ตอนที่ 21 เธอจะดูถูกฉันเกินไปหน่อยนะ
เธอแทบจะไม่ได้นอนเลยทั้งคืน
เช้าวันต่อมา เซิน หนิงซิน ตื่นขึ้นมาก่อนที่นาฬิกาจะดัง
เธอรู้สึกงัวเงียและรีบวิ่งที่ห้องน้ำเพื่อดูกระจกแล้วเธอก็ต้องผงะไป
นี้เป็นครั้งแรกที่เธอขอบตาดำขนาดนี้
“….”
เธอถอนหายใจ หลังจากล้างหน้าเสร็จเธอก็นั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้งรีบทารองพื้นและคอนซีลเลอร์ก่อนจะแต่งหน้าเบาๆเพื่อปกปิดผิดโทรมๆของเธอ
ตอนนี้มันไม่น่าจะมีอะไรแตกต่างกับตัวเธอเวลาปกติแล้ว
ไม่มีใครจะมองออกแล้วว่าสภาพของเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่
แล้วเธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เหนื่อยล่าไปทั้งร่างกายและจิตใจ จิตใจของเธอนั้นกำลังกรีดร้อง คำว่า “ฉันไม่อยากทำไปทำงาน” ลอยไปลอยมาในหัวของเธอ
เธอใช้เวลาซักพักๆไปกับการนั่งเหมอลอยอยู่ที่เก้าอี้ เวิน หนิงซิน สายหน้าของเธอก่อนจะลุกขึ้น จัดเสื้อผ้าของเธอแล้วลงไปข้างล่างพร้อมกับกระเป๋ษของเธอ
ในโลกของผู้ใหญ่มันจะมีประโยชน์อะไรที่จะหนีกัน?
เป๋ย ฉิง นั้นทรงพลัง และ ประธานหวัง ก็ทรงพลัง เพื่อไม่ให้เป็นปัญหากับ คิว อีไป๋ เธอไม่แม้แต่จะคิดจากบอกคนๆนั้น
สุดท้ายแล้วเธอก็เป็นแค่เด็กฝึกงาน ถึงเธอจะอยู่ที่เค๋อรุ่ยไม่ได้มันก็ยังมีที่อื่นอยู่
แต่มันไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมง่ายๆ
เธอจะอนทนจนถึงวินาทีสุดท้าย อยู่ให้ เป๋ย ฉิง รังเกียจจนวินาทีสุดท้าย
—
เธอออกมาสายกว่าปกติเล็กน้อยในวันนี้
มีรถบนถนนมากกว่าปกติ รถโดยสารสายไปมา หยุด แล้วออกตัวสลับไปมาซ้ำๆตลอดทางจนมาถึงบริษัท
เธอเกือบจะมาทำงานสาย
เซิน หนิงซินรีบเอาโทรศัพท์ออกมาเพื่อลงเวลาเข้างาน และตอนที่เธอกำลังจะเดินไปที่โต๊ะของนั้นเพื่อนั่งลง เธอก็สังเกตุเห็น เป๋ย ฉิง ที่มีทางท่าไม่ปกติ
เธอท่าทางอวดดีของเธอหายไป ถูกแทนที่ด้วยใบหน้าหม่องหม่น
เธอกำลังคิดอะไรอยู่?
เธอดูแปลกๆยังไงก็ไม่รู้
เซิน หนิงซิน เหล่มองเธอแล้วจะนั่งลงและเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ก่อนจะลุดขึ้นอีกครั้งเพื่อไปเติมน้ำใส่แก้วที่ห้องพักเบรก
ตอนที่เธอลุกขึ้นนั้นเอง เจ้ฉาง ที่เดินมาจากด้านหลังของเธอตอนไหนไม่รู้ ยื่นมือของเธอมาดึงเธอเอาไว้
“ไปด้วยกันนะ” เธอพูด ร้อยยิ้มประดับอยู่บนหน้าของเธอ
เธอดูมีความสุขมาก บางทีเธออาจจะพึ่งเซ็นสัญญาคำสั่งซื้อขนาดใหญ่ได้
เมื่อเห็นแบบนั้น เซิน หนิงซินก็พยายามยิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้าแล้วไปที่ห้องพักเบรกพร้อมกับเธอ
“……”
เครื่องกดน้ำกำลังอุ่นน้ำอยู่ เพราะงั้นเธอเลยยังเติมแก้วของเธอไม่ได้
เซิน หนิงซิน ยืนเหม่อรอพร้อมกับแก้วในมือ เธอกำลังคิดอะไรไปเรื่อยตอนที่เจ้ฉางเริ่มขยับเข้ามาใกล้ๆเธอ
นี้เป็นท่าทางของเจ้ฉางเวลาที่เธอกำลังจุพูดความลับอะไรบางอย่าง
เซิน หนิงซิน ให้ความร่วมมืออย่างรวดเร็วแล้วเงยหน้ามองเธอ
เธอถาม “เซี่ยว เซิน เธอได้ยินเรื่องที่ทุกคนพูดถึงตอนที่เธอเข้ามาไหม?”
เมื่อเธอพูดจบหัวใจของ เซิน หนิงซิน ก็สั่นไหว คิดว่าเรื่องของเธอกับ เป๋ย ฉิง ถูกเปิดเผย่แล้ว
เธอสายหน้าโดยไม่ได้ตั้งใจและตอบไปว่า “ไม่…”
“เธอยังไม่รู้หรอ?” เจ้ฉาง เลิกคิ้วโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้ยิน ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้เธอ “มีข่าวมาจากโณงงานเมื่อเช้านี้”
เธอพูดเสียงเบา “ดูเหมือนว่า….ประธานหวังจะโดนไล่ออก”
“ประธานหวัง?!” เซิน หนิงซิน ตกละลึง “คุณหมายถึงประธานหวังจากฝ่ายขายในประเทศหรอ?”
“จะเป็นใครได้อีกหละ?” เจ้ฉางพูดอย่างสุขใจ “เรามีประธานหวังกี่คนในบริษัทกัน?”
“ทำไมอยู่ๆเขาถึงโดนไล่ออกหละ?” เซิน หนิงซิน มึนงง ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้อยู่
“ดูเหมือนว่าเขาจะแอบให้ความรวมมือกับบริษัทอื่นตามอำเภอใจ” เจ้ฉางหัวเราะเบา ๆ “ขายข้อมูลการสั่งซื้อของเรา แหล่งวัตถุดิบ รายชื่อลูกค้า….”
“แล้วมันก็ไม่ใช่แค่สองสามครั้ง แค่พึ่งจะค้นพบหลักฐานได้ไม่นานเท่านั้น”
“ตอนนี้เขาคงกำลังยุ่งอยู่กับการโดนฟ้อง”
—
เซิน หนิงซิน เหม่อตลอดทางตอนที่กลับไปที่โต๊ะ
เธอคิดว่าเธอจะเป็นคนที่โดนไล่ออก และไม่คาดคิดว่าเธอจะได้ยินข่าวประธานหวังโดนไล่ออก
ไม่แปลกใจเลยที่ เป๋ย ฉิง จะมีท่าทางแปลกๆ
เธอถอนหายใจ นึกถึงประวัติการสนทนาที่เธอเห็นเมื่อคืน ถึงแม้มันแค่แปปเดียว เธอก็ยังสังเกตุรายอะเอียดพอสมควร
หนึ่งในนั้นคือวันที่
วันจันทร์
มันเป็นวันที่ คิว อีไป๋ ไปที่โรงงานเพื่อประชุมพอดี
ข้อความของ เป๋ย ฉิง กับประธานหวังจบลงที่วันนั้น
ดูเหมือนว่าเขาจะวุ่นวายอยู่กับปัญหาของตัวเอง เขาจะมีเวลามาดูแลเธอได้ยังไง
ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ปรากฎขึ้นในหัวใจของเธอ เซิน หนิงซิน หยิบแก้วน้ำของเธอขึ้นมาถือเป็นเวลานานมาก ก่อนที่จะสามารถทำให้สงบลงได้เล็กน้อย
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นเงาของใครบางคนเข้ามาจากด้านนอก
ชุดสูทสีดำสำหรับผู้หญิงนั้นดึงดูสายตาได้ดีมาก ผมยาวสวยของเธอผาดอยู่บนไหล่ของเธออย่างเรียบง่าย สีหน้าของเธอนั้นดูเฉยเมย และส่งออร่าทรงพลังออกมาขณะที่เธอกำลังถือกระเป๋าเอกสารในมือ
นั้นคือ คิว อีไป๋!
เธอกลับมาแล้ว!
เซิน หนิงซิน มองเธอ ครึ่งหนึ่งของความรู้สึกยุ่งเหยิงที่เธอมีอยู่นั้นหายไปทันที่โดยไม่ทราบเหตุผล
เธอเปิดปากของเธอเพื่อทักทายเธอ “สวัสดีค่ะ ประธานคิว”
“อืม” คิว อีไป๋ หยุดเท้าของเธอเมื่อได้ยินเธอ ก่อนจะหันมองมาทางเธอ
หลังจากนั้น เธอก็ดูเหมือนจะยิ้ม
แต่เธอก็รีบหยุด มันเร็วซะจน เซิน หนิงซิน มองไม่ออกว่าเธอยิ้มออกมาจริงๆ
ตอนที่เธอกำลังไตร่ตรองอยู่ เธอก็ได้ยินเธอพูดอีกครั้ง แต่มันไม่ได้ส่งมาหาเธอ
เธอมองผ่าน เซิน หนิงซิน ไปและพูดกับ เป๋ย ฉิง ด้วยใบหน้าขมึงทึงแทน “มาที่ออฟฟิตของฉัน”
เมื่อได้ยินเธอ ใบหน้ามืดมนของ เป๋ย ฉิง ก็บูดบึ้งขึ้นกว่าเดิม
—
ออฟฟิศเงียบจนน่าแปลกใจ
คิว อีไป๋ เปิดคอมพิวเตอร์ของเธออย่างสบายๆ หยิบกาแฟที่ผู้ช่วยฯฮันนำมาให้เธอขึ้นมาแล้วดิ่มมันขณะที่กำลังจัดการกับงานที่ค้างไว้ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
เธอดูผ่อนคลาย
แต่ว่ายิ่งเธอทำตัวแบบนร้มากเท่าไหร่ เป๋ย ฉิง ก็ยิ่งกังวลมากเท่านั้น
บรรยากาศเงียบงันอยู่ซักพักจนกระทั้ง คิว อีไป๋ จัดการกับงานของเธอจนเสร็จเรียบร้อย
เธอเงยหน้าขึ้นมามอง และเห็น เป๋ย ฉิง ยังยืนเงียบอยู่ เธอถอนหายใจแล้วพูด “ไม่มีอะไรที่เธออยากจะบอกฉันเลยหรอ?”
“ค่ะ?” เป๋ย ฉิง ผงะเมื่อได้ยิน ร่างกายของสั่นโดยไม่รู้ตัว แต่เธอก็พยายามรักษาท่าทางของเธอเอาไว้ “มันมี…อะไรที่ฉันต้องบอกประธานคิวด้วยหรอคะ?”
“มันมีพอสมควรเลย” เห็นเธอยังไม่ยอมรับมัน เธอหยุดพูดจาวกวนกับเธอ ก่อนจะหยิบยูเอสบีไดรฟ์ออกมาว่างบนโต๊ะ “ดูมันสิ ดูเหมือนมันจะเป็นของเธอนะ”
ทันทีที่เธอว่าสิ่งนั้นลงบนโต๊ะ ใบหน้าของ เป๋ย ฉิง ก็ซีดลงทันที
“เธอคงจะได้ยินข่าวของประธานหวังแล้ว” คิว อีไป๋ กอดอกแล้วมองมาที่เธอ “ทำข้อมูลภายในของบริษัทรั่วไหล่ แอบร่วมมือกับบริษัทอื่นเพื่อสร้างกำไร….มันสร้างความสุญเสียให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก และตำรวจเองก็เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้แล้ว”
“แต่นี้ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องการจะพูด” คิว อีไป๋ หยุดก่อนจะพูดต่อ “อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในฝ่ายขายในประเทศ ฉันไม่มีอำนาจไปควบคุม ฉันแค่อยากรู้ว่าพวกเขาได้รายชื่อลูกค้าของฝ่ายขายนอกประเทศของเราไปได้ยังไง”
“เพราะงั้นตอนที่กำลังกำลังเก็บกวาดข้าวของของประธานหวัง ฉันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษแล้วก็เจอเจ้านี้”
ขณะที่พูด เธอดันยูเอสบีไดรฟ์ออกมา
ใบหน้าของ เป๋ย ฉิง กลายเป็นสีขาวชีดไปแล้ว
แน่นอนว่าเธอจำยูเอสบีไดรฟ์อันนี้ได้ มันเป็นของเธอ และมันก็มีเนื้อหาข้างในมากมาย
อันที่สำคัญที่สุด….ก็คือรายการที่ คิว อีไป๋ พูดถึง
เธอจำได้ว่ามันเป็นเดือนที่แล้ว ตอนที่ประธานหวังขอไฟล์บางอย่างจากเธอเป็นการส่วนตัว บอกว่ามันเอาไว้สำหรับการเปรียบเทียบข้อมูล
ตอนนั้น เป๋ย ฉิง คิดว่าเขาคงแค่อยากจะเปรียบเทียบผลงานของเขากับ คิว อีไป๋ ถึงแม้เธอจะมีความกังวลอยู่บ้าง แต่พวกมันก็ถูกปัดทิ้งไปด้วยคำพูดหวานเยิ้มจากประธานหวังและผลประโยชน์ที่เขามีให้เธอ เพราะงั้นไม่นานเธอก็ตกลงที่จะเก็บข้อมูลเหล่านั้น
มันมีเอกสารหลายอย่างที่เขาของ ส่วนใหญ่แล้วเป็นของไม่มีประโยชน์อะไร แต่พอมานึกย้อนไปตอนนี้ เขาคงต้องการลดความระมัดระวังของเธอ ของที่สำคัญจริงๆคือรายชื่อ
เธอไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะใช้มันไปเพื่ออะไรแบบนี้
เท้าของ เป๋ย ฉิง อ่อนแรงจนเธอเกือบจะยืนไม่ไหว
ใบหน้าของเธอเหมือนจะร้องไห้แล้วก้าวออกมาด้วยความตื่นตระหนก ขอร้องให้ คิว อีไป๋ เมตตาเธอ
“เธอควรจะรู้สึกโชคดี” คิว อีไป๋ มองเธอ ใบหน้าของเธอเย็นชา “เขาไม่ได้มีโอกาสใช้รายชื่อได้ทัน เพราะงั้นมันไม่มีผลกระทบอะไรกับฝ่ายขายนอกประเทศ”
“แต่มันไม่ได้หมายความเธอจะไม่ต้องรับผิดชอบอะไร”
“ฉันให้ตัวเลือกเธอสองอย่าง จะลาออกเอง หรือให้ฉันจัดการมันให้เธอ”
—
ท้ายที่สุด เป๋ย ฉิง ก็เลือกที่จะขอลาออกเอง
การเลื่อนตำแหน่งสู่หัวหน้าทีมที่เธอพึ่งจะได้รับมานั้นหายไปในไม่กี่วัน และเธอก็สูญเสียงานของเธอไป เป๋ย ฉิง ทำได้แค่กัดฟันแล้วกลื่นมันลงไป
ด้วยความความระส่ำระสาย เธอหยิบยูเอสบีไดรฟ์ของเธอกลับมา ตอนที่เธอกำลังจะขอบคุณ คิว อีไป๋ ที่ไม่ไล่ต้อนเธอมากไปกว่านี้แล้วออกมา เธอก็เห็น คิว อีไป๋ ว่างอะไรบนโต๊ะอีกครั้ง
มันเป็นซองเอกสารที่พองแน่น ดูเหมือนจะอะไรหลายอย่างอยู่ข้างใน
เป๋ย ฉิง ผงะไปแล้วถอยหลังโดยไม่รู้ตัว กลัวว่ามันจะมีหลักฐานอะไรเกี่ยวกับเธออีก
เห็นเธอกลัว คิว อีไป๋ เงียบไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย “เธอไม่ต้องกลัวหรอกนะ มันไม่มีอะไรเกี่ยวกับงานอยู่”
“มันเป็นอะไรที่บริษัทค้นพบโดยบังเอิญตอนตรวจสอบเรื่องของประธานหวัง ฉันคิดว่าเธอควรจะดูมัน”
ขณะที่เธอพูด เธอก็ขยับมือไปเปิดซองเอกสารค่อยๆหยิบรูปภาพออกมาปึกหนึ่ง
เพราะมันถูกถ่ายอย่างลับๆ รูปภาพส่วนใหญ่ถูกถ่ายจากมุมแปลกๆ บางรูปก็ไม่ชัดเลย
แต่ เป๋ย ฉิง ก็สามารถบอกได้ว่าคนในรูปคือประธานหวัง
และข้างๆเขาในแต่ละรูปก็คือผู้หญิงที่ต่างกัน แต่ละคนก็เป็นคนละแนว เป็นคนที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนหรือรู้จักมาก่อน
กลายเป็นว่า….เธอก็แค่ปลาตัวหนึ่งในบ่อของเขา
ตลกดีเนอะ
เป๋ย ฉิง เหม่อลอยอยู่นาน ก่อนจะได้สติ น้ำตาไหล่ออกมาโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเธอหันหน้าหนี คิว อีไป๋ ที่ยังมองเธออยู่และยังยื่นกระดาษชำระมาให้เธอ “ในฐานะเพื่อนร่วมงานที่ทำงานมาด้วยกันหลายปี ฉันคิดว่าฉันควรจะบอกมันให้เธอรู้”
“ใช้หัวของเธอให้มากขึ้น ใช้ใจของเธอเฝ้าสังเกตุให้ดีและ…อย่างฝากความหวังเอาไว้กับคนอื่น”
—
เป๋ย ฉิง ออกมาพร้อมน้ำตา
เสียงสะอึกสะอื้นของเธอนั้นดังมาก และในหน้าของเธอก็บูดบึ่งหน้าเกลียด ทั้งออฟฟิศสามารถได้ยินเธอ
แต่ไม่มีใครออกมาปลอบใจเธอ
ทุกคนมองเธอร้องไห้อย่างเจ็บปวด ยืนขึ้น และออกไปข้างนอก ก่อนจะกลับมาพร้อมกับเอกสารในมือ
ทุกคนเข้าใจทันที เธอคงไปที่ฝ่ายบุคคล
มันคงไม่จำเป็นต้องพูดว่าเธอไปที่นั้นทำไม
เซิน หนิงซิน เป็นคนที่ตกใจมากที่สุด
มันผ่านไปน้อยกว่าครึ่งชั่วโมงหลังจาก เป๋ย ฉิง เข้าไปในออฟฟิศของ คิว อีไป๋ และเมื่อเธอออกมาเธอก็ลาออกด้วยตัวเอง
เกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลานั้นกัน?
คิว อีไป๋ พูดอะไรกับเธอ?
ตอนที่เธอกำลังสับสนพักเที่ยงก็มาถึง
หลังจากลงชื่อออก ทุกคนลุกขึ้นและมุ้งหน้าไปที่โรงอาหารเป็นกลุ่มสองคนหรือสามคน รอบๆเงียบลงอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้แค่เสียงสะอึกสะอื้นของ เป๋ย ฉิง ดังสะท้อนในหูของเธอ
เซิน หนิงซิน ไม่อยากจะอยู่ในพื้นที่เดียวกับเธอสองคน เพราะงั้นเธอเลยเดินไปเคาะประตูออฟฟิศ คิว อีไป๋
ตอนที่เธอเดินเข้าไป เธอเห็นเธอหยิบชุดออกมาจากลิ้นชัก
คงเพราะไม่ได้คิดว่าเธอจะเข้ามา คิว อีไป๋ ผงะไปก่อนจะ โบกมืออย่างรวดเร็ว “ปิดประตู!”
เซิน หนิงซิน รีบปิดประตู
ก่อนที่เธอจะถามด้วยความงุนงง “คุณกำลังทำอะไรอยู่คะประธานคิว?”
“ใช้เวลาพักเที่ยงเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องพัก” เธอพูดก่อนจะพึ่มพำ “กลิ่นน้ำหอมมันไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่
เมื่อได้ยิน เซิน หนิงซิน ก็เข้าใจอย่างรวดเร็ว เธอกำลังพูดถึงกลิ่นน้ำหอมที่ออกมาจากตัวของ เป๋ย ฉิง
ทั้งสองคนคงคุยกันใกล้กันมากจนกลิ่นลอยมาติดอยู่ที่ตัวของเธอ
ดูเหมือนว่า คิว อีไป๋ จะไม่ชอบกลิ่นนั้น
เมื่อคิดแบบนั้น เธอก็นิ่งไปก่อนจะรีบยกแขนขึ้นมาดม
เธอนั่งอยู่ใกล้กับ เป๋ย ฉิง มันคงเลี้ยงไม่ได้ที่จะมีกลิ่นติดมา
ตอนที่เธอกำลังดมอยู่นั้น อยู่ๆ คิว อีไป๋ ก็เงยหน้าขึ้นมา
ทั้งสองคนสบตากัน หลังจากผ่านไปซักพักคนคนนี้ก็เลิกคิ้วขึ้น ริมฝีฝากของเธอกระตุกเหมือนกับว่าเธอกำลังจะหัวเราะออกมาแต่พยายามอดกลั้นเอาไว้ “เซิน หนิงซิน เธอกำลังทำอะไรนะ?”
หลังจากพูดจบเธอก็เอื่อมมือไปหยิบอาจิที่ว่างอยู่บนโต๊ะมาว่างไว้หน้าเธอก็จะเขย่าๆมันเบาๆ
“ทำเหมือนหมาเลย”
เซิน หนิงซิน “…….”
—
สุดท้ายแล้ว เซิน หนิงซิน ก็ไม่มีโอกาสได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากออกไปพร้อมกับเสื้อผ้า คนคนนี้ก็ไม่ได้กลับมาอีกพักใหญ่ๆ เธอกลับมาอีกทีก็ช่วงใกล้หมดเวลาพักเที่ยงแล้ว
เซิน หนิงซิน คิดว่ามันคงมีงานที่ต้องหยุดเอาไว้ก่อนในช่วงหลายวันมานี้ เพราะงั้นเธอคงจะยุ่งอยู่กับการทำงานตลอดทั้งบ่าย
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แล้วมันก็ถึงเวลาเลิกงาน
เซิน หนิงซิน ลงเวลาออกก่อนจะก้มหน้าไปเก็บข้าวของ ตอนที่เธอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเธอก็เห็น คิว อีไป๋ ยังยุ่งกับการทำงานอยู่
คิดว่าเธอคงไม่มีโอกาสได้คุยกับเธอ เซิน หนิงซิน ถอนหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหยิบกระเป๋าของเธอเพื่อจะออกมา
ก่อนที่เธอจะได้ออกจากออฟฟิศโทรศัพท์ในมือของเธอก็ดังขึ้น
เมื่อเปิดวันขึ้นมา ก็พบว่ามีข้อความมาจาก คิว อีไป๋ มันเป็นประโยคสั่นๆ ถามเธอว่า
“เธอกำลังจะหนีจากการเลี้ยงข้าวฉันหรอ?”
อะไรของเธอยะ!
เมื่อเห็นข้อความ เซิน หนิงซิน ก็ยกมุมปากของเธอขึ้น สงสัยยัยเด็กขี้แย่สังเกตุเห็นตอนไหนว่าเธอกำลังจะกลับ
เมื่อรู้ตัวว่าเธอกลับไม่ได้แล้ว เซิน หนิงซิน ก็เดินกลับมา เปิดประตูแล้วเข้าไปในออฟฟิศของเธฮ
แล้วเธอก็เห็นว่าคนคนนี้ปิดคอมพิวเตอร์ของเธอไปแล้วและกำลังลุกขึ้นจากเกาอี้ของเธอ
เธอเตรียมตัวเร็วมาก
เซิน หนิงซิน นิ่งไปก่อนจะถามเธอไปว่า “ประธานคิว คุณอยากกินอะไรคะ?”
เมื่อได้ยินเธอ คิว อีไป๋ ก็ส่งเสียง “หืม” เย็นๆออกมา ก่อนจะพึมพาอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เธอจะเป็นคนเลี้ยงฉัน แต่เธอก็ยังต้องให้หัวหน้าของเธอตัดสินใจอีกหรอ?”
“อะไรก็ได้ถ้าเธอคิดว่ามันอร่อย”
“รับทราบค่ะ รับทราบ” เซิน หนิงซิน รีบตกลงแล้วเดินตามเธอออกไป หยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาเพื่อหาว่ามีร้านดีๆใกล้ๆไหม
สุดท้ายแล้วเธอก็เลือกร้านบาบีคิว
คิว อีไป๋ ออกตัวทันที่ พูดประมาณว่าของแบบบาบีคิวไม่ดีกับสุขภาพเลย
แต่เธอก็ยังขับมาเซราติพาเธอไปที่ร้านนั้น
ดูจากท่าทางของเธอ….เธอดูจะมีความสุขมากๆ
—
ร้านอาหารที่ เซิน หนิงซิน เลือกเป็นร้านบาบีคิวที่แพงที่สุดในละแวกนี้ ที่ๆทั้งอาหารและการตกแต่งต่างก็มีคุณภาพที่ดี
ทั้งร้อยยิ้มก่อนที่จะมากัน เซิน หนิงซิน โทรเข้ามาจองห้องส่วนตัวเอาไว้ เมื่อทั้งสองคนเข้ามาในร้าน พนักงานเสริฟก็พาพวกเธอมาที่ห้องพวกเธอ
เพราะมันเห็นห้องสำหรับสองถึงสี่คน มันไม่ได้มีพื้นที่มากนักในห้องส่วนตัว
ทั้งสองคนนั่งฝั่งตรงข้ามกัน ก่อนจะรีบเตรียมเตาและเปิดมัน ไอร้อนของความกระตือรือร้นล่องลอยอยู่ในอากาศ
มันทำให้เธอรู้สึกจักจี้ที่หัวใจอย่างไม่สามารถอธิบายได้
ประสาทสัมผัสของเธอก็ทำงานเต็มที่ ไม่ว่า คิว อีไป๋ จะหายใจ ขยับตัว และแม้แต่ปฎิกิริยาเล็กๆน้อยๆ ก็เห็นได้ชัดเจน
อยู่ๆหัวใจของเธอก็เต้นรั่ว และ เซิน หนิงซิน ก็ก้มหน้าลง อยู่ๆก็รู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจมาที่นี้
ตอนที่เธอกำลังไม่สบายใจเพราะมัน คิว อีไป๋ ก็พูดขึ้น
เธอเรียกชื่อของเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เซิน หนิงซิน”
เมื่อได้ยินเธอ เซิน หนิงซิน ผงะไป ก่อนจะรีบเงยหน้าแล้วตอบ “คะ?”
ท่าทางของเธอเงอะงะจนเผลอไปโดนกระเป๋าที่ว่างไว้ข้างตัวของเธอจนล้ม
คิว อีไป๋ คงจะกำลังอารมณ์ดี เธอไม่ได้แค่ไม่หยอกล้อเธอกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอถึงกับก้มลงไปหยิบกระเป๋าของเธอขึ้นมาให้ด้วย
ก่อนที่เธอจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็คกระเป๋าก่อนจะส่งมันให้เธอ
ในขณะเดียวกัน เธอก็เปิดปากของเธอและพึมพำด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เธอโดนรังแกหรอ?”
เมื่อได้ยิน เซิน หนิงซิน ก็ตกใจนิดหน่อย
เธอรู้ได้ยังไง?
เกิดความสบสนใจหัวของเธอทันที่ เธอเงยหน้าจ้องมองเข้าไปในดวงตาของ คิว อีไป๋ ก่อนจะสายหน้าหลังจากผ่านไปซักพัก
เธอไม่อยากจะพูดมันออกมา ส่วนหนึ่งเพราะเธอไม่อยากให้ คิว อีไป๋ กังวล
อีกส่วนหนึ่งเพราะ ถ้า คิว อีไป๋ รู้เรื่องที่ เป๋ย ฉิง พูดถึงเธอ เธอคงจะรู้สึกไม่ดี
เรื่องมันเกิดขึ้นไป และเธอก็ไม่ใช่เด็ก มันไม่มีเหตุผลที่จะไปร้องไห้ให้ใครฟัง
อีกอย่างคนคนนี้เป็นเด็กขี้แย่ ถ้าเธอเริ่มร้องให้เพราะเธอไม่มีความสุข มันคงเป็นสถานการณืที่ไม่สามารถควบคุมได้
“…..”
เรอครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานานและเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง คิว อีไป๋ ก็ยังจ้องมองเธออยู่
ความเขินอายพุ่งเข้ามาในหัวใจของเธอ และเธอก็นิ่งไปสักพักก่อนจะยกมือขึ้นมารินน้ำใส่แก้วให้เธอก่อนจะฝืนยิ้ม “กินกันเถอะค่ะ”
“อีกฝ่ายคือ เป๋ย ฉิง ใช่ไหม?” ใครจะไปคิดว่ายัยเด็กขี้แย่นี้จะดื้อดึงต้องการคำตอบจากเธอ “เธอไม่ได้มีปฎิสัมพันธ์อะไรกับเธอในแง่ของการทำงานมากนัก และเธอก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะอดทนกับความยากลำบากไม่ได้ เพราะงั้นเธอคงไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเธอในเรื่องนี้”
“งั้น….เธอตะคอกใส่เธอ? หรือเธอเยาะเย้ยใคร? เจ้ฉาง หวัง ฉี ผู้ช่วยฯฮัน?”
“ฉัน?”
เธอเดาถูก
เซิน หนิงซิน อึ่งจนพูดอะไรไม่ออก
เมื่อเห็นเธอทำท่าตกใจ คิว อีไป๋ ก็รู้ทันทีว่าเธอเดาถูก
ก่อนที่เธอจะส่งเสียง “หืม” ด้วยความภาคภูมิใจ และพูดต่อ “เป็นฉันจริงๆหรอ?”
เซิน หนิงซิน ถอนหายใจ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
เธอกลัวว่ายัยเด็กขี้แย่นี้จะไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีแล้วเริ่มร้องให้ เธอเงียบอยู่พักหนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเพื่อสังเกตุท่าทางของเธอ
แต่ทว่าเธอก็มองอารมณ์ของเธอไม่ออก
คนคนนี้ยังนั่งตัวตรงอยู่บนที่นั่งของเธอ ก่อนจะพูดอย่างเฉยเมย “จริงๆแล้วฉันได้ยินมากจากผู้ช่วยฯฮัน เธอบังเอิญไปเห็นว่พวกเธอสองคนดูจะมีปัญหากันอยู่ เพราะงั้นฉันเลยลองเดาเหตุผลดู”
“เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้” เธอพูดต่อหลังจากผ่านไปซักพัก “เพราะว่ายังไงซะ…มันก็มีคนมากมายที่เวลาลับหลังฉันจะพูดถึงฉันในทางที่ไม่ดี”
“ฉันรู้ดี”
น้ำเสียงของเธอดูจะไม่สนใจ แต่ก็ซ้อนความเสียใจเอาไว้
เซิน หนิงซิน สังเกตุเห็นมันอย่างรวดเร็ว แล้วโพสต์เวย์ปั๋วที่เธอได้อ่านมาก่อนก็ลอยขึ้นมาในหัวของเธอ เธอรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ
เธอไม่สามารถเงียบได้อีกต่อไป
แต่รีบพูดออกไปว่า “มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ”
คิสว อีไป๋ มองเธอด้วยสีหน้าแปลกใจ “อะไรที่ไม่ใช่แบบนั้นหละ”
“สิ่งที่เธอพูดมันไม่จริงเลย” เซิน หนิงซิน ถอนหายใจ เลื่อนสายตาไปประสานกับดวงตาของเธอ และพูด ครั้งนี้น้ำเสียงของเธอหนักแน่น “คำพูดพวกนั้นมันชัดเจนว่าเป็นแค่ข่าวลื่อที่ไม่มีเหตุผลและเป็นการพูดให้ร้าย มันไร้สาระมากๆ”
“เพราะงั้นฉันถึงไม่ยอมเธอ เพราะฉันรู้ว่าคุณเป็นคนยังไง และฉันก็ไม่สามารถโกหกตัวเองได้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหูของ คิว อีไป๋ ก็เริ่มกลายเป็นสีแดง
แก้มของเธอรู้สึกร้อนขึ้น เธอหยิบแก้วขึ้นมาทำเป็นจิบ ก่อนจะเล่นมุกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เด็กฝึกงานที่พึ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่นานแบบเธอจะรู้อะไร?”
ท่าทางของเธอทำให้เธออยากจะขำออกมา
แน่นอนว่าฉันรู้
เซิน หนิงซิน มองเธอโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
ผ่านไปซักพักเธอก็ยิ้มออกมา ก่อนจะหยิบกาน้ำใกล้ๆขึ้นมาเพื่อเติมน้ำให้กับเธอ
ตอนที่เธอกำลังจะบอกให้เธฮกินได้แล้ว คนคนนี้ก็พูดขึ้นมา
เสียงของเธอเบามาก และมันก็ถูกเสียงของบาบีคิวที่กำลังถูกย่างกลบไป เธอเลยฟังมันได้ไม่ค่อยชัด
แต่ เซิน หนิงซิน ก็ยังเข้าใจ เธอพูดว่า “ถ้าเธอเจอปัญหาอะไรอีกในอนาคต บอกฉันได้เลย ไม่ใช่ว่าฉันจะช่วยเธอไม่ได้ซักหน่อย”
จากท่าทางของเธอที่พึมพำมันออกมา เธอคงจะเขิน
“แล้วถ้าอีกฝ่ายเป็นคนที่มีอำนาจมากกว่าคุณหละ?” เซิน หนิงซินถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “คุณจะช่วยฉันยังไงหรอ?”
“เธอกำลังพูดถึงประธานหวังใช่ไหม?” ไม่คิดว่า เซิน หนิงซิน จะได้ยินเธอ คิว อีไป๋ นิ่งไปก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย “ฉันรู้เรื่องของเขากับ เป๋ย ฉิง มานานแล้ว”
“ถ้าเขาสามารถปกป้อง เป๋ย ฉิง ที่ไม่รู้วิธีทำอะไรเลย ทำไมฉันจะปกป้องเธอที่ตั้งใจทำงานไม่ได้หละ?”
ขณะที่พูด เธอก็หยิบน้ำขึ้นมาจิบและเหล่มองเธอ
หลังจากล้างคอเสร็จแล้วเธอก็พูดอะไรบางอย่างออกมาเบาๆ เหมือนกับกำลังแสดงวาทศิลป์
“เซิน หนิงซิน ไม่ใช่ว่าเธอจะดูถูกฉันเกินไปหน่อยหรอ?”
—
คิว อีไป๋ : …ฉันจะปกป้องเธอที่ตั้งใจทำงานไม่ได้หละ?
ผู้แปล : แต่สองคนนั้นเขากุ๊กกิ๊กกันไง แล้วประธานกับซินซิน เป็นอะไรกัน?
คิว อีไป๋ : ….
จริงๆตอนนี้กะจะลงตั้งแต่วันที่ 13 แล้ว แต่ผู้แปลเป็นไข้หวัดใหญ่นอนซมอยู่ทั้งหยุดยาวเลย พอหมดหยุดยาวก็มีงานใหญ่ที่หยุดไม่ได้ฝืนไปทำงานทั้งแบบนั้นทั้งสัปดาห์ ตอนนี้พึ่งจะเริ่มดีขึ้น เป็นสัปดาห์ที่ทรมานมากเลยจริงๆครับ
-A Cup of Owls
Chapters
Comments
- ตอนที่ 30 นี้เป็นการชดเชยให้เธอ ธันวาคม 24, 2023
- ตอนที่ 29 ผู้หญิงที่ดูดี ธันวาคม 23, 2023
- ตอนที่ 28 สมเป็นเธอดี ธันวาคม 16, 2023
- ตอนที่ 27 เกี่ยวก้อยสัญญากันนะ ธันวาคม 9, 2023
- ตอนที่ 26 เป็นอะไรไป ธันวาคม 2, 2023
- ตอนที่ 25 ฉันหวังว่ามันจะช่วยปกป้องเธอ ธันวาคม 2, 2023
- ตอนที่ 24 เธอนอนหลับไหม? พฤศจิกายน 19, 2023
- ตอนที่ 23 ทำให้เธอสบายใจ พฤศจิกายน 1, 2023
- ตอนที่ 22 มองในอีกแง่หนึ่งมันก็พอดีเลยหละ พฤศจิกายน 1, 2023
- ตอนที่ 21 เธอจะดูถูกฉันเกินไปหน่อยนะ ตุลาคม 22, 2023
- ตอนที่ 20 รีบกลับมาเร็วๆ ตุลาคม 22, 2023
- ตอนที่ 19 คุณจะไม่โกรธใช่ไหม? ตุลาคม 22, 2023
- ตอนที่ 18 ชั่วโมงละหนึ่งร้อย กันยายน 24, 2023
- ตอนที่ 17 แค่สองขวบครึ่งเท่านั้นแหละ กันยายน 23, 2023
- ตอนที่ 16 เจ้านี้มันเหมาะกับฉันงั้นหรอ? กันยายน 23, 2023
- ตอนที่ 15 เธอกำลังร้องไห้ กันยายน 12, 2023
- ตอนที่ 14 ฉันยกมันให้เธอแล้วกัน สิงหาคม 28, 2023
- ตอนที่ 13 ฉันแค่ไปเป็นเพื่อนเธอ สิงหาคม 24, 2023
- ตอนที่ 12 มัมเค็บคะคายอู่แล้ว! (ลงแก้) สิงหาคม 23, 2023
- ตอนที่ 11 สุดยอดไปเลยใช่ไหม? สิงหาคม 22, 2023
- ตอนที่ 10 มีแค่เด็กเท่านั้นแหละที่ชอบอะไรแบบนี้ สิงหาคม 19, 2023
- ตอนที่ 9 มันคือ...แผ่นเสริมร้องเท้าเพิ่มความสูง? สิงหาคม 18, 2023
- ตอนที่ 8 ไม่ร้องนะคะ! สิงหาคม 17, 2023
- ตอนที่ 7 ทำให้ตายได้เลยหละ สิงหาคม 17, 2023
- ตอนที่ 6 คิว อีไป๋ เป็นเด็กขี้แย?! สิงหาคม 14, 2023
- ตอนที่ 5 ล้อกันเล่นใช่ไหม? สิงหาคม 13, 2023
- ตอนที่ 4 ไม่ต้องกังวล สิงหาคม 13, 2023
- ตอนที่ 3 ดื่มด้วยกันไหม? สิงหาคม 12, 2023
- ตอนที่ 2 สิงหาคม 12, 2023
- ตอนที่ 1 สิงหาคม 10, 2023
MANGA DISCUSSION