เซิน หนิงซิน จงใจให้เวลา คิว อีไป๋ นิดหน่อยเพื่อที่จะจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง
วันนี้อากาศกำลังดีเลย เพราะงั้นเธอเลยยืนรับลม อยู่ข้างหน้าต่างโดยถือกล่องข้าวไว้ในมือหลังจากผ่านไปซักพัก เธอคิดว่ามันคงพอแล้วและกลับไปที่ออฟฟิศ
(จริงๆแปลว่า ‘วันนี้อากาศดี’ แต่คนแปลอดไม่ได้…)
เมื่อเธอเข้ามา คิว อีไป๋ ก็กลับมาเป็นปกติแล้วและนั่งกดคีย์บอร์ดอยู่ตรงที่เดิม
แต่ขอบตาของเธอก็ยังแดงอยู่ และริมฝีปากของเธอก็ตกลงโดยไม่รู้ตัว เธอกดถุงน้ำร้อนที่เธอทำตกเมื่อเช้าไว้ที่ท้องน้อยของเธอ
เธอดูทรมาน
มันคงจะยิ่งแย่กว่านี้ถ้าเธอไม่มีอะไรกิน
เซิน หนิงซิน มองเธอ และหลังจากนั้นก็ยืนเท้าของเธอออกไปเขี่ยถังขยะที่เต็มไปด้วยกระดาษชิดชูเข้าไปด้านในมากขึ้น กลัวว่าคนอื่นจะมาเห็นพวกมัน
“ประธาน คิว” หลังจากนั้น เธอยิ้มและว่างกล่องข้าวลงบนโต๊ะ ดวงตาของเธอส่องประกาย
“มากินข้าวกันค่ะ”
“อืม” คิว อีไป๋ มองเธอ พยักหน้าและขอบคุณเธอ
หลังจากนั้น เธอก็ไม่เคลื่อนไหวอีก
เซิน หนิงซิน รออยู่นานแต่เธอก็ไม่ขยับตัวเพื่อกินเลย เธอพบว่าคนคนนี้เริ่มจะจัดเอกสารบนโต๊ะแทน
“……”
“…..?”
เธองุนงงนิดหน่อย ไม่ใช่ว่าเธอบอกว่าพวกเธอจะกินข้าวด้วยกันหรอตอนคุยโทรศัพท์หรอ? ทำไม คิว อีไป๋ ถึงเมินเธอแล้วหละ?
เธอแค่กำลังเก็ทอยู่หรือเธอไม่อยากกินข้าวด้วยกันกับเธอนะ?
สถานการณ์ตอนนี้มันค้อนข้างจะอึดอัดใจ
เซิน หนิงซิน กระพริบตาปริบๆ และเฝ้ามองเธออยู่ซักพัก ไตร่ตรองว่าเธอควรจะถามออกไปดีไหม
แต่ก่อนที่เธอจะได้คิดออกว่าจะพูดอะไร คิว อีไป๋ ก็จัดเอกสารทั้งหมดเสร็จแล้ว
หลังจากนั้น เธอก็เงยหน้ามาทาง เซิน หนิงซิน เธอกระแอมเบาๆ แล้วชี้ไปที่มุมกำแพงด้วยใบหน้าเรียบเฉย
เซิน หนิงซิน รีบหันหน้ามองแล้วเธอก็เห็นเก้าอี้พับสีขาววางอยู่ตรงนั้น
“รีบเอาเก้าอี้มานั่งสิ” เธอได้ยิน คิว อีไป๋ บอกอาจจะเพราะรู้สึกเขินน้ำเสียงของเธอนั้นเบาและอู้อี้ “ฉันเหนื่อยกับการเก็บของแล้วบนโต๊ะแล้ว เธอต้องให้ฉันพาเธอนั่งด้วยหรอ?”
เมื่อได้ยิน เซิน หนิงซิน ก็จำได้ว่าเธอได้บอกให้เธอเก็บของด้วยตอนคุยโทรศัพท์
ความจริงแล้ว เธอตั้งใจจะให้ คิว อีไป๋ ปรับอารมณ์ แต่เธอไม่ได้คิดว่าเธอจะเข้าใจผิดและเริ่มเก็บของบนโต๊ะจริงๆ
ยัยเด็กขี้แย่คนนี้ทำตัวดีจริงๆวันนี้ อ่า
อยู่ๆเธอก็รู้สึกพึงพอใจขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ เซิน หนิงซิน ไม่ได้คิดอะไรอีก และเดินไปหยิบเก้าอี้มานั่งตรงข้ามกับเธออย่างรวดเร็ว
นี้เป็นครั้งแรกที่เธอทั้งสองคนได้นั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้
โต๊ะของ คิว อีไป๋ นั้นอยู่ข้างหน้าต่างอากาศกำลังดีแสงอาทิตย์ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง
รวมกับกลิ่นหอมที่ลอยผ่านมาในอากาศ ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างมันเป็นบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกจักจี้หัวใจ
เซิน หนิงซิน ค่อยๆแกะกล่องข้าวอย่างเบามือ เธอเงยหน้าขึ้นเพื่อดูสีหน้าของ คิว อีไป๋ โดยไม่รู้ตัว
เธอทำตัวดีมากๆ เธอคนที่ปกติจะทำตัวดุดันกำลังนั่งอยู่เฉยๆอย่างเชื่อฟัง เฝ้ารออาหารเที่ยงของเธอ ดวงตาของเธอนั้นจ้องมองไปที่กล้องข้าวอย่างจดจ่อในขณะที่เธอเม้มปากด้วยความคาดหวัง
เหมือนกันเด็กอนุบาล
เวลารับมือกับเด็กแบบนี้ เธอควรจะอ่อนโยนเข้าไว้
โดยเฉพาะกับเธอที่พึ่งจะร้องไห้มา
คิดแบบนั้น เซิน หนิงซิน เปิดกล่องข้าว ว่างตะเกียบบนกล่องแล้วส่งให้ คิว อีไป๋
หลังจากนั้นเธอก็ยื่นแอปเปิ่ลให้ด้วย
เหมือนกับดูและเด็กอนุบาล บอกกับเธอ เธอควรกินผลไม้บ่อยๆเพื่อเพิ่มวิตามิน
เธอพูดเยอะมากในครั้งเดียว
มุมปากของเธอยกขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ดวงตาเมล็ดซิ่งของเธอโค้งงอเหมือนจันทร์เสี้ยว ร้อยยิมของเธอนั้นหวานเยิ้ม
คิว อีไป๋จ้องมองเธออยู่ซักพัก ก่อนจะเลื่อนสายตากลับหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเริ่มกิน
ดวงตาของเธอส่องประกายด้วยความสุขอยู่ครูหนึ่ง ก่อนจะตอบเบาๆว่า “โอ๋”
—
หลังจากมื้อเที่ยง คิว อีไป๋ ก็กลับไปจัดการงานเอกสาร
ผู้ช่วยฯ ฮั๋น ออกไปทำธุระวันนี้และกลัวว่าจะไม่มีใครดูแลยัยเด็กขี้แยนี้ เซิน หนิงซิน เลยเสนอตัวช่วยเหลือเธอเท่าที่เธอสามารถทำได้
เธอเริ่มจากนำแก้วไปที่ห้องพักเบรกแล้วเติมกาแฟร้อนๆสำหรับเธอ ก่อนจะเอาถุงน้ำร้อนของเธอไปเปลี่ยนน้ำ
เธอบอกได้เลยว่า คิว อีไป๋ เป็นคนประเภทที่ไม่ค่อยดูแลตัวเองเท่าไหร ในเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวัน
ตอนที่อยู่ในลานจอดรถมันมืดมาก เธอเลยเห็นแค่ลายบนถุงน้ำร้อนและคิดว่ามันยังอยู่ในสภาพที่ดี
แต่ในควาเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย เธอพบว่ามันเก่ามากแล้วไม่ใช่แค่ลายของมันจางไปเยอะแล้ว แม้แต่ช่องใส่น้ำก็เป็นแบบสมัยก่อน
ปากถุงนั้นเล็กมากทำให้เติมน้ำยาก ถ้าใส่น้ำครั้งเดียวมากเกินไปจะทำให้น้ำกระเดนออกมาได้ ทำให้โดนลวกง่ายมาก
เซิน หนิงซิน โดนน้ำร้อนลวกมือไปหลายครั้งติดๆกันจนเธอเริ่มหงุดหงิดแล้วอยากจะเปลี่ยนมันให้จบๆไป
คิดแบบนั้นได้ เธอก็ทำมันเลย
เธอจำได้ว่าครั้งก่อนที่ออกไปซื้อของกับ เหมิง เหย้า เธอซื้อของมาเยอะมาก หนึ่งในนั้นก็คือถุงน้ำร้อนมันเป็นแบบที่สามารถพูกไว้กับเอวได้เลยหรือใส่มือเข้าไปได้
เธอกับ เหมิง เหย้า ซื้อมาคนละอัน มันเป็นช่วงวันหยุดยาว พนักงานที่จุดขายเลยห่อมันไว้ด้วยกระดาษห่อแบบที่ดูเป็นพิธีการมากๆ ไม่ใช่แค่มันถูกใส่ไว้ในกล่องเล็กๆ มันยังถูกห่อและติดริบบิ้นด้วย
แต่เธอลืมเอามันออกมาใช้ เธอเลยเก็บมันไว้แบบนั้น
หลังจากกลับบ้าน เซิน หนิงซิน หามันอยู่นานก่อนจะเจอมันในตู้เล็กๆของเธอ
เธอเป็นคนที่ค้อนข้างจุกจิกเวลาเก็บของ ทำให้ถึงแม้จะผ่านมานานแล้ว กล่องก็ไม่มีรอบเลยแม้แต่น้อย แม้แต่ริบบิ้นก็ยังติดอยู่อย่างสวยงาม
มันยังดูดีเหมาะที่จะนำไปเป็นของขวัญ
เซิน หนิงซิน กลัวว่าเธอจะทำให้ริบบิ้นกลับไปดูเหมือนซื้อมาใหม่ๆไม่ได้ เธอเลยไม่ได้เปิดมันขึ้นมาดู
ยังไงก็ตามเธอยังจำลายได้ มันคล้ายๆกับถุงน้ำร้อนของ คิว อีไป๋ ที่มีสตรอว์เบอร์รี่ปักอยู่
ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็ดูเหมาะกับยัยเด็กขี้แย่มาก
—
ค่ำคืนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เช้าวันต่อมา เซิน หนิงซิน นำกล่องของขวัญไปว่างไว้บนโต๊ะของ คิว อีไป๋ บอกให้เธอลองเปิดมันดู
กลัวว่าเธอจะไม่รับมัน เธอเพิ่มคำพูดไปอีกนิดหน่อย “ประธาน คิว ฉันเห็นเจ้านี้เมื่อคินหลังจากเลิกงานแล้วคิดว่าคุณน่าจะได้ใช้มัน ฉันเลยซื้อมันมาค่ะ”
เมื่อได้ยิน อย่างที่คิด เด็กขี้แย่หันหน้ามามองด้วยความสนใจ แต่ก็ยังเก็ทหน้าแล้วพูด “ทำไมอยู่ๆถึงคิดจะซื้อของขวัญให้ฉันกัน เก็บมันกลับไปเถอะ”
“ฉันก็พูดได้ไม่เต็มปากว่ามันเป็นของขวัญ” เซิน หนิงซิน ไม่สนใจประโยคสุดท้ายของเธอ และรีบพูด “มันเป็นแค่ถุงน้ำร้อน แบบที่ใช้งานได้สะดวกกว่าแบบที่คุณใช้อยู่ตอนนี้”
เธอคงไม่ได้คาดคิดว่า เซิน หนิงซิน จะใส่ใจเธอแบบนั้น
คิว อีไป๋ หยุดกดแป้นคีย์บอร์ด เธอดูละสับสนเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับมาหลักจากผ่านไปซักพัก
“ก็ได้” เธอตอบ ใบหูของเธอเริ่มแดง
เธอใช้เท้าเหยียบพื้นแล้วเลื่อนเก้าอี้ถอยหลังเล็กน้อย และพยายามซ้อนความเขินของเธอ เธอกอดอกเพื่อให้ความรู้สึกเหมือนคนที่อยู่สูงกว่า “มันดูเป็นยังไง? เปิดให้ฉันดูหน่อยสิ”
หยิ่งยโสอีกแล้ว เห้อ ประธาน คิว
เธอสามารถแกะกล่องอาหารกลางวันเมื่อวานได้ แต่ตอนนี้เธอไม่แม้แต่จะขยับมือ
เซิน หนิงซิน แอบถอนหายใจข้างใน และเพราะว่าเธอขี้เกียจจะเถียงกับเด็กขี้แยนี้ เธอเลยเลือกที่จะเป็นคนใจดี
“มันดูสวยมาก ฉันคิดว่ามันเหมาะกับคุณเลย” สังเกตุเห็น สายตาอันร้อนแรงของ คิว อีไป๋ เซิน หนิงซิน อธิบายขณะที่กำลังแกะกล่อง “มันเป็นลายคล้ายๆกับแบบที่คุณใช้….”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอก็หยุดไปเมื่อเปิดกล่องขึ้น
ร้อยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งค้างทันที
สีหน้าของเธอดูแปลกๆ
คิว อีไป๋ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และเมื่อเธอไม่ได้รับคำตอบกลังจากผ่านไปซักพัก เธอก็ลุกขึ้นเพื่อดูด้วยตัวเอง “มันคืออะไร? ทำไมเธอไม่พูดให้จบ…”
ก่อนที่เธอจะได้เดินเข้ามาดู เซิน หนิงซิน รีบยื่นมือออกไปปิดกล่องอีกครั้ง
คิว อีไป๋ “?”
เห็นถึงความงุนงงในดวงตาของเธอ เซิน หนิงซิน รู้สึกผิดขึ้นมา “ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่เห็นว่าฉันเอาของมาผิดตอนออกมาจากบ้านเมื่อเช้า มันไม่มีถุงน้ำร้อนข้างใน”
“แล้วมันคืออะไร?” คิว อีไป๋ ไม่เชื่อเธอ และรีบเดินเข้าไปหาเธออีกครั้ง “ที่กล่องจะมีเขียนอยู่เลยว่าถุงน้ำร้อน”
และคงเพราะเธอสังเกตุเห็นว่าเธอดูจะไม่อยากให้เธอดูมากๆ เธอเลยถามต่ออย่างไม่พอใจ “ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากเอามันให้ฉันแล้ว ใช่ไหม?”
หลังจากพูดจบ เธอก็เริ่มโกรธ
ขณะที่คิด ความรู้สึกปวดจากท้องน้อยกทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น เธอเลยรีบยืนมืออกไปเปิดฝากล่องขึ้น “ไหนๆเธอก็เอามาแล้ว เธอควรเปิดมันให้ฉันเห็นหน่อยก็ยังดี”
เซิน หนิงซิน หยุดเธอไม่ทัน
ฝานั้นค้านข้างจะแน่นอนการเปิดมันอย่างรวดเร็วทำให้กล่องทั้งกล่องล้มลงมา
เมื่อเห็นแบบนั้น คิว อีไป๋ ก็รีบเดินเข้าไปดูว่าอะไรอยู่ข้างใน แล้วเธอก็พบว่าของที่อยู่ข้างในนั้นคือถุงน้ำร้อนจริงๆ
ด้านหลังของมันเงยขึ้นมา โดยมีช่องสำหรับเสียบสายชาร์ตรูปหัวใจติดอยู่
เป็นอย่างที่เธอคิด คนๆนี้คงเสียใจที่คิดจะเอามันให้เธอและไม่อยากจะเอามันให้เธอแล้ว
คิว อีไป๋ นั้นโกรธ และไม่พอใจมากๆ หลังจากส่งเสียง “หึ” สองครั้งในหัวของเธอ เธอก็ยืนมือไปหยิบถุงน้ำร้อนขึ้นมา
ตอนแรกเธอแค่อยากจะดูว่ามันสวยแต่ไหน เซิน หนิงซิน เลยเปลี่ยนใจในเวลาสั่นๆแบบนั้นแต่เมื่อเธอหลิกมันขึ้นมาดู เธอก็อึ่งจนลืมขยับตัว
ที่ด้านหน้ามันมีลายหัวหมูสีชมพูที่กำลังทำหน้าตลกๆปักอยู่
ตาของมันเป็นแบบที่ขยับไปมาได้ ไม่ว่าเธอจะหันมันยังไง มันก็ยังมองเธอด้วยสายตาตลกๆนั้น
เหมือนสัตว์ประหลาด
“…..”
บรรยากาศเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที
หลังจากผ่านไปซักพัก คิว อีไป๋ ก็เงยหน้าขึ้นแล้วถามเธออย่างไม่ค่อยเชื่อ “เธอคิดว่ามันดูสวยงั้นหรอ?”
“แล้วเธอก็คิดว่าเจ้านี้มันเหมาะกับฉันงั้นหรอ??”
—
RIP ซินซิน
คนจีนจะใช้ถุงน้ำร้อนช่วยเวลามีประจำเดือน หรือปวดท้อง คนไทยอาจจะไม่ชินเพราะบ้านเราแม้งโครตร้อน(เลยโว๊ย) ด้วยความนิยมนั้นบริษัทหลายๆเจ้าเลยผลิตแบบที่เป็นลายน่ารักๆออกมาเจาะกลุ่มผู้หญิงนั้นเอง รุ่นใหม่ๆจะเป็นแบบอุ่นร้อนในตัวด้วยจะได้ไม่ต้องเติมน้ำร้อนบ่อยๆครับ
เพิ่มเติมคือ ซินซินเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำนิดๆ ทำให้นิสัยการเก็บของเป็นแบบนั้น แล้วก็ผู้ช่วยฯ ฮั๋น ไม่รู้ว่าประธาน คิวเป็นเด็กขี้แย่นะครับ ในเรื่องเป็นมุมมองของ ซินซิน เลยเรียกประธานว่าเด็กขี้แย่
มีการเปลี่ยนชื่อตัวละครเล็กน้อย ฉาง เจ๋ >> เจ้ฉาง นะครับ ตัวละครนี้ตอนแรกไม่ได้ระบุว่า เจ๋ เป็นเป็นชื่อ หรือ สรรพนามผมเลยตีไปว่าเป็นชื่อ เพราะไม่มีตัวละครไหนใส่สรรพนามแบบนี้ตลอด(ไม่นับคนมีต่ำแหน่งอย่างผู้จัดการ ผู้ช่วยฯ)
-A Cup of Owls
MANGA DISCUSSION