หวานใจคุณชายเสิ่น - ตอนที่ 9
กู้สวงส่วง”……”
ไอ้พวกตาบอด! นายนี้มันเป็นหนุ่มบาร์โฮสมั้ยล่ะ!
เอาความโกรธเต็มอกเก็บไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ รูปถ่ายหัวโล้นนั้นจะต้องไม่มีวันเผยออกมา! เธอยังต้องการจะเป็นแม่สาวอกใหญ่แห่งคณะศิลปศาสตร์เป็นเวลาอีกสองปี ดังนั้นจึงต้องทน!
พอพูดจบไปแล้วสิบรอบ กู้สวงส่วงรู้สึกว่าถูกเขาตีหน้ามามากพอ และเขาก็ชี้ลงไปที่โต๊ะด้านล่างที่ว่างเปล่าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม: “นักเรียนคนนี้ทั้งมาเรียนสาย แล้วไหนจะหนีเรียนอีก ลงโทษด้วยการยืนเรียนทั้งคาบ”
“……”ในเมื่อคุณทำแบบนี้ฉันก็จะทำคืนเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นเงินค่าบริการของคุณก็อย่าคิดที่จะเอาละกัน!
ขณะที่เขาเริ่มทำการสอน กู้สวงส่วงกำลังยืนจ้องมองเขาด้วยความโกรธแค้น ในชุดสูทสีดำพร้อมเสื้อเชิ้ตสีขาว และยืนแกร่วอยู่ตรงนั้น อีกทั้งยังใส่แว่นตาไร้ขอบ ซึ่งไม่คมเข้มเหมือนเมื่อก่อน นอกจากนี้ทั่วร่างกายของเขายังเปล่งประกายความสง่างามและความผ่อนคลายออกมา ซึ่งสะอาดมากจนทำให้ผู้คนมองแบบไม่ละสายตาเลย
แต่พอเอ่ยปากก็เป็นหนุ่มบาร์โฮสดีๆนี่เอง……
“นักเรียนคนนี้ทั้งมาสาย แล้วไหนจะหนีเรียนอีก ขึ้นมาเช็ดกระดานหน่อย”
“……”ฝืนทน
พอผ่านไปสักพัก
“นักเรียนคนนี้ทั้งมาสาย แล้วไหนจะหนีเรียนอีก ขยับไปที่หน้าต่างหน่อย อาจารย์กลัวแดดส่อง”
“……”ฝืนทนกับกะหรี่อย่างนาย!
หลังจากนั้นอีกสักพัก
นัยน์ตาสีดำของชายคนนั้นก็มองมาอย่างเงียบๆ: “ นักเรียนคนนี้ทั้งมาสาย แล้วไหนจะหนีเรียนอีก มาช่วยถอดนาฬิกาบนข้อมือของอาจารย์ให้หน่อย มือของอาจารย์มีฝุ่นชอล์กติด”
เธอเดินเข้าไปอย่างไร้อารมณ์ นิ้วมือของเธอค่อยๆไปแตะข้อมืออันมีเสน่ห์ของชายคนนั้นด้วยความสั่นสะท้านเล็กน้อย เนื่องจากเธอไม่เคยถอดนาฬิกาให้กับเพศตรงข้าม เธอถอดอย่างงุ่มง่ามเป็นเวลานาน แต่สุดท้ายก็ได้ความช่วยเหลือจากเขา ขณะที่เขาโน้มตัวลงมาลมหายใจที่ร้อนอบอ้าวและกลิ่นหอมกรุ่นของความเป็นผู้ชายก็ผ่อนลมหายใจออกมาใส่ที่ด้านข้างลำคอของเธอ กู้สวงส่วงตัวสั่นและหน้าแดงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทันใดนั้นราวกับว่าแสงเลือดสาดส่องมาจากด้านล่าง เนื่องจากพวกผู้หญิงต่างมองเธอด้วยความโกรธเกรี้ยว
แย่แล้วไง คราวนี้ถูกเขาลอบให้ร้ายกลายเป็นเป้าโดยสิ้นเชิงซะแล้ว……
ทรมานถึงขั้นใกล้จะตายไปอยู่แล้ว ในที่สุดเสียงกริ่งก็ดังขึ้นสักที!
กู้สวงส่วงแอบดีใจอยู่ในใจ แต่ดีใจยังไม่ทันไร ชายรูปร่างสูงใหญ่เดินไปถึงประตูห้องเรียนแล้วค่อยๆหันกลับมา และยิ้มให้เธออย่างสุภาพอ่อนโยนสูงส่งสง่างามดุจหยกอันล้ำค่า: “นักเรียนคนนี้ทั้งมาสาย แล้วไหนจะหนีเรียนอีก มาที่ห้องกิจการนะ อาจารย์อยากจะคุยกับคุณแบบเจาะลึกหน่อย”
โถ ทุกวันนี้หนุ่มบาร์โฮสสุภาพกันขนาดนี้แล้วเหรอ หาเรื่องก็หาเรื่องสิ ทำเป็นมาพูดว่าอยากคุยกันแบบเจาะลึก?
IQของเด็กผู้หญิงคนนี้ เข้าใจสี่คำนี้ในลักษณะแบบนี้ และเดินตามเขาไปด้วยหน้าบูดหน้าบึ้ง เธอเคยหนีเรียนไม่ใช่จะน้อย แต่นี้เป็นครั้งแรกที่ถูกอาจารย์เรียกไปพบในห้องกิจการ! นี้มันความโกรธความแค้นอะไรกันเนี่ยหนุ่มบาร์โฮสกลายเป็นครู โสเภณีกลายเป็นักเรียน!
ห้องกิจการเดี่ยว
ชายคนนั้นถอดแว่นตาทรงเรแบนที่เกะกะแล้วโยนลงบนโต๊ะ หันกลับมามองไปที่เธอโดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็ถอดเสื้อสูทออกอย่างเอื่อยเฉือย และแสดงท่าทางเกียจคร้านและเซ็กซี่
กู้สวงส่วงหดตัวอยู่ตรงประตู ก้มหน้าลง ใบหน้าของเธอร้อนรุ่มและเขินอายจนไม่กล้ามองไปที่เขา
ท่าทีสะเทิ้นอายของสาววัยรุ่นคนนี้ กลับทำให้คนรู้สึกคันใจ
เสิ่นมั่วเฉิงมองดูเธอเป็นเวลานาน หมอกควันในแววตาของผู้ชายที่ปลอดปล่อยออกมา และเลื้อยอยู่บนรูปร่างของเธอ จากนั้นก็เปิดสมุดแสดงผลการเรียนของรายวิชา: “หนีเรียนหนึ่งคาบ มาสายหนึ่งคาบ หักคะแนนเก็บของคุณกี่คะแนนดีเนอะ”
ไม่ใช่มั้ง เลื่อนขั้นไปถึงหักคะแนนเก็บแล้วเหรอ? คะแนนเก็บคิดเป็นครึ่งหนึ่งของการสอบปลายภาคเลยนะ!
กู้สวงส่วงสีหน้าทุกข์ใจ: “ฉันไม่กล้าอีกแล้ว อาจารย์เทพบุตรได้โปรดอย่า……”
“มิกล้ารับ ผมเป็นแค่ชายกระจอก”
“……”
ที่แท้ก็ผูกพยาบาท……
ไอ้คนจิตใจแคบ ไอ้คนหน้าเนื้อใจเสือ! การเยาะเย้ยโดยไม่ได้ตั้งใจ ได้ทำการลงโทษในการยืนเรียนและเรื่องจุกจิกต่างๆ ยังไม่เพียงพอที่จะบรรเทาความเกลียดชังของคุณเหรอ?
แม้ว่าในใจจะโกรธแค้นเขามากแค่ไหนแต่ปากยังไงก็ต้องยอมอ่อนข้อให้เขา: “ฉันผิดไปแล้วจริงๆ คุณลุงตัวท็อปคะ ถ้าหากฉันรู้ว่าคุณเป็นอาจารย์คนใหม่ ฉันไม่กล้าโดดเรียนแน่นอน! ได้โปรดคุณอย่าหักคะแนนเก็บของฉันได้ไหม?”
“มานี่”
กู้สวงส่วงเห็นเขาไม่วางสมุดแสดงผลการเรียนของรายวิชาลงสักทีและจะหักคะแนนเธอได้ทุกเมื่อ ดังนั้นจึงทำได้เพียงเดินเข้าไปอย่างเชื่อฟัง และหยุดลงซึ่งอยู่ห่างจากเขาประมาณสองก้าว โดยมีเงาร่างสูงใหญ่ปกคลุมอยู่เหนือศีรษะของเธอ
เธอกำลังจะเงยหน้าขึ้น มือขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างเย็นและแห้งกร้านของชายคนนั้นมาแตะที่หน้าผากเธอ
“ทำไร?” เธอตื่นตระหนก
ชายคนนั้นสีหน้าเคร่งขรึม กดศีรษะอันน้อยๆของเธอไว้ และขมวดคิ้ว: “เป็นไข้มาแค่ไหนแล้ว?”
กู้สวงส่วงเพิ่งตระหนักได้ว่าเขากำลังวัดอุณหภูมิให้เธอ จึงรู้สึกปลื้มใจเล็กน้อย: “สองวัน แต่ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว”
“ไปตรงนั้นและนอนลง”
เธอมองตามที่เขาชี้ไป และเห็นข้างๆตู้หนังสือมีเตียงเดี่ยวอยู่หนึ่งเตียง เกรงว่าคงจะเอาไว้ให้อาจารย์พักผ่อน แต่ทำไมต้องให้เธอไปนอนลงมันยังไงกัน?
ทันใดนั้นในหัวของเธอก็นึกถึงข่าวคราวที่อาจารย์ชายรังแกนักเรียนอยู่บ่อยๆ พอเมื่อกี้มาถึงก็สังเกตเห็นว่าชั้นนี้เป็นห้องกิจการของเขา……
สีหน้าของเธอซีดเผือด เธอกอดตัวเองโดยทันทีและถอยหลังอย่างระวัง จ้องไปที่หน้าเนื้อใจเสือคนนี้อย่างโกรธเคือง: “ฉันจะยอมไม่นอนลง! ไอ้บ้าตัวท็อป ฉันไม่ใช่คนใจง่ายขนาดนั้นหรอก อย่าคิดว่าแค่เพียงคะแนนเก็บไม่กี่คะแนนก็จะให้ฉันอ้าขาออก!”
“……”คสามคิดนี้ก็ช่างคิดได้เนอะ……
……แม่งเอ๊ยต่อให้มึงอ้าขาออกแต่กูจะเอาเข้าไปได้ไหม
ขณะที่ใบหน้าของใครบางคนดำคล้ำราวกับถ่าน กู้สวงส่วงฉวยโอกาสหันหลังหนี แต่คาดคิดไม่ถึงขาของชายคนนั้นยาวฉะนั้นฝีเท้าในการก้าวจึงใหญ่ และในวินาทีถัดมาเธอก็ปวดตรงสะโพก ซึ่งฝ่ามืออันใหญ่ของชายคนนั้นตบเธอด้วยความโกรธ กู้สวงส่วงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด สะโพกของเธอโดนตบด้วยฝ่ามืออันใหญ่ของเขา ตัวเธอลอยขึ้น และคนทั้งตัวก็แขวนอยู่บนตัวของเขา!
กู้สวงส่วงอึ้งทึ่ง ใบหน้าของเธอถูกกดลงบนหน้าอกที่แข็งทื่อของชายคนนั้น บนร่างกายของมีกลิ่นแปลๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเชิ้ตหรือผิวหนัง ยังคงมีกลิ่นที่สะอาดและความเป็นผู้ใหญ่ที่น่าดึงดูดใจ หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นทันที และหน้าแดงจนลืมที่จะคัดค้าน
แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอถูกเขาโยนลงบนเตียงอย่างไม่อ่อนโยน
เธออยากจะพลิกตัวและลุกขึ้นมา แต่ชายคนนั้นใช้กำลังของนิ้วกดแขนเล็กๆเธอไว้ แล้วกดเธอล้มตัวนอนลงโดยตรง!ทันใดนั้นก็หมดความอดทน: “ถ้ายังไม่เชื่อฟังอีก ผมจะปล้ำคุณจริงๆแล้วนะ”
“……”
หน้าแดงจนไม่กล้าแม้แต่หายใจ หลังจากติดต่อการหลายครั้ง ฉันเพิ่งเคยเห็นเขาอารมณ์เสียครั้งแรก ท่าทางโกรธของผู้ชายโตเต็มวัยซึ่งมันไม่เหมือนกับเด็กวัยรุ่นในห้องเรียนเลย เขาไม่ได้ตะคอก เพียงแต่เสียงทุ้มต่ำของเขาเต็มไปด้วยความสยดสยอง
เธอหลับตาลง ขนตาสั่นระริก เพียงแค่ได้ยินเสียงฝีเท้าอู้อี้ของชายคนนั้นเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง ทันใดนั้นหน้าผากและดวงตาของเธอก็เย็นชื่น
เธอเอื้อมมือไปจับ เป็นก้อนน้ำแข็งที่ห่อด้วยผ้าขนหนู
ดังนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าเข้าใจผิดเขาแล้ว เธอค่อนข้างใจร้อนง่าน: “คุณลุงตัวท็อป……”
“หุบปากแล้วนอน!”
เขาเย็นชา คงจะถูกเธอยั่วยุจนโมโห และไม่ยอมพูดอะไรมากกว่านี้ เขาลุกขึ้นและเดินไปที่โต๊ะทำงาน ออร่าที่กดขี่ก็ได้อพยพออกไป กู้สวงส่วงได้ยินเสียงพลิกหน้าหนังสือ
เสียงนี้ค่อยๆเป็นเหมือนกับเสียงกล่อมนอน และจากนั้นสักพัก เธอก็ผล็อยหลับไป
ตอนเที่ยง เป็นช่วงเวลาที่แดดแรงที่สุด เสิ่นมั่วเฉิงเหลือบมองยัยโง่ที่กำลังหลับใหล จากนั้นก็ปรับอุณหภูมิของแอร์ให้พอดี ชายคนนั้นวางหนังสือในมือลง รูปร่างสูงใหญ่ของเขายืนขึ้น เดินไปข้างๆเตียง ขมวดคิ้วและจ้องมองใบหน้าซีดเผือดที่อยู่บนเตียง
หน้าผากร้อนมาก และสีหน้าก็แย่มากเหมือนกัน เขาสังเกตเห็นตั้งแต่ในคาบเรียนแล้ว แม้แต่ยืนยังยืนไม่นิ่งซึ่งราวกับป่วยหนักมาก ถูกใครรังแกมาเนี่ยร้องไห้จนตาบวมขนาดนี้?
เขานั่งลงที่ข้างๆเตียง มืออันใหญ่และเรียวยาวของชายคนนั้นไปแตะแก้มของเธอ มันนุ่มมากจริงๆด้วย และเพียงแค่บีบเล็กน้อยก็สามารถบีบน้ำออกมาได้อีกด้วย จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์และเปิดรูปถ่ายหัวโล้นที่ติดบัตรประจำตัวของเธอ ถ่ายเมื่อหลายปีก่อน? ทำไมถึงเป็นหัวโล้น? ซึ่งทำให้เขานึกถึงแม่ชีตัวน้อยในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรเวอร์ชั่นเก่าที่เขาเคยหลงใหลตอนมัธยมปลาย หน้าตาน่ารักและนุ่มนวล
สายตาที่กำลังมองในระหว่างนั้นก็ถึงกับตราตรึง จากนั้นก็ก้มหน้าลงไปที่ปกคอเสื้อระหว่างหน้าอกเล็กน้อย เมื่อไม่สามารถจูบไม่โดนผิวขาวและอ่อนนุ่มของเธอนั้นได้ก็ยิ่งรู้สึกคันใจอย่างมาก ชายชราผู้โดดเดี่ยวทำหน้าบึ้ง: “เจ้าหัวโล้น ยัยโง่ สามีของคุณหิวแล้วนะ เมื่อไหร่จะมาสนับสนุนผมอีกครั้ง?”
เมื่อจังชิงเดินมาถึงที่ประตู เขาก็ได้ยินเสียงประธานเสิ่นที่เยือกเย็นกำลังพูดพึมพำกับตัวเองอย่างยั่วสวาท……
เขาเสแสร้งทำเป็นไอ จากนั้นก็เคาะประตู