หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 460 ทักษะแพทย์ขั้นปรมาจารย์ ?
นิยาย หัตถ์เทวะธิดาพญายมตอนที่ 460 ทักษะแพทย์ขั้นปรมาจารย์ ?
ครั้งที่คนผู้นั้นว่าจ้างพวกเขายังย่ำคําว่าโรงโอสถเชิงเต่อถูกตัดหนทางหาซื้อสมุนไพรประกอบโอสถในทุกทางย่อมไม่อาจประคองโรงโอสถให้ดําเนินกิจการต่อไปได้หน้าที่ของพวกเขาแค่เพียงเข้ามาดําเนินการค้าโอสถให้แก่โรงโอสถจเซ็งเพื่อกดดันให้โรงโอสถเชิงเต่อต้องปิดตัวลงในที่สุด
นามแท้จริงของท่านหมอผู้นี้คือฉางเซิงผู้มีทักษะทางการแพทย์ขั้นสี่ ทั้งยังเป็นคนสนิทที่ได้รับความไว้วางใจจากบุรุษในชุดคลุมสีเทาผู้นั้น
แท้จริงโรงโอสถจีเซ็งแห่งนี้ถูกตั้งตามนามของท่านหมอฉางผู้นี้นั่นเอง สามารถกล่าวได้ว่าคนผู้นี้ย่อมมีบทบาทในฐานะเจ้าของโรงโอสถเช่นกัน เมื่อโรงโอสถจีเซึ่งต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้มีหรือที่ท่านหมอกูจะไม่ประหวั่นพรั่นพรึง
หัวคิ้วทั้งสองของท่านหมอฉางขมวดมุ่นเข้าหากัน ดวงหน้าเรียบสงบเผยความตื่นตระหนก“ผู้ใดคือนายใหม่แห่งโรงโอสถเซ็งเต่อ ? พวกเจ้ารู้หรือไม่ ?”
ท่านหมอก่ส่ายหน้าด้วยอาการตื่นผวา“ข้าเองก็มรู้ทว่าข้าได้ส่งเด็กเข้าไปลอบสืบเรื่องราวของโรงโอสถเซิงเต่อจากข่าวกรองที่ได้รับทราบเพียงนายใหม่ผู้นี้มาจากตระกูลใหญ่ที่ทรงอิทธิพล
“เอ๋ ?”
ท่านหมอก่กลืนน้ําลายลงลําคอด้วยความยากลําบากคราหนึ่งก่อนแถลงถ้อยคําต่อไป“ส่วนในโรงโอสถยังประกอบด้วยอารักขาผู้มีฝีมือยอดเยี่ยมถึงสิ้นายแต่ละนายล้วนพกอาวุธเวทร้ายกาจทั้งเครื่องแต่งกายล้วนวิจิตรสูงราคา หากมิใช่ผู้มั่งคั่งในสกุลใหญ่มีหรือจะสามารถเพียงนี้ ?”
“ข้ายังได้ยินมาว่า เมื่อสองวันก่อนมีผู้คิดก่อกวนโรงโอสถเซ็งเต้อ พวกมันล้วนเป็นยอดฝีมือขั้นที่สามพลิกผันอเวจีทว่าผู้ใดจะคาดคิด เพียงผู้ดูแลโรงโอสถเซ็งเต่อกระดิกนิ้วเหล่ายอดฝีมือขั้นที่สี่ปฐพี่สะท้านสะเทือนถึงสิ้นายพลันปรากฏขึ้นในทันทีพวกเขาสามารถเก็บงําพลังของตนไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมกระทั่งไม่มีผู้ใดสัมผัสได้เช่นนี้แล้วยังจะมีผู้ใดกล้าทุ่มบ่ามได้อีกเล่า ?”
คิ้วทั้งสองของท่านหมอฉางยิ่งกดเข้าหากันแน่นสีหน้าของเขาพลันแปรเปลี่ยน“มีผู้ใดรู้ฐานะแท้จริงของผู้ปรุงโอสถชุดนี้หรือไม่ ?”
“ไม่ขอรับ” ท่านหมอก่ส่ายหน้า “ต่างกล่าวขานกันเพียงว่าในช่วงแรกโรงโอสถเซ็งเต๋อเพียงวางจําหน่ายโอสถเสริมพลังขั้นที่หนึ่งและขั้นที่สองของผู้ปรุงท่านนี้เบื้องหน้าอีกไม่นานยังพร้อมวางขายโอสถเสริมพลังขั้นที่สามและขั้นที่สี่ติดตามมาอีกด้วยด้วยคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของโอสถชุดนี้ทั้งกับความสามารถในการปรุงกลั่นโอสถถึงคุณสมบัติขั้นที่สี่เช่นนี้ผู้ปรุงกลั่นโอสถชุดนี้ต้องมีทักษะการแพทย์ระดับปรมาจารย์อย่างแน่นอน”
การวัดระดับความสามารถทางการแพทย์มีการจัดลําดับตามระดับความสามารถนั่นคือขั้นผู้ช่วยขั้นฝึกหัดขั้นอาจารย์ขั้นปรมาจารย์ขั้นยอดปรมาจารย์ ขั้นปรมาจารย์เทวะ ขั้นบูรพาจารย์ ขั้นเทวะบรรพกาล
ทว่าทอดสายตาไปตลอดทั่วแถบทวีปหมีหลัวแห่งนี้ผู้ปรุงโอสถที่ประกอบด้วยคุณสมบัติถึงระดับปรมาจารย์สามารถกล่าวได้ว่าแทบไม่อาจพบเจอยิ่งหากกล่าวถึงระดับยอดปรมาจารย์จะพบเจอเพียงหนึ่งหรือสองท่านล้วนยากเย็นราวงมเข็มในมหาสมุทร
และหากผู้ปรุงโอสถให้แก่โรงโอสถเซ็งเต่อคือแพทย์ผู้มีทักษะสูงส่งระดับยอดปรมาจารย์……ย่อมนับเป็นปัญหาหนักใหญ่หลวง
ใบหน้าของท่านหมอฉางแปรเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์สิ้นดีเขาก้มหน้านิ่งครู่หนึ่งก่อนกัดฟันกล่าว “เจ้ามีโอสถเสริมพลังวิญญาณชุดนั้นหรือไม่ ?เจ้าเคยไปดูด้วยตาตนเองหรือไม่”
“มิได้ขอรับ ท่านหมอฉาง ท่านก็เห็นแล้วว่าแนวแถวรอซื้อโอสถยาวไกลเพียงไร แม้นอยากหาซื้อล้วนไร้สามารถ
ทุกถ้อยคํากล่าวล้วนเป็นความจริง ประกายในแววตาบนดวงหน้าที่ก้มตําของท่านหมอกวูบวาบขึ้นคราหนึ่ง
ท่านหมอใหญ่ร้องตะคอกใส่เด็กรับใช้ในโรงโอสถด้วยความเกรี้ยวกราด “ไอ้พวกไม่ได้เรื่องยังไม่รีบไปเข้าแถวซื้อโอสถให้ข้าอีก !” เด็กรับใช้ที่นั่งเบื้อมาทั้งวันต่างรีบแยกย้ายวิ่งไปเข้าแถวเตรียมซื้อโอสถจากโรงโอสถเซิงเต่อให้ผู้เป็นนาย
ทว่าแนวแถวยาวที่ไม่เห็นกระทั่งหัวแถวเช่นนี้ ต้องรั้งรออีกนานเท่าไรจึงสามารถซื้อหาโอสถ
ท่านหมอใหญ่เพ่งสายตามองโรงโอสถฝั่งตรงข้ามด้วยใบหน้าหม่นมัว
โอสถเสริมพลังชุดสุดยอดนั้น…ไม่คิดเลยว่าผู้ปรุงโอสถที่สามารถสร้างความสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตลาดมืดจะเข้าร่วมมือกับโรงโอสถเซ็งเต่อ
เดิมที โรงโอสถเซิงเต่อแห่งนั้นย่อมต้องปิดตัวภายใต้แรงบีบคั้นจากเขาโดยแท้ทว่ายาม
….. ”
เพียงปัจจัยหลักสําคัญหาใช่ตัวโรงโอสถไม่ หากแต่คือผู้ปรุงโอสถท่านนั้น
***จบตอน ทักษะแพทย์ขั้นปรมาจารย์ ?***