ใกล้กับบริษัทเลย ต่อให้พวกเราใช้ทางด่วนมันก็ยังใช้เวลาหลายชั่วโมงอยู่ดี
คิว อีไป๋ คงจะเคยชินกับการออกทริปแบบนี้แล้ว เธอเอนหลังและหลับต่อพักผ่อนทันทีที่รถออก
เซิน หนิงซิน ไม่สามารถนอนหลับได้เร็วขนาดนั้น เธอเลยเงยหน้ามองไปรอบๆ
แล้วเธอก็ค้นพบในทันทีว่าที่นั่งรอบๆเธอถูกจับจองโดยผู้ใหญ่และเด็ก เธอสามารถเห็นหัวของผู้ใหญ่และเด็กอยู่คู่กันเต็มไปหมดเมื่อเงยหน้ามอง
มันแต่ต่างแค่ตรงที่เธออยู่
เมื่อคิดแบบนั้น เซิน หนิงซิน ก็เผลอหันมองไปทาง คิว อีไป๋
คนคนนี้หลับอยู่เงียบๆ เธออยู่ในท่าทางสบายๆและเอนหลังอยู่อย่างผ่อนคลาย เธอหายใจเสียงดัง
เมื่อ เซิน หนิงซิน ขยับเข้าไปใกล้ เธอมองเห็นขนตาของเธอขยับไปว่าตามจังหวะการหายใจของเธอเป็นครั้งคราว และริมฝีปากของเธอก็ขยับเหมือนกันโดยไม่ตั่งใจ
ต่างจากเวลาปกติ เธอดูจะทำตัวดีและน่ารัก
ตอนที่ เซิน หนิงซิน มองเธออยู่นั้น ความคิดหนึ่งเข้ามาในหัวเธอ
เอาจริงๆเลยนะ ถ้าคุณลองมองในอีกแง่หนึ่ง ไม่ใช่ว่าพวกเธอก็นับว่าเป็นคู่เด็กกับผู้ใหญ่ได้เหมือนกันหรอ?
ผู้ใหญ่ เซิน หนิงซิน
เด็ก เอ่อ…คนที่หลับปุ๋ยอยู่ข้างๆเธอ คิว สองขวบครึ่ง
—
ไม่ได้แปลฉากซินซินเพ้อถึงประธานมานานจนลืมไปเลยว่าน้องซิมประธานแค่ไหน
ตอนที่แล้วแปลแล้วรู้สึกแบบว่าแปลเท่าไหร่ก็ไม่จบซักที คิดว่าคงเพราะพึ่งหายป่วยเลยไม่คิดอะไรมาก แต่พอมาดูจำนวณตัวอักษรถึงรู้ว่าตอนที่แล้วยาวกว่าปกติเกือบเท่าตัวเลยครับ แทบช็อค
-A Cup of Owls
MANGA DISCUSSION