หัวหน้าของฉันเป็นเด็กขี้แย - ตอนที่ 15 เธอกำลังร้องไห้
หลังจากกลับมาถึงบ้าน เซิน หนิงซินางตุ๊กตาไว้ข้างๆเปลือกหอย
มันเป็นตุ๊กตาคนขนาดไม่ใหญ่มากมันมีหอกอันเล็กๆในมือของมันซึ่งวางไว้บนเปลือกอหอยได้พอดีเลย
มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังพุ่งเข้าไปในสนามรบ
ขี่หอยยักษ์และเขวี้ยงหอกออกไป!
เซิน หนิงซิน จ้องมองไปที่พวกมันไปมาอยู่ซักพัก มุมปากของเธอยกขึ้นแล้วเธอก็หัวเราะ
หลังจากที่ทั้งสองคนกลับจากสวนสนุก พวกเขาก็ไปที่บริษัทและทำงานล่วงเวลาอยู่ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เมื่อเธอกลับถึงบ้าน มันก็เกือบจะ 4 ทุ่มแล้ว มันดึกมากแล้วตอนนี้ เพราะงั้น เซิน หนิงซิน ไม่รอให้เสียเวลาแล้วนำชุดสำหรับเปลี่ยนก่อนจะไปอาบน้ำ
หลังจากนั้น เธอก็ขึ้นไปบนเตียงอย่างสบายตัว
แล้วเธอก็เปิดเวย์ปั๋วด้วยความเคยชินและพบว่า คิว อีไป๋ ก็ได้ลงโพสต์ใหม่จริงๆ ครั้งนี้มันค้อนข้างจะยาว จนเธอต้องกดคลิ๊กเข้าไปเป็นดูข้อความทั้งหมด
บรรทัดแรกนั้นเป็น-
“วันนี้ฉันได้ไปสวนสนุกแล้วได้ขึ้นรถไฟเหาะจันทร์สีครามที่คนพูดถึงกันด้วยหละ เครื่องเล่นนี้มันน่ากลัวนิดหน่อยแต่ เซิน หนิงซิน กลัวจนเธอเกือบจะร้องไห้เลย”
“…..”
เธอบอกว่าใครกันนะที่เกือบจะร้องไห้?!
เซิน หนิงซิน รู้เหมือนกับว่ายัยคนนี้มองเห็นแต่ปัญหาของคนอื่นแล้วไม่เห็นของตัวเอง เธออดไม่ได้ที่จะสายหัวและเลื่อนลงต่อไป
“ม้าหมุ่นสนุกมากเลย ถ้วยหมุนเองก็สนุก ยกเว้นตรงที่มันเวียนหัวมากเลยถ้ามันหมุนมากเกินไป”
“ชานมรสชาติจืดมาก เพราะงั้นฉันไม่ค่อยแนะนำ แต่เค้กอร่อยมากเลยหละ”
“เครื่องคีบตุ๊กตาเครื่องที่สามจากด้านซ้ายเสีย มันกินเหรียนฉันไปสองเหรียน ฉันต้องระวังมันครั้งหน้า QAQ”
“….”
ทุกบรรทัดเขียนเอาไว้อย่างระเอียด เหมือนเธอกำลังทำหนังสือแนะนำ
แต่มันก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นไดอารี่ของเด็กอนุบาล บันทึกเรื่องสนุกๆที่เธอได้เจอและทำในแต่ละวันด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เซิน หนิงซิน ยิ้มเมื่อได้เห็น แล้วบรรทัดหนึ่งก็ดึงความสนใจของเธอไป
“เซิน หนิงซิน เหมือนจะชอบตุ๊กตานั้นมาก พอเห็นเธอยิ้มอย่างมีความสุขแบบนั้นแล้ว เพื่อเป็นการเอาใจใส่ลูกน้องของฉัน ฉันทำได้แค่ยกมันให้กับเธอ”
“อีกตัวหนึ่งก็เอาให้เด็กน้อยที่ไม่รู้จักไปแล้ว สุดท้ายแล้วมันก็ไม่เหลือให้กับฉันเลย QAQ”
เธอดูจะเสียใจ
แต่มันก็ชัดเจนว่าเธอเป็นคนคะยั้นคะยอจะเอามันให้ฉันเอง
เซิน หนิงซิน คิดแบบนั้นก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองตุ๊กตาโดยไม่รู้ตัว
หลังจากผ่านไปไม่นาน เธอก็เลื่อนสายตากลับมา ก่อนจะเปิดปากพึมพาเบา “อีกอย่างฉันไปย…”
ก่อนที่เธอจะได้พูดว่า ‘ยิ้ม’ เธอก็ต้องงุนงง
คิว อีไป๋ แนปรูปไว้ด้วยหลายรูปในโพสต์นี้ และคิดว่านั้นคงเป็นรู้ของบรรยากาศรอบๆ เธอไม่ได้กดดูมันในตอนแรกแต่พอกดเข้าไปเธอก็พบว่ามันมีรูปของคนด้วย
รูปแรกๆคือรูปเซลฟี่ของ คิว อีไป๋ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นมุมแปลกๆและการจัดมุมก็ไม่ดีเลย หน้าตาดีๆของเธอเป็นอย่างเดียวที่ทำให้มันดูดี วิวต่างๆไม่ค่อยดีเท่าไหร
รูปภาพที่สวยที่สุด เป็นรูปที่ คิว อีไป๋ แอบถ่ายเอาไว้
แต่ว่าคนในรูปนั้นคือเธอ
ตอนนั้นท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว และเธอก็กำลังเดินไปข้างหน้าพร้อมกับตุ๊กตาในอ้อมกอดของเธอ ตอนที่ได้ยินเสียงกล้องถ่ายรูปของ คิว อีไป๋ เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มคิดว่า คิว อีไป๋ นั้นเหมือนกับเด็กที่ถ่ายรูปทุกอย่าง
เธอคิดว่าเธอคงถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆ แต่กลายเป็นว่าคนที่โดนถ่ายจะเป็นเธอ
ยัยคนนั้นถึงกลับใส่ฟิวเตอร์ให้กับเธอโดยเฉพาะ หูแมวบนหัวทั้งสองข้างของเธอและหนวดแมวที่แก้มของเธอ
“เด็กน้อยจริงๆ” เซิน หนิงซินถอนหายใจก่อนจะว่างโทรศัพท์ลงเตรียมตัวจะนอน
แต่ไม่นาน เธอก็ลุกขึ้นมาแล้วดาวโหลดรูปภาพนั้น
ดวงตาทรงลูกซิ่งของเธอนั้นกำลังยิ้ม มุมปากของเธอก็กำลังยกขึ้น
“จากใจจริงเลย….รูปนี้มันดีมากเลย”
—
เซิน หนิงซิน ตื่นขึ้นมาเช้ากว่าปกติในวันต่อมา
มันยังคงมีงานที่ต้องให้เสร็จจากเมื่อวาน เพราะงั้นเธอเลยตัดสินใจออกไปแต่เช้าเพื่อไปทำพวกมันให้เสร็จ หลังจากนั้นเธอก็จะไปดูว่า คิว อีไป๋ มีอะไรให้เธอช่วยไหม
หลังจากทานอาหารเช้าง่ายๆ เซิน หนิงซิน ก็รีบเก็บกว่าแล้วลงไปข้างล่าง
เธอมองโทรศัพท์และเห็นว่ามันยังไม่ถึง 7 โมงเลย
เธอต้องเป็นคนแรกที่มาถึงบริษัทแน่เลยวันนี้
ขณะที่คิดเธอก็หยิบบัสรถโดยสารขึ้นมาอย่างมีความสุข เมื่อเธอมองขึ้นมาอีกครั้งรถที่คุ้นตาก็ขับผ่านมา
เมื่อเธอมองเข้าไปในกระจก เธอก็เห็นหน้าที่เธอคงไม่คุ้นเคยไปมากกกว่านี้แล้ว
คิว อีไป๋
เธอก็ออกมาเร็วเหมือนกันหรอ?
เซิน หนิงซิน อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คิดว่าคนแรกคงจะไม่ใช่เธออีกแล้ว เธอหยุดรีบแล้วค่อยๆเดินไปที่ป้ายรถโดยสาร
เมื่อเธอมองขึ้นมา รถคันนั้นก็ขับกลับมาช้าๆเมื่อไหรไม่รู้
หลังจากนั้น ก็มีมือยืนออกมาจากหน้าต่างรถ ส่งสัญญาณสองสามครั้งมาทางที่เธอยืนอยู่
คนที่อยู่ข้างในไม่ได้โผลหน้าออกมาด้วยซ้ำ
ถ้าเธอไม่รู้จักอีกฝ่ายขนาดนี้ คงไม่มีใครรู้ว่ายัยเด็กนี้ต้องการอะไร!
เซิน หนิงซิน ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดีและรีบทำตามสัญญาณของเธอแล้วเปิดประตูขึ้นไปนั่ง ก่อนที่เธอจะยิ้มแล้วทักทาย “อรุณสวัสดิ์ประธาน คิว”
“อืม” คิว อีไป๋ ตอบกลับด้วยการพนักหน้าแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อขณะที่เธอเริ่มออกรถ
เธอเงียบตลอดทั้งทาง
เธอไม่มีความสุขหรอ?
เซิน หนิงซิน สังเกตุถึงความแปลกๆได้ทันที และมองไปทางเธอด้วยหางตาหลายครั้ง อยากจะรู้มันเป็นเพราะอะไรอีกครั้งนี้
ก็ที่เธอจะคิดออก พวกเธอก็มาถึงจุดหมายแล้ว
มันค้อนข้างมือในโรงจอดรถ หลังจากที่พวกเธอออกมาจากรถ พวกเธอก็เดินคู่กันมาแต่หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เซิน หนิงซิน ก็ได้ยินเสียง ‘ตุ๊บ’ ข้างๆเธอ
เสียงนั้นดังมากและสะท้อนไปทั่วโรงจอดรถ
มันทำให้ เซิน หนิงซิน ขวัญผวาคิดว่ามีอะไรระเบิด เธอกรี้ดออกมาด้วยความตกใจแล้วดึง คิว อีไป๋ถอยออกมาสองสามก้าว
ตอนนั้นเองที่เธอเห็นถุงน้ำร้อนที่มีลายสตรอว์เบอร์รี่ตกอยู่ที่พื้น
มันคงพึ่งตก ทำให้น้ำที่อยู้ข้างในขยับไปมา
“….”
ทุกอย่างเงียบไปอยู่ซักพัก
ไม่นานหลังจากนั้น คิว อีไป๋ ก็ก้าวออกไปและหยิบถุงน้ำร้อนนั้นขึ้นมา ใบหูของเธอแดงก่ำ
หลังจากเช็ดมันด้วยกระดาษชำระ เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนนะตัดสินใจไม่นำมันกลับไปใส่ไว้ในเสื้อแต่เอาไปใส่ในกระเป๋าเอกสารของเธอแทน
แล้วเธอก็พูดอย่างดุๆว่า “เธอโว๊ยวายอะไรกับเรื่องแค่นี้!”
สรุปแล้วเธอเป็นคนทำมันหล่นสินะ
เซิน หนิงซิน พ่นลมออกมาแล้วขอโทษ คิว อีไป๋ อย่างงุ่มง่าม แล้วเธอก็หันหลังเดินตรงต่อไปพร้อมกับเธอ
เธอรู้เหตุผลแล้ว
ไม่แปลกใจเลยที่เธออารมณ์ไม่ดี ดูเหมือนว่าเธอจะปวดประจำเดือด
เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
ประธาน คิว ของพวกเราช่างน่าสงสาร
—
ทั้งเช้าเต็มไปด้วยความวุ่นวายอีกครั้ง
เธอมาเช้าวันนี้และค้อนข้างจะมีประสิทธิภาพเลย ไม่นานเธอก็ทำงานทั้งหมดที่มีเสร็จ
ตอนที่เธอตัดสินใจจะไปช่วย คิว อีไป๋ ทำงานนั้นเอง เธอก็ได้รับสายจาก เจ้ฉาง
เนื้อหาก็เหมือนเดิม ฌะอไม่สามารถมาทำงานได้และอยากให้เธอช่วยเรื่องบางเรื่อง
เซิน หนิงซิน ไม่สามารถปฎิเสธได้และถอนหายใจในใจ แล้วเธอก็ต้องวุ่นวายกับงานอีกครั้ง
สมองและของเธอแทบไม่ได้หยุดทำงานเลยตลอดทั้งเช้า
กว่าเธอจะทำงานทั้งหมดเสร็จมันก็เป็นช่วงเที่ยงพอดี
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาออฟฟิศก็เกือบจะว่างเปล่าแล้ว
ในตอนนี้ทุกคนต่างเดินตรงไปที่โรงอาหารเพื่อทานอาหารเที่ยงออฟฟิศเงียบลงอย่างเห็นได้ชัดเสียงเดียวที่ได้ยินนั้นดังออกมาจาก คิว อีไป๋
เธอกำลังคุณโ?รศัพท์ ฟังจากเสียงของเธอแล้ว ดูเหมือนเธอจะกำลังโทรคุยกับลูกค้าต่างประเทศ เซิน หนิงซิน พยายามเปิดหูของเธอให้กว้างขึ้นเพื่อฟังอยู่ซักพัก เข้าใจอยู่ไม่กี่คำ
เมล็ดแก้ว เครื่องจักร และ จุดดำ
เธอพอจะเข้าใจ พวกเขาคงกำลังคุยกันว่ามีจุดสีดำเข้าไปปนอยู่ในเมล็ดแก้วได้ยังไง
พักหลังมานี้ มันมีปัญหากับเครื่องจักรที่โรงงาน โดยที่ระบบกรองไม่ทำงานอย่างที่ควรจะเป็นและเหลือรอยจุดสีดำเอาไว้หลายครั้ง
หัวหน้าโรงงานไม่ได้สนใจในตอนแรก และเพื่อความมีประสิทธิภาพ บรรจุทุกอย่างและส่งออกไปโดยตรง(ไม่ QC นั้นเอง) เขาหันมาใส่ใจมันหลังจากที่ คิว อีไป๋ เห็นถึงปัญหานี้เท่านั้น นอกจากซ้อมแซมเครื่องแล้วเขายังเพิ่มขั้นตอนการกรองไปอีกขั้นด้วย
แต่ทว่ามันก็ยังช้าเกินไป ลูกค้าที่ได้รับสิ้นค้าที่ไม่มีคุณภาพนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมากและร้องเรียนมาที่ คิว อีไป๋ คนแล้วคนเล่า
หลายวันมานี้ คิว อีไป๋ ต้องจัดการกับสายร้องเรียนเหล่านี้
ดูเหมือนว่ามันคงจะใช้เวลาซักพักวันนี้เหมือนกับวันอื่นๆ
เซิน หนิงซิน มองผ่านประตูกระจกเข้าไป ก่อนจะหันหลังแล้วตัดสินใจเอาอาหารเที่ยงจากโรงอาหารมาให้กับ คิว อีไป๋
ที่โรงอาหารมีคนเยอะมาก เพราะงั้นมันจะใช้เวลาพักใหญ่ๆก่อนที่เธอจะได้กลับมาที่ออฟฟิศ
คนที่ออกไปทานข้าวยังไม่กลับมากัน ส่วนที่เหลือก็หลับอยู่หรือกำลังเล่นโทรศัพท์ มันค้อนข้างเงียบมากเลย
เสียงของ คิว อีไป๋ หายไปแล้ว เธอคงจัดการกับคำร้องเรียนเสร็จแล้วตอนนี้
เซิน หนิงซิน กลับไปที่โต๊ะของเธออย่าเงียบๆ โดยมีของกินอยู่ในมือ เธอค่อยๆหยิบข้าวกล่องออกมาแล้วแล้วหยิบตะเกียบมาเพิ่ม
หลังจากนั้น เธอก็ลุกขึ้นพร้อมกับอาหารในมือ พร้อมจะนำมันไปส่ง
เธอเงยหน้าขึ้นแล้วก็เห็น คิว อีไป๋ นั่งใช้สองมือกายหน้าผากอยู่นิ่งๆในห้อง
เธอหลับไปหรอ?
เซิน หนิงซิน ผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นแบบนั้น เธอหยุดเดิน คิดว่าเธอไม่ควรไปรบกวนเธอตอนนี้
ตอนที่คิดว่าจะเดินกลับนั้นเอง เธอก็รู้สึกตัวว่ามีอะไรแปลกๆแล้วรีบหันหลังกลับ
เธอไม่เคยเห็น คิว อีไป๋ พักงีบมากก่อน
ปกติแล้วในช่วงพักเที่ยงเธอจะออกไปทำธุระกิจหรือทำงานอยู่ เธอไม่เคยพักมากก่อนและมักจะรีบรีบทานอาหารเพื่อที่จะได้กลับมาทำงาน
เธอไม่เคยเป็นแบบนี้….
ความคิดบางอย่างลอยเข้ามาในหัวของเธอ แล้ว เซิน หนิงซิน ก็นิ่งไป กลั้นหายใจแล้วก้าวออกไปช้าๆ
หลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่เธอคิด เธอเห็นน้ำตาบนใบหน้าของ คิว อีไป๋
เธอกำลังร้องไห้
น้ำตาของเธอไหล่ลงมา หยดลงมาตามแรงโน้มถ่วง แม้แต่เอกสารตรงหน้าของเธอก็มีรอยเปียก เมื่อเธอเข้าไปใกล้เธอก็พบว่าเธอไม่ได้นั่งนิ่งๆแต่กำลังตัวสั่นอยู่
มันเป็นเพราะโทรศัพท์เมื่อกี้หรอ? หรือเพราะว่าเธอรู้สึกไม่สบาย?
หรือไม่ก็ทั้งคู่
เห็นเธอเป็นแบบนี้ เซิน หนิงซิน รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจของเธอ
ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างเธอนึกย้อนไปถึงตอนที่ คิว อีไป๋ ร้องไห้หลังจากที่เมา
ในตอนนั้น จิตใต้สำนึกของ คิว อีไป๋ เธอต้องการเพื่อนอยู่ข้างๆ และใช้เหตุผลมากมายเพื่อให้ เซิน หนิงซิน อยู่ด้วย ไม่ว่าจะร้องไห้จะยิ้มในตอนที่เมา….
แต่ตอนนี้เธอควรจะทำยังไงเวลาที่ คิว อีไป๋ อารมณ์ไม่ดี
เซิน หนิงซิน เงียบอยู่ซักพักก่อนจะรีบเดินออกจากออฟฟิศพร้อมกับอาหารในมือ เธอเดินไปแถวๆลิฟต์แล้วโทรหา คิว อีไป๋
มันใช้เวลาซักพักก่อนอีกฝ่ายจะรับสาย เธอพยายามเบาเสียงของเธอเล็กน้อย จงใจที่จะปกปิดน้ำเสียงของคนที่กำลังร้องไห้ “เซิน หนิงซิน เธอต้องการอะไร….”
“ประธาน คิว คุณกินอะไรหรือยัง?” เธอยิ้ม “ฉันเห็นคุณยุ่งๆก่อนหน้านี้ ฉันเลยเอาอาหารขึ้นมาให้ ตอนนี้ฉันกำลังกลับจากโรงอาหาร”
“คุณควรจะเก็บของแล้วมาทานมื้อเที่ยงด้วยกันนะคะ”
—
งานผมตอนนี้ไม่ค่อยต่างกับประธานเท่าไหรเลย ล่วงเวลาแบบฟรีๆรั่วๆ(ฮา)
ยังดีที่ช่วงนี้กลับมาเป็นเข้าออกงานตามปกติแล้วเลยพอจะแปลนิยายบนรถไฟฟ้าได้ หวังว่าจะไม่หนักอีกนะ 555
-A Cup of Owls