คิว อีไป๋ กำลังแค้นเคืองอยู่อย่างแน่นอน
เซิน หนิงซิน คิดขณะจ้องมอง คิว อีไป๋ ที่กำลังขับรถอยู่เงียบๆ ก่อนที่เธอจะถอนหายใจ
เธอทำตัวเหมือนเด็กที่ยังไม่โต และไม่ยอมพูดกับเธออีก
“…..”
มันยังเช้าอยู่มาก เลยไม่ค่อยมีคนผ่านไปมาเท่าไหร่ ไม่นานพวกเธอก็มาถึงบริษัท
จำได้ว่า เซิน หนิงซิน ยังไม่ได้กินข้าวเช้า คิว อีไป๋ ไม่ได้หยุดรถเลย แต่เลี้ยวเข้าไปส่งเธอที่หน้าทางเข้าโรงอาหารก่อน
“เธอลงไปได้แล้ว” เธอพูด เสียงของเธอแข็งกระด้าง “ยังมีอะไรให้กินในโรงอาหาร กินให้เรียบร้อยก่อนขึ้นไปข้างบน”
“แล้วคุณละคะ ประธาน คิว?” เซิน หนิงซิน ถามออกไป
“ฉันมีเรื่องต้องทำ เพราะงั้นฉันจะไม่ได้ไปกับเธอ” พูดจบเธอก็ออกรถแล้วค่อยๆหายไปจากระยะสายตาของเธอ
เธอเป็นคนที่ร้องไห้งอแงไม่ให้เธอกลับบ้านเมื่อคืน แล้วตอนนี้กลับเป็นคนที่รีบหนีไปซะงั้น
เซิน หนิงซิน มองไปยังทางที่ คิว อีไป๋ จากไปอยู่ซักพัก ก่อนจะเดินเข้าไปในโรงอาหารอย่างไม่มีทางเลือก
ที่ผ่านมาเธอจะมาช้าและเอาอะไรมากินจากบ้านหรือซื้อระหว่างทางเสมอ เธอไม่เคยมากินข้าวเช้าที่โรงอาหารมาก่อนและคิดว่าตอนเช้าคงไม่มีคนมากินเยอะเท่าไหร
แต่เธอคิดผิด มันมีคนเยอะจนน่าตกใจ
มันใกล้จะสิ้นเดือนแล้วทุกคนเลยมีเรื่องให้ทำเยอะที่บริษัท ทุกฝ่ายกำลังวุ่นวายและไม่ว่าจะเพราะต้องสรุปข้อมูลหรือการทำยอดขายให้เป็นไปตามเป้า เมื่อมันมีงานเยอะ มันก็ไม่แปลกที่จะมีการทำงานข้ามคืนกัน
เมื่อเธอได้รับอาหารของเธอ เซิน หนิงซิน มองไปรอบๆ ความรู้สึกที่ยากจะยรรยายก็เกิดขึ้นในใจของเธอ
หลังจากนั้นเธอก็นึกถึงภาพ คิว อีไป๋ ตอบกลับอีเมลล์เมื่อเช้า
ในฐานนะประธานของแผนกขายต่างประเทศ เธอต้องยุ่งยิ่งกว่าใคร ต้องเดินทางไปทำธุรกิจครั้งแล้วครั้งเล่า ต้องเข้าประชุมกับลกค้าไม่จบไม่สิ้น
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่แก่กว่าเธอไม่กี่ปี และยังเป็นเด็กขี้แยด้วย….
เมื่อรู้ตัวว่า เธอคิดมากเกินไปอีกแล้ว เซิน หนิงซิน ก็สายหน้า
ขณะกำลังคิดอยู่ เหมิง เหย้า ก็ส่งข้อความมาชวนเธอออกไปกินนั่งเล่นที่บาร์กันคืนนี้
เซิน หนิงซิน ครุนคิดอยู่ซักพักแล้วตอบไป “ฉันขอผ่านนะ ช่วงนี้ฉันยุ่งมากเลย”
เหมิง เหย้า ไม่ยอมแพ้แล้วล้อลวงเธอต่อ “เธอจะไม่ไปต่อให้มีสาวสวยๆหรอ?”
เซิน หนิงซิน “อือ ฉันไม่ไป”
ไม่คาดคิดว่าจะโดนปฏิเสธตรงๆ เหมิง เหย้า ที่อยู่ฝั่งชะงักไปก่อนจะรีบตอบกลับ
“เซิน หนิงซิน สำหรับคนที่ชอบสาวสวยๆแบบเธอ มันต้องมีอะไรผิดปกติกับเธอแน่ๆช่วงนี้…”
เธอโดนบอกว่าเธอมีอะไรผิดปกติอีกแล้ว
เซิน หนิงซิน มือสั่น โทรศัพท์ของเธอเกือบจะหล่น
เธอกระแอมเบาๆแล้วตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว “มันเป็นช่วงสิ้นเดือน ฉันเลยยุ่งมาก”
หลังจากนั้นโดยไม่รอ เหมิง เหย้า ตอบอะไรอีก เธอเก็บโทรศัพท์ของเธอลงในกระเป๋ษ
ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง เธอรู้สึกผิดนิดหน่อย
—
หลังจากกินเสร็จ เซิน หนิงซิน ขึ้นลิฟต์ และบังเอิญเจอกับ ผู้จัดการ หลู๋ ด้านใน
เธอยิ้มแล้วกล่าวทักทายอย่างสุภาพ “อรุณสวัสดิ์ ผู้จัดการ หลู๋”
“อือ” ผู้จัดการ หลู๋ หยักหน้ากวาดสายตามองชุดของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอทำหน้าตกใจก่อนจะทักทายเธอกลับ “อรุณสวัสดิ์”
เซิน หนิงซิน รู้ว่าปฏิกิริยาแบบนั้นหมายถึงอะไร แต่เธอก็ทำแค่ยิ้มออกไปและไม่ได้พูดอะไร
ลิฟต์ขึ้นมาจนถึงชั้นของพวกเธอ ประตูเปิดออกช้าๆ ทั้งสองคนออกมาจากลิฟต์แล้วเข้าไปในออฟฟิศพร้อมๆกัน
เมื่อเข้ามา ผู้จัดการ หลู๋ ก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ แล้วพูด “เซิน หนิงซิน ของที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของเธอยังอยู่ไหม?”
เธอกลังพูดถึงโฟลเดอร์งาน ที่เจ้าของเครื่องคนเก่าเหลือเอาไว้ก่อนที่จะลาออกไป
เซิน หนิงซิน หยักหน้า “ยังอยู่ค่ะ”
“ดีเลย” ผู้จัดการ หลู๋บอก “ช่วงนี้ธนาคารอยากจะตรวจสอบใบแจ้งหนี้ ใบแต้งเก็บหนี้ แล้วก็พวกเอกสารที่เกี่ยวข้อง จากช่วงครึ่งแรกจองปีทั้งหมด เพราะงั้นเอกสารเลยต้องถูกจัดเรียงให้เรียบร้อย”
“เซี่ยว หวาง ลาออกไปก่อนที่เธอจะมา เขาคงไม่ได้มีโอกาสจะจัดเรียงพวกมัน เธอช่วยจัดพวกมันหน่อยนะ ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็ถาม ฉ่าง เจ๋ เอานะ”
พูดจบ ผู้จัดการ หลู๋ ก็หันแล้วเดินจากไปก่อนที่เธอจะมีโอกาสได้ตอบอะไร
มันไม่มีโอกาสให้เธอพูดอะไรเลย
เซิน หนิงซิน ถอนหายใจแล้วกลับไปที่โต๊ะทำงานของเธออย่างท้อแท้
เธอใช้ช่วงเวลาที่รอคอมพิวเตอร์เปิดและเดินไปชงกาแฟกิน หลังจากเธอกลับมา เธอเปิดโฟลเดอร์ที่เก็บเอกสารเอาไว้ แล้วหาข้้อมูลของช่วงครึ่งปีแรก
มันมีจำนวนเยอะจนน่าตกใจ เธอกวาดตามองดู และมันก็มี….มากกว่า 200 รายการ
ไม่ใช่ว่าแผนกขายต่างประเทศมีงานน้อยเรอะ? ทำไมมันเยอะจังเนี้ย!
เซิน หนิงซิน ตะลึงและรีบเปิดไฟล์เพื่อหาสาเหตุ แล้วเธอก็พบว่า เซี่ยว หวาง มีคำสั่งซื้อเยอะมาก จำนวนมากมาย แต่ปริมาณที่สั่งในแต่ละรายการนั้นน้อยมาก มันอยู่ที่ประมาณ 20 ถึง 40 รายการที่คำสั่งซื้อ 10 รายการยังสั่งปริมาณน้อยกว่าคำสั่งซื้ออีกหนึ่งรายการสั่งด้วยซ้ำ
อา เป็นงานที่ใหญ่จริงๆ….
เซิน หนิงซิน รู้สึกท้อแท้ เธอจิบกาแฟเพื่อผ่อนคล้ายแล้วเริ่มทำงานทันที
แต่ละประเทศมีความต้องการที่ต่างกันสำหรับการส่งสินค้า และรูปแบบของเอกสารแต่ละทีเองก็แตกต่างกันไป เซิน หนิงซิน เริ่มจากการแยกพวกมันที่ละอัน ก่อนจะหาไฟล์ PDF สรุปของพวกมัน แยกมันออกมา และใส่ส่วนที่ต้องการลงไป
ช่วงเช้าผ่านไปและเธอก็ทำเสร็จไม่ถึงครึ่งของครึ่งด้วยซ้ำ
เธอเหนื่อยมาก
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องทำงานล่วงเวลาแล้วคืนนี้
หลังจากลงชื่อออก เซิน หนิงซิน ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ ไม่มีแรงเหลือที่จะขยับตัว
คนที่ทำงานเสร็จหมดแล้วต่างออกไปหาอะไรกินด้วยกัน และออฟฟิศก็ว่างเปล่า เหลือเพียงคนไม่กี่คน
เซิน หนิงซิน ไม่อยากกินหรือขยับไปไหน เธอเลือกที่จะฟุ๊บหน้าลงบนโต๊ะ กอดกระเป๋าของเธอแล้งงีบหลับไป เธอตื่นขึ้นมาอีกที่ช่วงเวลาพักก็จบลงแล้ว
เมื่อเธอลืมตาขึ้น แซนวิสสองอันก็ปรากฏตรงหน้าเธอ
ดูเหมือนว่าพวกมันพึ่งจะถูกวางไว้ มันยังอุ่นอยู่เลย ข้างในมีไส้อยู่เป็นจำนวนมาก
เซิน หนิงซิน ผงะไปเมื่อเห็นก่อนจะรีบหันหลังไปถาม เป๋ย ฉิง อยากรู้ว่ามีใครมาหาเธอที่โต๊ะไหมตอนเธอหลับ
“ฉันไม่เห็นใครเลยนะ” เป๋ย ฉิง สายหน้า วิธีการพูดของเธอยังแปลกและดูถูกเหมือนปกติ “มันไม่ใช่ว่าฉันแอบชอบเธอหรืออะไร ทำไมฉันต้องมองเธอตลอดเวลาโดยไม่มีเหตุผลด้วยหละ”
เซิน หนิงซิน ไม่อยากจะสนใจคำพูดเธอนักและตามต่อ “แต่ฉันไม่รู้ว่าใครเอาแซนวิสมาว่างไว้บนโต๊ะฉัน”
“โอ๋” เป๋ย ฉิง มองเธอ “งั้นบางทีคนที่เอาแซนวิสมาให้คงจะแอบชอบเธอ”
เซิน หนิงซิน “…”
เมื่อเห็นว่าไม่มีข้อมูลที่มีประโยชน์ออกมาจากปากของเธอ เซิน หนิงซิน ละสายตาจากเธอแล้วมองไปรอบๆ พยายามจะหาว่าใครเอาแซนวิสมาให้เธอ
เมื่อเธอมองไปรอบๆ เธอก็สบตากับสายตาดุๆเข้า
คิว อีไป๋กำลังจ้องเธออยู่
เซิน หนิงซิน ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี
เธอพบว่าประธาน คิว จะเคียดแค้นเธอมากจริงๆ เมื่อเช้าตอนที่เธอเหนื่อยจากการจัดเอกสาร เธอให้เวลาที่รอกาแฟของเธอเพื่อเปิดเวย์ปั๋ว แล้วตอนนั้นเองเธอก็พบว่า โพสต์ของ คิว อีไป๋ ที่บอกว่าเธอมีความสุขที่เพื่อนมานอนที่บ้านได้หายไปแล้ว
มันถูกแทนที่ด้วยอีกโพสต์
“เซิน หนิงซิน รู้ความลับของฉันแล้ว ฉันโกรธมากๆ QAQ!!!”
เพราะเครื่องหมายตกใจสามอันในตอนท้าน มันเหมือนกับว่าเธอเกลียดฉันแบบสุดๆ
ไม่แปลกใจที่เธอจะสัมผัสได้ถึงสายตาจ้องมองมาตอนที่เธอกำลังจัดการไฟล์ มันคงเป็นของยัยเด็กขี้แยจอมหยิ่งคนนี้แน่นอน
เหมือนกับเก็ก
เซิน หนิงซิน สายหน้าก่อนที่เธอจะได้ละสายตากลับมา เธอเห็นอะไรบางอย่างในมือของ คิว อีไป๋
ว่างอยู่บนโต๊ะของเธอแซนวิสสองอัน…..ที่มีกล่องเหมือนกัน
เมื่อเธอรู้ตัวหัวใจของ เซิน หนิงซิน ก็อุ่นขึ้น
เป็นยัยเด็กขี้แยนี้นี้เองที่เอามันมาให้เธอ
เธอจะต้องไปขอบคุณเธอที่หลัง
—
เมื่อเกือบจะถึงเวลาเลิกงาน เซิน หนิงซิน พึ่งจะจัดเรียงเอกสารไปได้แค่ครึ่งเดียว
ผู้จัดการ หลู๋ ต้องการให้จัดเรียงอย่างเร่งด่วนและจะถามถึงมันได้ทุกเมื่อ เซิน หนิงซิน เองก็เป็นคนที่ชอบผัดวันประกันพรุ่ง เพราะงั้นมันจะดีกว่าถ้าทำเสร็จให้เร็วที่สุด
เธอเลยตัดสินใจจะทำงานล่วงเวลาคืนนี้
ไม่นานก็ไม่มีใครเหลืออยู่ในออฟฟิศ
เซิน หนิงซิน ลุกขึ้นไปหากาแฟดื่ม แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นเธอก็พบว่า คิว อีไป๋ ยังนั่งกดแป้นพิมพ์อยู่หลังประตูกระจก มันเงียบอย่างน่าประหลาดใจ
แล้วเธอก็รู้ตัวว่า หลังจากเวลาเลิกงาน คิว อีไป๋ จะเป็นคนกลับช้าที่สุดเสมอ
เมื่อเห็นว่าเธอกำลังยุ่งอยู่ เซิน หนิงซิน ก็ไม่ได้ไปรบกวนเธอ ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง นั่งลงขยับไหล่ไปมา แล้วเริ่มทำงานต่อ
ผ่านไปซักพัก เธอก็ได้รับการแจ้งเตือนจากวีแชท
เซิน หนิงซิน สะดุ้งเพราะเสียงนั้น ก่อนจะค่อยๆเปิดวีแชทขึ้นมาดู แล้วพบว่าเป็น คิว อีไป๋ ที่อยู่ใกล้ๆเธอเป็นคนส่งข้อความมา “เซิน หนิงซิน เธอจะกลับเมื่อไหร่”
เซิน หนิงซิน “คะ?”
คิว อีไป๋ “ถ้าเธอยังไม่กล้าเราจะต้องเปิดไฟทิ้งไว้ มันเปลีองไฟ”
หรือก็คือ เธอกำลังบ่นที่ฉันใช้ไฟเปลือง
เซิน หนิงซิน ฝืนยิ้มแล้วตอบกลับ “ฉันยังทำงานไม่เลยค่ะ ฉัยเลยยังกลับไม่ได้”
จะให้เธอทำยังไงหล่ะ มันไม่ใช่ว่าเธออยากจะทำงานล่วงเวลาซะหน่อย
หลังจากเธอส่งข้อความไป มันก็ไม่มีเสียงการแจ้งเตือนจากวีแชทเข้ามาอีก
กลับเป็นเสียงประตูห้องของ คิว อีไป๋ เปิดออกมาช้าๆ และเธอก็ได้ยินเสียงเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น คิว อีไป๋ ก็มายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว แล้วเธอก็ส่ง USB ไดรฟ์ ให้กับเธอ “คัดลอกเอกสารครึ่งนึงของที่เหลือมาให้ฉัน”
ด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างและใบหน้าเรียบนิ่งเหมือนเธอเขียนคำว่าเลือดเย็นบนหน้าของเธอ
แต่ความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเธอคือเธออยากจะช่วย
เซิน หนิงซิน ประหลาดใจก่อนจะส่ายหน้ารู้สึกเขินหาย “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทำเองได้ ปนะธาน คิว คุณ…”
ก่อนที่เธอจะได้พูดจบประโยค คิว อีไป๋ ก็หันหน้าแล้วเดินจากไป
ผ่านไปสักพัก เซิน หนิงซิน หยิบ USB ไดรฟ์ ขึ้นมาที่มุมปากของเธอยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว
—
มันยังมีเอกสารอยู่อีกเยอะมันจึงใช้เวลาหลายนาทีในการคัดลอกครึ่งนึงออกมา เซิน หนิงซิน ดึง USB ไดรฟ์ออกมาและนำมันไปให้ คิว อีไป๋ ที่ออฟฟิศของเธอ แล้วเธอก็เห็นว่ามันยังมีเอกสารที่ยังทำไม่เสร็จอยู่บนหน้าจอคอมของเธอ
เธอยังทำงานของเธอไม่เสร็จด้วยซ้ำแต่เธอก็เสนอตัวจะช่วยเธอ
เซิน หนิงซิน งุนงง ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร USB ไดรฟ์ ก็ถูกคว้าไปอย่างรวดเร็วผ่านไปไม่กี่นาทีการคัดลอกไฟล์ก็เสร็จ
นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตอนกลางวันได้ เซิน หนิงซิน รีบขอบคุณเธอแสดงความขอบคุณและซาบซึ้งที่เธอนำอาหารกลางวันมาให้จากใจจริง
“โอ” คิว อีไป๋ ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาถ้าเปิดลิ้นชักและใส่ USB ไดรฟ์ลงไป
เมื่อเห็นว่าความโกรธของเธอยังไม่ได้เบาลง เซิน หนิงซิน อยากจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อรักษาความสัมพันธ์ของพวกเธอไว้ เมื่อลิ้นชักเปิดออกเธอก็เห็นตุ๊กตุ่นน้องหมาขนาดเท่ากำปั้นอยู่่ข้างใน
มันเป็นตัวละครเดียวกับที่แขวนอยู่บนกระเป๋าของเธอ
ดูเหมือนว่าเธอจะชอบมันมากไม่ใช่แค่เธอใช้มันเป็นโปรไฟล์เวย์ปั๋วของเธอ เธอมีแต่ตุ๊กตุ่นเก็บเอาไว้
“ประธาน คิว คุณก็ชอบน้องหมาตัวนี้เหมือนกันหรอคะ?” เธอยิ้มและพยายามพูดคุยกับ คิว อีไป๋ “ฉันเองก็ชอบเหมือนกันฉันมีอยู่…”
ก่อนที่เธอจะพูดจบเธอก็เห็น คิว อีไป๋ ปิดลิ้นชักไปอย่างรวดเร็ว
เธอเงยหน้าขึ้นมาเหมือนกำลังทำอะไรผิดแล้วบอกกับเธอ “ใครบอกว่าฉันชอบมัน? ฉันซื้อมันมาให้กับหลานของฉันต่างหาก”
“ฉันจะไปชอบของเด็กๆแบบนี้ได้ยังไง ล้อกันเล่นหรือไง….”
เหมือนกับกลัวว่า เซิน หนิงซิน จะไม่ได้ยินเธอพูดต่อ “มีแค่เด็กเท่านั้นแหละที่ชอบอะไรแบบนี้”
เซิน หนิงซิน “….”
เธอเอาอีกแล้วไง
แล้วฉันจะหาอะไรคุยต่อดีล่ะทีนี้
—
ยัยเด็กนี้ซึนได้ใจจริงๆ
-A Cup of Owls
MANGA DISCUSSION