หลังจากขับรถมาซักพักและเลี้ยวไปหลายครั้ง ในที่สุดพวกเธอก็มาถึงจุดหมาย
เพราะว่ามันเป็นวันธรรมดา มันก็เลยมีคนน้อยกว่าช่วงสุดสัปดาห์ ทั้งสองคนต่อแถวซื้อตั๋วและไม่นานก็ได้เข้าไปในสวนสนุก
เซิน หนิงซิน รับแผนที่มาจากเด็กสาวที่หน้าทางเข้าและเริ่มอ่านมันขณะกำลังเดิน
เธอมาที่นี้เมื่อนานมาแล้วกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ แต่ตอนนั้นสวนสนุกพึ่งจะเริ่มเปิดได้ไม่นาน เพราะงั้นมันยังไม่เสร็จดี มันยังมีแค่เกมตู้คีบ ม้าหมุน และเครื่องเล่นคล้ายๆกัน
ไม่เหมือนตอนนี้ที่แค่ดูตัวเลือกก็เยอะจนเลือกไม่ถูกแล้ว
พอคิดว่าเหตุผลที่มาที่นี้ก็เพื่อให้ คิว อีไป๋ ได้พักผ่อน เธอเอาแผนที่ให้เธอดูแล้วถามความเห็นจากเธอ “ประธาน คิว คุณอยากดูไหมว่ามีอะไรที่คุณสนใจหรือเปล่า?”
“ฉันไม่สนใจ” คิว อีไป๋ ไม่มองเธอด้วยซ้ำ เธอยืนตัวตรงแล้วเชิดคางขึ้น เหมือนเธอไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรที่นี้เลย “เธอเลือกเลย”
“มันเป็นเธอที่อยากมานิ”
“….”
มันคงไม่มีประโยชน์ที่จะถามเธอ
เซิน หนิงซิน ถอนหายใจและรู้ว่ายัยคนนี้คงอายเกินกว่าที่จะพูด เพื่อรักษาหน้าเธอ เธอไม่ได้ถามอีก
แล้วเลื่อนสายตาขึ้นเพื่อดูสีหน้าของเธอแทน
เธอคิดว่าเธอน่าจะเดาอะไรได้บ้างจากการสังเกตุสีหน้าของเธอ
อย่างเช่น เมื่อกี้ คิว อีไป๋ เหล่มองเครื่องเล่นถ้วยชาหมุนก่อนจะรีบหันกลับมา
เซิน หนิงซิน เข้าใจว่าเธอไม่ได้อยากเล่นอันนั้น
ตรงไปข้างห้นา มีม้าหมุนที่แวววาวและมีเสียงเพลง
คิว อีไป๋ แค่มองมันแล้วเม็มปากเล็กน้อย
เธอคงไม่ได้อยากเล่นมันเหมือนกันสินะ
เซิน หนิงซิน พยักหน้าแลวเดินต่อไป หลังจากเดินมาซักพักเธอก็ได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากใกล้ๆ เมื่อเธอมองขึ้นไปดูก็พบกับเครื่องเล่นใหม่ ‘รถไฟเหาะจันทร์สีคราม’
มันก็เหมือนรถไฟเหาะทั่วไป แค่น่าตื่นเต้นกว่า มันแทบจะไม่หยุดหมุนเลย พุ่งไปมาและเร็วมากด้วย เหมือนกับหนูสีฟ้าตัวใหญ่วิ่งไปมา
หลังจากผ่านไปหนึ่งรอบ สีหน้าของคนที่เล่นก็ดูบิดเบี้ยวยิ่งกว่าตอนร้องไห้
แค่มองก็ทำให้ตัวสั่นได้แล้ว
คิว อีไป๋ คงไม่สนใจจะเล่นอะไรน่ากลัวแบบนั้นหรอก
เซิน หนิงซิน คิดแบบนั้น และตอนที่เธอกำลังจะหันหน้าแล้วเดินออกมา เธอก็พบว่า คิว อีไป๋ กำลังจ้องมองไปที่ ‘หนูสีฟ้า’ ที่กำลังวิ่งบนร่าง
ก่อนจะหัวเราเบาๆเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
เซิน หนิงซิน รู้สึกผิดคาด
เธอ…สนใจงั้นหรอ?
ยัยเด็กขี้แยนี้ชอบอะไรแบบนี้หรอ?!
เธอหยุดแล้วอย่างระมัดระวัง “คุณคิดว่ามันน่าสนุกหรอคะ ประธาน คิว?”
“ใช่ มันน่าสนุก” คิว อีไป๋ พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว มันมีร้อยยิ้มในดวงตาของเธอ “ดูคนกลุ่มนั้นสิ…” เธอพูดไม่จบ
คงเพราะว่ารู้ตัวแล้วว่าเธอเริ่มจะหลุดความสำรวม เธอรีบปิดปากของเธอ
แต่ความหมายของเธอนั้นชัดเจน
เซิน หนิงซิน จ้องมองเธอซักพัก ก่อนจะยืนมืออกไปดึงชายเสื้อของเธอ “เราไปลองเล่นกันดีไหมคะ?”
เมื่อได้ยินดวงตาของ คิว อีไป๋ ก็เบิกกว้าง “ฉันไม่ไป!”
แต่ในพจนานุกรมของ คิว อีไป๋ ไม่ หมายถึง ใช่
เพราะงั้น….ไม่ไปคงหมายถึงไป เธออยากไป
“ไปกันเถอะค่ะ” เซิน หนิงซิน ยิ้มและไม่ลังเลอีกแล้ว ดึงชายเสื้อพาเธอไปต่อแถวอย่างรวดเร็ว
ในความทรงจำของ คิว อีไป๋ นี้เป็นครั้งแรกที่พวกเธอได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้
ความอุบอุ่นจากมือของ เซิน หนิงซิน ค่อยๆไหล่ผ่านมาสู่เนื้อผ้า ทำให้นิ้วมือของเธอเย็นลง แต่พวกมันก็ยังร้อนผ่าด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง
เซิน หนิงซิน จดจ่อกับการเดินผ่านฝูงคนและไม่ได้สังเกตุอะไรผิดปกติ แต่ทว่าหูของ คิว อีไป๋ นั้นกำลังแดงอย่างเห็นได้ชัด ความคิดของเธอก็กำลังกระจัดกระจายออกไป
เธอสับสนจนไม่สามาถปฏิเสธเธอได้ทันและเริ่มจะรู้สึกเสียใจเมื่อเธอนั่งลงเรียบร้อยแล้ว
แต่มันก็สายเกินไปแล้วและรถไฟเหาะก็พุ่งผ่านรางของมันสองรอบ กว่าเธอจะทำใจให้สงบได้ขาของเธอก็สั่นไปหมด
เซิน หนิงซิน ก้มลงและหอบ พยายามจะหายใจก่อนที่เธอจะสามารถกลับมาเป็นปกติหลังจากผ่านไปซักพัก แล้วเธอก็รีบถามสภาพของ คิว อีไป๋ “คุณโอเคไหม ประธาน คิว?”
เธอไม่ได้รับคำตอบ
ตกใจ เธอรีบยืนขึ้นแล้วหันไปมองและถามอีกคร้ง “ประธาน คิว คุณ….”
ครั้งนี้เธอไม่สามารถพูดจนจบได้
ตอนนี้ คิว อีไป๋ ยืนอยู่ห่างกันเธอพอสมควร เธอไม่ได้ยิน แต่ดูเหมือนเธอกำลังพึ่มพำอะไรบางอย่างอยู่
สีหน้าของเธอนั้นดูจะงุนงงนิดหน่อย ไม่ได้ยิ้ม หรือ ร้องไห้ และหลังจากผ่านไปซักพัก เธอยังพยายามจะทำตัวเท่ เพราะงั้นเลยออกมาเป็นแบบนี้ : ⊙v⊙
เซิน หนิงซิน “…..”
สมองของเธอไม่ได้มีปัญหาขึ้นมาแล้ว ใช่ไหม!
กลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเด็กขี้แยคนนี้ เซิน หนิงซิน รีบวิ่งไปหาเธอ ถามถึงอาการของเธอต่อ “ประธาน คิว คุณเป็นยังไงบาง?”
“ฉัน โอเค” คิว อีไป๋ ตอบ พยายามหลบสายตาของเธอเต็มที่ ก่อนที่เธอจะหันกลับมาหลังจากทำตัวให้เป็นปกติได้แล้ว
แต่ว่าน้ำเสียงของเธอยังสั่นอยู่ เธอถามอย่างกุกะ “เราจะไปไหนกันต่อ?”
เธอดูเหมือนกำลังจะร้องไห้
เซิน หนิงซิน เงียบและครุ่นคิดไปซักพักก่อนจะพูด “พวกเรา…ไปเล่นม้าหมุนกันดีไหมคะ?”
—
เจ้าม้ากำลังเปร่งประกาย
คิว อีไป๋ มองไปรอบๆ ก่อนที่จะเลือกนั่งบนม้ามีสีขาวที่สุดและมีเขาที่สวยที่สุด
เซิน หนิงซิน ไม่ได้สนใตและนั่งบนม้าฝั่งตรงข้ามกับเธอ
เครื่องเล่นเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว ทุกคนเริ่มหมุนไปรอบๆอย่างช้าๆ
เซิน หนิงซิน หยิบโทรศัพท์ออกมาำทเป็นถ่ายรูป แต่จริงๆแล้วเธอกำลังเฝ้าสังเกตุสีหน้า คิว อีไป๋ อยู่
แล้วตอนนี้เธอก็รู้สึกตัวว่า คิว อีไป๋ ที่นั่งอยู่บนม้านั้นกำลังดูผ่อนคล้ายอยู่ ความกังวลและความเครียดที่มีก่อนหน้านี้ได้หายไปแล้ว
อันที่จริงแล้วเธอดูจะมีความสุขมากดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอิ่มเอม
มันดูเหมือน… เธอจะชอบมัน
ถ้างั้นจริงๆแล้วคงอยากเล่นมันแต่พยายามจะโกหกตัวเองถึงทำหน้าไม่พอใจก่อนหน้านี้
ถ้าคิดๆดู ตอนที่เธอบอกว่าไม่อยากเล่นรถไฟเหาะเธอคงหมายถึงแบบนั้นจริงๆ เธอแค่หัวเราะเพราะท่าทางของคนที่เหมือนร้องไห้ก่อนหน้านี้มันตลก
“…..”
พยายามเข้าใจยัยเด็กขี้แยนี้มันยากชะมัด!
เซิน หนิงซิน รู้สึกหงุดหงิดและนั่งนิ่งเหมือนคนตายอยู่บนม้าของเธอโดยไม่พูดอะไร
“เป็นอะไรไป?” คิว อีไป๋ เดินมาหาเธอหลังจากเครื่องเล่นหยุด “มันแค่รถไฟเหาะ เธอยังกลัวอยู่อีกหรอ?”
“ไม่ นั้นไม่เกี่ยวเลยค่ะ” เซิน หนิงซิน ส่ายหน้า และก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรต่อ คิว อีไป๋ ก็เปิดปากของเธอ
“ถ้าเธอยังไม่โอเค เราไปเล่นแก้วหมุนกันต่อดีกว่านะ” แล้วเธอก็พูดต่อ “ฉันเลือกมันเพื่อเธอเลยนะ”
มันชัดเจนว่าเธออยากจะเล่นมันเอง หาทางออกให้ตัวเองได้ดีมาก หึ
เซิน หนิงซิน เงียบ
ถ้าเธอมีความสุข เซิน หนิงซิน ก็ไม่ขัดอะไร เพราะงั้นสุดท้ายเธอก็พยักหน้าแล้วเดินตามเธอไปที่เครื่องเล่นแก้วหมุน
หลังจากนั้นพวกเธอก็ไปเล่นเกมปาลุกโปงและเครื่องคีบตุ๊กตากันต่อ
น่าตกใจที่ คิว อีไป๋ สามารถคีบตุ๊กตาได้ถึงสองตัวติดกัน
เซิน หนิงซิน รีบชื่นชมเธอ “สุดยอดเลยค่ะ ประธาน คิว!”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” คิว อีไป๋ ตอบอย่างเฉยเมยแต่เธอกอดตุ๊กตาแน่น
พวกเธอมาถึงสวนสนุกกันช้านิดหน่อยบวกกับระยะเวลารอเครื่องเล่นแต่ละอย่างทำให้มันเริ่มมืดแล้วเมื่อพวกเธอเล่นกันเสร็จ
หลังจาก คิว อีไป๋ เล่นจนพอใจแล้วเธอก็นึกขึ้นได้ว่าเธอยังมีงานที่ยังทำไม่เสร็จอยู่และต้องการที่จะรีบกลับไปทำ
เซิน หนิงซิน พยักหน้าตอบและเดินอยู่ข้างเธอ
ตอนที่พวกเธอกำลังจะออกนั้นเอง เด็กคนหนึ่งก็วิ่งมาทางพวกเธอ ด้วยความเร็วของเขาบวกกับพื้นที่ไม่เรียบ เขาสะดุดแล้วล้มลงตรงหน้าของพวกเธอ
หน้าผากของเขามีรอยแดงแล้วเขาก็ร้องไห้ออกมา
เซิน หนิงซิน ไม่สามารถทนดูได้จึงรีบเดินเข้าไปช่วยให้เขาลุกขึ้นลูบหลังแล้วปลอบเขาอยู่ซักพัก
แต่มันก็ไม่ได้ผล เด็กน้อยไม่ยอมหยุดร้อง น้ำตาของเขาไหล่ออกมาเหมือนก็อกแตก
เซิน หนิงซิน เริ่มจะกังวลและพยายามคิดว่าจะทำยังไงดี แล้วมือที่ถือตุ๊กตาอยู่ก็โผล่เข้ามาในสายตาของเธอ
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นเธอก็เห็น คิว อีไป๋ ยืนอยู่หลังเธอ
ตอนนั้นเองไฟในสวนก็ถูกเปิดขึ้น เพราะว่าเธอยืนอยู่โดยมีแสงไฟอยู่ด้านหลัง ร่างกายของเธอถูกปกคลุมไปด้วยเงา เซิน หนิงซิน เลยไม่สามารถมองหน้าเธอได้ชัดๆ
แต่ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง เธอสามารถสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนจากเธอ
เธอกระพริบตาแล้วมอง คิว อีไป๋ คุกเข่าลงอย่างอ่อนโยน ยืนตุ๊กตาให้กับเด็กน้อยแล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เธอคิดว่าตุ๊กตาตัวนี้น่ารักไหม?”
เด็กน้อยค่อยๆเงยหน้ามามองแล้วตอบเบาๆ “น่ารัก”
“แล้วเธออยากได้มันไหม?” เธอบอก
เด็กน้อยตอบ “อยาก”
“ถ้าเธออยากได้มัน หยุดร้องนะ” คิว อีไป๋ พ้นลมออกมา ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหัวเขาเธอดันตุ๊กตาใส่แขนของเขาอย่างเบามือ “มีแค่เด็กเท่านั้นที่ร้องไห้ แต่เธอเป็นผู้ชายแล้ว”
“ผู้ชายนะไม่ร้องไห้แบบนี้หรอกนะ”
มันมีความเยาะเยยแฝงอยู่ในน้ำเสียงของเธอ
แต่มันก็ได้ผล หลังจากลังเลอยู่เล็กน้อย เด็กน้อยก็หยุดร้อง
“รีบไปหาแม่เธอได้แล้วนะ!” คิว อีไป๋ ยกมือขึ้นมาลูบหัวเขา ก่อนจะมองเด็กน้อยเดินจากไปอย่างรวดเร็ว “ไป ไป”
หลังจากเธอพูดจบ เด็กน้อยก็ค่อยๆหายไปจากสายตา
เธอลุกขึ้นยืนหันมามอง เซิน หนิงซิน
เซิน หนิงซิน ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างงุ่นงง ตอนนี้เธอทำหน้าเหมือนกับ อาจิ เลย
คิว อีไป๋ คิดว่ามันดูตลกมากและถามเธอ “เธอมองอะไรของเธอ ถึงกับต้องจ้องขนาดนั้นเลย”
เซิน หนิงซิน นิ่ง “ฉันแค่…”
เธอพูดออกมาไม่ได้
นี้เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นด้านนี้ของ คิว อีไป๋
คนๆนี้มักจะทำตัวดุดันอยู่ตลอดเวลาเธอพูด ใบหน้าของเธอแข็งกร้าวทำให้ผู้คนหวาดกลัว แต่ถ้าไม่มีใครเธอจะเป็นเด็กขี้อายจอมหยิ่งยโสที่ไม่เคยยอมรับความรู้สึกของตัวเองเลย
เซิน หนิงซิน คิดว่าเธอคงมีแค่นั้น และพึ่งจะรู้ว่ายัยคนนี้ก็สามารถเป็นคนที่อบอุ่นและพึ่งพาได้ด้วย
ยังมีอีกกี่เรื่องของเธอกันนะที่เธอยังไม่รู้?
เซิน หนิงซิน เหม่อลอยขณะที่คิด และไม่สามารถหาคำตอบได้ทันที
คิว อีไป๋ เริ่มขยับก่อนเธอเลื่อนสายตาของเธอสำรวจสีหน้าของ เซิน หนิงซิน ก่อนจะเดินเข้ามาหาเธอ ยืนตุ๊กตาอีกตัวให้กับเธอ
“เธอมองเจ้านี้อยู่หรอ?” เธอถาม
“จ้องขนาดนั้นเธอชอบมันหรอ?”
“ฉันยกมันให้เธอแล้วกัน”
—
ประธานก็มีมุมหล่อๆเหมือนกัน กลับมาแปลแล้วก็อบอุ่นหัวใจดีแหะ
ช่วงนี้ที่หายไปเพราะอารมณ์ไม่ค่อยดีครับ ปัญหาชีวิตค้อนข้างเยอะ เลยงดแปลไปพักหนึ่ง
หลังจากนี้จะแปลนิยายน้อยลง Update จะช้าขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่หายไปไหนแน่นอนครับ (ถ้างานไม่ทับตายก่อน)
เพิ่มเติม ถึงจะยังไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม แต่นี้เป็นเพจเฟสบุ๊คที่ผมทำเอาไว้ ในอนาคตข่าวสารเรื่องการแปลจะนำไปอัพเดตในเพจนี้ครับ ใครอยากให้แปลเรื่องไหนเพิ่ม อยากให้กำลังใจ อยากทวงนิยาย ก็มาทักในเพจนี้ได้นะครับ แต่อย่าทวงเยอะ คนแปลขี้เกียจ
https://www.facebook.com/profile.php?id=100066718161353
-A Cup of Owls
MANGA DISCUSSION