หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 488 เหยียบให้เละ
ตอนที่ 488 เหยียบให้เละ
ยิ่งคิดได้เช่นนั้น บุรุษในชุดคลุมสีดําก็ยิ่งเกรี้ยวกราด มันกัดปลายลิ้นใช้เลือดที่อาบท่วมปากพ่นใส่ผืนธงสูบวิญญาณ
“คิดหนีกระนั้นหรือ ? ฮ่าฮ่าฮ่า อย่าฝัน ! วันนี้ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจหนีรอดไปได้ !” เพียงสิ้นเสียง ใบหน้าปีศาจที่อ่อนระโหยโรยแรงพลันถูกครอบคลุมด้วยล่าแสงสีแดงเพลิงที่เจิดจ้า เสียงร้องระงมของเหล่าภูตผีปีศาจดังกึกก้องทั่วฟ้า
ใบหน้าปีศาจพุ่งม้วนตัวกลางอากาศ ก่อนจะมุ่งเข้าหาอู่ซินอย่างไม่รอช้า
เสียงเยาะเย้ยของบุรุษในชุดคลุมสีดําดังติดตามมา “ครานี้ข้าจะรอดูสิว่าเจ้ายังจะควักวรยุทธใดออกมาใช้อีก !”
อู่ซินไม่อาจยกท่อนแขนได้แล้วในยามนี้ พลังปราณแทบสิ้นสูญ ทั่วร่างไม่เหลือที่ใดไม่ปรากฏร่องรอยบาดแผล
เกอซีรีบรวบรวมพลังเปลวเพลิงสีทองพุ่งเข้าโจมตีใบหน้าปีศาจ ทันทีที่เห็นเขี้ยวของมันกําลังจะขบกัดลงบนศีรษะของอู่ซิน
ทว่ากลับถูกชายในชุดคลุมส่งเสียงหัวเราะเยาะ “เจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ํานมไร้สมอง ใบหน้าปีศาจอันเกิดจากอาคมชั่วร้ายมีหรือจะถูกทําลายด้วยพลังเพลิงเพียงกระจ้อยของเจ้าได้”
ทว่าเพียงไม่ช้านาน มันกลับหัวเราะไม่ออก
เนื่องเพราะเพียงเปลวเพลิงสีทองสัมผัสถูกใบหน้าภูตผีเหล่านั้น เสียงแผดเผามอดไหม้ดัง จ่า จ่า กลับก้องกังวาน ใบหน้าอันน่าสะพรึงกลัวของภูตปีศาจพลันบิดเบี้ยวเผยถึงความเจ็บปวดทรมานอยากล่องหนหนีหายไปจากที่นั้น
ชายในชุดคลุมสีเทายิ่งตื่นตระหนกตกใจ “ปราณสวรรค์อัคคี ? เป็นไปได้เยี่ยงไร ? พลังฝีมือของเจ้าอยู่เพียงขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ เหตุใดจึงสามารถควบคุมปราณสวรรค์อัคคีทําร้ายภูตปีศาจของข้าได้ เจ้า… แท้จริงแล้ว เจ้าคือผู้ใดกันแน่ ?”
แม่ใบหน้าปีศาจเหล่านั้นจะหวาดกลัวปราณอัคคีที่พุ่งเข้าโจมตี ทว่าที่สุดมันกลับสามารถต้านรับไว้ได้ด้วยอาคมโลหิตที่ชายในชุดคลุมร่ายคาถาครอบไว้
เพียงมันไม่คิดว่า เด็กน้อยด้อยฝีมือผู้นี้จะสามารปลดปล่อยพลังปราณอัคคีสวรรค์ ทั้งยังเป็นธาตุอัคคีที่บริสุทธิ์สูงส่งอีกด้วย
มันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันทีเมื่อคลายความตื่นตกใจ “ไม่ว่าปราณอัคคีของเจ้าจะได้มาอย่างไร แม้นเจ้าจะสามารถปลดปล่อยพลังอัคคีที่บริสุทธิ์เหนือคนทั่วไป ทว่าเมื่อผืนธงของข้าสูบกลืนวิญญาณเจ้าหนุ่มพลังย้ายเคลือนจิตวิญญาณนั้นเข้าไป ผืนธงของข้าย่อมมีพลังแข็งแกร่งกว่าเดิมถึงสิบเท่าตัว ฮ่าฮ่าฮ่า… ถึงเวลานั้น พวกเจ้าทั้งหมดจงเตรียมรับความพ่ายแพ้ไว้ให้ดีเถิด
เพียงสิ้นเสียง มันพลิกฝ่ามือ เส้นไหมสีดําพลันพุ่งตรงเข้ารัดร่างของเกอซี หยุดยั้งความเคลื่อนไหวทั้งหมดของหญิงสาวในบัดดล
“จ๊จ๋า ครานี้เจ้าอยู่ในมือของข้าแล้ว มาเป็นยอดอาหารอันโอชะให้เหล่าภูตของข้าเถิด หากปล่อยให้เจ้าต้องตายเปล่า ข้าจะหาผู้มีพลังบริสุทธิ์เช่นนี้จากที่ใดได้อีก รอข้าก่อน รอให้ภูตของข้ากลืนกินเจ้าหนุ่มย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณผู้นี้เสียก่อน ท่านผู้นี้จะมาร่วมสนุกกับเจ้าอย่างแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า…”
กล่าวจบ เสื้อคลุมของมันพลันสะบัดปลิว ร่างของมันบิดเข้าประจันหน้ากับอู่ซินผู้อยู่ไม่ไกลห่างออกไปนัก
ยามนี้พลังของอู่ซินแทบไม่เหลือ แม้กระบี่ตัดนภายังคงถูกคุมกาไว้ในมือ ทว่าจะมีประโยชน์อันใด เมื่อในยามนี้การลงมือสังหารเขาช่างง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ
หากแต่เพียงบุรุษในชุดคลุมสีเทากระโจนร่างเข้าหา ลมกรรโชกแรงสายหนึ่งพลันโถมเข้าใส่
โป๊ก” ราวกับถูกชามเหล็กเขวี่ยงใส่หัว ร่างของชายชุดดําซวนเซถลา ก่อนจะอยู่ในสภาพนิ่งอึ้งแทบหยุดหายใจ
“โอ๊ะ ! น้ําเต้าของข้า สุราของข้าหกไปทั่วเลย หกหมดแล้ว โธ่ !”
“เจ้าเด็กดื้อ กล้าทําสุราข้าเสียหายหมด เจ้าต้องชดใช้คืนให้ข้า !”
เกอซึ่งุนงง คล้ายยังลังเลสับสน ส้มเสียงเช่นนี้ ค้นหยิ่งนัก ถ้อยค่าเช่นนี้ กับประโยคเช่นนี้…
แน่แล้ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยับย่นพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าสายตาหญิงสาว พร้อมกลิ่นฉุนของสุราที่ร้อนแรง
เพียงชายชราผู้นั้นเห็นเกอซี เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะร่วน “โอ้ว ! เจ้าศิษย์รัก ! เหตุใดเจ้าจึงมาโผล่ที่นี่ได้เล่า ? แหม….ช่างบังเอิญเสียจริง เอ้า ! ดี ดี ! ข้ามิได้ยืดเส้นยืดสายมานานแล้ว ไหน ? ไหน ? ไอ้หน้าไหนมันกล้ารังแกเจ้า ? บอกมา ! เดี๋ยวข้าเหยียบมันให้เละเอง !”
***จบตอน เหยียบให้เละ***