ต้องขอบคุณที่ คิว อีไป๋ แค่พูดเล่นกับเธอ
เมื่อได้เห็นสรหน้าตกตะลึงของ เซิน หนิงซิน คนๆนี้ก็นิ่งไป ก่อนจะหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างหลังของเธอตั้งตรงและมีท่าทางเย็นชา
ดูเหมือนเธอจะจริงจัง
แต่วินาทีต่อมา เซิน หนิงซิน ก็ได้ยินเสียงขำเบาๆ
เธอกำลังหัวเราะเยาะเธอใช่ไหม? แล้วถึงกับต้องแอบหัวเราะเลยหรอ
เซิน หนิงซิน “……” นี้มันมากเกินไปหน่อยนะ
รู้ว่าเธอคงไม่สามารถเถียงกับยัยเด็กขี้แยนี้ได้ เธอแอบถอนหายใจ สุดท้ายแล้วเธอก็ขอบคุณคนตรงหน้า พูดจากใจจริง “ขอบคุณค่ะ ประธาน คิว”
น้ำเสียงของเธอฟังดูรื่นหู เหมือนกันสายลมที่พัดผ่านใบไม้เบาๆด้วยร้อบยิ้ม
เมื่อได้ยิน คิว อีไป๋ ก็นิ่งไป
คนสวนใหญ่เริ่มกลับมากันแล้วและเสียงพวกเขาพูดคุยหัวเราะเฮอากันก็ดังเข้ามา เสียงดังและวุ่นวาย
แต่มันเงียบมากในนี้
เพราะคำพูดของ เซิน หนิงซิน บรรยากาศก็เงียบลงทันที ไม่นานหลังจากนั้นหูของ คิว อีไป๋ ก็เริ่มแดงอย่างควบคุมไม่ได้
“โอเค รีบไปพักผ่อนได้แล้ว” เธอกระแอมเบาๆ โดยไม่รู้ตัวเธอโบกมือของเธอเมื่อน้ำเสียงของเธอเริ่มดุมากขึ้น “เอายาไปด้วย ยิ่งดื่มเร็วเท่าไหนเธอก็จะหายดีเร็วเท่านั้น”
“ถึงตอนนั้นเธอก็จะกลับมาทำงานได้”
เธอพูดต่อด้วยว่า “เซิน หนิงซิน ตอนนี้เธอติดหนี้ฉันแล้วนะ”
ทำไ มถึงน่ารักและเด็กน้อยได้ขนาดนี้นะ
เซิน หนิงซิน มองเธอแล้วอยู่ๆเธอก็อารมณ์ดีขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนที่เธอจะได้เปิดปากเธอก็ยิ้มกว้าง
ก่อนจะรีบหยักหน้าแล้วตอบตกลง “เข้าใจแล้วค่ะ ประธาน คิว”
—
ยาได้ผลดีมาก เซิน หนิงซิน นอนหลับสนิทจนน่าตกใจหลังจากได้กินมัน
เธอไม่จำเป็นต้องกอดอะไรด้วยซ้ำ และเธอก็ไม่มีฝันที่ไม่น่ารื่นรมย์พวกนั้นด้วย
หลังจากตื่นขึ้นเธอก็รู้สึกสดชื่น
และอาจจะแค่คิดไปเอง แต่เธอรู้สึกว่าไข้หวัดของเธอดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้เยอะ
เธอนั่งบิดขี้เกียจไปมาอยู่บนเตียง เซิน หนิงซิน หยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาเพื่อดูเวลา เมื่อจอเปิดขึ้นเธอก็ต้องตกใจ
เธอหลับไปโดยไม่รู้ตัวถึง 4 ชั่วโมง…
มันถึงเลยเวลาเลิกงานแล้ว!
เซิน หนิงซิน ตื่นตระหนก รีบลุกไปล้างหน้าแล้วรีบตรงกลับไปที่ออฟฟิตโดยไม่ลังเล
เมื่อเธอเดินเข้าไป รอบข้างก็เงียบจนได้ยินเสียงเข็มตก
“….”
ทุกคนได้กลับไปหมดแล้วอย่างที่คิด
ทันใดนั้นความตื่นตระหนกและความกระวนกระวายก็ก่อขึ้นในจิตใจของเธอ เธอยืนอยู่ที่ประตูด้วยความสับสนอยู่เงียบๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไปทางออฟฟิตของ คิว อีไป๋ โดยไม่รู้ตัว
มันก็ว่างเปล่าเหมือนกัน
เธอกลับบ้านตรงเวลาเป็นกับเขาเหมือนกัน
ดูเหมือนว่ามันจะเหลือเธอแค่คนเดียวในออฟฟิศจริงๆ
จำได้ว่าเธอมีงานที่ยังทำไม่เสร็จ เซิน หนิงซิน ไม่ลังเลที่จะรีบกลับไปที่โต๊ะทำงานของเธอ
เธอเปิดคอมพิวเตอร์และเปิดวีแชทเพื่อตรวจสอบว่าเธอต้องทำอะไรให้เสร็จบ้าง ก่อนที่เธอจะได้นั่งลงเธอก็มองเห็นแฟ้มเอกสารที่ไม่ได้มีอยู่มาก่อนว่างอยู่บนโต๊ะ
เมื่อเปิดขึ้นมา ข้างในนั้นมีฟอร์มเอกสารที่ เจ้ฉาง ส่งให้เธอเมื่อเช้า เมื่อเธอตรวจสอบมันเธอก็พบว่าเอกสารทั้งหมดได้รับการยินยันและใบรับรองแหล่งที่มาก็ถูกกรอกลงไปแล้ว
แม้แต่รายการขนส่งล่าสุดก็ถูกเขียนลงไปแล้ว
หรือว่า….. คิว อีไป๋ เป็นคนทำพวกมัน?
เซิน หนิงซิน หยุดแล้วยกเอกสารทั้งหมดขึ้น อย่างที่คิด เธอเจอโน๊ตที่ คิว อีไป๋ ทิ้งไว้ให้เธอ
“ฉันไม่มีอะไรจะทำ ฉันเลยช่วยเธอทำพวกมันให้เสร็จ ไม่ต้องขอบคุณหรอกนะ”
มันไม่มีชื่อเขียนเอาไว้ ดูเหมือนว่าประธาน คิว ของพวกเรานั้นไม่ชอบทิ้งชื่อไว้เวลาทำความดี
แต่แค่กวาดตามอง เซิน หนิงซิน ก็รู้แล้วว่ามันคือลายมือของเธอ
เมื่อเธอรู้เรื่องนี้ ความอบอุ่นก็ไหล่เข้ามาในหัวใจของเซิน หนิงซิน
เธอหยิบโน๊ตนั้นขึ้นมาและดูอย่างระมัดระวัง ท่ายที่สุดแล้วเธอก็ทิ้งมันไม่ลงแล้วแปะมันไว้ที่ข้างคอมพิวเตอร์ของเธอแทน
ริมฝีปากของเธอยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว และเธอคิดจากใจจริงว่าถ้าเธอมีเวลา เธอต้องเลี้ยงข้าวยัยเด็กขี้แยนี้ให้ได้
เพราะว่า….เธอติดหนี้เธอครั้งใหญ่เลยหละ~
—
คำคืนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
วันต่อมา อาการของ เซิน หนิงซิน ก็ดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มาก คิดถึงความช่วยเหลือของ คิว อีไป๋ เมื่อคืน เธอตื่นเช้ากว่าปกติเพื่อไปซื้อขนมพายชั้นที่เธอโปรดปราน
แต่เธอไม่ได้ซื้อมาเยอะ กลัวว่าเด็กขี้แยคนนั้นจะกินเยอะเกินไปแล้วปวดฟันอีก
ตอนที่เธอคิดว่าจะบอกเธอให้กินน้อยลง เธอก็เดินขึ้นรถโดยสาร รถโดยสารสายไปมาตลอดทางและก็มาถึงบริษัทอย่างรวดเร็ว
เธอใช้เวลาในการซื้อขนมพายชั้นไปพอสมควร เพราะงั้นคนส่วนใหญ่เลยมาถึงออฟฟิศแล้ว เธอลงเวลาเข้างานและรีบเดินไปที่โต๊ะทำงานของเธอ เมื่อเงยหน้าขึ้นเธอก็พบว่า คิว อีไป๋ ไม่อยู่
บางที่เธอคงจะออกไปทำอะไรข้างนอกวันนี้
เซิน หนิงซิน จองไปที่เก้าอี้ที่ว่างเปล่าอยู่ซักพัก แต่ไม่ได้อะไรมากนั้น รีบกลับไปทำงานอย่างขยันขันแข็ง
มันก็ยังคงเป็ยวันที่วุ่นวาย
เจ้ฉาง ที่เดินทางไปทำธุรกิจมาหลายวันติดกันได้กลับมาแล้ว เธอสามารถเซ็นสัญหาซื้อขายได้หลายสัญญา เซิน หนิงซิน ทำสัญญาฯ เอกสารการผลิด และบรรจุภัณฑ์ แล้วเธอก็ยุ่งตลอดทั้งเช้า
เธอเงยหน้าขึ้นมาอีกที คิว อีไป๋ ก็ยังไม่มา
เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย พอถึงเวลาว่างเธอเลยถาม เจ้ฉางว่า คิว อีไป๋ หายไปไหน
“เธอคงไปที่โรงงาน” เจ้ฉาง บอก “ฉันเจอผู้ช่วยฯ ฮั๋น ตอนกำลังมาที่นี้แล้วเธอก็บอกฉัน”
“ดูเหมือนว่า รองประธาน หู่ รองประธาน จาง และ ประธานหวัง จากฝั่งจัดซท้อในประเทศก็ไปด้วยเหมือนกัน พวกเขาต้องมีเรื่องสำคัญและไปประชุมกัน”
“เข้าใจแล้วค่ะ” เซิน หนิงซินพยักหน้าตอบ ขอบคุณ เจ้ฉางทำหรับคำตอบของเธอ
แล้วเธอก็เหล่มองขนมพายชั้นที่ว่างอยู่บนโต๊ะก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีโอกาศเอามันให้เธอวันนี้
สงสัยว่าเธอต้องแบ่งมันให้กับทุกคนแล้วสิ
—
มันไม่ได้ยุ่งมากนักในช่วงบ่าย
หลังจากทำงานทั้งหมดเสร็จ เซิน หนิงซิน ก็หยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา
เธอกดเข้าไปที่เวย์ปั๋วของ คิว อีไป๋ โดยไม่รู้ตัว แล้วพบว่าเธอยังไม่ได้เปลี่ยนโพสต์ปักหมุดเลย มันยังคงเป็นถุงน้ำร้อนรูปหมูที่มีโน๊ตที่เขียนชื่อของเธอแป๊ะอยู่ มันไม่มีอะไรใหม่เมื่อเธอเลื่อนลงมา มันยังคงเป็นโพสต์ที่เธอเห็นมามากกว่า 800 ครั้ง
แนะนำสวนสนุก ปวดฟันเพราะกินช็อกโกแลตมากเกินไป เรื่องน่าอายเพราะแผ่นเสริมร้องเท้าเพิ่มความสูง แล้วก็ความเด็กน้อยและความน่ารักของน้องหมาที่ยืนต่อแถวกัน…
เหมือนกับพวกมันมีเสียง แม้ว่าจะได้มองแค่ข้อความ เซิน หนิงซิน ก็สามารถจิตนาการ ใบหน้าของ คิว อีไป๋ ที่อีกฝั่งหนึ่งของโทรศัพท์ได้ สีหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยความหยิ่งยโสหรือไม่ก็ความตื่นเต้น
เธอหัวเราะออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
หลังจากนั้น ความรู้สึกอิ่มเอมใจก็เอ่อล้นออกมาจากก้นบึงของหัวใจเธอ
มันไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นเวย์ปั๋วของ คิว อีไป๋ มาก่อน หรือไม่ใช่ว่าเธอเข้าใจ คิว อีไป๋ แค่ผิวเผินเท่านั้น
ในความรู้สึกของเธอ คนๆนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีสุขบ่อยๆในอดีต
เนื้อหาในเวย์ปั๋วของเธอไม่ได้น่าตื่นเต้นเหมือนตอนนี้ เมื่อเลื่อนลงไปพวกมันส่วนใหญ่คือเธอที่กำลังร้องไห้
“วันนี้ฉันบังเอิญได้ยินเพื่อนร่วมงานนิทาฉันลับหลังด้วย”
“xxxxx กลับมาจากทำธุกิจแล้วซื้อของฝากมาให้ทุกคน แต่ไม่เห็นมีของฉันเลย”
“วันก่อนเมื่อว่าน ฉันล้มตอนที่จะออกจากที่ทำงาน มันเจ็บเหมือนกำลังจะตายเลย แม้ว่าฉันจะไม่เสียหน้าเพราะไม่มีใครอยู่ แต่ก็ไม่มีใครมาปลอบฉันเหมือนกัน ฉันเลยทำได้แค่ร้องไห้อยู่เงียบๆ”
มันมีโพสต์แบบนี้เยอะมาก และนอกจากความรู้สึกแปลกใจแล้ว เซิน หนิงซิน ก็รู้สึกปวดในหัวใจ
เพราะงั้นแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะทำเป็นเฉยเมยเมื่อได้เจออะไรเกี่ยวกับ คิว อีไป๋
คนเรามักจะคิดมากเกินไปเวลาว่างๆ
ตอนนั้นเอง เวลาพักพักเที่ยงก็กำลังจะหมดลง เซิน หนิงซิน ลงเวลาทำงานแล้วเก็บหยิบแก้วไปเติมกาแฟ
ตอนที่เธอกำลังจะลุกขึ้นนั้นเอง ใครบางคนที่อยู่ด้านหลังก็เรียกเธอ
เมื่อเธอหันไปมอง เธอก็เห็น เป๋ย ฉิง ยิ้มให้เธอจนริมฝีปากของเธอโค้งงอ
คนๆนี้แต่งตัวได้ดีมากวันนี้ เสื้อโค๊ทสีส้มอมเหลืองอ่อนคลุมชุดเดรสสีอ่อนยี่ห้อดังที่เธอส่วมอยู่ ผมยาวของเธอผาดอยู่ที่หัวไหล่ทั้งสองข้างและการแต่งหน้าบางๆทำให้เธอดูเรียบง่ายและบริสุทธิ์
สีทั้งหมดนั้นให้ความรู้สึกอ่อนโยน และการแต่งหน้าและทรงผมเองก็ให้ความรู้สึกแบบนั้น แต่ เซิน หนิงซิน อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามีอะไรไม่เข้ากัน
แต่เธอไม่ได้แสดงมันออกมา และพูดไปว่า “มีอะไรหรอคะ?”
“ขนมที่ฉันสั่งมาส่งแล้ว” เป๋ย ฉิง เหล่มองกล่องขนมพายชั้นบนโต๊ะของเธอโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะรีบยิ้ม
“ฉันซื้อมาเยอะไปหน่อย ฉันเลยถือมันคนเดียวไม่ไหว ฉันขอรบกวนเธอช่วยลงไปเอากับฉันหนอ่ยได้ไหม?”
เหมือนเธอกลัวว่า เซิน หนิงซิน จะปฏิเสธเธอรีบพูดต่อว่า “ฉันซื้อมาให้ทุกคนเลย เธอช่วยฉัน ใช่ไหม?~”
เธอพูดประโยคนั้นเสียงดัง ทำให้หลายคนได้ยินมัน
ถ้าเธอปฏิเสธตอนนี้ คนอื่นจะคิดว่าเธอไม่มีมารยาท
แล้ว เซิน หนิงซิน ก็ตอบ ได้
—
ลิฟต์มาถึงชั้นล่างสุดในที่สุด
มันไม่มีแดดและลมที่พัดมาก็เย็นสบาย หลังจากรับขนมมาแล้ว เป๋ย ฉิง ไม่อยากจะกลับไปทันทีเธอเลยก้าวเท้าของเธอช้าลง
เธอถึงกับเริ่มหาเรื่องคุยขณะกำลังเดิน พูดคุยกับ เซิน หนิงซิน เกี่ยวกับเรื่องงาน
เซิน หนิงซิน ไม่อยากจะมีปฏิสัมพันธ์อะไรกับเธอมาก และความไม่ใส่ใจในการตอบสนองของเธอนั้นชัดเจนมาก
แต่ดูเหมือน เป๋ย ฉิง จะไม่สนใจ ยังคงพูดต่อไปอย่างไม่จบสิ้น เริ่มจากเรื่องที่โรงงาน ไปถึงฝ่ายขายภายในประเทศ จากฝ่ายขายภายในประเทศไปถึงฝ่ายขายภายนอกประเทศ
ในที่สุดเธอก็พูดเรื่องของ คิว อีไป๋ เสียงของเธอเบาลงอย่างช่วยไม่ได้ และเหมือนกับกำลังแลกเปลี่ยนความลับ เธอบอกว่า “ประธาน คิว ไปที่โรงงานบ่อยมากเลยช่วงนี้”
“จริงหรอ?” เซิน หนิงซิน ตอบ “แต่มันก็ปกติไม่ใช่หรอ?”
“ไม่ใช่หรอก” เป๋ย ฉิง เหล่มองเธอ ก่อนจะยกมือขึ้นมาม้วนผมของเธอโดยไม่รู้ตัว น้ำเสียงของเธอนุ่มนวลและอ่อนโยนเมื่อเธอพูด “มันไม่ได้บ่อยขนาดนี้มาก่อน เธอพึ่งจะมาไม่นานทำให้เธอไม่รู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติ”
“แต่ฉันได้ยินมาว่าพักหลังมานี้ประธาน คิว ของเรา และ หัวหน้าของเราประธาน เฉิน เริ่มจะสนิทกัน ฉันพนันเลยว่าเหตุผลที่เธอเป็นตอนนี้….”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอก็รู้สึกเจ็บที่เท้าของเธอ
เมื่อมองลงไป ถึงเครื่องดื่มที่ เซิน หนิงซิน ถืออยู่นั้นได้หล่นลงมาได้ยังไงก็ไม่รู้และมันก็ทับเท้าของเธออย่างพอดิบพอดี
“ทำอะไรของเธอเนี้ย!” ความเจ็บปวดแพร่ขึ้นมาจากเท้าของเธออย่างรวดเร็ว เป๋ย ฉิง กรีดร้อง กระโดนโหย่งๆ ขาเดียวอยู่ซักพัก “มันเจ็บมากเลย!”
“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ” เซิน หนิงซินของโทษทันทีที่ได้ยิน “มือฉันลื่น”
“มันเจ็บหนักไหม?” เธอรีบถาม “ฉันขอโ?ษจริงๆนะคะ ฉันถือมันไว้ไม่ดี ต้องขอโทษจริงๆที่มันหล่นใส่คุณ”
ท่าทางของเธอนั้นดีมาก
ตอนที่เธอกรีดร้อง มีคนหลายคนมองมา เซิน หนิงซิน เองก็ขอโทษอย่างจริงใจ มันจะดูไม่ดีถ้าเธอโกรธ
เธอเงียบไปซักพัก สุดท้ายแล้วเธอก็โบกมือหัวสีหน้าเย็นชา “ช่างมันเถอะ”
“ฉันพูดถึงไหนแล้วนะ?” เป๋ย ฉิง ก้าวออกไปไม่กี่ก้าว ก่อนจะพูดต่อ “โอ๋ ใช่ ฉันได้มาว่าเมื่อสองวันก่อนประธาน คิวของเรา….”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอก็รู้สึกเจ็บที่เท้าของเธออีกครั้ง
เธอเงยหน้ามอง และ เซิน หนิงซิน ก็ยืนอยู่ตรงนั้น มองมาที่เธอด้วยสายตาขอโทษขอโผย
เธอลอกเลียนน้ำเสียงของเธอแล้วขอโทษเธอด้วยความเสียใจ “โอ ฉันขอโทษจริงๆนะคะ ฉันถือมันไม่ดีอีกแล้ว ต้องขอโทษด้วย”
“คุณจะไม่โกรธใช่ไหม?”
—
ซินซิน : กล้ามานินทาเด็กขี้แยของฉันงั้นหรอ?
-A Cup of Owls
MANGA DISCUSSION