หวานใจคุณชายเสิ่น - ตอนที่ 8
กู้สวงส่วงไม่ได้คัดค้าน เพราะทั้งตัวเขามีเงินอยู่แค่ร้อยยี่สิบที่ทำงานหามาอย่างยากลำบาก ซึ่งเธอไม่มีปัญญาจ่ายค่าแท็กซี่
เดินตามเขาไปถึงหน้าบีเอ็มดับเบิลยูที่ใหม่เอี่ยม กู้สวงส่วงยิ้มให้เขาด้วยแววตาอันบริสุทธิ์: “รถสวยนะเนี่ย คงเป็นพ่อตาในอนาคตมอบให้ละสิ?”
ลู่เฮ่าเซวียนขมวดคิ้วพร้อมกับเม้มปากแน่นและมองไปที่เธอ เขาในตอนนี้ก็ถือได้ว่าเป็นคนที่มีหน้ามีตา และเป็นนายน้อยที่สง่างาม ซึ่งไม่ใช่เด็กยากจนที่ต้องใส่เสื้อผ้าที่เธอคอยตัดเย็บให้อีกต่อไป ในเวลาเพียงสามปี กู้สวงส่วงกำลังคิดว่า เขามีอะไรกันกับกู้จื่ออี้ไปกี่ครั้งแล้ว เพื่อแลกกับทุกอย่างในวันนี้?”
ขับรถเร็วมาก และเงียบกริบตลอดทาง
ห่างจากคฤหาสน์ของตระกูลกู้หนึ่งร้อยเมตร ลู่เฮ่าเซวียนจอดรถ และมือเรียวยาวที่ขาวนวลก็เอาออกจากพวงมาลัย เขาลูบผมยาวที่นุ่มนวลของเธอก่อน จากนั้นก็โอบกอดเธอ
การเคลื่อนไหวนั้นเร็วมาก จนทำเอากู้สวงส่วงตกตะลึง
ในอ้อมกอดที่ร้อนระอุของเขา เธอก็ได้ดิ้นรนอยู่หลายครั้ง หลังจากนั้นก็ถูกลมหายใจที่คุ้นเคยที่เกลียดเข้ากระดูกนั้นต่อยเข้ามาในหัวใจ
เขาก้มลงไปที่ลำคอขาวผ่องของเธอ แล้วถอนหายใจ: “สวงส่วง มีเรื่องอีกมากมายที่คุณไม่รู้ คุณอายุ14 ผมอายุ19 เรารักกันจนถึงตอนนี้ ผมไม่เคยทรยศคุณ และผมจะให้คุณรักผมต่อไปเรื่อยๆ รักจนถึงวันที่ผมแต่งงานกับกู้จื่ออี้ แล้วหย่ากับเค้า”
หัวใจของกู้สวงส่วงกำลังจะถูกเสียงอันเยือกเย็นของเขานั้นแทงทะลุ เธอเอากระเป๋ามาวางลงบนใบหน้าที่หล่อเหลาด้วยความโกรธเคือง จากนั้นเธอก็รูดซิปเปิด และในไม่ช้าก็มีคราบเลือดปรากฎขึ้นบนหน้าผากของเขา
เธอเปิดประตูรถด้วยอาการสั่นไปทั้งตัว: “ลู่เฮ่าเซวียน มีเรื่องมากมายที่คุณไม่รู้เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น หลังจากที่คุณจากไปเมื่อสามปีก่อนฉันก็ได้มีการทำข้อตกลงกับกู้ไห่ว่า ฉันจะแต่งงานกับชายชราที่ได้มีการแต่งงานครั้งที่สอง แล้วจะได้รับเงินก้อนโต อีกตัวอย่างหนึ่งคือ สองสามวันที่ผ่านมาฉันได้เสียครั้งแรกของฉันให้กับหนุ่มบาร์โฮสไปแล้ว เดิมทีฉันเก็บไว้ให้คุณ แต่คุณไม่ต้องการ ฉะนั้นก็มีชายคนอื่นรับมันไป!”
ลมพัดเข้ากับน้ำตาของเธอและใบหน้าของเธอเจ็บปวดมากจน เธอรีบวิ่งเข้าไปในคฤหาสน์แปลกๆที่เธออาศัยอยู่มาสี่ปีแล้ว ณ ห้องรับแขก ซึ่งกู้ไห่ก็ยังไม่กลับมา
กู้จื่ออี้กับเจียงหรงจ้องมองเธอที่กำลังเดินเข้ามาด้วยความเกลียดชัง
กู้สวงส่วงมุ่งหน้าเดินตรงขึ้นไปบนห้องนอน ที่ไม่ได้เข้าพักมาสองปี ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่น เธอค้นเจอรูปถ่ายที่มีสีซีดจางใต้ที่นอน และถือมันไว้ตรงอก หญิงสาวในรูปถ่ายมีรูปร่างหน้าตาสง่าและงดงาม
อันที่จริงรูปร่างหน้าตาของเธอกับแม่ไม่เหมือนกันเลย
เธอกอดรูปถ่ายของแม่ไว้และร้องไห้จนหลับไป ในช่วงเวลานี้มีคนมาเคาะประตูอยู่หลายครั้ง เจียงหรงตะโกนด่าอยู่ด้านนอกว่า กู้สวงส่วงฉันรู้นะว่าคุณได้ยิน เพียงแต่เธอแกล้งทำเป็นหลับ
เมื่อเวลาเที่ยงคืน งานวันเกิดของกู้ไห่ก็ผ่านไปโดยสมบูรณ์ กู้สวงส่วงไม่ได้ลงมาร่วมงาน ซึ่งตอนนี้เธอหิวมาก
อดทนไปชั่วโมงกว่า แล้วเธอก็ตื่นมาคิดที่จะลงไปหาอะไรกินในตู้เย็นห้องครัว พอเปิดประตูก็ได้ยินเสียง ซึ่งเสียงลมหายใจที่ปะปนกันของทั้งชายและหญิง เนื่องจากเป็นกลางดึกที่เงียบสงัด จึงได้ยินชัดเจนเป็นพิเศษ
ซึ่งห้องข้างๆห้องของเธอ เป็นห้องของกู้จื่ออี้
กู้สวงส่วงยืนอึ้งตะลึงอยู่ตรงนั้น และฟังเสียงเซ็กส์ที่ดุเดือดในค่ำคืนที่มืดมิด เมื่อนึกถึงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ เขายังบีบรัดเธอเอาไว้ในอ้อมอกเลย แถมเขายังพูดว่าไม่เคยทรยศเธอ
ผู้ชายคนอื่นทำแล้วกล้ายอมรับ ลู่เฮ่าเซวียน คุณนี้มันเป็นคนที่น่าขยะแขยงที่สุด!
เธอกินไปหลายอย่างในห้องครัว ทั้งของเย็นและของแช่แข็ง จนกระทั่งเริ่มรู้สึกปวดกระเพาะและเธอก็เพิ่งรู้สึกตัวว่ากินต่อไม่ได้แล้ว หลังจากคำนวณเวลาดูแล้ว แม้ว่าจะดุเดือดมากแค่ไหนก็คงเสร็จแล้วแหละ
หลังจากเพิ่งกลับมาถึงห้อง ก็มีข้อความเด้งเข้ามา
【ฉันเห็นเงาของคุณจากช่องว่างระหว่างประตูแล้วนะ ยืนไปนานขนาดนั้น ชอบแอบฟังเสึยงเซ็กส์ฉันกับเฮ่าเซวียนเหรอ?】
กู้สวงส่วงกดลบข้อความด้วยสีหน้านิ่งเฉย พี่สาวเธอคนนี้ทั้งประสาทและโรคจิต
เธอปวดกระเพาะจนนอนไม่หลับ พอตื่นเช้ามาปลอกหมอนของเธอก็เกือบเปียกหมดแล้ว จากนั้นเธอก็แต่งตัวและลงไปชั้นล่าง
เมื่อเวลา 6:30 น. เธอบังเอิญพบเจอกับกู้ไห่ที่เพิ่งกลับมาจากการออกกำลังกายในตอนเช้า ตรงสนามหญ้าด้านนอกของคฤหาสน์
อายุห้าสิบต้นๆแล้ว แต่รู้จักวิธีการบำรุงรักษาร่างกาย และมีรูปร่างสูงใหญ่ กู้ไห่มีผู้หญิงมากมาย และแม่ของเธอก็คงจะเป็นหนึ่งในนั้น
เขายิ้ม: “เมื่อคืนวันเกิดพ่อก็ไม่ลงมาร่วมงาน? ป้าของลูกไปเรียนลูกหลายครั้งมาก ไม่สบายหรือเปล่า?”
ดูสิดู หน้าตาของพ่อที่รักใคร่และเอ็นดู
กู้สวงส่วงก็ยิ้ม: “ใช่ค่ะ กลับมาที่นี่ก็รู้สึกไม่สบายเลยค่ะ”
“ลูกได้เจอแฟนของพี่สาวหรือยัง? ได้ยินจื่ออี้บอกว่าพวกลูกสามคนเคยเรียนมัธยมปลายด้วยกันใช่ไหม?”
“คุณพ่อคะ หนูรีบไปขึ้นรถบัสค่ะ”
กู้ไห่ขวางเธอไว้: “สามีของลูกยังไม่เคยปรากฏตัวเหรอ?”
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการริเริ่มพูดคุยกับเธอเพื่อต้องการถามเรื่องนี้ละสิ
กู้สวงส่วงมองเขาอย่างเย็นชา: “ไม่เคยค่ะ เขาไม่เคยกลับมาที่ฮวาซี หนูเองก็ไม่เคยเจอ และไม่มีแม้กระทั่งช่องทางการติดต่อเลย ถ้าหากพ่อต้องการอะไรจากเขา บอกให้หนูมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
สีหน้าของกู้ไห่อึมครึมเล็กน้อย เขาเคยเจอกันกับลูกเขยคนนี้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อสองปีก่อนกู้โป๋ตกอยู่ใจภาวะวิกฤติ มีชายวัยสี่สิบคนหนึ่งได้เข้ามาหาเขา และได้มีการทำข้อตกลงกันว่าจะแต่งงานกับลูกสาวคนเล็กของเขา ชายคนนั้นซื้อที่ดินเปล่าผืนหนึ่งของเขาเป็นมูลค่าสองร้อยล้านหยวน ชายคนนั้นได้ขอสำเนาทะเบียนกับเขา เมื่อจดทะเบียนเสร็จก็คืนกลับไปให้เขา และหลังจากนั้นมาชายคนั้นก็ไม่ได้ปรากฏตัวอีกเลย ซึ่งมันลึกลับมาก
“ถ้าหากเขาปรากฎตัวแล้ว ก็พาเขากลับมาทานข้าวที่บ้านนะ” กู้ไห่มองไปที่ลูกสาวของเขาที่ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป และพูดอย่างไม่คาดหวัง
-
หลังจากออกจากคฤหาสน์ตระกูลกู้ กู้สวงส่วงก็กลับไปที่หอพัก และเธอนอนอยู่บนเตียงเจ็บปวดกระเพาะจนลุกไม่ไหว
เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงไม่มีใครอยู่ในหอพัก เธอปวดจนสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนดึกดื่น เธอตัวร้อนมาก อีกทั้งยังอาเจียนจนในกระเพาะเหลือเพียงแค่น้ำรสเปรี้ยวไหลย้อนขึ้นมา และทั้งเนื้อทั้งตัวมีไม่ถึงสองร้อยหยวน แต่เธอฝืนทนไม่ยอมซื้อยา
ในเช้าวันอาทิตย์ เสี่ยวซวงเอายามาให้เธอ พออยู่ต่อหน้าเพื่อนสนิทในที่สุดอารมณ์ของเธอก็พังทลาย เธอร้องไห้จนขาดน้ำ และสุดท้ายก็หมดสติไป
เสี่ยวซวงเอาผ้าชุบน้ำประคบให้เธอ และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ทำให้ยัยโง่นี้ลำบากใจแล้วจริงๆ หลังจากจับได้ว่าลู่เฮ่าเซวียนและกู้จื่ออี้แอบมีอะไรกัน ทุกวันนี้เธอทำตัวเหมือนปกติ และเธอเก็บทุกอย่างไว้ข้างใน แต่ก็เป็นเรื่องดีที่จะระบายความเจ็บป่วยออกมา
ในวันจันทร์ กู้สวงส่วงตื่นขึ้นมาซึ่งยังคงตัวร้อนอยู่เล็กน้อย กระเพาะก็ดีขึ้นมากแล้ว แต่ใบหน้าของเธอซีดเผือดมากจนราวกับผี และตาบวมๆสองข้างของเธอมันน่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้
คาบแรกลา คาบสองเป็นวิชาเลือกของชายกระจอกนั้น และเธอจึงหนีอย่างไม่ลังเล
ตอนสิบโมงเช้า ณ ร้านอาหารเช้าด้านอกมหาวิทยาลัย เธอเพิ่งกินโจ๊กไปถ้วยหนึ่ง ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น!
“ฮาโหล เสี่ยวหมิง”
“คุณหายหัวไปอยู่ไหน? อาจารย์เช็คชื่อคุณแล้ว!”
เธอยังคงกินอาหารเช้าอย่างใจเย็น: “บอกชายกระจอกนั้นว่าฉันปวดท้องประ……”
“อาจารย์เทพบุตรบอกว่า ไม่ว่าคุณจะลาเพราะปวดท้องประจำเดือน ปวดหัว เป็นหวัด และในระหว่างทางก็ชนเข้าอะไรจนทำให้เจ็บขา และถ้าหากถูกลมพัดโดนกระดูกข้อต่อก็จะเจ็บ การลาทั้งหมดของคุณไม่ได้ผล!”
คำพูดเหล่านี้ทำไมฟังดูแล้วรู้สึกค้นหูจัง……
“ส่วงเอ๋อคุณตายแน่ อาจารย์เทพบุตรกำลังปรับรูปถ่ายหัวโล้นบัตรประจำตัวของคุณ โดยบอกว่าจะติดไว้บนหน้าจอLEDของมหาวิทยาลัยตลอดทั้งเทอม……”
“อะไรนะ?!” กู้สวงส่วงตกใจจนโจ๊ะพุ่งกระเด็นออกมาจากปาก
“เสี่ยวหมิง บอกให้อาจารย์เทพบุตรอย่าเอาจริงกับฉันเลยนะ! ฉันกำลังรีบไปด้วยความเร็วที่เร็วสุดในชีวิตแล้ว!”
กู้สวงส่วงวิ่งตลอดทางโดยไม่กล้าวางสาย และงุนงงเล็กน้อย อาจารย์รู้ได้อย่างไรว่าจุดอ่อนของเธอคือรูปถ่ายหัวโล้นของบัตรประจำตัว?
อย่างไรก็ตามวิ่งมาถึงด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด เธอหายใจหอบเหนื่อยและกวาดสายตาไปยังห้องเรียนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คน จากนั้นก็ปล่อยเท้าออกไปแล้ววิ่งพุ่งขึ้นไปบนโพเดี่ยมหน้าห้องเรียน: “อาจารย์คะหนูผิดไปแล้ว! ขอได้โปรดอย่าติดรูปถ่ายหนูเลยนะ……”
เมื่อเธอจับแขนของชายที่ถือเม้าส์ไว้อย่างแน่น ใบหน้าด้านข้างอันหล่อเหลาของอาจารย์หนุ่มคนนี้ก็เงยหน้าขึ้นอย่างสง่างาม และมองไปที่เธออย่างเงียบๆ ด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์และน่าไหลหลงอย่างที่สุด
“มาเร็วนะเนี่ย” เสียงผู้ชายทุ้มต่ำและนุ่มนวลไม่แข็งกร้าว
“ตัว ตัว……” กู้สวงส่วงถึงกับมองตาค้าง! ไม่! นี้มันไม่ใช่ความจริง! ตัวท็อปจะมายืนบนโพเดี่ยมและจะเป็นอาจารย์ของเธอได้อย่างไร?
เสิ่นมั่วเฉินเหลือบมองยัยโง่ที่ตกตะลึงจนพูดไม่ออก และในใจลึกๆแอบรู้สึกพึงพอใจ จากนั้นเขาก็ขยับเม้าส์: “รูปถ่ายหัวโล้นนี้ ติดหรือไม่ติดดีนะ……”
“ไม่ ไม่ ไม่!” กู้สวงส่วงร้องอุทาน ซึ่งเธอเชื่อแล้วว่า นายนี่ได้เป็นอาจารย์ของเธอจริงๆ!
การเคลื่อนไหวของชายคนนั้นหยุดชะงักเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังคร่ำครวญอะไรบางอย่าง แต่กู้สวงส่วงยังไม่ทันที่จะพูดออกมาก็ได้ยินเขาพูดอย่างกวนตีนว่า: “ไม่ติดก็ได้ มองมาที่ผมด้วยแววตาจริงใจและรักใคร่ จากนั้นก็ตะโกนพูดดังๆสิบรอบว่า ‘อาจารย์คะ ฉันผิดไปแล้ว’
ทันใดนั้นผู้คนที่อยู่ด้านล่างก็เกิดความโกลาหลขึ้น: “อาจารย์เทพบุตรขนาดลงโทษคนยังอ่อนโยนขนาดนี้อ่ะ!” “ทำไมคนโดนลงโทษไม่ใช่ฉัน!” “สาวอกใหญ่หลังเลิกเรียนแล้วอย่าเพิ่งไปไหนนะ!”……